นักข่าวมารอสัมภาษณ์(ความสัมพันธ์?)

1381 คำ
"ผมรู้ว่าอะไรคือหน้าที่ของผู้บริหารไม่ต้องมาสอน!! ส่วนคุณมีหน้าที่แก้ปัญหาก็แก้ไปสิ เก่งนักไม่ใช่เหรอไอ้เรื่องสร้างภาพ!!" แววตาคมเหลือบขึ้นจ้องตาเธอเขม็ง ต่างคนต่างก็จ้องตากันไม่มีใครยอมใคร "ข้าวต้มมาแล้วค่ะ" ป้าลอยเดินยิ้มถือข้าวต้มเข้ามาในจังหวะนั้นพอดี " อุ้ย.. ให้ป้าเอาข้าวต้มไปเก็บก่อนไหมคะ" เมื่อเห็นท่าไม่ดี ป้าลอยก็เตรียมถอยให้ทั้งคู่ได้คุยกันเป็นการส่วนตัว " ไม่ต้องครับ ผมจะกินเลย" น่านฟ้าหันมาสนใจถ้วยข้าวต้มในมือป้าลอยไม่ได้สนใจภรรยาที่อยู่นอกสายตา ไม่สิ ไม่ใช่แค่นอกสายตาแต่ไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลยต่างหาก ถ้าเป็นได้ก็ช่วยหายไปจากสายตาเขาเลยยิ่งดี รำคาญที่ต้องมาอยู่หายใจร่วมกัน... "ค่ะ" ป้าลอยวางถ้วยข้าวต้มลงเสิร์ฟ " วาจะแก้ปัญหาที่คุณก่อแค่เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย หลังจากนี้คุณต้องแก้มันด้วยตัวเอง!! อ้อ เช้านี้มีประชุมผู้ถือหุ้นช่วยรักษาเวลาด้วยนะคะ" พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินออกไป... "หึ" ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มสะใจ โคตรสะใจเลยเว้ย สะใจที่ทำให้เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้... เก่งนักก็แก้ไปสิ คนอย่างเธอถนัดอยู่แล้ว ไอ้เรื่องสร้างภาพ!! เขาละเกลียดผู้หญิงสร้างภาพลวงโลกอย่างเธอที่สุด สร้างภาพทำตัวเป็นคนดีแต่ความจริงนั้นเป็นพวกหิวเงินหวังสมบัติ คงอยากได้มากสินะทั้งบริษัททั้งบ้านหลังนี้ ไม่มีทาง..เธอจะไม่มีวันได้ทุกอย่างไปตราบใดที่เขายังมีลมหายใจ พอคิดย้อนไปเขาก็นึกโกรธที่พ่อยอมให้ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้เข้ามาอยู่ในชีวิตและยังบังคับให้เขาต้องแต่งงานกับเธอ ส่วนตัวเองนอนป่วยเป็นผักไม่ยอมฟื้นขึ้นมา ทิ้งให้เขาต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิงร้ายกาจคนนี้...หรือว่าทั้งหมดนี้คือแผนของเธอกันแน่ วาริสา!! เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ยิ่งเติมเชื้อไฟความโกรธแค้น...หากว่าเขายังมีชีวิตอยู่ อย่าหวังว่าเธอจะได้ทุกอย่างไปง่ายๆ ไม่เธอก็เขาที่ต้องตายกันไปข้าง ตัดภาพมาที่ บริษัทอภิวัฒน์ ยูทีออล์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือห้างคอนโดหรูและบ้านจัดสรรใจกลางเมือง ยูทีออล์นับเป็นบริษัทแนวหน้าที่กำลังถูกจับตามองด้วยไลฟ์สไตล์การออกแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าผู้อยู่อาศัยและรวมถึงมีการพลิกโฉมเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยของผู้คนในปัจจุบัน... ก่อตั้งบริษัทโดยคุณภิวัฒน์ อภิมหาเดช ปัจจุบันนอนป่วยไม่รู้สึกตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนประธานบริษัทคนปัจจุบันคือนาย ภูริทัต อภิมหาเดช ลูกชายคนเดียวของคุณอภิวัฒน์ รถตู้หรูขับเข้ามาจอดด้านหน้าตึกสูงของบริษัท สองขาเรียวสวยก้าวลงมาจากรถก็พบกับกลุ่มนักข่าวที่มารอสัมภาษณ์... ร่างสมส่วนยืนปรับอารมณ์ตั้งสติ... ใบหน้าสวยฉีกยิ้มเหมือนทุกครั้งที่เจอกับนักข่าวและเธอก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้งไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไร "คุณวาคะ คุณวา เดี๋ยวก่อนค่ะ" เมื่อกลุ่มนักข่าวเจอกับวาริสาก็รีบเอาไมค์มาจ่อสัมภาษณ์ "สวัสดีค่ะ มีอะไรกันหรือเปล่าคะ" เธอฉีกยิ้มสวยทั้งที่ในใจต่างออกไป เธอรู้ว่านักเหล่านี้มีคนจ้างมาอย่างแน่นอนและคนที่จ้างก็เป็นศัตรูที่มีอยู่มากมายรอบตัว "คุณวารู้เรื่องที่คุณน่านมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กเอ็นในคลับหรือยังคะ เป็นนโยบายของบริษัทอยู่แล้วหรือเปล่าคะ" กลุ่มนักข่าวอมยิ้มหัวเราะ "วารู้เรื่องแล้วค่ะ ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ได้แปลกใหม่อะไรนะคะ คุณน่านเขาเป็นใจบุญค่ะ เขามอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักศึกษาที่หาเงินส่งตัวเองเรียนมาโดยตลอด วาก็เลยไม่ได้รู้สึกตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้นค่ะ" ใบหน้ายิ้มแย้มของเธอทำให้นักข่าวเริ่มเชื่อในสิ่งที่เธอพูดเพราะฟังดูเหมือนจริงไม่ได้โกหก " อย่างนี้คุณวาก็เห็นดีเห็นงานที่สามีมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กเอ็นในร้านใช่ไหมคะแล้วคุณวาไม่รู้สึกหึงหวงเหรอคะที่สามีไปที่คลับนั้นบ่อยๆ" ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างงุนงงว่าจริงหรือไม่จริง สองสามีภรรยาคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ทุกคนต่างสงสัย "อย่างที่วาเคยบอกค่ะว่าคุณน่านเขาเป็นคนจิตใจดีชอบช่วยเหลือเด็กเหมือนอย่างคุณพ่อท่านค่ะ เพราะฉะนั้นอะไรที่เขาทำแล้วเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นวาก็เห็นดีด้วยค่ะ ส่วนเรื่องหึงหวงนั้นเราสองคนเข้าใจกันดีค่ะ วาเป็นคนใจกว้างให้เขาไปดื่มเที่ยวพักผ่อนได้ตามที่ต้องการเลยค่ะ" "แล้วข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของคุณน่านกับคุณเอมอภิรดีล่ะคะ คุณวาจะให้คำตอบยังไงได้บ้างคะ ตอนนี้ทุกคนกำลังสงสัยในเรื่องนี้ ตกลงแล้วคุณวากับคุณน่านยังรักกันดีใช่ไหมคะ" "วากับคุณน่านเราสองคนยังรักกันดีค่ะ ส่วนเรื่องข่าวที่ทุกคนสงสัย วาเคยตอบไปแล้วนะคะว่าคุณน่านกับคุณเอมเขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนค่ะ วาตอบได้แค่เท่านี้ยังไงต้องไปถามคุณน่านกับคุณเอมเองแล้วกันนะคะ วาคงต้องขอตัวขึ้นไปทำงานก่อน ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจมาสัมภาษณ์วาถึงที่บริษัทนะคะ" วาริสายิ้มสวยให้นักข่าว ก่อนจะให้ รปภ.เข้ามาช่วยเคลียร์ทางให้ " เดี๋ยวก่อนสิคะ คุณวา คุณวาคะ" เสียงนักข่าวดังขึ้นตามหลัง...แต่คนให้สัมภาษณ์เดินหายเข้าตึกบริษัทไปแล้ว ภายในลิฟต์ผู้บริหาร.. " คุณวาเป็นยังไงบ้างคะ วีขอโทษที่ลงไปห้ามนักข่าวพวกนั้นไม่ทัน" วีรการเป็นเลขาของวาริสาและเป็นคนเดียวในบริษัทที่เธอไว้ใจ " ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันจัดการไปแล้ว อ้อแล้วเรื่องเตรียมประชุมผู้ถือหุ้นเช้านี้ เรียบร้อยดีใช่ไหม" "เรียบร้อยดีค่ะ แต่มีอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ค่อยดีเลยค่ะ คือเมื่อเช้าวีได้คุยกับคุณลักษ์เห็นบอกว่าโครงการเอเวอร์แกรนด์ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น คือจนป่านนี้พวกชาวบ้านยังไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่เลยค่ะ" วีรการทำหน้าเศร้า.. ติ่ง.. ลิฟต์เปิดที่ชั้น13 วาริสาพยักเดินออกมาจากลิฟต์ "เห็นทีเรื่องนี้ฉันคงต้องจัดการเอง หลังจากประชุมเสร็จวีช่วยเตรียมรถพาฉันลงไปดูพื้นที่หน่อยนะ ฉันอยากไปคุยกับชาวบ้านด้วยตัวเอง" แม้ว่าเขาจะไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งกับโครงการนี้แต่เธอต้องยุ่งเพราะถ้าไม่ทำอะไรบริษัทอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นได้ " แต่คุณน่านไม่ให้เราเข้าไปยุ่งเรื่องนี้นะคะ" วีรการมีสีหน้าลำบากใจ คุณน่านฟ้าประธานบริษัท สั่งห้ามไม่ให้คุณวาเข้าไปยุ่งเรื่องนี้และเธอก็ไม่กล้าขัดคำสั่งเพราะคุณน่านดุมากจริงๆ "วีไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ตอนนี้บริษัทต้องมาก่อน วีก็รู้ว่าฉันทำอยู่ทุกวันนี้เพราะอะไร ฉันไม่อาจปล่อยให้บริษัทที่คุณท่านสร้าง ต้องมาพังลงเพราะคุณน่านเป็นผู้บริหาร" เขาอาจจะคิดว่าตัวเองเก่งจัดการปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตัวเองแต่เขาคิดผิดเพราะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาล้วนเป็นเธอที่เข้าไปช่วยแก้ รวมถึงเรื่องโครงการนี้ที่เป็นเรื่องใหญ่มาก หากเธอไม่เข้าไปยุ่งบริษัทอาจถูกฟ้องร้องจนล้มละลายได้... " ค่ะ" วีรการยิ้มให้กำลังใจเจ้านายสาวผู้ไม่เคยยอมแพ้กับเรื่องใดๆ คุณวาเป็นผู้หญิงสวยเก่งและยังมีจิตใจดีมากแต่แปลกที่คนเป็นสามีกลับไม่เคยมองเห็น..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม