หลังจากวันนั้นปิ่นมุกก็ไม่กลับไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีกเลย ฐานัทให้เธอพักอยู่ที่คอนโดฯ ของเขา เธอไม่อยากอยู่เท่าไหร่เพราะเกรงใจเพื่อนชาย แต่เจ้าตัวก็คะยั้นคะยอจนต้องยอมอยู่
“พี่ปิ่นเป็นอะไร ทำหน้ายังกับถูกผัวทิ้ง”
มีมี่ หนุ่มรุ่นน้องที่มีเพศสภาพเป็นผู้ชายหวานๆ จีบปากจีบคอถามพลางหัวเราะอารมณ์ดี จากทำหน้าเคร่งเครียดและเหม่อลอย ปิ่นมุกก็อดยิ้มให้กับความทะเล้นของมีมี่ไม่ได้
“อุ๊ยๆ ลืมไป ยังไม่มีผัวเนอะ”
“เดี๋ยวเหอะ”
ปิ่นมุกหยิบแฟ้มปึกใหญ่ง้างมือขึ้นสูง มีมี่รีบวิ่งไปหลบหลัง ต้นฝน ผู้ขึ้นชื่อว่าอาวุโสที่สุดในแผนก
“แหมๆ คุณผู้จัดการขา น้องมันแซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลยน้า”
“สงสัยแทงใจดำค่ะพี่ฝน”
“นั่นแหละ อายุจะเข้าเลขสามอยู่รอมร่อแต่ยังไร้คู่ มันก็ต้องมีหงุดหงิดบ้างเป็นของธรรมดาเนอะ” ต้นฝนป้องปากหัวเราะกับมีมี่
“เพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเองค่า มีเวลาเดินสวยๆ ให้ผู้ชายชายตามองอีกเยอะ” หญิงสาวยืดอกพูดอย่างภาคภูมิ เล่นเอาผู้ร่วมสนทนาทำเสียงโห่ร้องกันยกใหญ่
“เออนี่ แล้วเรื่องเงินที่หายไปสิบล้านบาทน่ะ ตกลงเธอต้องจ่ายเองคนเดียวเลยหรือ?” ต้นฝนไม่ลืมถามเรื่องที่สงสัย
ข่าวนี้ดังไปทั่วตึก พนักงานส่วนใหญ่ต่างเห็นใจปิ่นมุกกันทุกคน จะมีบ้างที่แอบสมน้ำหน้าเพราะชอบเห็นความทุกข์ของผู้อื่นเป็นเรื่องสนุก
“ก็ตามนั้นค่ะพี่” พอพูดถึงเรื่องเงินทีไรหัวใจดวงน้อยพลันห่อเหี่ยวทันที อารมณ์รื่นเริงหายวับไปกับตา
“พี่ฝน โอ๊ย!” มีมี่ตีไหล่คนช่างพูดโดยไม่ดูสถานการณ์ “มีมี่อุตส่าห์หาเรื่องคุยให้พี่ปิ่นเขาลืมความทุกข์ได้แล้วเชียว”
ปิ่นมุกส่ายหน้าพลางตอบว่า
“ไม่มีใครลืมความทุกข์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกมีมี่ ถึงพี่จะยิ้มจะหัวเราะแต่ข้างในพี่เครียดทุกวัน”
ปิ่นมุกตระหนักถึงหนี้สินมหาศาลที่เธอต้องชดใช้ให้กับทางบริษัทฯ อยู่เสมอ ท่านประธานมักเรียกเธอไปคุยและตอกย้ำอยู่บ่อยๆ สงสัยคงกลัวว่าจะหนีเลยต้องหาเรื่องขู่ว่าจะฟ้องนั่นฟ้องนี่ ถ้าบิดพลิ้วคิดตุกติกแม้แต่นิดเดียว เธอจะไม่สามารถไปทำงานที่ไหนได้อีก เขาจะทำให้ประวัติของเธอติดลบทั้งในและต่างประเทศ
ซึ่งคนอย่างเฟอเดอริกมันไม่ยากเกินความสามารถอยู่แล้ว
“ที่เครียดเพราะว่าต้องเอาเงินไปประเคนให้สองแม่ลูกนั่นด้วยล่ะสิ” มีมี่เบ้ปาก ต้นฝนพยักหน้าเห็นด้วย
“พี่นะเกลี๊ยดเกลียด! เมื่อไหร่เธอจะยอมทิ้งอีปลิงสองตัวนั่นแล้วออกมาใช้ชีวิตคนเดียวสวยๆ สักทีหะ ทนเพื่ออะไร ลองเป็นพี่หน่อยไม่ได้ อย่าว่าแต่เดือนละหมื่นห้าเลย แม้แต่สตางค์แดงเดียวพวกมันก็จะไม่ได้จากพี่”
ต้นฝนพูดด้วยอารมณ์ล้วนๆ หล่อนเคยเจอฤทธิ์เดชของปราณีเมื่อครั้งไปส่งปิ่นมุกที่บ้าน ยังอนาถใจมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวถึงยอมทนทั้งๆ ที่พ่อกับแม่ก็สิ้นบุญไปนานแล้ว
“ตอนนี้ปิ่นออกมาอยู่ข้างนอกได้อาทิตย์กว่าแล้วค่ะ” ปิ่นมุกยอมเล่าในที่สุด
“จริงเหรอ?!” สองเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน
“ตายแล้วยัยปิ่น เรื่องสำคัญแบบนี้ลืมพวกฉันสองคนไปได้ยังไงยะ” ต้นฝนตีแขนด้วยความมันเขี้ยว
“ในที่สุดพี่ปิ่นของมีมี่ก็สามารถตัดขาดจากอีปลวกสองตัวนั้นได้สักที แบบนี้มันต้องฉลองไหมพี่ฝน ร้านเดิมเป็นไง?”
“ไม่เอาอ่ะ พี่ไม่อยากเข้าผับ เหม็นบุหรี่”
ปิ่นมุกรีบปฏิเสธทันควัน ตอนได้รับตำแหน่งผู้จัดการแผนกใหม่ๆ มีมี่และต้นฝนพาเธอไปเลี้ยงฉลองที่ผับแห่งหนึ่ง ยังจำได้ไม่เคยลืม ทั้งกลิ่นควันบุหรี่แล้วไหนจะคนเมาไม่รู้เรื่องที่พยายามแต๊ะอั๋งตลอดเวลานั่นอีก เลยสาบานกับตัวเองอย่างจริงจังว่าจะไม่กลับเข้าไปยังสถานที่อโคจรแบบนั้นอีกเด็ดขาด
“เอาเป็นร้านอาหารนั่งฟังเพลงสบายๆ ระหว่างทานข้าวดีกว่า” ปิ่นมุกเสนอ
“ว๊า… ไม่วัยรุ่นเลย” มีมี่ทำหน้าเบื่อหน่าย
“เอาน่าลูกสาว ยอมตามใจคุณผู้จัดการเขาหน่อย ถือเสียว่าฉลองชีวิตใหม่ให้กับคุณปิ่นมุกสุดที่รักของเรา”
ต้นฝนจับปลายคางสาวรุ่นน้องโยกเล่นไปมา เพียงรู้ว่าปิ่นมุกหลุดพ้นจากครอบครัวใจบาปเธอก็มีความสุขเสมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
“จัดไปค่ะ”
มีมี่ยักคิ้วลิ่วตาตามประสาคนขี้เล่น ทั้งสองทำให้ชั่วโมงแห่งการทำงานที่สุดแสนจะเคร่งเครียดผ่อนคลายลงไปมาก ปิ่นมุกรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานที่แสนดีอย่างมีมี่และต้นฝน
อย่างน้อยสวรรค์ก็ไม่ใจร้ายให้เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว
“มึงขอเวลากูหนึ่งเดือนเต็ม มึงบอกจะรีบหาเงินมาใช้หนี้กูให้เร็วที่สุด แต่มึงก็ผิดคำพูด”
โชค เจ้าของโต๊ะบอลเหยียดยิ้มขณะแทงสนุ๊กฯ ระบายความหงุดหงิด ปกเกล้าถูกลูกน้องอันธพาลของโชคล้อมหน้าล้อมหลัง กระดิกตัวไปไหนก็เจอแต่สายตาพร้อมฆ่าให้ตายปรากฏอยู่เบื้องหน้า ความขลาดกลัวถูกปลุกกระตุ้นเพียงเห็นผู้คุมบ่อนตัวใหญ่สาวเท้าเดินเข้ามาหา
“มึงนี่แม่งตอแหลเก่งจริงๆ!”
“พะ พี่โชค ผะ ผมไม่ได้โกหกนะพี่ ตะ ตะ แต่น้องสาวผมมันหนีออกจากบ้านไปแล้ว ผะ ผมเลยไม่มีเงินมาใช้หนี้พี่” ปกเกล้ายกมือไหว้หลุนๆ
“แล้วทำไมหนี้ของมึงต้องให้น้องสาวมาชดใช้แทนด้วยวะ?”
ไม่ใช่ว่าเพิ่งรู้ แต่เขารู้มานานแล้วว่าไอ้สารเลวตัวนี้เข้าข่ายแมงดาเรียกพี่ เอะอะก็ขู่เข็ญเอาเงินกับน้องสาวต่างมารดาเป็นว่าเล่น ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องหลอกลวงสาวแก่แม่หม้ายให้หลงเสน่ห์ ก่อนดูดเงินจนหมดตัว
ซึ่งโชคเกลียดอะไรแบบนี้ที่สุด มันไม่ใช่วิถีของลูกผู้ชาย
“หนี้มึงก่อเองก็หาใช้เองสิวะ” โชคจิ้มนิ้วชี้ใส่หน้าผากของอีกฝ่ายแรงๆ
“ผะ ผม”
ปกเกล้าเถียงไม่ออก ที่ผ่านมาเวลาติดหนี้พนันบอลเขาก็รีดไถเงินจากปิ่นมุกทุกครั้งไป ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งน้องสาวต่างแม่จะทนไม่ไหวแล้วหอบผ้าหอบผ่อนออกจากบ้านเอาดื้อๆ
“กูให้เวลามึงอีกสองวัน ทำยังไงก็ได้หาเงินมาใช้หนี้กูสามหมื่น”
“หมายความว่ายังไงพี่โชค งวดนี้ผมติดพี่แค่แปดพันเองนะ แล้วทำไม…” ปกเกล้าตกใจ จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมันมากเกินไปสำหรับเขา
“ดอกเบี้ย”
โชคดันลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม เดินโอบเอวสาวๆ ในสังกัดเข้าไปยังห้องวีไอพีอันเป็นที่รับรองเฉพาะ ปล่อยให้ลูกน้องวัยฉกรรจ์จัดการกับลูกหนี้จอมเบี้ยวนัดอย่างสาสม
สภาพยับเยินของปกเกล้าไม่ต่างอะไรกับหมาข้างถนน!