บทที่ 2 พรจากท่านทูตสวรรค์

2352 คำ
ตูมมม! ในน้ำที่เย็นเฉียบ ร่างของลู่ชิงค่อย ๆ จมหายลงไปเรื่อย ๆ จากที่คิดจะเอาชีวิตรอดเธอกลับหยุดดิ้นพร้อมกับหลับตาลง ดีตาย ๆ ไปได้ก็ดีจะได้หลุดพ้นจากโลกที่มันบัดซบนี้ จะได้ไม่ต้องเจอไอ้พี่ชั่วที่พอเจอหน้าก็เอาแต่ขอเงินไปเลี้ยงเพื่อน ไม่ต้องอดทนต่อเสียงด่าทอหลังกลับมาจากทำงานเหนื่อยของพ่อที่เอาแต่ดื่มเหล้า ส่วนแม่ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นหน้าจะรู้สึกตกใจที่ฉันหายไปบ้างรึเปล่านะ... ส่วนคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนแท้ ๆ กลับหักหลังกัน แอบคบแฟนของฉันลับหลังฉัน ภาพของซูเซียวที่เป็นคนผลักเธอด้วยมือคู่นั้น สายตาดูแคลนไร้ความรู้สึกผิดนั่น ฉันคงดูเหมือนคนโง่ที่ทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีของพวกมัน ไอ้ชีวิตเฮงซวย.. นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันคิดก่อนที่โลกจะดับมืดไป “..เจ้า.. ฟื้น.. อย่างไรบ้าง” นั่นเสียงใคร เราตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ หรือเรากำลังโผล่ขึ้นมาบนสวรรค์ นับว่าเราเป็นคนดีอยู่เหมือนกันนะ ยังไงเราคงได้ขึ้นสวรรค์แน่ ๆ “เจ้าดวงวิญญาณฟื้นขึ้นมาบัดเดี๋ยวนี้” “ท่านยมอย่าทำให้ดวงวิญญาณนี้หวาดกลัวสิขอรับ” “เหอะ!” เสียงใครมันหนวกหูจังวะ ปึง! “เจ้านี่กล้ากล่าวว่าข้าผู้นี้งั้นรึ!” เสียงดังสนั่นจนฟ้าสะเทือนเรียกสติของลู่ชิงให้ฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่นางเห็นคือพื้นที่โล่ง ๆ สีขาวโดยมีแท่นสีดำและสีทองตั้งอยู่ตรงหน้าของนาง “อะไรกันทำไมสวรรค์ไม่มีอะไรเลย ไหนเทพบุตรหล่อ ๆ ล่ะ” “เจ้ากำลังฝันเฟื่องกระไรอยู่” “เอาหน่า ๆ นางคงยังไม่หายตกใจ” ลู่ชิงเงยหน้ามองไปยังสองร่างตรงแท่นทั้งสอง วินาทีที่นางเห็นนั้นนางบอกกับตัวได้ทันทีเลยว่าไม่เคยเห็นสิ่งชีวิตบนโลกที่ไหนหล่อเหลาได้เท่ากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้านางในตอนนี้เลย “เจ้าดูนางสิ! ช่างสามหาวนัก มองพวกเราราวกับจะกินเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น! ” ความกดดันที่แผ่ออกมาจากชายหนุ่มบนแท่นสีดำนั้นช่างน่าขนลุกจนเธอถึงกับหวาดกลัวภายในใจ หล่อแต่น่ากลัวแถมปากแซ่บแบบนี้แม่ก็ไม่เอานะคะ คนข้าง ๆ ยังดูหล่อกว่าเลย! “เจ้าบอกว่าข้าหล่อน้อยกว่ามันงั้นรึ! อยากโดนดีรึอย่างไร ตัดสินใจฆ่าตัวตายเป็นความผิดต้องรับโทษร้ายแรงมิรู้หรือ!” อีกแล้วเขาอ่านใจฉันได้ใช่ไหมเนี่ย แต่ว่าคัท! ถ้าใครคิดว่าฉันฆ่าตัวตายมันไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ! ฉันโดนถีบตกน้ำตายโอเค้! “เถียงคำไม่ตกฟาก เอาวิญญาณดวงนี้ไปขังลืมที่แดนนรกของข้าเถิดท่านทูต ท่านจะเอาแต่ยิ้มชอบใจจนถึงเมื่อไหร่กัน มันน่าหมั่นไส้นะขอรับ” “ฮ่า ๆ ขออภัย นาน ๆ จะเจอวิญญาณที่กล้าต่อปากต่อคำกับท่านเช่นนี้ ทำให้ข้ารื่นเริงยิ่งนัก” ชายหนุ่มท่าทางใจดีข้าง ๆ กันนั้นกล่าวพลางอมยิ้มกว้าง ในขณะที่คนที่เขาเรียกว่าท่านยมนั้นทำสีหน้าไม่พอใจอย่างมากที่ทำกับเขาราวกับเป็นเรื่องสนุก ดวงตาสีทองสุกหันกลับมองมายังเธอ เขายังคงรอยยิ้มอ่อนโยนไว้บนหน้าจนเธอสามารถสงบใจลงได้ “เจ้ารู้ตัวแล้วใช่หรือไม่ว่าเจ้าได้ตายไปแล้ว ยามนี้เจ้าเพียงอยู่ในรูปลักษณ์ของวิญญาณเท่านั้น” “ค่ะ” จะไม่รู้ได้ไงก็เมื่อกี้เพิ่งตายมาสด ๆ ร้อน ๆ “เป็นความผิดพลาดของพวกเราเองที่ทำให้เจ้าต้องมาอยู่ในที่แห่งนี้ แต่จะส่งเจ้ากลับไปยังโลกเดิมคงไม่ได้เสียแล้วเมื่อร่างเนื้อของเจ้าได้ถูกเผาไปเป็นที่เรียบร้อย...” “...” เพิ่งตายเมื่อกี้ทำไมร่างฉันถูกเผาไปแล้วล่ะ อยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก มันแน่นอกไปหมด! “ด้วยเหตุนั้นพวกข้าจึงตัดสินใจจะให้โอกาสเจ้า และคำขอจากเจ้าหากพวกข้าพอจะให้ได้” ท่านทูตสวรรค์เบือนหน้าไปมองยังอีกคนบนบัลลังก์สีดำสนิท เขาไม่แม้แต่จะสนใจนางด้วยซ้ำ “จะคิดมากทำไม ส่งนางให้ข้า ข้าจะนำนางไปให้หมาสองตัวของข้ากิน วิญญาณของนางดูน่าอร่อยอยู่ไม่ใช่น้อย” ท่านอย่าพูดเหมือนฉันเป็นอาหารหมาในร้านค้าได้ไหมคะ! “หึ” ท่านยมราชส่งเสียงร้องหึในลำคอเมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของนาง ส่วนลู่ชิงนั้นได้บอกกับตัวเองในใจแล้วว่าต่อให้ตายยังไงก็จะไม่ลงไปเจอคนคนนี้โดยเด็ดขาด! “ฉะ ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ” “ข้าจะส่งเจ้าไปอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกที่เจ้าอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว” “...” อะไรกัน จะส่งไปแบบในเกมให้ตามล่ามอนสเตอร์แล้วกลายเป็นซอดมาสเตอร์อะไรเทือก ๆ แบบนั้นรึเปล่า “ฮ่า ๆ ความคิดของเจ้าทำให้ข้าขบขันยิ่งนัก ..เอาล่ะ ใกล้หมดเวลาของพวกข้าแล้ว จงบอกคำขอของเจ้ามาเสียวิญญาณเอ๋ย” แทบไม่ต้องคิดใด ๆ ลู่ชิงโพล่งพูดสิ่งต้องการออกไปอย่างแน่วแน่พร้อมสายตาที่ลุกโชน “ฉัน! ฉันต้องการเป็นคนว่างงานที่ร่ำรวยค่ะ!!” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ตามที่เจ้าปรารถนา..