ตอนที่ 3

2031 คำ
รักต้องแลก Writer : Aile'N ตอนที่ 3  นิชาเริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วยการตะเวนสมัครงานไปทั่ว ในระแวกบ้านไม่ได้ก็ออกไปไกลขึ้น ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังคงเหมือนเดิม สุขภาพร่างกายและจิตใจของเธอเริ่มย่ำแย่เพราะไม่ว่าจะเจอปัญหามากมายสักแค่ไหนเธอก็เลือกที่จะเก็บมันไว้คนเดียว เธอกลายเป็นคนเงียบขรึม พูดน้อยกินน้อยไม่สดใสร่าเริงอย่างที่เคย แน่นอนว่าผู้เป็นมารดาย่อมรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้และพลอยเครียดตามไปด้วย แล้ววันที่นิชาไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง... แม่ของเธอถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยภาวะความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจกำเริบ เธอนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างคนสิ้นหวัง เธอไม่เคยโทษโชคชะตา แม้จะเหลือตัวเองเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวในครอบครัว แต่ตอนนี้พอปัญหาทุกอย่างมันรุมเร้าเข้ามามากเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะทนรับไหว เธอก็ไม่สามารถมองโลกในแง่ดีได้อีกต่อไป "คนไข้จำเป็นจะต้องผ่าตัดหัวใจอย่างเร่งด่วน แต่ว่าค่ารักษาค่อนข้างสูง และไม่สามารถเบิกประกันสุขภาพของคนไข้ได้ ญาติพร้อมที่จะให้หมอผ่าเลยไหมครับ" ร่างบางแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ฟังคำบอกกล่าวของคุณหมอพร้อมได้รับเอกสารชี้แจงค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการผ่าตัดใหญ่คร่าวๆ มาให้พิจารณา ตัวเลขยาวเหยียดในกระดาษแผ่นนั้นคือความสิ้นหวังของนิชาอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาไม่ว่าจะต้องเจอปัญหามากมายเท่าไรเธอก็ยังยืนหยัดสู้ไหว ทว่าตอนนี้เธอหมดทางสู้อย่างสมบูรณ์.. "หมอมีเวลาให้ตัดสินใจเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้นนะครับ เพราะคนไข้ไม่สามารถรอนานมากไปกว่านี้ได้" คุณหมอกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง เวลาหนึ่งวันเป็นการเว้นระยะให้ร่างบางมีเวลาคิดและตัดสินใจ ถึงอย่างนั้นคำตอบของนิชาก็มีเพียงหนทางเดียวคือแม่ของเธอจะต้องได้ผ่าตัดเท่านั้น! ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรเธอก็ยอม! . . ไม่ต้องรอให้ถึงวัน หลังออกจากโรงพยาบาลนิชาก็ขับรถมายังตึกสูงระฟ้าใจกลางเมืองทันที แม้เธอจะลาออกไปแล้วแต่พอกลับเข้ามาพนักงานทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่แสนจะเข้มงวดกลับไม่ได้แสดงอาการแปลกใจ แถมยังยอมให้เธอเข้าบริษัทได้ง่ายๆ ซึ่งก็ดีเพราะเธอไม่มีเวลาจะสนใจอะไรอีก เธอต้องการจะคุยกับประธานบริษัทเพียงคนเดียวเท่านั้น! เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงจุดหมายร่างบางก็เคาะประตูบอกกล่าวเจ้าของห้องเพียงสองสามทีเท่านั้นก็เปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ โชคดีที่ร่างสูงนั่งทำงานอยู่ในห้องไม่ได้ไปไหน อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย ก่อนจะมีท่าทีแปลกใจเมื่อรู้ว่าเป็นเธอ "เกิดอะไรขึ้น" สภาพของอดีตเลขาที่ใบหน้าแดงเรื่อ ดวงตาบวมช้ำปริ่มน้ำใสๆ เหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาและพร้อมจะร้องอีกได้ทุกเมื่อ ทำให้อัคคีต้องรีบวางปากกาลงและลุกเดินเข้ามาหา "คุณพูดถูก...ยังไงนิก็ต้องกลับมา" นิชาไม่ตอบคำถาม เพียงตัดพ้อและแสยะยิ้มกับตัวเองอย่างสมเพช แม้ร่างบางจะไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม แต่อัคคีก็เข้าใจสิ่งที่เธอพูดเป็นอย่างดี เขาควรจะดีใจที่เอาชนะเธอได้ แต่น้ำตาที่จวนจะหล่นอาบแก้มขาวกลับดึงความสนใจจากเขาได้มากกว่า ทว่าแม้จะดูเปราะบางพร้อมแตกสลายได้ทุกเมื่อแบบนั้น นิชากลับไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้เขาเห็น ใบหน้าซีดขาวเชิดรั้น แผ่นหลังเหยียดตรง ดวงตาแน่วแน่มั่นคง "คุณจะทำอะไรกับนิก็ได้...จะให้เป็นคู่นอน ของเล่น ของตาย ได้ทั้งนั้น..." ร่างบางข่มความเจ็บปวดที่หน่วงรั้งก้อนเนื้อในอกซ้ายพูดออกไปอย่างไม่ลังเล เธอเคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟตอนที่อัคคียื่นข้อเสนอนี้ให้ แต่เวลานี้เธอกลับเป็นฝ่ายยอมทิ้งศักดิ์ศรีบากหน้ามาเสนอตัวให้เขาถึงที่ "แต่...ต้องแลกด้วยเช็คเงินสดสิบล้าน!" เสียงหวานยื่นคำขาดออกไปอย่างหน้าไม่อาย ทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังตกที่นั่งลำบากและต้องการความช่วยเหลือแท้ๆ เธอกลับยังคงหยิ่งในศักดิ์ศรีจวบจนวินาทีสุดท้าย "..." เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ไม่ใช่เพราะตื่นตระหนกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน อัคคีสนใจเพียงดวงตาแดงเรื่อของอดีตเลขาเพียงเท่านั้น เขากำลังครุ่นคิดว่าใบหน้าสวยๆ ของนิชาไม่สมควรแปดเปื้อนด้วยน้ำตาหรือความเศร้าหมอง และเขาจะไม่มีวันทำให้เธอร้องไห้ ไม่สิ...ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ทำให้เธอร้องไห้ทั้งนั้น! มือหนายกขึ้นหมายจะสัมผัสใบหน้าซีดขาว นิชาเบี่ยงหลบทว่าคนเอาแต่ใจอย่างอัคคีกลับไม่แยแส สัมผัสอุ่นนุ่มทาบลงบนแก้มขาว ปลายนิ้วเรียวยาวไล้ไปตาขอบตาแดงช้ำอย่างแผ่วเบา นิชาไม่เข้าใจว่าเขาจะมาแสดงความห่วงใยอะไรกันตอนนี้ ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะเขา! เพราะเขาบีบบังคับทำให้เธอต้องตกมาอยู่ในสภาพนี้ อัคคีไม่ได้ทำอะไรร่างบางมากไปกว่านั้น เขาเพียงเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน เปิดลิ้นชักหยิบเช็คออกมาเซ็นแล้วเดินกลับมายื่นให้เธออย่างไม่นึกเสียดาย "อยากได้เท่าไรก็เขียนเอา" ร่างสูงกล่าวอย่างจริงจัง เขาไม่ได้มีความคิดในแง่ลบต่ออดีตเลขาที่กำลังเรียกร้องเงินจากเขาถึงสิบล้าน เพราะมั่นใจว่านิชาต้องมีเหตุผลและอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเขาจะต้องได้รู้อย่างแน่นอน ดวงตาโศกเหลือบมองเช็คเงินสดที่ถูกเว้นว่างจำนวนเงินไว้ให้เขียนเองอย่างสับสนเล็กๆ เนื่องจากเตรียมใจไว้แล้วว่าตัวเธอคงไม่มีค่าพอให้เขายอมเสียเงินถึงสิบล้านแน่ แต่นี่...มันเกินความคาดหมายไปมากเลยทีเดียว นิชาเดินถือเช็คออกมาจากบริษัทอย่างเหม่อลอย ร่างกายทุกส่วนรวมถึงก้อนเนื้อในอกซ้ายหนักอึ้งจนแทบจะก้าวขาไปออก เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี มันก็ดีนะที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินรักษาแม่แล้ว แต่วิธีที่ได้มามันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก แม้อัคคีจะยื่นเช็คให้กันง่ายๆ แต่ชีวิตหลังจากนี้ของเธอจะเป็นยังไงต่อ ไม่สามารถคาดเดาได้เลย นิชาโยนเรื่องเครียดๆ ทิ้งไปชั่วคราว เธอนำเช็คไปขึ้นเงินหลังเขียนตัวเลขลงไปเป็นจำนวนสิบล้านตามที่เรียกร้องไปไม่ขาดไม่เกิน แม้ค่ารักษาแม่จะไม่ถึงสิบล้านแต่เงินที่เหลือเธอตั้งใจจะเก็บไว้เป็นค่าเทอมและค่าเลี้ยงดูหลานๆ เธอจะไม่ยอมถูกเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวหรอก ในเมื่อเสนอตัวให้เขาทำอะไรก็ได้ตามใจแล้ว เธอก็ต้องเรียกเงินให้สมน้ำสมเนื้อสักหน่อย ใครจะมองยังไงก็ช่างในเมื่อเธอพิสูจน์แล้วว่าศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้! การผ่าตัดของผู้เป็นแม่ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะเหนื่อยที่ต้องดูแลทั้งแม่และหลานๆ แต่นิชาก็ดีใจและซึ้งใจอยู่ลึกๆ เพราะถ้าไม่ได้อัคคีช่วยไว้เธอก็หมดหนทางจะสู้ต่อแล้วจริงๆ เธอตั้งใจไว้ว่าเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเข้าที่เข้าทางไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เธอจะไปคุยกับเขาในเรื่องที่ตกลงกัน ไม่รู้ว่าจะได้กลับไปทำงานด้วยหรือแค่เปลี่ยนสถานะจากเลขามาเป็นคู่นอนอย่างเดียว เธอทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ .. .. หลังจากที่แม่พักฟื้นจนหายดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนิชาก็กลับมาทำงานเป็นเลขาของอัคคีอีกครั้งตามคำสั่ง เรื่องความสัมพันธ์แลกเงินสิบล้านนั้นยังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหนเพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้พูดถึง เพียงสั่งให้เธอเคลียร์งานในช่วงที่หยุดไปให้เรียบร้อย นั่นพอจะทำให้เธอโล่งใจไปชั่วขณะ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะต้องรองรับอารมณ์ผีเข้าผีออกของเขาให้ต้องปวดหัวเพิ่ม "ตอนเที่ยงสั่งอาหารสองชุด ของคุณด้วย เอาเข้ามากินที่ห้องทำงานผม...ทุกวัน" สบายใจอยู่ได้ไม่นานโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นตอนสิบเอ็ดโมง เมื่อรับสายสิ่งที่ทำได้ก็คือทำตามคำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกทีถ้าไม่มีนัดลูกค้านิชาจะเป็นคนสั่งอาหารเที่ยงและจัดเสิร์ฟเข้าไปให้อัคคีในห้องทำงาน ส่วนของเธอถ้าไม่นั่งกินที่โต๊ะทำงานก็เข้าไปนั่งกินในห้องพักเบรกที่มีครัวเล็กๆ รวมถึงตู้เย็นและเครื่องชงชากาแฟอยู่ในนั้น มีไว้สำหรับปากท้องของท่านประธานและเลขาอย่างเธอโดยเฉพาะ หลังวางสายเจ้านายไปแล้วนิชาก็โทรสั่งอาหารจากร้านประจำและเลือกเมนูที่เขาชอบกินอย่างเคยชิน เมื่ออาหารมาส่งก็ใกล้เที่ยงพอดีเธอจึงนำไปจัดใส่จาน ยืนทำใจอยู่สักพักก็ยกอาหารใส่ถาดเข้าไปในห้องทำงานของเขา "ทานข้าวค่ะ" เสียงหวานเอ่ยเรียก ขณะที่ยกอาหารไปวางลงบนโต๊ะหน้าโซฟารับแขก อัคคีที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่เงยหน้าขึ้นมองแว้บหนึ่งก่อนวางงานทั้งหมดลง คลายเนคไทและพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟา เมื่อเห็นเจ้านายนั่งลงแล้วนิชาก็นั่งตาม โดยเว้นระยะห่างจากเขามาหนึ่งช่วงแขน เธอวางตัวห่างเหินจากเขามากกว่าเดิมเล็กน้อยเพราะหลังจากเหตุการณ์แตกหักในวันนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องปั้นหน้ายังไงต่อหน้าเขา พรึ่บ ในขณะที่ร่างบางพยายามถอยห่าง อัคคีกลับเป็นฝ่ายเข้าหาอย่างจงใจ เขาขยับมานั่งข้างเธออย่างสนิทสนมและเริ่มทานข้าวของตัวเองไป ในขณะที่นิชารู้สึกเกร็งจนอยากจะขยับหนี ท่อนแขนแกร่งก็ล็อกเอวของเธอไว้ให้อยู่นิ่ง ด้วยสถานะเป็นรองที่ค้ำคออยู่นิชาจึงไม่สามารถปัดป้องได้อย่างใจนึก เธอจำต้องปล่อยให้อัคคีกอดเอวอยู่แบบนั้น และรีบทานข้าวของตัวเองให้หมดไวไว จะได้รีบออกไปเสียที ร่างสูงมองความเร็วในการทานของคนข้างกายอย่างนึกขัน คงอยากออกไปเร็วๆ ล่ะสิ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวังกันล่ะ "เดี๋ยวตอนบ่ายให้ รปภ. ขึ้นมาย้ายโต๊ะทำงานของคุณเข้ามาข้างใน จะได้คุยงานกันได้สะดวกขึ้น" อัคคีบอกด้วยน้ำเสียงยียวน ก่อนกดยิ้มลึกเมื่อเห็นร่างบางหันขวับมามองด้วยความไม่พอใจ "เกินไปหรือเปล่าคะ คิดจะแกล้งกันหรือไง" นิชาสติหลุดไปชั่วขณะเมื่ออีกฝ่ายบีบบังคับให้เธอจนมุมอีกครั้ง "แกล้งอะไร คุณกลัวอะไรงั้นเหรอ หื้ม?" ร่างสูงเลิกคิ้ว กระตุกยิ้มท้าทาย ดูก็รู้ว่าจงใจ "จะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ!" นิชากระแทกเสียงเล็กน้อย พยายามทำตัวสงบลง ไม่วิ่งเต้นไม่ขัดขวางเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่สำเร็จ อีกอย่างยิ่งเห็นเธอโกรธเขาก็ยิ่งพอใจ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวัง "ยอมง่ายจัง" ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู นิชาไม่ถอยหนีแต่หันไปมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว แม้ระยะห่างของใบหน้าจะอยู่ใกล้จนลมหายใจเป่ารด อัคคีกดยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเห็นเธอสู้เขาก็ยิ่งชอบใจ สรุปง่ายๆ ไม่ว่าเธอจะสู้หรือพยายามจะหนีเขาก็สนุกทั้งนั้น .. .. .. ..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม