เช้าวันถัดมา
ณ บ้านเล็กของปลายฝน
"หาววว เช้าแล้วหรอเนี่ยหิวชะมัด" ฉันลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะรีบไปอาบน้ำเพื่อออกไปหางานทำ
"วันนี้แต่งตัวแบบนี้ละกันเผื่อจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น" ฉันยืนพูดให้กำลังใจตัวเองอยู่หน้ากระจก
วันนี้ฉันใส่ชุดกระโปรงยาวประมานเข่า แต่งหน้าให้ดูสุภาพและอ่อนหวาน เผื่อว่าบุคลิกแบบนี้จะทำให้มีซักบริษัทที่อยากรับฉันเข้าทำงาน
หลังจากสำรวจตัวเองในกระจกจนมันใจดีแล้วฉันก็รีบลงไปที่ด้านล่าง
ปังงงๆๆ! โอ๊ยใครมาทุบประตูบ้านคนอื่นแต่เช้าวะเนี่ย
แกร่ก! ฉันเดินไปเปิดประตูอย่างหงุดหงิด
"ปลายฝนนๆๆๆๆ" เป็นพี่ต้นหนาวนี่เองที่ยืนทุบประตูเรียกฉัน
พอเจอหน้าฉันพี่ต้นหนาวก็รีบวิ่งเข้ามาจับมือฉันขึ้นด้วยสีหน้าและท่าทางที่เหมือนกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
"เป็นอะไรพี่ต้นหนาว ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ" ฉันถามด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่ามีใครทำอะไรเธอรึเปล่าเธอถึงได้กลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนกแบบนี้
"ปลายฝนฟังพี่นะ ถ้ามีใครมาเรียกฝนเป็นชื่อพี่ฝนสวมรอยเป็นพี่ไปเลยนะ ห้ามบอกเค้าเด็ดขาดว่าเราเป็นฝาแฝดกัน" พี่ต้นหนาวสีหน้าแตกตื่นเธอดูกระวนกระวายเป็นอย่างมาก
"แล้วทำไมพี่ต้องให้หนูทำแบบนั้นด้วยอะ" ฉันสงสัยมากจริงๆว่าจะมีใครมาเรียกฉันเป็นพี่ต้นหนาวแถมยังต้องห้ามบอกเค้าอีกว่าเราเป็นฝาแฝดกัน
"ถ้าฝนไม่ทำพี่ก็จะตายตรงหน้าฝนเดี๋ยวนี้แหละ" พี่ต้นหนาวลุกขึ้นไปหยิบมีดในครัวแล้วเอามาจี้ที่คอของตัวเอง
ภาพนั้นทำให้ฉันถึงกับน้ำตาไหล ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดพี่ต้นหนาวทั้งน้ำตา
"ไม่นะพี่ต้นหนาว ฝนยอมแล้วพี่ฝนยอมแล้วพี่วางมีดลงนะฮือๆ" ฉันร้องไห้ออกมาเพราะกลัวจะเสียพี่สาวไปอีกคน
เพราะในตอนนี้ฉันไม่เหลือใครอีกต่อไปแล้วนอกจากพี่ต้นหนาว หากเธอจากฉันไปฉันเองก็คงจะเสียใจจนไม่อยากอยู่ต่อไปเหมือนกัน
"สัญญากับพี่นะว่าจะทำตามที่พี่บอก" พี่ต้นหนาวชูนิ้วก้อยขึ้นมา แววตาเค้าดูดีใจและมีความหวัง
"สัญญาค่ะ แต่ตอนนี้พี่ส่งมีดมาให้ฝนก่อนนะ" ฉันตอบตกลงแล้วยื่นมือไปขอมีดคืนจากพี่ต้นหนาวและเธอก็ยื่นมันมาให้ฉันโดยไม่ขัดขืนอะไร
"ขอบใจนะฝน ขอบใจจริงๆ"
หมับบ! พี่ต้นหนาวดึงฉันเข้าไปกอดแน่น นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้กอดกันแบบนี้
"ไม่เป็นไรค่ะอะไรที่ทำให้ใจพี่เป็นสุขฝนก็ยินดีทำ" ฉันพูดแล้วกอดตอบพี่สาวตัวเองแน่น
จริงๆที่ฉันยอมทำตามที่พี่ต้นหนาวบอกส่วนนึงก็เพราะว่ากลัวเธอจะฆ่าตัวตาย แต่ต่อให้เธอไม่ขู่ฆ่าตัวตายฉันก็จะทำตามที่พี่ต้นหนาวบอกเป็นการตอบแทนบุญคุณเค้าอยู่แล้วแหละ
พี่ต้นหนาวเป็นผู้มีพระคุณกับฉันรองลงมาจากพ่อแม่เลย เพราะเธอปากกัดตีนถีบดิ้นรนทำงานตัวคนเดียวและส่งฉันเรียนจนจบ
"เออฝน เดี๋ยวพี่จะไม่อยู่บ้านซัก2-3วันนะเพราะพี่จะไปหางานใหม่ทำพอดีบริษัทที่พี่ทำอยู่มันลดเงินเดือนลง พี่เลยกะว่าจะให้เพื่อนพาไปหางานทำใหม่" พี่ต้นหนาวผละกอดออกแล้วพูดกับฉัน
"อ๋อโอเคค่ะ ขอให้พี่ได้งานไวๆนะคะ" ฉันพูดให้กำลังใจพี่สาวคนเก่งของตัวเอง
"ฝนก็ด้วยนะดูแลตัวเองดีๆล็อคบ้านให้ดีล่ะอยู่คนเดียวอะ" พี่สาวสุดที่รักของฉันพูดพลางเอามือลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู
"ขอบคุณค่า" ฉันกล่าวขอบคุณพี่ต้นหนาว
"งั้นพี่ไปก่อนนะเพื่อนรออยู่"
"ไปตอนนี้เลยหรอคะ"
"ใช่ นัดสัมภาษณ์เอาไว้ ดูแลตัวเองดีๆนะปลายฝนพี่ไปละ" พี่ต้นหนาวยกมือบ๊ายบายฉันก่อนจะรีบเดินออกไปโดยไม่รอฟังฉันพูดเลย
"รีบอะไรของเค้าขนาดนั้นนะ" ฉันพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัยก่อนจะสลัดเรื่องนี้ออกจากหัวแล้วลุกขึ้นไปหยิบซองเอกสารที่ใช้ในการสมัครงานก่อนโบกแท็กซี่ขึ้นเพื่อตระเวนหางานทำต่อ
ณ บริษัทไอซ์ฟู๊ด จำกัด
ห้องทำงานทิวา
[.:ทิวาTalk:.]
ผมกำลังนั่งรอไอน้องชายตัวแสบของผมเพื่อเข้าประชุมพร้อมกันเรื่องงานที่ผมไปมาเมื่อวานนี้
"สายป่านนี้แล้วทำไมยังไม่โผล่หัวมาอีก" ผมบ่นไปพลางมองนาฬิกาแบรนด์หรูที่ข้อมือไปอย่างสงสัย
ปกติภาคินไม่เคยมาประชุมเลทโดยเฉพาะประชุมนัดสำคัญอย่างวันนี้
กริ๊งง! เสียงมือถือผมดังขึ้นจากปลายสายที่เป็นเบอร์แปลก
"ใครโทรมากัน" ผมหยิบมือถือขึ้นมาตอบรับปลายสาย
? ผม "ฮัลโหล"
? ปลายสาย "คุณทิวาพี่ชายของคุณภาคินใช่มั้ยคะ"
? ผม "ครับใช่ครับ"
? ปลายสาย "เอ่อเราติดต่อจากหน่วยกู้ภัยนะคะตอนนี้คุณภาคินประสบอุบัติเหตุขับรถตกเหวสูงถึง6เมตร อาการสาหัสไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นักเลยจะโทรมาแจ้งให้คุณทิวารีบตามมาที่โรงพยาบาลxxด่วนเลยนะคะ"
? ผม "ว่าไงนะ!! ครับๆจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ"
สิ้นสุดการโทร..
หลังจากวางสายผมก็รีบตรงดิ่งไปที่รถยนต์คันโปรดก่อนจะสตาร์ทรถและขับไปยังโรงพยาบาลxx
ตอนนี้หัวใจของผมตกหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ใจผมหวิวไปมาเพราะกลัวจะเสียน้องชายไป นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของผมอยู่ๆมันจะขับรถตกเหวได้ยังไงมันเป็นคนขับรถแข็งมากแข็งกว่าผมซะอีก
จะว่ามันเมาแล้วขับก็ยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่เพราะมันเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของผม
ณ โรงพยาบาลxx
ผมมาถึงพอดีกับรถกู้ภัยที่พาตัวภาคินมาส่ง ผมเห็นมันนอนเลือดอาบรวมถึงบาดแผลที่ถลอกไปทั้งตัว นั่นยิ่งทำให้ผมเจ็บใจตัวเองมากที่ดูแลน้องได้ไม่ดีพอ
ผมหาที่จอดรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาน้องชายของผมที่พึ่งถูกส่งตัวของไปยังห้องผ่าตัดด่วนพิเศษ
"หมอช่วยน้องชายผมด้วยนะครับ" ผมจับมือขอร้องหมอให้รักษาภาคินอย่างเต็มที่
"หมอจะพยายามให้ถึงที่สุดครับ ขอให้ญาติรอด้านนอกนะครับ" หมอพูดก่อนจะรีบปิดประตูเข้าไปทำการรักษาน้องชายผมที่ตอนนี้เป็น-ตายเท่ากัน