แล้วก็โชคดี” “!” ภาพตรงหน้าค่อย ๆ เลือนหายไป แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายพร้อมกับรอยยิ้มมีเลศนัยนั่นมันอะไรกันแน่คะ! ฟึบ ลู่ชิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพบกับห้องขนาดใหญ่ เพดานที่เธอจ้องมองนั้นประดับด้วยลวดลายสวยงามและแปลกตา เครื่องเรือนต่าง ๆ ทำจากไม้คล้ายอยู่ในยุคจีนโบราณอย่างไรอย่างนั้น แต่ละอย่างรอบตัวเธอดูดีมีราคาจนถึงกับต้องแสยะยิ้มออกมา ในที่สุดเธอจะได้หลุดพ้นจากคำว่าจนและต้องทำงานสักที! แต่แล้วสิ่งแรกที่เธอรู้สึกคืออาการเวียนหัวอย่างรุนแรง ความทรงจำจากนิยายที่เธออ่านประดังประเดเข้ามาไม่ทันรู้ตัว ลู่ชิงชันตัวลุกขึ้นโคลงศีรษะไปมาด้วยความเจ็บปวด พลันสายตาหันไปเห็นภาพสะท้อนหญิงสาวผู้หนึ่งในกระจก ผมสีดำยาวราวน้ำหมึก ใบหน้าเล็กรูปไข่คิ้วเรียวยาวดั่งคันศร ดวงตากลมโตเฉี่ยวนิด ๆ ดูซุกซน ริมฝีปากกระจับอวบอิ่มสีแดงราวกลีบกุหลาบ ผิวขาวผ่องราวกับหิมะ งดงามราวกับภาพวาด ใบหน้าที่นางเห็นอยู่ตอนนี้ช่างตรงกับคนผู้หนึ่งในนิยายที่แทบจะไม่มีบทบาทอะไรเลยสักนิด! แต่ที่จำได้เพราะบรรยายเอาไว้ว่าสวยมากต่างหาก! และเจ้าของร่างนี้ก็คือ ‘จ้าวลู่ชิง’ องค์หญิงแห่งแคว้นหยูเจียงและมีชื่อที่คล้ายคลึงกับเธอนั่นเอง แต่แม่งเอ๊ยยยย! ให้ตายสิ! ลู่ชิงมองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับคำสบถจนต้องเซ็นเซอร์รัว ๆ ! จ้าวลู่ชิง… เธออยากจะตบหัวตัวเองสักฉาดหนึ่งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวจ้าวลู่ชิงนี้เป็นตัวประกอบหนึ่งในนิยายที่เธอเคยอ่าน นิสัยของตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่เธอไม่ชอบมากที่สุด ทั้งโรคจิตและเอาแต่ใจจนถึงที่สุด! นางถูกปักธงให้ตายตั้งแต่เกือบ ๆ ต้นเรื่องด้วยซ้ำ หลังจากที่นางนำตัวร้ายของเรื่องมาเป็นทาสและทรมานเขาอยู่นานนับสิบปี นางก็ถูกเขาฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม แต่ตอนตายนางยังแสยะยิ้มด้วยความโรคจิตด้วย! นี่มันซาดิสม์ตัวแม่ชัด ๆ แต่ช่วงเริ่มต้นของนิยายนั้นจะเป็นตอนที่ตัวละครทั้งหมดเติบโตจนหมดแล้ว แต่ดูจากหน้าอกหน้าใจที่ไม่ได้ตู้มขนาดคัพอีบวก ๆ ตามฉบับของนางร้ายแล้วล่ะก็ คาดว่าร่างที่เธอมาอยู่ตอนนี้เป็นไปได้ว่าจะอยู่ในช่วงก่อนจะดำเนินเนื้อเรื่องหลัก ...โถโล่งใจ 'กับผีน่ะสิ!' ถ้าเป็นไปได้ก็อยากหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจจะทำให้เธอต้องพบเจอกับการถูกปักธงตายอย่างโหดร้ายด้วยน้ำมือของตัวร้ายผู้นั้น แล้วเธอจะหอบเงินทองไปใช้ให้หนำใจเลยเชียว! ลู่ชิงนึกแผนการในใจได้ไม่นาน ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นเธอเพิ่งรู้สึกตัวว่ากว่าจะหายใจได้นั้นมันกินพลังงานอย่างมาก ร่างกายที่แค่สูดอากาศหายใจเข้าปอดกลับทำได้อย่างยากเย็น... ‘ถะ ถ้าฉันดันกลายเป็นจ้าวลู่ชิงจริง ๆ แปลว่า... ฉันกำลังจะตายสินะ!’ ลู่ชิงนึกถึงใบหน้าอมยิ้มน้อย ๆ ของท่านทูตสวรรค์สุดหล่อ ที่แท้ยิ้มเพราะแบบนี้เองเรอะ! ขอให้เป็นคนว่างงานที่ร่ำรวย แต่ดันเข้ามาในร่างที่แค่จะขยับก็เหมือนจะตายเนี่ยนะ! ลู่ชิงพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่ทันทีที่ร่างกายขยับมันกลับประชดด้วยอาการคันที่ลำคอ บางอย่างที่มีกลิ่นคลุ้งฝาดคอตีตื้นขึ้นมาก่อนจะ “โครกกก ค่อกก” เธอไอออกมาอย่างสุดแรงเกิดจนปอดโยก ปอดฉันหลุดไปรึยัง! แต่สิ่งที่ทำให้นางตกใจจนลมจับนั้นคือ เลือดสีแดงสดที่กระเด็นเต็มที่นอนของนาง มือบางที่เห็นข้อกระดูกและขาวซีดจนเห็นเส้นเลือดชัดเจนกำลังสั่นระริก “อะ องค์หญิงจ้าวลู่ชิงเพคะ!! ตายแล้วรีบตามหมอหลวงมาบัดเดี๋ยวนี้” เหล่าหญิงสาวที่เข้ามาใหม่สวมชุดแปลกตาคล้ายคนในยุคจีนโบราณ พวกนางต่างตกอกตกใจที่เห็นเลือดไหลจากปากของคนที่นางเรียกว่าองค์หญิงออกมาเป็นสายน้ำ แปล๊บ แปล๊บ ความเจ็บปวดจากร่างกายที่ได้รับตอนนี้กำลังบอกว่าทั้งหมดนี้นั้นเป็นเรื่องจริง ฉันได้เข้ามาในร่างของจ้าวลู่ชิงนางร้ายตัวประกอบที่หากไม่ตายด้วยอาการป่วยก็คงตายด้วยน้ำมือของตัวร้ายอย่างกู่ฉางเฟิง “ฉะ ฉัน เฮือกกก โครกกก” บัดซบ! แค่จะเค้นคอพูดก็ยังไอ ฆ่ากันให้ตายเถอะไอ้ร่างปลาแสงอาทิตย์! จ้าวลู่ชิงได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ทั้ง ๆ ที่เลือดกำลังออกมาเป็นสาย เป็นภาพที่ดูน่าสยดสยองจนพวกนางที่กำลังเดินเข้ามานั้นชะงักกลางทาง ช่วยด้วย ข้ารู้สึกเหมือนกำลังจะตาย... เอ๊ะ ทำไมภาพมันกำลังกลับหัวล่ะ ฟุบ! จ้าวลู่ชิงล้มพับลงไปกับเตียง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่นั่นยิ่งทำให้เหล่าหญิงสาวทั้งห้องกรี๊ดดังลั่นเพราะคิดว่าเธอกำลังจะตาย “กรี๊ดดดด หมอหลวงมารึยัง!!” แค่โกรธหรือหงุดหงิดถึงกับจะเป็นลมสลบไปเลยเหรอ ฮึก มันจะเกินไปแล้วนะ ถ้าแค่จะหงุดหงิดแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็ปล่อยให้ฉันตาย ๆ ไปเถอะ ไอ้ยมบาลเฮงซวย! “อึก!” ทั้งแสบคอ ปวดหัว คลื่นไส้ หายใจลำบาก นี่มันตัวแหล่งรวมโรคชัด ๆ ! ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวและเจ็บตรงหน้าอก ฮู่ววว ทำใจให้สงบ ๆ นะลู่ชิงเธอจะต้องไม่เป็นอะไรเธอจะต้องรอดแล้วไปใช้เงินที่เธอมีนะ เธอเป็นถึงองค์หญิงเชียวนะ แต่ก่อนจะตายด้วยน้ำมือตัวร้ายเธอคงตายเพราะร่างกายอ่อนปวกเปียกแค่ขยับนิดหน่อยก็ไอเป็นเลือดนี่ก่อนมากกว่า! “อดทนก่อนนะเพคะองค์หญิง หมอหลวงกำลังจะมาถึงแล้ว” “...” ลู่ชิงมองไปยังนางกำนัลที่มองมายังเธอด้วยสายตาเป็นห่วง นั่นสินะ จ้าวลู่ชิงคนเก่าคงต้องทนทรมานในร่างกายนี้ และคงทำอะไรไม่ได้นอกจากระบายความเจ็บปวดและความแค้นใจในชีวิตลงกับคนพวกนี้ แต่เดิมเธอคงเป็นเด็กหญิงธรรมดา ต่อให้เธอจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยทุกคนคงไม่สังเกตุเห็นเท่าไหร่ พอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้วก็โลงอกไปที... ซะที่ไหนล่ะ!! เอาร่างกายที่แข็งแรงกว่านี้มาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ฮืออออ!! “แค่ก แค่ก แค่ก” “อะ องค์หญิงเพคะ!” พวกนางหน้าซีดเผือดเมื่ออาการของจ้าวลู่ชิงไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ทั้งที่เมื่อหลายวันก่อนนางยังพอจะเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ข้าจะไม่เป็นอะไรเด็ดขาด เพราะข้าต้องอยู่เพื่อใช้ตังและกินอย่างสุขสบายอย่างไรล่ะ นางกำนัลมากกว่าห้าคนเข้ามารุมล้อมนาง คอยเช็ดเลือดที่ไหลออกจากปากนางอย่างเบามือ ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงขยับได้แค่เพียงตากวาดมองบรรดาหมอหลวงที่วิ่งกรูเข้ามาเกือบเต็มห้อง บางคนกำลังหยิบสมุนไพรต่าง ๆ มาวางเรียง ส่วนอีกคนกำลังตรวจชีพจรของนาง “พระวรกายขององค์หญิงทรุดลงเนื่องจากใช้พลังชีวิตมากไปพ่ะย่ะค่ะ รวมถึงอากาศภายในห้องนี้ทั้งเย็นและชื้นจนเกินไป ต้องทำพระวรกายให้อบอุ่นอยู่เสมอพ่ะย่ะค่ะ” พวกพี่ ๆ ที่รุมล้อมนางในตอนแรกรีบไปหยิบผ้านวมผืนใหญ่กว่าสามผืนมาห่อมัดนางเอาไว้ด้วยความระวังอย่างที่สุด กร๊อบ ค่ะ ขอบคุณค่ะแต่เหมือนเมื่อกี้กระดูกไหล่ข้าจะลั่นไปรอบนึง// กรีดร้องภายในใจ “จัดสำรับที่เป็นของอ่อนและกลืนง่ายให้แก่องค์หญิง อืม..ช่วงนี้ให้กินซุปไปก่อนแล้วกัน” คนที่เกิดมาแล้วมีปฏิญาณอย่างแรงกล้าว่าชีวิตคือของกิน แต่กลับกินได้เพียงแค่ซุปเนี่ยนะ!// กรีดร้องภายในใจรอบที่สอง เอาร่างใหม่มาให้ข้าเดี๋ยวนี้น้าาาาาาาาาาาา!! “โครกกก แค่ก แค่ก” ร่างกายบัดซบ ข้าแค่โกรธในใจก็ไม่ได้หรือ... “กรี๊ดดด องค์หญิงงงงงง!!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม