ตอนที่ 2 นาราริน เกตุสรินทร์..

1873 คำ
ร้านกาแฟในมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นที่สิงสถิตของกลุ่มสามสาวสุดสวยว่าที่คุณครูจบใหม่ แม้จะจบแล้ว แต่พวกเธอก็มักจะนัดกันมานั่งคุย พบปะสนทนาที่ร้านแห่งนี้อยู่เป็นประจำ ตั้งแต่ปีหนึ่งยันจบ “นี่พวกแกจะไม่เปลี่ยนที่นัดเป็นที่อื่นบ้างรึไงยะ!”เสียงแหลมเล็กของลิยาสาวมั่นประจำกลุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อมาถึงร้านเป็นสุดท้าย เท้าเอวมองเพื่อนทั้งสองที่มองมายังเธอเป็นลูกหมาตาแป่ว ลิยาจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ ไม่รู้ว่ามาคบกับเพื่อนไม่เต็มบาทพวกนี้ได้ยังไง ล่าสุดกลายเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันไปแล้ว “แกก็ถามยัยนารามันสิ” กิ่งแก้วบุ้ยปากไปทางนาราสาวสวยตัวเล็กของกลุ่ม แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่เล็ก คือหน้าอกอวบใหญ่ ที่เพื่อนทั้งสองต่างอิจฉาเบาๆ แน่นอนว่าทั้งสามล้วนสวยไปคนละแบบ แต่นารามักจะเป็นคนที่ใครก็อยากเข้ามาขายขนมจีบมากที่สุด แต่นาราก็ไม่ยักจะเลือกใครสักคน และก็โสดมาจนถึงตอนนี้ สิ่งเดียวที่นาราสนใจคือ ขยันทำงาน เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวเท่านั้น! “ก็พวกแกให้ฉันเลือกอะ..” เสียงหวานเอ่ยพูดกับเพื่อนทั้งสองก่อนจะรับแก้วโกโก้ปั่นเพิ่มวิปมาดูดให้ชุ่มฉ่ำใจ พรึบบบ!! “กินเลอะเป็นเด็กไปได้ยัยนา!” ลิยาส่ายหน้าก่อนจะดึงกระดาษทีชชู่เอื้อมไปปาดเช็ดตามริมฝีปากบางสีชมพูอวบอิ่มของนาราเบาๆ ก่อนจะยัดลงไปในมือของเจ้าตัวตบท้าย “ทำไมไม่เอาไปทิ้งให้เลยละลิยา อิๆ~” นาราจู๋ปากอย่างน่ารัก หยอกเย้าเพื่อนสาวที่มักจะตามดูแลเธอไม่ต่างจากลูกรัก “ไม่ยะ!! มีมือก็ทิ้งเองง~” “ใจร้าย~~” นาราแกล้งเบ้ปากก่อนจะแกล้งบีบน้ำตาเพื่อเรียกความสงสาร แต่ดูหน้าตาทั้งสองคงปลงเต็มทน จึงกระพริบตาปริบๆและพูดเบาๆ”ไม่อินเลยหรอ?” “ไม่!!/ ไม่ยะ!!!” ลิยากับกิ่งแก้วผสานเสียงขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะได้เวลาเข้าโหมดจริงจัง ที่พวกเธอนัดกันมาวันนี้ “ฉันผ่านตำแหน่งครูประถมที่บ้านแล้วนะ” กิ่งแก้วเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก หลังจากจบที่บ้านก็ขอให้เธอกลับไปสมัครครูโรงเรียนใกล้บ้าน ผลพึ่งประกาศเมื่อวาน เธอเลยเก็บมาบอกเพื่อนทั้งสองในวันนี้ “ว้าวว~ ไวมาก ฉันก็อยากได้ไวๆเหมือนแก” นาราพูด เพราะเธอก็ยื่นสมัครไป เป็นโรงเรียนในเมืองและอยู่ไม่ไกลกับบ้านเธอด้วย จริงๆแล้ว กิ่งแก้วก็ชวนเธอไปสมัครที่โรงเรียนเดียวกัน แต่มันต่างจังหวัด และไกลกับบ้านเธอมาก เธอจึงปฏิเสธ เพราะต้องดูแลพ่อและแม่ด้วย การยื่นสมัครครูโรงเรียนใกล้ๆถือเป็นทางเลือกของเธอ ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ยังได้ช่วยที่บ้านทำขนมด้วย “เดี๋ยวก็ได้.. โรงเรียนในเมืองก็แบบนี้แหละ” ลิยาพูดขึ้น ก่อนจะตักเค้กเข้าปากไปพรางๆ ฟังเพื่อนทั้งสองพูด โดยไม่สนใจสอบบรรจุครูตามเพื่อนทั้งสอง “แล้วแกละ” นาราเอ่ยถามเพื่อนสาว ก่อนจะได้รับท่าทางไหวไหล่ไม่คิดมากกลับมา “ฉันต้องกับไปดูแลรีสอร์ตของที่บ้านต่ออะ ไม่ได้บรรจุหรอก” ลิย่าบอก เพราะที่บ้านพึ่งจะเริ่มทำรีสอร์ต เธอที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวก็ต้องกลับไปเรียนรู้งาน และรับช่วงต่อ “ฉันละงง ว่าแกเรียนครูมาทำไม” “เอาจริงๆ..บังเอิญสอบติด..” “มั่นมากกกก!!” กิ่งแก้วแทรกขึ้น ก่อนจะเรียกเสียงหัวเราะจากนาราเพื่อนตัวเล็กลั่นร้าน จนรุ่นน้องหันมาให้ความสนใจกลุ่มเธอ เพราะพอจะรู้จักอยู่บ้างว่ากลุ่มสาวสวยกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ฮอตที่สุดในคณะครุศาสตร์ “บายยย~~” หลังจากแยกย้ายกันกลับ นาราก็เดินมาขึ้นรถประจำทางเช่นเคย แม้จะใจหายที่ต้องห่างจากเพื่อนทั้งสอง แต่ทุกคนก็ต้องเลือกทางชีวิตเป็นของตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครตัวติดกันไปได้ตลอดหรอก มันคือสัจธรรมของชีวิต เธอเข้าใจดี และมีเส้นทางของตัวเองเช่นกัน นั้นคือช่วยแบ่งเบาที่บ้าน รีบเก็บเงินมาไถถอนที่บ้านคืน จากเหตุการณ์ในอดีต ที่ญาติของเธอมาขอให้พ่อเธอช่วย ด้วยความใจดีพ่อเธอจึงให้ยืมโฉนดที่บ้านไป แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ญาติคนนั้นกลับพลิกลิ้น ไม่ยอมคืนโฉนดให้ กลับเอาไปแลกเงินแล้วหายหนีไปในกลีบเมฆ ทิ้งให้ครอบครัวของเธอเป็นหนี้สิ้นโดยที่ไม่ได้ก่อ จากนั้นมาครอบครัวเธอจำต้องจ่ายหนี้บ้านของตัวเองทุกเดือนแทนอย่างปฏิเสธไม่ได้ พรึบบบบ!!! “ว้ายย!! ขับรถประสาอะไรเนี่ย!!” เสียงหวานกระชากเสียงดังสนั่น เพราะรถสีดำขลับคันหรูขับปาดมาเหยียบน้ำสาดโดนหน้าของเธอเต็มๆ!! มือบางลูบน้ำออกจากใบหน้าตัวเอง แค้นใจสุดชีวิต กับรถหรูคันนั้น!! ขับแบบนี้ไม่ไปขับในนรกซะเลยละ!! มันรบกวนชาวบ้านเขา! เธอได้แต่บ่นในใจ เพราะเจ้าของรถคนนั้นคงไม่มีทางมาสนใจลูกนกลูกกาตกน้ำอย่างเธอหรอก คงจะร้องเพลงชิว ขับรถกินลม ท้านรกไปพลางๆ คนรวยก็แบบนี้แหละ ไม่สนใจคนที่อยู่ต่ำกว่าหรอก. ‘เฮ้อออ~~~’ ครืดดดด~~~ ครืดดดด~~~ “ค่าแม่..นากำลังนั่งรถกลับค่ะ” เสียงหวานพูดขึ้นทันทีที่กดรับสายจากมารดา ที่มักจะเป็นห่วงเธอเสมอ อาจเพราะเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกท่านด้วย (รีบกลับนะลูก ฝนใกล้ตกแล้ว แม่กับพ่อเป็นห่วง) เธอระบายยิ้ม แม้ครอบครัวของเธอจะเผชิญกับความทุกข์ แต่ครอบครัวเธอก็รักและช่วยกันคิดหาทางออก พ่อและแม่ไม่เคยทะเลาะกัน ท่านมักจะหันหน้ามาปรึกษาและจับมือกันหาทางออก “รับทราบค่ะแม่” นารายิ้มให้กับโทรศัพท์หลังจากมารดาวางสายไปแล้ว โทรศัพท์ค่อนข้างเก่า ติดๆดับๆบ้าง บางเวลา เธอก็ยังคงยื้อที่จะใช้มันต่อ แม้ว่าหน้าจอจะแตกไปเกือบครึ่ง แต่ตราบใดที่มันยังคงใช้การได้ เธอก็จะไม่เจียดเงินอันมีค่าไปซื้อใหม่ เด็ดขาด!! ว่าแล้วก็ขอดูประกาศผลการคัดเลือกคุณครูที่เธอสมัครและสอบบรรจุผ่านหน่อยดีกว่า ไวเท่าความคิดนาราก็คลิกเข้าไปยังเว็ปของโรงเรียน ก่อนจะไถลนิ้วดูรายละเอียดอย่างลุ้นๆ มีเพียงห้าคนเท่านั้นที่จะได้บรรจุเป็นบุคลากรในโรงแห่งนี้ นาราตื่นเต้นมาก ภาวนาขอให้เธอติดหนึ่งในห้า งานที่มั่นคง และสามารถไถถอนบ้านเธอได้ เพราะมีช่องทางมากมายที่เธอคิดไว้ เธอกลั้นใจเมื่อเจอประกาศตำแหน่งครูที่จะได้บรรจุที่พึ่งประกาศสดๆร้อนๆ ตอนนี้เธอแทบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง นิ้วเรียวสวยค่อยๆเลื่อนขึ้นอย่างช้าๆ หนึ่งผ่านไป สองผ่านไป และสามค่อยๆผ่านไป ยังไม่เจอชื่อของเธอ!!!! “ขอให้ติดทีเถอะ…” เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามขมับพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงแทบทะลุกับความลุ้นสุดโต่งแทบนั่งไม่ติด เมื่อลำดับที่สี่ก็ยังคงไม่ใช่ชื่อของเธอ หรือมันจะไม่มีชื่อเธอกันนะ ใบหน้าสวยเศร้าสลดลงถนัดตา แต่ก็ยังคงไม่สิ้นหวัง ไถลปลายนิ้วขึ้นจนสุดหน้าจอโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย! พรึบบบบ!!! 5.นางสาว นารารินทร์ เกตุสรินทน์ “0.0….กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!!ตะ..! ติด!! แล้ว!!!!โว้ยยยย!!” นารากรีดร้องด้วยความดีใจสุดชีวิต ในที่สุดเธอก็สอบบรรจุผ่านแล้ว ใบหน้าหวานประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ก่อนจะก้มหน้ามองรายชื่อของเธออีกครั้ง ไม่ผิด! เป็นชื่อของเธอจริงๆ นางสาว นารารินทร์ เกตุสรินทร์ ชื่อแห่งความภาคภูมิใจของเธอเองคร้าาา~~ พรึบบบ!! “0.0!เออ..ขะ..ขอโทษค่ะ ..แฮะๆ” เธอรีบยกมือขึ้นไหว้ขอโทษขอโพยคนอื่นๆที่อยู่บนรถบัสสายเดียวกัน บางคนถึงกับมองเธอตาขวาง เพราะไปรบกวนคนอื่นๆ บางคนก็ยิ้มส่งมาให้เธอไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร “โอ๊ะ!!! นะ…นี่ถึงไหนแล้วคะพี่” เสียงใสหันไปถามผู้หญิงที่นั่งข้างๆ เมื่อดูเวลาแล้วต้องถึงจุดที่เธอลงเป็นประจำนานแล้ว มหาวิทยาลัยกับหมู่บ้านของเธอใช่เวลาไม่นาน ยี่สิบนาทีถึง แต่นี่มันจะครึ่งชั่วโมงได้แล้ว “จะถึงป้ายแปด..” “อะ..อะไรนะคะ?0.0!!” และเป็นอีกครั้งที่เธอต้องตกใจจนอุทานเสียงหลง เพราะความมึนของเธอ!! ถึงได้เลยจุดที่ต้องลงมาไกลขนาดนี้!! และคงไม่พ้นให้เธอต้องได้เรียกแท็กซี่เพื่อวนกลับไปส่งที่ป้ายสี่!! นาราอยากจะร้องไห้ แต่ก็ยังดีที่มีเรื่องดีๆเกิดกับเธอในคืนนี้ นั้นคือได้บรรจุเป็นครูแล้ว เงินที่จะเสียไม่กี่สิบบาทก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว “ร้อยแปดสิบครับน้อง” “อะไรนะพี่!! ไหงมันแพงจังคะ!” เสียงใสแทรกขึ้นกลางอากาศ คนขับแท็กซี่ถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าหญิงสาวตัวเล็กจะเสียงดังเป็นทรโข่งแบบนี้ “ไม่แพงหรอกครับน้อง รถติด น้ำมันแพงจะตาย ตามมิดเตอร์เลยครับ ไม่จ่ายก็ไปโรงพักครับ..เอาไง?” คนขับแท็กซี่โวยขึ้น ก่อนจะมองเธออย่างหาเรื่อง นาราจำต้องควักเงินออกจากกระเป๋าตัง แล้วจ่ายตามค่ามิดเตอร์ของรถ ไม่ขาดไม่เกิน วันอะไรเนี่ย~~ เอาน่าอย่างน้อยก็มีเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตเธอแล้วกัน นาราปลอบใจตัวก่อนจะเปิดประตูลงจากแท็กซี่ เพื่อเดินขาเข้าซอยหมู่บ้านของเธอ แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้หรูหรา แต่หมู่บ้านของเธอก็เอื้อเฟื้อเผื่อแพร่กับทุกครอบครัว หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในเมืองใหญ่ แผละ!!!! “อะ!! จะเอาให้ถึงบ้านเลยใช่ไหม..” เสียงใสเอ็ดขึ้นเมื่อเผลอเดินเหยียบน้ำขังเข้าไปเต็มๆ จนรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง เปียกโชกไปถึงถุงเท้าด้านใน นาราพยายามทำจิตใจให้สงบ แม่บอกว่าเทวดาท่านมักจะส่งอุปสรรคมากมายมาพิสูจน์จิตใจของมนุษย์ เพราะฉะนั้นแล้ว เธออย่าโมโหหรือหงุดหงิด ยิ้มสู้ให้ท่านเห็น ว่าเธอนั้นเป็นหญิงแกร่ง เพียงใด!!! …………………………………………….. 🤣🤣 โอ้ยยย!!น้อออ!! เป็นนางเอกเรื่องนี้ต้องอดทนหน่อยนะลูก เพราะถ้าได้เจออิพี่ อิน้องจะปวดหัวมากกว่านี้🍀🍀🍀🍀🍀🍀🍀 (อัพพี่คริสกับน้องนาราอย่างเป็นทางการ ระหว่างรอเรื่องนี้กลับไปฟินกับเรื่องก่อนๆได้นะคะ😍)
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม