ลัดดาย้ายมาอยู่บ้านเช่ากับรัตนาพี่สาวแท้ๆ ของเธอ เพราะต้องเข้ามาทำงานในตัวเมืองตามคำชักชวนของพี่สาวที่อยากให้เธอเข้ามาทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกันที่นี่
หลังจากที่ลัดดาตัดสินใจมาอยู่ด้วยแล้ว เธอก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิด เพราะพี่เขยที่เคยเป็นสุภาพบุรุษในตอนนี้เขาเริ่มออกลายกับเธอแล้ว
ทุกครั้งที่รัตนาเผลอไตรภูมิจะชอบมาอยู่ใกล้และสัมผัสเนื้อตัวของเธออยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะแกล้งทำเป็นหยิบจานใบเดียวกันแล้วสัมผัสมือเธอ หรือแกล้งทำเป็นอยากเข้าไปหาของในครัวในตอนที่เธอกำลังล้างจานอยู่แล้วเดินเอาสะโพกมาชนเธอ
เขาเป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้งจนลัดดานั้นมั่นใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเองอย่างแน่นอน พี่เขยของเธอกำลังสนใจเธออยู่แน่แล้วและคงตั้งใจทำอย่างนี้เพื่อที่จะรวบหัวรวบหางเธออย่างในข่าวแน่ๆ
แต่เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้กับพี่สาวฟัง กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ เพราะปกติแล้วเวลาที่อยู่ต่อหน้ารัตนา พี่เขยจะเป็นคนดี ทำตัวสุภาพบุรุษและเอาใจใส่รัตนาดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นไม่ว่าเธอจะพูดอะไรในเรื่องด้านลบของเขา พี่สาวคงไม่มีวันเชื่ออย่างแน่นอน
บริษัทที่ลัดดาทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ใกล้กับโรงงานที่พี่สาวและพี่เขยทำอยู่ ทั้งสองคนทำงานโรงงานบางทีก็อยู่ควบกะดึกทำให้มีรายได้รวมกันค่อนข้างเยอะ อีกครั้งทั้งสองคนนั้นยังเป็นคนที่ประหยัดอดออมจึงทำให้มีเงินเก็บมากจึงได้ชวนเธอให้มาทำงานด้วยกันที่นี่ แต่ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังแล้วพี่เขยจะมีนิสัยแบบนี้
“ ขึ้นรถมาด้วยกันเถอะดา” รัตนาร้องเรียกน้องสาวให้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปด้วยกัน
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่นากับพี่ไตรไปก่อนเธอเลย ใกล้ๆ แค่นี้เองเดินไปห้านาทีก็ถึงแล้ว” ลัดดาบอกอย่างเกรงใจ แต่พี่สาวและพี่เขยก็ยังคะยั้นคะยอให้ขึ้นรถไปกับพวกเขา
ลัดดาไม่อยากไปด้วย เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์สามคน ไตรภูมินั่งอยู่ตรงกลางโดยให้พี่สาวของเธอนั่งหน้าสุดและเธออยู่ด้านหลังของเขา ไตรภูมิจะชอบเบรกโดยอ้างว่าข้างหน้ามีหลุม บางครั้งก็แกล้งทำเป็นเอามือมาลูบต้นขาของเธอมันทำให้เธอไม่อยากไปไหนมาไหนด้วย
“พวกพี่ไปกันเถอะ ก่อนจะสาย” ลัดดายืนยันอย่างนั้นแล้วโบกมือให้ทั้งสองคน
รัตนาเกรงว่าจะเข้างานสายจึงชวนสามีให้รีบเดินทางไปในตอนนั้นทำให้ไตรภูมิทำหน้าเสียดายเป็นอย่างมาก
ในตอนเย็นหลังเลิกงานลัดดาก็มักจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องของเธอ โชคดีที่พี่สาวกับพี่เขยนั้นเช่าบ้านอยู่เป็นหลัง แล้วเพื่อนของรัตนาที่เคยเช่าอยู่นั้นย้ายออกไป เธอจึงถือโอกาสนี้ชวนลัดดามาทำงานด้วย
ลัดดานึกดูก็พอรู้เหตุผลของเพื่อนพี่สาวที่ย้ายออกไป เธอก็คงเจอแบบเดียวกันแล้วอาจไม่กล้าพูดนี่แน่ๆ
“ดาว ออกมาทานข้าวได้แล้ว” รัตนาร้องเรียกน้องสาวออกมาทานอาหารด้วย กัน เพราะวันนี้เธอเลิกเร็วจึงซื้ออาหารเข้ามา
หากลัดดาไม่ออกไปก็คงดูไม่ดี เธอจึงต้องออกไปช่วยพี่สาวจัดโต๊ะอาหารแล้วทานข้าวร่วมกันกับพวกเขา หลังจากทานเสร็จลัดดาก็อาสาเป็นคนล้างทำความสะอาดถ้วยจานเหล่านั้น และพี่เขยก็ใช้จังหวะที่ภรรยาเผลอเข้ามาในครัวแล้วลวนลามลัดดา
“อย่าทำแบบนี้นะพี่ไตร ดาร้องจริงๆ ด้วย” ลัดดาพยายามห้ามเขาเสียงเบา
“นาไม่รู้หรอกน่า อีกอย่างดาสวยขนาดนี้ใครจะอดใจไหว มาลองเล่นสนุกกันดูสักครั้งแล้วจะติดใจ” เขาพยายามชักชวนแต่ลัดดาไม่เล่นด้วย
คงไม่มีใครอยากจะแย่งสามีของพี่สาวตัวเอง หรือยุ่งกับคนที่มีพันธะแล้ว
“อย่าทำเป็นเล่นตัวเลย พี่รู้นะว่าดาก็แอบชอบพี่อยู่”
“พี่จะบ้าหรือยังไง พี่เป็นพี่เขยของดานะ” ลัดดาดันตัวออกไป คิดว่าพี่เขยคงเป็นบ้าไปแล้วที่หลงตัวเองแบบนี้ จนเธอคิดอยากที่จะบอกพี่สาวให้จบๆ ไป แต่ดูจากความรักที่ทั้งคู่มีให้แก่กันแล้วก็ต้องเก็บปากเงียบเอาไว้
พอได้ยินเสียงเดินของภรรยาไตรภูมิก็ถอยออกไปแกล้งทำเป็นเปิดตู้เย็นหาน้ำออกมาดื่ม รัตนาเดินมาช่วยน้องสาวล้างจานแล้วยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู
“มาอยู่ได้อาทิตย์หนึ่งแล้วเป็นยังไงบ้างดา ปรับตัวได้หรือยัง”
“ปรับตัวยังไม่ได้เลยพี่นา ดาอยากกลับบ้านแล้ว” เธอบอกพี่สาวเสียงอ่อย
“อดทนหน่อยสิ อยู่นั่นก็ช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำสวนก็ดี แต่ว่ามันไม่มีเงินเก็บนะ สู้ทำงานอยู่นี่ดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นดาเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งแล้วขอย้ายออกไปอยู่ที่อื่นได้ไหม”
“จะบ้าเหรอดา ถ้าไปอยู่ที่อื่นเธอจะมีเงินเก็บเหรอ อยู่กับพี่นี่แหละพี่ไม่ได้เก็บค่าเช่าเสียหน่อย” รัตนาบอกน้องสาวเสียงแข็ง ไตรภูมิที่ยืนฟังสองพี่น้องคุยกันก็ยิ้มอย่างพอใจ
“นั่นสิดา บ้านนี้ก็เหมือนบ้านดา จะไปอยู่ที่อื่นทำไม” เขาพูดด้วยท่าทีอ่อนโยนอย่างพี่เขยที่แสนดี
“แต่ดาเกรงใจ” ลัดดาบอกพี่สาวไปอย่างนั้นไม่กล้าบอกตรงๆ ว่าถูกพี่เขยลวนลาม
“จะเกรงใจอะไรกันเราเป็นพี่น้องกันนะ”
“ค่ะพี่นา” ลัดดารับปากพี่สาว ไม่กล้าพูดเหตุผลของตัวเองออกไป แล้วขอตัวกลับเข้าห้องของตัวเอง
“น้องสาวคุณดูท่าจะเกรงใจเรานะ ผมต้องทำตัวให้สนิทสนมชวนเธอคุยให้มากกว่านี้เธอจะได้ไม่เกร็งเวลาอยู่บ้านหลังนี้กับเรา” ไตรภูมิบอกภรรยาแล้วเดินเข้าไปกอดจากด้านหลัง
“ขอบคุณนะไตรที่ให้น้องสาวของนามาอยู่ด้วย”
“ไม่เป็นไรเลย น้องนาก็เหมือนน้องของผม อีกอย่างยังไงเราก็จ่ายค่าเช่าอยู่แล้ว มีดามาอยู่ด้วยอีกคนก็ดีเหมือนกัน นาจะได้เหงาไง” ไตรภูมิบอกภรรยาแล้วลอบยิ้มออกมา คิดว่าต้องหาโอกาสจัดการกับน้องเมียได้ในสักวัน
**********************
ลัดดารู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก เพราะวันนี้ทั้งคู่ไม่ได้ทำโอทีและต้องกลับเร็ว เธอไม่อยากเจอหน้าพี่เขย ไม่อยากให้เขามีโอกาสเข้าถึงตัวเธอ เธอจึงทำได้แค่ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เพื่อรอเวลาให้ค่ำกว่านี้แล้วจึงกลับบ้าน
แต่วันนี้ก็คงจะเป็นโชคร้ายของเธอ เพราะเมื่อมาถึงพี่สาวเธอกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ส่วนไตรภูมิพอเห็นว่าเธอกลับมาก็รีบเข้ามารวบตัวแล้วพยายามจะจูบปากเธอ
“ปล่อยนะ อย่าทำแบบนี้ ดาร้องบอกพี่นาจริงๆ ด้วย”
“เธอไม่กล้าร้องหรอก คิดดูก็แล้วกันว่าพี่สาวเธอจะเชื่อพี่หรือจะเชื่อเธอ เอาน่าไหนๆ ก็อยู่ด้วยกันแล้วก็มาสนุกด้วยกันเถอะ”
“พี่บ้าไปแล้ว” ลัดดาบอกเขาแล้วดันตัวเขาออกไปแต่เขาก็ซุกหน้าลงมาจะปล้ำจูบเธอให้ได้ มือของเขาก็ล้วงเข้าไปในเสื้อขย้ำหน้าอกของเธอจนลัดดารู้สึกขยะแขยง
จังหวะนั้นเสียงน้ำของฝักบัวอาบน้ำก็หยุดลง เขาจึงยอมถอยออกไปแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ในขณะที่ลัดดาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วกำลังจะเดินเข้าห้องพี่สาวก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี
“วันนี้ทำไมกลับค่ำจังเลยล่ะดา”
“พอดีวันนี้ไปกินข้าวกับที่ทำงานมาน่ะ” ลัดดายิ้มให้พี่สาวแล้วขอตัวเข้าห้องในทันที ตัดสินใจว่าจะรีบอาบน้ำตอนนี้ ถ้าออกมาอาบน้ำตอนดึกคงจะโดนพี่เขยจ้องลวนลามอีกแน่
แต่มันก็คงเป็นวันสวยของลัดดาจริงๆ เมื่อเธออาบน้ำเสร็จเปิดประตูออกมาพี่เขยก็ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำแล้วดันตัวเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมทั้งเอามืออุดปากดันหลังลัดดาไปจนชิดผนังห้อง
“อย่าร้องนะ ถ้าร้องพี่จะบอกนาว่าดาเป็นคนยั่วพี่” เขากระซิบเสียงเบาข้างใบหู มือของเขาพยายามจะปลุกเร้าอารมณ์ของลัดดา
หญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความกลัวไม่กล้าร้องหรือออกเสียงใดๆ ทั้งนั้นเพราะกลัวพี่สาวจะมาได้ยินเหตุการณ์แล้วเข้าใจผิดเชื่อตามที่พี่เขยบอก
สักพักพอเห็นว่าลัดดานิ่งเขาก็เริ่มไม่ระวังตัว ลัดดาจึงใช้โอกาสนั้นผลักเขาออกจนล้มก้นจ้ำเบ้า แล้วรีบเปิดประตูออกไปจากห้องน้ำในทันที
ลัดดาขังตัวอยู่แต่ในห้อง จะโทรบอกพ่อแม่ก็กลัวว่าท่านจะเป็นห่วง อีกทั้งกลัวว่าท่านจะไม่เชื่อเพราะว่าต่อหน้าทุกคนไตรภูมิเป็นคนดีมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าพออยู่กับลัดดาตามลำพังเขาจะชั่วได้ขนาดนี้
**********************
หลายวันแล้วที่ลัดดาพยายามหลบหน้าพี่สาวและพี่เขยโดยการออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่และรีบกลับบ้านมาก่อน เพื่อรีบอาบน้ำแล้วขังตัวอยู่แต่ในห้อง
กระทั่งวันหยุดของเธอลัดดาก็ไม่ได้บอกทั้งสองคน เพราะกลัวว่าพี่เขยจะหาโอกาสกลับมาที่บ้านเพื่อทำมิดีมิร้าย เธอกลัวเขามากถึงขั้นที่ว่าต้องเอารองเท้าเขามาซ่อนในห้องทำเหมือนว่าเธอออกไปทำงานแล้ว เพื่อให้ทั้งสองคนเข้าใจอย่างนั้นแล้วขังตัวอยู่แต่ในห้อง
“แม้กระทั่งวันหยุดของตนเอง ก็ยังไม่ได้มีโอกาสออกไปไหน” ลัดดาบ่นกับตัวเองอย่างน้อยใจ ไม่รู้ว่าเธอจะหลบไตรภูมิได้อีกสักกี่น้ำ
สักพักเธอก็ได้ยินเสียงคนเรียกที่หน้าบ้านจึงออกจากห้องแล้วเดินไปดูว่ามีใครมา
“มาหาใครเหรอคะ” ลัดดาถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสัย
“พี่มาหานา ปกติเขาจะหยุดวันพุธเลยนึกว่าเขาจะอยู่”
“พอดีว่าพี่นาแลกวันหยุดกับเพื่อนค่ะ”
“พี่เคยพักอยู่ที่นี่น่ะ เลยว่าจะมาเอาของที่ลืมไว้” ประภาบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นมิตร
“อ๋อ กล่องรองเท้าใช่ไหมคะ หนูเห็นอยู่ในห้องเดี๋ยวหยิบออกมาให้”
“น้องมาอยู่ห้องที่พี่เคยอยู่เหรอ”
“ใช่แล้วค่ะหนูเป็นน้องสาวของพี่นา พี่คงเป็นพี่แป๋ว” ลัดดาถามออกมา เธอจำได้ว่าพี่สาวพูดถึงเพื่อนคนนี้บ่อยๆ
“ใช่จ้า แล้วมาอยู่นี่เจออะไรที่รู้สึกอึดอัดใจหรือเปล่า”
เมื่อเพื่อนของรัตนาเกินออกมาอย่างนั้นลัดดาจึงนิ่งไปสักพักแล้วพยักหน้าเบาๆ น้ำตาที่เก็บกันมาหลายวันไหลรินออกมาทันที
“งั้นเราต้องคุยกันยาวแล้ว” ประภาบอกแล้วขอเข้าไปนั่งคุยด้วย
เธอเล่าเรื่องทุกอย่างตอนที่อยู่บ้านหลังนี้ให้กับลัดดาฟัง ยิ่งฟังลัดดาก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจพี่เขยของตัวเอง
“เขาชอบมาแตะอั๋งพี่ เวลาที่นาเผลอก็ชอบเข้ามากอดจูบพี่ จริงๆ พี่ก็อยากบอกนาไปตรงๆ นะ แต่ว่าดาก็รู้ว่าพี่สาวของดาเป็นยังไง ถ้าไม่ได้เห็นกับตาก็คงไม่มีวันเชื่อ” ประภาบอกด้วยความรู้สึกเดียวกันกับเธอ
“หนูเป็นน้องหนูยังอยากย้ายไปอยู่ที่อื่นเลย แต่ก็ย้ายไม่ได้จำใจต้องอยู่ที่นี่ด้วยความหวาดระแวง ใครจะกล้าบอกล่ะคะว่าโดนพี่เขยของตัวเองลวนลาม มันมีผลกระทบหลายๆ อย่างเลย” ลัดดาระบายความในใจอย่างอึดอัด
“เหตุผลเดียวที่ดาจะออกไปอยู่ข้างนอกได้คือต้องมีแฟนและย้ายไปอยู่ด้วยกันเท่านั้น แต่มันไม่ใช่ง่ายเลยที่จะหาผู้ชายดีๆ ได้ภายในเวลารวดเร็วแบบนี้” ประภาบอกทางออกเดียว
ลัดดานิ่งไป ชีวิตจริงมันไม่เหมือนละครที่จะขอร้องคนนั้นคนนี้ให้มาแกล้งแสดงเป็นแฟนของตนเองได้ แล้วยิ่งถ้าอยู่ๆ เปิดตัวคบกันเร็วเกินไปนั่นยิ่งจะทำให้รัตนาห่วงเธอมากกว่า
“หนูขอเบอร์ติดต่อพี่แป๋วไว้ได้ไหมคะ” ลัดดาถามแล้วมองด้วยสายตาที่อ้อนวอน
“ถ้าสักวันหนึ่งดาต้องการพยานพี่จะช่วยพูดให้เองนะ นาจะได้รู้ว่าเหตุผลจริงๆ ที่พี่ย้ายออกไปคืออะไร”
“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ” ลัดดาบอกกับเพื่อนของพี่สาวด้วยรอยยิ้มที่ดูเศร้า
**********************
ในคืนนั้นรัตนาและไตรภูมิกลับมาค่อนข้างดึกเพราะว่ามีนัดเลี้ยงดื่มกันที่บริษัท ไตรภูมิที่ค่อนข้างจะเมานั้นประคองภรรยาที่กำลังเมาไม่ต่างกันเข้าไปนอนในห้อง
พอเห็นว่าเธอหลับไปแล้วเขาก็มาเคาะห้องของลัดดา
“เปิดประตูให้พี่หน่อยสิ” เขาบอกเธอแต่ลัดดาก็ไม่เปิด
เธอล็อกทั้งลูกบิด ล็อกทั้งกลอนประตูอย่างแน่นหนาไม่ยอมให้เขาเข้ามาได้ง่ายๆ
“เปิดประตู ถ้าไม่เปิดพี่จะพังประตูเข้าไป” เขาขู่เธอเสียงเปลี้ยเพราะความเมาแล้วทุกประตูหนักๆ
ลัดดาไม่รู้จะทำยังไงเธอใช้จังหวะนั้นในการถ่ายวิดีโอคลิปเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
“ไม่เปิดพี่กลับไปเถอะ” เธอร้องตอบเขาออกไป
“เปิดมาคุยกันดีๆ เถอะดา เราสามารถตกลงกันได้นะ เรื่องของเราพี่จะเก็บเป็นความลับ” เขาพยายามพูดหว่านล้อมให้หญิงสาวใจอ่อนแต่เธอก็ไม่ยอมใจอ่อนให้กับเขา
“พี่สัญญาเลยว่าพี่จะเก็บเรื่องของเราไว้ให้เงียบที่สุด จะได้กินกันไปนานๆ ยังไงล่ะ”
“ไม่เปิดจะไปไหนก็ไปอย่ามาทำตัวแบบนี้” ลัดดาร้องออกไปอย่างไม่เกรงกลัว เธอถ่ายวิดีโอเป็นหลักฐานเอาไว้หมดแล้ว
“ถ้ายอมพี่ดีๆ จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ยอมพี่จะบอกนาว่าดาเป็นฝ่ายยั่วยวนพี่มาตั้งแต่แรก มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เขาขู่เธอต่อ
“บอกเลย บอกพี่นาเลย ดาจะได้ไปจากบ้านหลังนี้เสียที ไอ้พี่เขยเลว” ลัดดาร้องตะโกนด่าเขาไปอย่างไม่เกรงกลัวทำให้อีกฝ่ายโมโหเป็นอย่างมาก
เขาทุบประตูแล้วร้องเรียกชื่อของลัดดาอยู่ต่อเนื่องเธอก็ไม่ยอมเปิดให้เขา โดยเฉพาะในตอนที่พี่สาวของเธอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้แบบนี้
สักพักเสียงทุบประตูนั้นก็เงียบลงไป ตามด้วยเสียงปิดประตูห้องนอนข้างๆ เสียงดัง ทำให้ลัดดารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากว่าในที่สุดอีกฝ่ายก็กลับไปแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น ลัดดาก็นอนไม่หลับเกือบทั้งคืน เธอเกรงว่าพี่เขยจากแอบบุกเข้ามาในห้องของเธอโดยที่ไม่รู้ตัว เธอทั้งปิดล็อกหน้าต่างทั้งปิดล็อกประตูอย่างแน่นหนานอนลืมตาอยู่บนเตียงด้วยความหวาดระแวง
หญิงสาวตัดสินใจโทรไปหาประภาและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้ฟัง ประภาโกรธเป็นอย่างมากที่เขากล้าทำแบบนี้ในขณะที่ภรรยาของตัวเองก็นอนอยู่ห้องข้างๆ
“พี่จะต้องหาโอกาสคุยกับนาอย่างจริงจังแล้ว ไม่ไหวจริงๆ ทำกันขนาดนี้” ประภาบอกแล้วโมโหอยู่ที่ปลายสาย คิดว่าตัวเองคงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้แล้ว
ในเมื่อตอนนี้มีอีกคนที่โดนกระทำ สามารถเป็นพยานให้แก่กันได้อย่างแน่นอน
**********************
หลายวันต่อมารัตนาคุยโทรศัพท์กับประภาเรื่องงานเลี้ยงรุ่น ซึ่งงานนี้มีแต่สาวๆ ไปเธอจึงบ่นอย่างเสียดายกับสามี
“แป๋วโทรมาชวนไปงานเลี้ยงรุ่นค่ะ แต่งานนี้ไตรไปด้วยไม่ได้เสียดายจัง” เธอบ่นกับสามีแล้วเข้าไปอ้อนซบที่ไหล่ของเขา
“วันไหนล่ะ” ไตรภูมิถามแล้วแอบยิ้มในใจ งานนี้เขาคงได้โอกาสจัดการรวบหัวรวบหางลัดดาแล้ว
“คืนนี้ค่ะ รวมตัวด่วน เฮ้อ!” เธอถอนหายใจแล้วเดินไปเคาะห้องลัดดาที่มีวันหยุดตรงกันออกมาถาม
“ออกมาหน่อย ชอบจริงๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องเนี่ย”
“มีอะไรพี่นา” ลัดดาเปิดประตูห้องออกมาในสภาพที่ดูอ่อนแรง
“อ้าว ไม่สบายเหรอ พี่ว่าจะชวนไปงานเลี้ยงด้วย”
“อืม ขอพักก่อนนะพี่นา ไม่ไหวแล้ว” ลัดดาบอกแล้วเดินกลับเข้าไปนอนในห้อง
ไตรภูมิลอบยิ้มอย่างพอใจ ภรรยาไม่อยู่ น้องเมียป่วยไม่มีแรงขัดขืน คืนนี้มันคงเป็นวันของเขาแล้ว
พอใกล้ถึงเวลาในช่วงหัวค่ำรัตนาก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปข้างนอก เธอกำชับสามีว่าให้ดูแลน้องสาวของเธอด้วย
“ไตร นาไปแล้วนะ” เธอร้องบอกสามีที่กำลังอาบน้ำอยู่
“ไม่ให้ไปส่งเหรอ” ไตรภูมิเปิดประตูออกมายิ้มให้ภรรยา
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แต่ช่วยดูดาให้นาหน่อยนะคะ นาไขกุญแจห้องน้องเอาไว้แล้ว” รัตนาบอกสามีแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบที่แก้มของเขาก่อนจะเดินออกไป
ไตรภูมิกลับเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายตัว ยกยิ้มอย่างพอใจที่วันนี้มันจะเป็นวันเข้าหอของเขาแล้ว
**********************
พี่เขยหนุ่มเข้าไปในห้องของลัดดาในทันที เขาไม่รอเวลาให้ผ่านไปเพราะมันคือช่วงเก็บเกี่ยวความสุขของเขา
ประตูห้องไม่ได้ล็อกเอาไว้อย่างที่รัตนาบอก เขาเข้าไปในห้องที่มืดสลัวนั้น มองเห็นแผ่นหลังของลัดดาที่กำลังนอนหลับอยู่ก็ปิดประตูเอาไว้ แล้วโยนผ้าขนหนูที่พันกายของตนทิ้งไปทันที
เขาขยับเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มกับเธอแล้วใช้มือรวบกอดเธอเอาไว้และลูบไล้ไปทั่วร่าง ฤทธิ์ของยาคงทำให้หญิงสาวสะลึมสะลือ เธอปัดป้องเขาเบาๆ
“ดาเป็นเมียพี่เถอะนะ เลิกขัดขืนได้แล้ว คืนนี้ดาต้องเป็นเมียพี่” เขาพูดแล้วปลุกปล้ำคนป่วยตรงหน้าอย่างย่ามใจ แล้วถอดเสื้อผ้าเธอออกไปอย่างง่ายดาย
คนข้างล่างดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของเขา แต่ไตรภูมิไม่สนใจเขาต้องการยัดเยียดความเป็นชายให้กับลัดดา
“อย่าพยายามเลยเปลืองแรงเปล่าๆ เก็บแรงไว้เอากันดีกว่า อ๊า..ตัวหอมจัง” เขาพูดแล้วซุกไซ้ดอมดมเธอไปทั่วร่าง แกนกายดันที่หน้าท้องของเธอแล้วถูไถไปด้วยขณะเล้าโลม
“ดาจับเต็มไม้เต็มมือดีกว่าพี่สาวของดามากรู้ไหม อื้ม นมก็ใหญ่กว่า อ๊า หอยก็อวบอูม” เขาพูดขณะเอามือลูบสัมผัสบริเวณเนินอวบอิ่มของอีกฝ่าย
หญิงสาวได้แต่ปัดมือปกป้องอย่างคนที่อ่อนแรง ครางในลำคอเบาๆ ขณะที่โดนเขาใช้นิ้วแหวกกลีบร่องเข้าไปเชยชมโพลงคับแคบของตน
ไตรภูมิยกตัวขึ้นคุกเข่าต่อหน้าเธอในความมืดนั้นแล้วสอดใส่แท่งลำเข้าไป เขาโยกซอยแล้วครางลั่นอย่างพอใจเมื่อได้ครอบครองร่างกายเธอ ในขณะที่อีกฝ่ายหยุดดิ้นเมื่อเขารุกล้ำเข้าไปได้สำเร็จ
“อ๊า...เสียว บีบรัดของพี่แทบจะระเบิด กับนาพี่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน อ๊า รู้สึกดีมาก” เขาครางบอกเธอเสียงพร่าต่ำ
หญิงสาวได้แต่ร้องไห้ สะอื้นเบาๆ ในความมืด ทำให้ไตรภูมิรู้สึกสะใจมากกว่าจะสงสาร
เขาจับขาเธอแยกออกกว้างแล้วกระหน่ำซอยเข้าไปอย่างเต็มแรงจนเกิดเสียงดังตับๆ และครางสูดปากออกมาไม่หยุด
“ซี้ด ของดามันฟิตและตอดดีมาก อ๊า...ซี้ด”
เสียงร้องสะอื้นของเธอดังคลอกันไปกับเสียงครางกระเส่าของเขาและเสียงเนื้อที่กระทบกันอย่างต่อเนื่อง
“อ๊า มีความสุขเหลือเกิน อื้อ ดาทำให้พี่มีความสุขที่สุดในรอบหลายปีมานี้ อ๊า..” เขายิ่งพูดเธอก็ยิ่งร้องไห้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ไตรภูมิลดความหื่นกระหายของเขาลง
ชายหนุ่มจับเธอนอนตะแคงแล้วโถมแรงกระแทกอย่างรุนแรง แล้วหัวเราะขึ้นมาอย่างชขอบใจเมื่อคนที่ถูกกระทำอยู่แม้จะร้องไห้ขัดขืนแต่กลับเกร็งสะโพกแล้วตัวอ่อนลงไปเมื่อถึงจุดหมาย
“เห็นไหม..ว่ามันมีความสุขแค่ไหน อ๊า... ดาทำให้พี่เลิกคิดถึงพี่สาวของดาไปเลย มันช่างมีความสุขอะไรขนาดนี้ อื้ม” เขาบอกเสียงพร่าต่ำและกระแทกเข้าไปอย่างไม่ออมมือ
สักพักชายหนุ่มก็จับเธอนอนคว่ำลงไปกับเตียง แล้วกระทำเธอในท่านั้น ดันแท่งลำเข้าไปจากด้านหลัง กระแทกลงมาโดนก้นของเธอจนเกิดเสียงเนื้อตีกันแล้วครางออกมาด้วยความสุข
หญิงสาวสะอื้นจนตัวโยน ไม่คิดเลยว่าไตรภูมิจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้
เขากระแทกกระทั้นเข้าไปด้วยความสะใจ เสียงร้องไห้ของเธอคือเสียงกระตุ้นความกำหนัดที่บ่งบอกว่าเขามีชัยชนะเหนือเธอแล้ว
ไม่นานนักเขาก็ถึงเส้นชัย ปลดปล่อยเข้าไปในตัวเธอไม่สนใจว่าเธอจะตั้งครรภ์หรือไม่
“ไปกินยาคุมเอาเองนะ หลังจากนี้ไปพี่จะเข้ามาเอาดาทุกคืน แต่ถ้าบอกนา...พี่จะบอกว่าดานั่นแหละยั่วพี่เอง” เขาขู่เธอด้วยประโยคเดิมที่เขาเคยพูดหลายครั้ง
ในตอนนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก พร้อมกับแสงไฟที่ถูกเปิดขึ้นมาทำให้ไตรภูมิตกใจมาก แต่พอเห็นว่าเป็นประภาเขาก็ยิ้ม
“ไอ้สารเลว ตอนฉันอยู่แกก็เคยคิดจะลวนลามฉัน นี่กับน้องเมียแกก็ไม่เว้น”
เขาลุกขึ้นนุ่งผ้าขนหนู หันไปมองอีกฝ่ายที่ยกผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยและใบหน้าของตนไว้และกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่ในนั้น แล้วหันไปมองหน้าประภาว่าเธอกลับมาพร้อมกับภรรยาของตนหรือเปล่า
“นาออกไปงานแล้ว เธอรีบไปงานเถอะอย่ามาเสือก” เขาบอกเมื่อเห็นเธอมาคนเดียว
“แกจะต้องได้รับผลกรรมที่ทำกับนา และพวกฉัน” ประภาร้องเสียงกร้าวแล้วยิ้มออกมาด้วยความสะใจ
“ฉันก็จะบอกนาว่าทั้งเธอและดาเป็นฝ่ายยั่วฉันเอง หึหึ คิดดูสิเมียฉันทั้งรักทั้งหลงฉันขนาดนี้ เขาจะเชื่อใคร” ไตรภูมิหัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ
ในตอนนั้นเองลัดดาก็ออกมายืนด้านหลังของประภาแล้วกอดอกยิ้มอย่างสะใจ
“เอ๊ะ...พี่นาจะเชื่อใครดีนะ เชื่อน้องกับเพื่อนหรือเชื่อผัวเลวๆ” เธอพูดขึ้นมาแล้วจ้องหน้าเขา
ไตรภูมิตกใจมากเมื่อเห็นลัดดายืนอยู่กับประภา แล้วผู้หญิงที่เขาหลับนอนด้วยล่ะคือใครกัน
“ว่าไงล่ะพี่นา บอกผัวพี่ไปสิ” ลัดดาถามแล้วมองไปในห้อง
รัตนาออกมาจากผ้าห่มในสภาพที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง และร้องไห้สะอื้นด้วยความเสียใจ
“นมใหญ่กว่า ตอดดีกว่า เอามันกว่า....แปลกเนาะ เอาฉันอยู่ทุกวันแต่เสือกจำฉันไม่ได้” เธอพูดเสียงสั่นด้วยความโกรธจัด ทุกครั้งที่เขาชมเธอว่าเอาดีเอามันก็แค่เป็นคำพูดหวานหูของผู้ชายเลวๆ คนหนึ่งเท่านั้น
“นา...ฟังผมก่อน”
“ฟังเหรอ ถ้าฉันไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้ว่าแกเลวแค่ไหน” เธอตวาดขึ้นมาเสียงดัง
“ขอบใจนะที่แสดงความรักโดยการซื้อรถเป็นชื่อฉัน เงินเก็บอยู่ในบัญชีฉันทั้งๆ ที่เราไม่ได้จดทะเบียนกัน...เพราะแบบนี้มันเลยทำให้ฉันคิดว่าแกรักฉัน แต่แกก็แค่ทำให้ฉันตายใจแล้วแอบทำเลวกับเพื่อนฉันและน้องสาวฉันลับหลังมาตลอด” รัตนาพูดอย่างคนที่โกรธจนไม่อยากให้อภัย
“ผมขอโทษนา ผมผิดไปแล้ว..เราคุยกันดีๆ นะ”
“ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ” เธอไล่เขาทั้งน้ำตา ปวดใจแต่จะให้เลือกผู้ชายมักมากคนนี้ เธอขอโสดดีกว่า
ลัดดาโยนกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่สองใบลงที่พื้นหน้าห้องแล้วยิ้มเยาะเย้ยเขา
“ฉันเตรียมเสื้อผ้าไว้แล้วค่ะ เก็บทุกชิ้นไม่มีเหลือ เชิญออกไปเลวที่อื่น ออกไปจากชีวิตพี่สาวฉันได้เลว พวกเราไม่ต้องการแก”
“ออกไปจากชีวิตเพื่อนฉัน ไอ้สารเลว” ประภาเองก็ช่วยไล่เขาออกไป
ไตรภูมิเห็นว่าเขาคงแก้ตัวไม่ขึ้นแล้ว จึงตัดสินใจคว้ากระเป๋าของตัวเองออกไปในตอนนั้น
รัตนาร้องไห้โฮ ลัดดาเข้าไปกอดปลอบใจพี่สาวที่ตอนนี้เธอยอมเชื่อสิ่งที่ตนกับประภาพยายามจะบอก
“พี่ขอโทษนะดา ที่ทำให้ดาต้องอยู่อย่างหวาดระแวงมาตลอด” เธอบอกน้องสาวแล้วกอดเอาไว้ เธอยอมรับว่ารักสามีมาก แต่ว่าคงทนอยู่กับคนแบบนี้ไม่ได้
“รู้ตอนนี้ก็ดีกว่าสายไปนะนา” ประภาช่วยปลอบ
“ขอโทษที่วันก่อนฉันไม่เชื่อแก” รัตนาบอกเพื่อนรักของตน ที่นัดแนะออกมาคุยตั้งแต่สองวันที่แล้ว แต่เธอไม่เชื่อ ประภากับลัดดาจึงวางแผนนี้ขึ้นมาเพื่อแสดงให้รัตนาเห็นว่าธาตุแท้ของไตรภูมิเป็นคนอย่างไร
ประภาและลัดดาช่วยพารัตนาออกไปนั่งที่โซฟาข้างนอกแล้วพูดปลอบใจเธอจนหญิงสาวรู้สึกดีขึ้น ประภาเห้นอย่างนั้นจึงขอตัวกลับออกไปเพราะดึกมากแล้ว
ลัดดาจึงอยู่พูดคุยกับพี่สาวของตนต่อ
“ดาขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้พี่นาต้องเลิกกับเขา จริงๆ ถ้าพี่อยู่กันสองคนก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
“ไม่หรอกดา เพราะถึงเขาไม่นอกใจพี่วันนี้ วันหน้าเขาก็ต้องทำเพราะสันดานของเขาอยู่แล้ว พี่เสียใจนะ แต่ไม่เสียดายผู้ชายเลวๆ คนนี้หรอก” รัตนาพูดปลอบใจตัวเองให้เข้มแข็ง
“พี่ว่ารอบคอบแล้วยังพลาด ดาต้องระวังผู้ชายเอาไว้ให้มากๆ นะ ต่อไปเราสองคนจะคบใครก้ต้องเอามาให้อีกฝ่ายช่วยดู ดีไหม” เธอถามน้องสาวแล้วเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ค่ะ” เธอรับปากพี่สาวแล้วกอดเอาไว้แน่น
รัตนากอดน้องสาวเอาไว้ โชคดีที่คราวนี้ลัดดาปลอดภัย ถึงจะเสียใจกับการกระทำของสามี แต่ก็ยังดีกว่าต้องมานั่งเสียใจภายหลังหากน้องสาวของตนเองต้องใช้สามีคนเดียวกันโดยถูกบังคับขืนใจ
ลัดดาเองก็รู้สึกอุ่นใจที่พี่สาวเข้าใจตนเองแล้ว และยอมเปิดใจรับฟังเธอมากขึ้น ไม่ได้หลงสามีจนหูหนวกตาบอดจนตัดพี่ตัดน้องอย่างคู่อื่นเพราะความหูเบา
---จบ---