บทที่ 10 ไปจับปลาและเจอห่าน
ยามเช้าของวันต่อมาหลี่จื่อเวยตื่นแต่เช้าหลังจากกินมื้อเช้าอิ่มแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานที่ตนต้องทำ หลี่จื่อเวยไม่ได้เรียกมู่หรงซานให้ตื่น นางเบื่อแล้วจึงไม่อยากสนใจเขาอีก
หญิงสาวเอากระบุงแบกไว้บนหลังเหมือนเดิม เตรียมจะออกไปที่แม่น้ำ แต่ทว่าหลี่อินและหลี่หยวนกลับมาขวางทางนางเอาไว้เสียก่อน หลี่หยวนมองพี่สาวตนด้วยแววตาที่ดูแคลน ก่อนจะเอ่ย
"ได้ยินว่าเดี๋ยวนี้พี่ใหญ่ใจกล้า บังอาจมาเถียงท่านแม่ของข้า ไม่ทำตามคำสั่งของนางเช่นนั้นหรือ"
หลี่อินส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเอ่ยสมทบกับพี่ชายของตนในทันที
"คิดว่าตนเองเก่งมากละมั้ง ท่านแม่จัดการพี่ไม่ได้พวกข้าย่อมมาทำแทน เอาเงินมา ข้ากับพี่ชายต้องใช้เงิน แล้วอย่าลืมทำอาหารให้ข้ากินด้วย เข้าใจไหม"
หลี่จื่อเวยเท้าเอวมองดูน้องชายและน้องสาวตัวดีสองคนด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ย
"พวกเจ้าข่มขู่ข้าหรือ"
นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่รำคาญเต็มทน หลี่หยวนกับหลี่อินที่เห็นท่าทีไม่แยแสของหลี่จื่อเวยก็เริ่มโมโห
"พูดไม่รู้ความ อินเอ๋อร์ เราอย่าสนทนากับนางให้เสียเวลาเลย เจ้าไปจับตัวนาง ข้าจะควานหาเงินจากตัวนางเอง!!!"
"ได้"
แต่ทว่ายังไม่ทันที่สองพี่น้องจะเข้ามา ก็ถูกหลี่จื่อเวยยกเท้าถีบเข้าให้อย่างเต็มแรงจนร้องไม่เป็นภาษา หลี่จื่อเวยเท้าเอวพลางเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย
"ข้าไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของพวกเจ้า หากอยากมีเงินก็ทำงาน ไม่ทำงานก็อดตายไปเสีย หากอยากเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อแม่ก็ตามสบาย ใครกลัวกัน"
นางเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจ หลี่หยวนและหลี่อินโดนถีบจนจุกถึงกับลุกไปไหนไม่ได้ ทำได้เพียงก่นด่าตามหลังหลี่จื่อเวย
หลี่จื่อเวยเดินไปตามทางเรื่อยๆ ตรงนี้มีต้นไผ่ขึ้นมากมาย อีกทั้งยังมีหน่ออ่อนๆ ของมันที่เพิ่งแตกหน่อขึ้นมาจากดินอีกด้วย เดินมาไม่นานก็พบกับน้ำสายหนึ่ง แม่น้ำที่นี่ใสสะอาดและน่าลงไปแช่เท้าเล่นเป็นอย่างมาก หลี่จื่อเวยเดินไปที่แม่น้ำ ก่อนจะใช้มือวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าตน รู้สึกว่าสดชื่นเหลือเกิน
"ฮูหยินน้อยขอรับ"
หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเสียงเรียกก็เงยหน้าไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นลุงกู้นั่นเอง
"ลุงกู้"
"บ่าวได้รับคำสั่งจากฮูหยินใหญ่ให้มาดูแลฮูหยินน้อยขอรับ"
หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะมองไปรอบๆ คราหนึ่ง และหันมาเอ่ยกับลุงกู้
"ลุงกู้มาพอดีเลย ข้าเห็นว่าแถวนี้มีปลาเยอะอย่างที่ท่านแม่พูดจริงๆ ข้าอยากจับปลา แต่่เราต้องไปตัดไม้ไผ่มาก่อน แล้วเหลาให้มันแหลมๆ จะได้แทงลงไปที่ตัวปลาได้ในครั้งเดียว"
ลุงกู้จ้องมองหลี่จื่อเวยก่อนจะครุ่นคิดในใจ ได้ยินว่าฮูหยินน้อยเป็นสตรีในเมืองหลวง แต่เหตุใดจึงรู้จักวิธีเข้าป่าและจับปลาเช่นนี้
แต่ก็นับเป็นเรื่องที่ดี แรกเริ่มเขาคิดว่าจะต้องมาตามดูแลคุณหนูผู้บอบบางเสียอีก
เมื่อได้ยินเช่นนั้นลุงกู้จึงพยักหน้าและทำตามที่หลี่จื่อเวยบอก คนทั้งสองช่วยกันตัดต้นไผ่มาหลายต้น ก่อนจะตัดให้ขนาดพอดีมือและเหลาปลายให้แหลม หลี่จื่อเหวยรู้สึกว่าชุดของนางไม่ค่อยสะดวกเท่าใดนัก หญิงสาวพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปในแม่น้ำที่ใสสะอาด ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นปลาตัวหนึ่ง นางจึงยกมือขึ้นและแทงปลายแหลมลงไปบนตัวปลาทันที แล้วจึงยกขึ้นมา ปลาตัวใหญ่อวบอ้วนดิ้นไปมาก่อนจะหยุดลง
"ฮูหยินน้อยช่างมีความสามารถยิ่งนัก"
"ลุงกู้ชมเกินไปแล้ว เร็วเข้า เราจะจับปลาให้มากหน่อย จะได้แบ่งไปขายและเอามาทำกินกัน"
"ขอรับ"
ด้านมู่หรงซานที่ตื่นมาก็รู้สึกปวดหัวไปหมด หลังจากล้างหน้าล้างตาก็เดินออกมาด้านนอก ก่อนจะพบกับท่านแม่ของตนเอง เขาหาวออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม
"จือจือไปที่ใด ท่านแม่เห็นหรือไม่"
มู่หรงฮูหยินจ้องมองบุตรชายตนเองก่อนจะถอนหายใจออกมา สภาพไม่ต่างจากพวกขี้เมาข้างถนนเลยให้ตายเถอะ!!!
มู่หรงซานที่ได้เห็นว่าตนถูกมารดาจ้องมองด้วยสายตาเช่นนั้นก็เอ่ยขึ้นมาทันที
"มองข้าทำไมกันท่านแม่ ข้าหล่อเหมือนท่านพ่อหรือ"
"พ่อเจ้าไม่สกปรกเช่นนี้หรอก"
"ท่านแม่ก็พูดไปเรื่อย จือจือเล่า"
"นางไปที่ิแม่น้ำแต่เช้าแล้ว นางไม่ได้บอกเจ้าหรือ อ้อ นางคงไม่อยากบอกตัวภาระเช่นเจ้า"
มู่หรงฮูหยินเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้มู่หรงซานยืนอยู่คนเดียว เขาเบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะเดินไปที่ริมแม่น้ำในทันที เมื่อมาถึงเขาก็พบว่าหลี่จื่อเวยและลุงกู้กำลังช่วยกันจับปลาอย่างขยันขันแข็ง
"จือจือ เจ้าทำอันใดอยู่หรือ"
หลี่จื่อเวยหันไปมองก่อนจะพบว่าเป็นมู่หรงซานนั่นเอง นางโยนปลาที่จับได้อีกตัวมาไว้บนบกใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ
"จับปลาน่ะสิ ท่านเพิ่งตื่นหรือ กลับไปเถอะ อย่ามาเป็นภาระข้าเลย"
ภาระอีกแล้ว?
ตั้งแต่เช้ามาเขาเจอคำว่าภาระถึงสองครั้งแล้วนะ เขามันเป็นตัวภาระจริงๆ หรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนั้นมู่หรงซานจึงเดินเข้าไปหาหลี่จื่อเวย พร้อมกับคว้าหยิบไม้ไผ่แหลมติดมือมาด้วยหนึ่งอัน ก่อนจะเอ่ยกับนาง
"ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่า สามีเจ้าคนนี้ไม่ใช่ตัวภาระ"
หลี่จื่อเวยไม่ตอบสิ่งใดเพียงยืนมองเขาว่าจะทำสิ่งใด แล้วเวลาต่อมานางก็ถึงกับต้องตกตะลึง
มู่หรงซานจับปลาเก่งมาก ใช้เวลาไม่นานเขาก็จับมันได้หลายสิบตัว ยามนี้ปลากองทับถมกันเป็นกองใหญ่ เขาหันมายิ้มกับนางก่อนจะเอ่ย
"เป็นเช่นไรภรรยา สามีเก่งหรือไม่เล่า"
หลี่จื่อเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบ
"จับปลาได้ไม่ได้ถือว่าเก่งขนาดนั้นหรอกนะ หากเก่งจริงต้องขายปลาได้หาเงินได้"
มู่หรงซานที่ได้ยินเช่นนั้นก็เดินเข้ามาหาหลี่จื่อเวย ก่อนจะเอ่ย
"ให้ลุงกู้ไสหัวไปขายสิ เราจะไปเองทำไม ลุงกู้เอาปลาไปขายสิเร็วๆ!!"
มู่หรงซานหันไปถลึงตาใส่ลุงกู้ ชายชราไม่อยากขัดคำสั่งเจ้านายจึงรีบนำปลาจากไปทันที หลี่จื่อเวยคิดจะตามไป แต่กลับถูกมู่หรงซานคว้าตัวเอาไว้ ก่อนจะพานางทิ้งกายลงไปในแม่น้ำทันที หลี่จื่อเวยโมโห นางยกมือขึ้นเช็ดหน้าตน ยามนี้เสื้อผ้าเปียกปอนหมดแล้ว
"ท่านทำสิ่งใดกัน!!!"
"อาบน้ำอย่างไรเล่า ข้ายังไม่ได้อาบน้ำเลยเจ้ามาอาบเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิ"
"อาบคนเดียวสิ!!!"
"อาบด้วยกันเถอะนะๆ"
"ไม่!!!"
"พวกเจ้าช่วยข้าด้วย!!!"
ในขณะที่สองสามีภรรยากำลังถกเถียงกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาไม่ไกลนัก หลี่จื่อเวยขมวดคิ้ว ก่อนจะหันมามองมู่หรงซาน
"ท่านได้ยินไหม"
มู่หรงซานพยักหน้าก่อนจะมองหาที่มาของเสียงเช่นเดียวกัน เมื่อสองสามีภรรยามองไปรอบๆ ก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น
นั่นมันห่านสองตัวนี่?
ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บเสียด้วย!!!