เกี๊ยว…
วันนี้ฉันตัดสินใจลาป่วยเพื่อไปหาใครบางคน หลังจากที่เมื่อคืนฉันหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาก็รู้มาว่าเขาไม่ใช่นายแบบธรรมดา แต่ครอบครัวมีธุรกิจสีเทาซึ่งเขารับช่วงมาดูแลต่อ เขาเป็นเจ้าของผับชื่อดังในเมืองไทยที่ฉันไปถ่ายงานรีวิวเครื่องดื่มให้เมื่อวันก่อน และเป็นเจ้าของคาสิโนที่ฮ่องกงด้วย
“ถ้าเรียกสองแสนกับครั้งแรกของเรามันจะแพงไปมั้ยนะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ซะด้วยสิ”
พอฉันนึกถึงค่าตัวที่จะเรียกกับเขาต่อการหลับนอนคืนเดียวแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา เพราะไม่มีความรู้เกี่ยวกับอาชีพนี้ฉันเลยไม่รู้ว่าราคาที่เหมาะสมมันต้องอยู่ประมาณไหน ส่วนมากคนที่ได้ราคาดี ๆ แม้จะผ่านมาหลายงานแล้วก็ล้วนแต่โปรไฟล์ดี ๆ ทั้งนั้น เรียกได้ว่าเกรดพรีเมี่ยมเลยล่ะ
“แล้วเราจะเอาอะไรไปต่อรองราคากับเขาล่ะ เฮ้อ!”
ถึงจะลังเลและเหนื่อยใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ทำใจไว้แล้วบ้าง ฉันน่ะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ หรอกนะ ฉันต้องพาพี่ชายฉันออกมาจากที่นั่นให้ได้ถึงแม้จะต้องทำอะไรแบบนี้ก็ตาม แค่ไม่ไปยุ่งกับคนมีครอบครัวก็พอแล้วล่ะ
“นัดไว้หรือเปล่าครับ ถ้าไม่ได้นัดไว้คุณทัพไม่ให้เข้านะครับ”
เสียงการ์ดหน้าผับพูดกับฉัน ไม่คิดเลยว่าเวลากลางวันแบบนี้ที่นี่จะมีการ์ดคุมเข้มอีก จ้างคนมาดูแลทั้งกลางวันกลางคืนเลยหรือไง
“แต่หนูมีเรื่องด่วนจริง ๆ นะคะพี่ให้หนูเข้าไปเถอะ”
ฉันอ้อนวอนคนตรงหน้า
“เสียงดังอะไรกันน่ะ”
และแล้วเจ้าของผมสีทองที่ฉันตามหาก็มาปรากฎตัวตรงหน้า ดวงตาดำขลับที่จ้องมองมาดูน่ากลัวกว่าตอนที่เขาใส่คอนแทคเลนส์สีแดงเสียอีก
“คุณผู้หญิงคนนี้… / เข้ามาสิ”
คนตรงหน้าไม่รอให้การ์ดหน้าผับพูดจบแต่เดินนำฉันเข้าไปด้านใน บรรยากาศในร้านมีเพียงดวงไฟสีขาวสาดส่องให้ความสว่าง สภาพของผับด้านในตอนไม่มีลูกค้าช่างดูเงียบสงบ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าตกกลางคืนแล้วลูกค้าเข้าร้านจะเป็นยังไง คงวุ่นวายน่าดู
“มาที่นี่ทำไม”
คนที่เดินนำฉันขึ้นมาบนชั้นสามของผับพูดขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องตรงหน้า คิดว่าคงเป็นห้องพักของเขาแล้วมันก็ใช่จริง ๆ ด้วย คนคนนี้มีผับเป็นบ้านเหมือนในข้อมูลที่ฉันหามาได้จริง ๆ แฮะ
“มาคุยงานค่ะ”
ฉันยอมลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงแลกกับการได้ทำงานกับเขา ฉันรู้ว่าวันนั้นฉันปฏิเสธเขาและพูดไม่ดีกับเขา ไม่คิดเลยว่าอยู่ ๆ วันนี้ฉันต้องมาขอให้เขาช่วยรับฉันทำงานด้วย
“ผับฉันไม่รับนักศึกษา ปัญหาเยอะฉันไม่ชอบ”
คนที่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะมองหน้าฉันด้วยแววตาไร้อารมณ์อย่างที่เคยเห็นตอนถ่ายแบบ บอกว่าไม่รับนักศึกษาแต่เขาเองก็เป็นนักศึกษาเหมือนกันนี่หรือข้อมูลที่ฉันมีมันผิด?
“เอ่อไม่ใช่งานนั้นค่ะ อีกงานนึง”
“'งานอะไร?”
“งานที่คุณเคยถามฉันวันถ่ายแบบไงคะ พอดีฉันลองกลับไปคิดดูแล้วก็เลย…”
“ร้อนเงินหรือไง”
รู้ดี!
“เท่าไหร่?”
คนตรงหน้าถามต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบตามเดิมพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกมา ถ้าเกิดเรียกไปตามที่ตั้งใจไว้จะได้มั้ยนะ เขาจะปฏิเสธหรือเปล่า
“สะ สองแสนค่ะ”
“แพงไป”
แต่นายรวยนี่นา จะมาแพงอะไรเล่า! นี่มันครั้งแรกของฉันด้วยนะ!
“แต่ฉันยังเด็กอยู่นะคะ เพิ่งเข้ามหาลัยตอนนี้อยู่ปีหนึ่ง แล้วก็ไม่เคยมีอะไรกับใครมากะ… / ออกไปได้แล้วฉันไม่ชอบเด็ก”
ควันบุหรี่สีขาวที่พวยพุ่งออกมาลอยเข้าหน้าฉันเต็ม ๆ พร้อมกับคำพูดของเขา วันนั้นอยากได้ฉันแทบตายแต่ทำไมวันนี้ถึงปฏิเสธล่ะ แค่เพราะฉันเด็กกว่างั้นเหรอ?
“ถ้าคุณบอกว่าแพงไปงั้นฉันลดให้ก็ได้ค่ะ”
“ออกไป”
ใบหน้านิ่งเรียบทว่าแววตาดุดันนั้นส่งมาจนฉันต้องขนลุกซู่ นี่เขาปฏิเสธผู้หญิงที่ตัวเองเคยอยากได้งั้นเหรอ?
“ฉันไม่ชอบสีขาว โดยเฉพาะเสื้อผ้าสีขาวฉันยิ่งไม่ชอบ มันเลอะง่ายฉันไม่อยากทำให้มันสกปรก”
คนตรงหน้าพูดต่อก่อนจะวางบุหรี่ลงบนจานรองแล้วมองมาที่ฉัน
“เธอยังเด็กอย่ามาทำอะไรแบบนี้ จะไปไหนก็ไป”
“แค่คืนเดียวก็ไม่ได้เหรอคะ ขอแค่ค่าเทอมสักสองเทอมก็ได้”
“ไปหางานอย่างอื่นทำ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ”
สิ้นน้ำเสียงดุ ๆ ของคนตรงหน้าฉันก็พาตัวเองออกมาจากห้องนั้น ถ้าขืนเป็นแบบนี้ฉันคงต้องหางานตามที่เพื่อนรักบอกแล้วล่ะ แต่มันจะทันเหรอ ทั้งคืนทุนแล้วก็ผ่อนจ่ายค่าเทอมอีก ไหนจะค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่ยังเรียนอยู่ก็ไม่ใช่น้อย ๆ
“ถ้ามีค่าเทอมแล้วเรื่องหาเงินค่าห้องกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ก็คงพอหาได้บ้างถ้าใช้ประหยัด ๆ แต่นี่ค่าเทอมก็ไม่มีถ้าจะกู้ทุนเรียนก็ต้องรอทำเรื่องเทอมหน้าอีก แล้วนี่เทอมสองก็เพิ่งจะผ่านมาแค่เดือนกว่า ๆ เอง เฮ้อ! อีกตั้งนานกว่าจะได้ทำเรื่องกู้”
หลังจากนอนคิดมาทั้งคืนแล้วว่าจะแก้ปัญหาที่เจออยู่ยังไง ฉันจึงตัดสินใจได้ว่าจะทำเรื่องดรอปเรียนไว้ก่อน ระหว่างนั้นก็หางานประจำทำซะเลย ถึงจะใช้ทุนคืนทั้งหมดไม่ทันแต่ถ้ามหาลัยเห็นความตั้งใจของฉันก็คงเมตตาและอาจผ่อนผันให้บ้าง
“เป็นไงบ้างเกี๊ยว ได้งานมั้ย”
พี่ปอยเดินเข้ามานั่งกับฉันที่ใต้ร่มไม้เมื่อเห็นว่าฉันกับลูกปลากำลังนั่นคุยกันอยู่ เมื่อวานฉันบอกพี่เขาเรื่องดรอปเรียนแล้วก็เรื่องหางานทำไปน่ะ วันนี้คงอยากรู้ข่าวคราว
“เกี๊ยวได้งานแล้วค่ะ อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อหน้ามหาลัยเรานี่เอง ใกล้หอพักด้วย”
ยัยเพื่อนซี้ชิงตอบก่อนเพราะดีใจมากกว่าฉันที่ได้งานทำเสียอีก
“ดีแล้วแหละ แล้วนี่นะเกี๊ยวเงินเก็บพี่น่ะเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง”
พี่ปอยยื่นธนบัตรสีเทาหลายใบมาให้ฉันพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่ ฉันรู้ว่าเงินจำนวนนี้สำหรับนักศึกษาที่ไม่ได้มีฐานะดีอะไรมากมาย แล้วก็ยังหาเงินใช้เองอย่างเต็มที่ไม่ได้มันมากขนาดไหน
“มันอาจจะไม่กี่พัน แต่ก็คงพอที่เกี๊ยวจะใช้จนถึงสิ้นเดือนได้น่ะ ไว้มีเมื่อไหร่ค่อยมาคืนพี่ก็ได้”
ฉันทำท่าลังเลเล็กน้อยก่อนจะรับเงินมาถทือไว้ในมือ เวลานี้ความเกรงใจไม่ได้ทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น เพราะตอนนี้เงินติดตัวสักบาทก็ไม่มี
“ขอบคุณพี่ปอยมากนะคะ เกี๊ยวจะรีบใช้คืนนะ”
ฉันส่งยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะนั่งคุยกันต่อสักพักแล้วพี่เขากับลูกปลาก็แยกย้ายกันไปเรียน วันนี้ฉันไม่ได้เข้าเรียนเพราะมาทำเรื่องดรอปเอาไว้