บทที่3 ทำตัวกลมกลืน

1495 คำ
หลังกลับบ้านแล้วหลินซูหยวนอยากตรวจสอบธุรกิจของครอบครัวเสียหน่อย แต่พบว่าเธอไม่มีความทรงจำในส่วนนี้ นั้นเป็นเพราะเจ้าของร่างเดิมเอาแต่วิ่งตามผู้ชายทั้งวี่ทั้งวัน ไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจเพราะตระกูลหลินสอนให้เธอวิ่งไล่จับผู้ชายอย่างเดียว ความทรงจำส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับหลู่เหยียนโจวทั้งสิ้น แน่นอนว่ากว่าแปดส่วนเป็นเรื่องน่าอาย อย่างเรื่องที่หลินซูหยวนแอบวางยาเขาบ้าง ยั่วยวนแบบน่ารังเกียจบ้าง แล้วแบบนั้นผู้ชายที่ไหนจะมาตกหลุมรักเล่า ตระกูลหลินไม่มีชั้นเชิงในการสอนลูกสาวให้จับผู้ชายเลยสักนิด ช่วงบ่ายขณะที่เธอกำลังคิดหาทางออก คุณนายหลินก็เข้ามาหา “หยวนหยวน ทำไมยังไม่ไปหาเหยียนโจวอีก” ลูกสาวกลับบ้านมาได้สามวันแล้ว ยังไม่เยื้ยงกายออกไปไหนเลย จึงต้องมากระตุ้นเสียหน่อยคุ ณชาหลู่เป็นที่หมายปองของผู้หญิง เลยอยากให้ลูกสาวไปอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา นอกจากกันท่าแล้วยังได้สร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกันด้วย “รู้แล้วค่ะแม่ จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” หลินซูหยวนตอบอย่างเบื่อหน่าย ตระกูลนี้เห็นหลู่เหยียนโจวเป็นพระเจ้าหรือไง ถึงอยากได้มาเป็นลูกเขยนัก แค่เรื่องพึ่งพาธุรกิจแล้วล่ะก็เธอสามารถทำให้ตระกูลหลินยิ่งใหญ่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งบารมีสกุลไหนทั้งนั้น แต่บอกไปตอนนี้ใครจะเชื่อล่ะ ดีไม่ดีอาจถูกมารดาจัดไปตรวจในแผนกจิตเวช เพราะคิดว่าเธอเป็นบ้า! “ดีๆ แล้ว ไม่ต้องแต่งหน้าจัดนะลูก จะได้ดูเหมือนคนไม่สบายหน่อย” เห็นลูกสาวว่านอนสอนง่ายก็สบายใจ จะไม่ยอมให้ตำแหน่งสะใภ้ใหญ่ตระกูลหลู่หลุดมือเป็นอันขาด “ค่ะแม่งั้นหนูไปก่อนนะคะ” หลิวซูหยวนเดินออกมาสักพักก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เจ้าของร่างเดิมเป็นคนรักสวยรักงาม ออกจากบ้านแต่ละครั้งแต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็ม เธอเองในชาติที่แล้วก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ในฐานะของ ECO จึงจำเป็นต้องแต่งตัวให้ดูดีตลอดเวลา หญิงสาวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมาะสม ก่อนออกเดินทางไปยังบริษัทของตระกูลหลู่ ตึก 22 ชั้นบริษัทหลู่หวานฉิง… หญิงสาวรูปร่างหน้าตาโดดเด่นในชุดสูทธุรกิจสีดำ ขึ้นไปยังชั้นบนสุดของอาคาร บนนั้นเป็นห้องของผู้บริหารอย่างหลู่เหยียนโจว เธอคุ้นเคยกับที่นี่เพราะมาบ่อยครั้ง เมื่อค้นจากความทรงจำแล้วแทบรู้ดีว่าชั้นไหนมีแผนกอะไรบ้าง เสียงรองเท้าส้นสูงห้านิ้วดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เมื่อมาถึงหน้าห้องนิ้วเรียวสวยก็ผลักประตูเข้าไป โดยที่เลขาหน้าห้องก็ไม่กล้าเอ่ยห้าม “มาทำไม ไม่ใช่ว่าผมให้คุณไปเป็นสายที่บริษัทฮั่วหรอกเหรอ” หลินซูหยวนกรอกตาขึ้น เมื่อได้ยินคำทักทายจากว่าที่คู่หมั้น ที่ไม่ได้เจอกันนานเกือบอาทิตย์ ใช่สิ...เขาส่งเธอไปเป็นสายแล้วเจ้าของร่างเดิมเราเต็มใจทำมันเสียด้วย หลู่เหยียนโจวยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว นอกจากกำจัดเธอให้พ้นทาง ยังได้ข้อมูลจากคู่แข่งอีกด้วย แต่ขอโทษทีหลินซูหยวนคนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว หลู่เหยียนโจวนับว่าเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม และชั่วช้ามาก! “ฉันไม่ลืมหรอกค่ะ ฉันแค่จะมาบอกคุณว่า ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล” หลินซูหยวนก้าวย่างเข้าไปหย่อนตัวลงที่พนักเก้าอี้ ยกมือขึ้นของคอชายหนุ่มเอาไว้ หลู่เหยียนโจวเป็นผู้ชายที่หล่อมาก หล่อจนใจเจ็บ! ไม่แปลกเลยที่เจ้าของร่างเดิมจะหลงใหลเขาปานนี้ “เป็นอะไร” หึ! ดูสิ...ในขณะที่ถามยังไม่หันมามองกันสักนิด ชายหนุ่มเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารบนโต๊ะ แล้วน้ำเสียงของเขาก็ราบเรียบมากเหมือนถามไปงั้น ไม่ได้อยากรู้จริงๆ แต่หลินซูหยวนวันไม่คิดมาก เพราะเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้เลยสักนิด ออกจะขยะแขยงด้วยซ้ำ นี่เขาเป็นพระเอกของเรื่องจริงเหรอ ถ้าไม่เคยอ่านก่อนคงคิดว่านี่คือตัวร้ายขนานแท้เลยล่ะ “ตกบันไดค่ะ แต่ตอนนี้หายดีแล้ว” “มีอะไรอีกงั้นเหรอ?” “เหยียนโจว อย่าทำเหมือนฉันเป็นคนอื่นคนไกลสิคะ ฉันน่ะเป็นว่าที่คู่หมั้นของคุณนะ” หลินซูหยวนแกล้งออดอ้อนเหมือนที่เคยทำ เพราะหากเปลี่ยนนิสัยกะทันหัน จะดูน่าสงสัยเกินไปหน่อย เธอจำได้ว่าเมื่อตอนอ่านเรื่องนี้ อ่านในมุมมองของนางเอก ดังนั้นจึงเห็นแต่ด้านดีๆ ของหลู่เหยียนโจว แถมในตอนนั้นยังเอาใจช่วยเซียวรันหรันอีกด้วย แอบแช่งนางร้ายอยู่บ่อยครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเกิดใหม่เป็นหลิวซูหยวนเสียเอง “...” “เหยียนโจว ฉันคิดถึงคุณมากนะคะ เย็นนี้เราไปดินเนอร์กันนะ” “ผมไม่ว่าง” “ถ้าอย่างนั้นคุณคงต้องโทรไปบอกแม่ฉันด้วยตัวเองแล้วแหละ ท่านชอบคิดว่าที่คุณไม่พอใจเป็นเพราะฉันไม่ดูแล แต่นี่ฉันชวนคุณไปทานข้าวแล้วนะคะ คุณเป็นคนปฏิเสธ” คำพูดทำนองนี้หรือหลินซูหยวนคนเก่าก็เคยพูดอยู่บ้าง เวลาที่หลู่เหยียนโจวปฏิเสธ ก็มักจะเอามารดาหรือบิดามาเป็นข้ออ้างเพื่อให้เขายอมตกลง “หมายความว่ายังไง?” ครั้งนี้หลู่เหยียนโจวเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวข้างกาย วันนี้หลินซูหยวนดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าเปลี่ยนตรงไหน จะว่าคำพูดคำจาของเธอผิดแปลกก็ไม่ใช่ เพียงรู้สึกว่ามันไม่ปกติ...แต่ไม่รู้ว่าไม่ปกติอย่างไร “ก็หมายความว่า คนที่อยากให้ฉันกินข้าวกับคุณ คือแม่ฉันไงคะ” “หลินซูหยวนไม่ใช่ว่าเธอตกบันได แล้วสมองกระทบกระเทือนหรอกนะ” หากเป็นก่อนหน้านี้ หลินซูหยวนคงใช้ข้ออ้างอีกแบบ เมื่อสักครู่หล่อนบอกว่าเข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุ เป็นแบบนี้หรือเปล่าหญิงสาวถึงดูเปลี่ยนไป “จะเป็นยังงั้นได้ยังไงล่ะ ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรเลย ฉันยังรักคุณเหมือนเดิม รักจะตายอยู่แล้ว” หลินซูหยวนค่อนข้างระวังคำพูด แต่แล้วอย่างไรเธอไม่ใช่เจ้าของร่างคนเก่านี่ ฉะนั้นความคิดความอ่านก็เปลี่ยนไปด้วย แต่เพื่อความแนบเนียนจึงซบหน้าลงบนบ่ากว้าง ออดอ้อนด้วยคำพูดหวานเลี่ยน โดยที่เธอแอบเบะปากไม่ให้เขาเห็น “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปเถอะ ผมต้องทำงาน” ดันตัวหญิงสาวออก ที่ผ่านมาเขาพยายามรักษาระยะห่าง เป็นหลินซูหยวนที่หาเรื่องเข้าใกล้อยู่เสมอ จึงได้วางอุบายให้หล่อนไปเป็นสายที่บริษัทของฮั่วถิงหยู นอกจากผลักให้ไปพ้นๆ แล้ว ยังได้ข้อมูลสำคัญอีกด้วย “งั้นก็ได้ค่ะ เห็นแก่ที่คุณตั้งใจทำงานนะคะ ไว้ฉันจะมา... ดูแลใหม่” หลินซูหยวนรีบลุกขึ้นยืน กอดอกพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก อันที่จริงก็อยากไปตั้งนานแล้ว วันนี้แค่มาอย่างเชิงดูและก็พบว่า เขาเห็นเธอเป็นแค่ผู้หญิงหน้าโง่คนหนึ่ง หากเริ่มพูดเจรจาเรื่องที่คิดไว้เลยมันคงดูผิดปกติเกินไปหน่อย ถ้าอย่างนั้นก็ตามน้ำไปก่อนแล้วกัน… “ไม่ต้อง…อะแฮ่ม ผม หมายถึง อยากให้คุณตั้งใจไปสืบข่าว ผมรู้ว่าคุณทำเพื่อผมได้ใช่ไหม?” “ต้องใช่สิคะ ฉันรักคุณมาก ถ้าไม่ทำเพื่อคุณแล้วจะให้ทำเพื่อใครล่ะคะ” ในสายตาของหลู่เหยียนโจวเธอก็เป็นได้แค่คนหาข่าวเท่านั้น ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยซักนิด ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมทนให้หลอกใช้อยู่ได้ยังได้ รักไม่ลืมหูลืมตา รักทั้งที่รู้ว่าเขาต้องการผลประโยชน์จากเธอเพียงฝ่ายเดียว “อืม” “ถ้างั้นฉันขอตัวนะคะ” หลินซูหยวนหันมายิ้มหวาน ก่อนจะก้าวฉับๆ ออกจากห้อง การเจรจาที่เธอคิดไว้น่าจะไม่ได้ผลแล้ว เพราะชายหนุ่มมองว่าเธอคือหมากตัวหนึ่ง จ้องจะหาผลประโยชน์ เมื่อเสร็จเรื่องก็เขี่ยทิ้ง ท้ายที่สุดอย่างไรแล้วหลู่เหยียนโจวก็ได้ครองรักกับเซียวรันหรันอยู่ดี เธอในตอนนี้ไม่ต้องการเป็นมือที่สาม แค่อยากมีชีวิตที่สงบสุข ทว่าหนทางช่างยากลำบากเหลือเกิน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม