เพราะเธอคนเดียว

1779 คำ
วันต่อมา  "คุณฟ้า" ผ้าแพรรู้ว่าเพียงฟ้ามาหาที่บ้านจึงรีบออกมาต้อนรับในช่วงเย็นเพราะวันนี้เธอขอเพียงฟ้านั้นลาหยุด  "เป็นยังไงบ้างแพรยังมีเวียนหัวอยู่หรือป่าว" เพียงฟ้าหิ้วผลไม้กับขนมมาฝากผ้าแพรเต็มตะกร้าหวายเพราะอยากให้เธอบำรุงเยอะๆทั้งถามถึงอาการคลื่นไส้อาเจียนที่ผ้าแพรนั้นเคยเป็นก่อนหน้านี้ด้วย  "มีบ้างค่ะคุณฟ้า"  "ได้ข่าวว่าอาทิตย์หน้าเธอจะต้องแต่งงานดีใจด้วยนะ"  "แพรถามจริงๆนะคะ.. คุณฟ้าไม่โกรธแพรจริงๆใช่มั้ยคะ" ผ้าแพรหน้าเจื่อนเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจถามเรื่องนี้กับเพียงฟ้าอีกครั้ง  "ฉันจะโกรธเธอทำไมล่ะบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้รักพี่ภูสักนิดต้องขอบใจเธอด้วยซ้ำที่ทำให้ฉันได้ถอนหมั้นเป็นอิสระเธอก็เหมือนน้องสาวของฉันฉันจะโกรธเธอลงได้ยังไง" เพียงฟ้ายังยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่ได้รักภูผาที่หมั้นกันก็เพราะพ่อของเธอกับพ่อของภูผานั้นสัญญาในความเป็นเพื่อนกันเอาไว้เท่านั้น  แถมเธอยังคิดกับภูผาเป็นพี่ชายเพราะเห็นกันมาแต่เด็กๆภูผาเองก็คิดกับเธอเป็นน้องสาวเหมือนกันอีกอย่างเธอก็อยากหาเรื่องถอนหมั้นกับภูผานานแล้วด้วยเพราะเบื่อผู้หญิงของเขาที่ชอบตามรังควานเธอไม่หยุดไม่หย่อน  “ที่ฉันมาวันนี้ก็เพราะจะมาบอกว่าเธอไม่ต้องไปทำงานที่ร้านฉันแล้วคุณย่าสั่งมาให้เธอพัก”  “แต่แพรอยากทำงานนะคะแพรยังสามารถทำงานได้ทุกอย่างนะคะ” ผ้าแพรถึงกับส่ายหัวหงึกหงักการทำอาหารเป็นสิ่งที่เธอรักหากไม่ได้ทำเธอคงเฉาตายแน่  “อย่าให้ผู้ใหญ่เป็นห่วงสิแพร”  “ก็ได้ค่ะ” เจอประโยคดักเรื่องผู้ใหญ่แบบนี้มีหรือคนที่นอบน้อมอย่างผ้าแพรจะไม่ฟังและแล้วก็ต้องยอมจนได้  สามวันต่อมา  กรุงเทพมหานคร  บ้านริมน้ำ  บ้านริมน้ำเป็นบ้านหลังขนาดไม่ใหญ่มากนักเป็นบ้านสีขาวหลังใหญ่ราคาเหยียบร้อยล้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีเนื้อที่บริเวณรอบๆหลายสิบไร่เป็นของสายทองเธอละครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่สุรัตน์พ่อของภูผาลูกชายของเธอเสียเธอก็ย้ายจากคฤหาสน์หลังโตมาอยู่ที่บ้านริมน้ำเพราะที่นี่ค่อนข้างสงบร่มเย็นแถมยังบรรยากาศดีด้วยเหมาะแก่การพักผ่อนในวัยเกษียณของเธอยิ่งนัก  "จะแต่งงานอยู่แล้วจะไปไหนอีกตาภู" สายทองนั่งจิบชายามบ่ายที่ห้องนั่งเล่นเห็นหลานชายของเธอแต่งตัวเสียเต็มยศคงไม่พ้นออกไปเตร็ดเตร่แน่นอนเธอจึงร้องทักเอาไว้ก่อน  "หาความสุขบ้างสิครับคุณย่า" ภูผาคิดว่าเวลานี้คุณย่าของเขาจะงีบหลับอยู่ที่หลังบ้านเสียอีกนับว่าเขาเลือกเวลาผิดเสียจริง  "หยุดเลยลูกคาท้องเมียแกอยู่แกจะไปไหน" สายทองเห็นทีจะปล่อยให้หลานของเธอทำตัวสบายใจแบบนี้ไมได้แล้วเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานหากมีข่าวเรื่องผู้หญิงของหลานชายของเธอออกมาตอนนี้มีหวังพิกุลคงไม่ยอมยกหลานสาวของเจ้าตัวให้พอดีนั่นเท่ากับว่าเธอก็จะไม่ได้เลี้ยงเหลนเองด้วย  "โถ่คุณย่า" ภูผาถึงกับคอตกที่ย่าของเขายกเหตุผลนี้มาค้ำคอของเขาไม่ให้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนข้างนอก  "กลับเข้าบ้านมาเดี๋ยวนี้เลยก่อนที่ฉันจะตัดบัตรแกอย่าคิดว่าแกเป็นผู้บริหารโรงแรมแล้วจะดื้อกับย่าได้นะ" สายทองจ้องหลานชายของเธอตาเขม็งดูซิจะกล้าแข็งคอกับเธออีกหรือป่าว  "คุณย่าทำไมทำกับผมแบบนี้ล่ะครับเพราะเธอคนเดียวเลยผ้าแพร" ภูผาจำต้องเดินคอตกกลับขึ้นห้องของตัวเองไปแม้เขาจะเป็นผู้บริหารแล้วแต่ย่าของเขาก็มองเขาเป็นเด็กอยู่ทุกทีไปทั้งบ่นอู้อี้ถึงตัวต้นเหตุเบาๆ  "บ่นอะไร" สายทองส่ายหัวเบาๆที่หลานเธอนั้นบ่นถึงผ้าแพรทั้งที่เจ้าตัวนั่นที่เป็นตัวต้นเรื่อง   เชียงใหม่  "ฮัดชิ่ว" ในขณะที่ผ้าแพรกำลังปอกผลไม้ที่เห็บมาจากสวนใส่กล่องเอาไว้ทานเธอก็เกิดจามขึ้นมาเพราะรู้สึกคัดจมูกกะทันหัน  "หนูไม่สบายหรอลูก" พิมพรรณมองหน้าหลานของเธอด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงเธอไม่อยากให้หลานของเธอป่วยเพราะคนท้องจะทานยาอะไรลำบาก  "ป่าวค่ะน้าพิมหนูแค่คัดจมูกนิดหน่อยค่ะ" ผ้าแพรส่ายหัวเล็กน้อย  "จามปานมีคนนินทาเลยลูก" พิมพรรณเห็นดังนั้นค่อยยิ้มออกคงเป็นเพราะมีคนพูดถึงตามโบราณว่าเป็นแน่ถึงได้จามแบบนี้  "จามแบบนี้คือมีคนนินทาหรอคะ" ผ้าแพรเลิกคิ้วถามน้าสาวของเธออย่างสงสัยเธอเคยได้ยินเรื่องนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่ยักจะเชื่อเท่าไร  "ใช่น่ะสิโบราณว่าไว้" พิมพรรณย้ำคำทั้งพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม  "อย่างหนูใครจะมาพูดถึงล่ะคะไม่ค่อยมีเพื่อนซะด้วย" ผ้าแพรนึกไม่ออกเลยว่าใครจะพูดถึงเธอเพราะเธอนั้นก็ค่อนข้างเพื่อนน้อยเสียด้วยหรืออีกคนที่เธอคิดอาจจะเป็นเพียงฟ้าที่บ่นถึงเธอก็เป็นได้ อาทิตย์ต่อมา  วันนี้ที่เรือนไทยหลังโตในสวนผู้คนคึกคักกันจนเต็มทั้งชาวบ้านที่พิกุลไปบอกให้มาร่วมงานรวมทั้งแขกผู้ใหญ่ของทางภูผารวมไปถึงนักข่าวหลายสำนักที่มาทำข่าวงานแต่งอันเรียบง่ายของนักธุรกิจหนุ่มที่แต่งงานกะทันหัน  "เธอสวยมากเลยรู้หรือป่าวแพร" เพียงฟ้าดูแลความเรียบร้อยแต่งตัวให้เจ้าสาวอย่างผ้าแพรอยู่กับช่างแต่งหน้าแต่งตัวอีกสองสามคนวันนี้ผ้าแพรสวยเป็นพิเศษจากหน้าที่หวานอยู่แล้วได้รับการแต่งแต้มแต่พองามด้วยช่างฝีมือเธอก็ยิ่งดูสวยน่ารักเข้าไปอีกจนเพียงฟ้าอดชมไม่ได้ยิ่งชุดไทยสไบเฉียงสีทองที่ปักลายโดยช่างฝีมือประจำตัวของสายทองยิ่งขับผิวขาวของหญิงสาวให้ผุดผ่องงานนี้เธอคิดว่าภูผาพี่ชายของเธอคงมีตะลึงกันบ้างเพราะแม้ผ้าแพรจะไม่ได้สวยอย่างนางแบบดาราที่ภูผาเคยควงแต่เธอก็มีเสน่ห์ในแบบของเธอ  "ขอบคุณนะคะคุณฟ้า" ผ้าแพรมองดุตัวเองในกระจกก็ยิ้มอ่อนก้มหน้างุดเธอยอมรับในช่างฝีมือที่แต่งตัวให้เธอจริงๆอยากจะเก็บภาพตัวเองตอนนี้ไว้สักหลายร้อยภาพ  "รับรองพี่ภูเห็นต้องตะลึง"  เพียงฟ้ายกสองมือเรียวจับใบหน้าเจ้าสาวทั้งมองด้วยรอยยิ้ม  "หน้าแพรเค้ายังไม่อยากจะมองเลยค่ะ" ผ้าแพรรู้ตัวดีว่าเธอทำอย่างไรภูผาก็คงไม่อยากจะมองเธอเพราะเอเป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องมีบ่วงผูกมัดตัวเอาไว้  "เอาน่า" เพียงฟ้าบุ้ยปากส่ายหัวเล็กน้อยเธอไม่อยากให้ผ้าแพรด่วนคิดไปเองเพราะเธอรู้ว่าแม้ภูผาจะไม่พอใจวันหน้าอาจเปลี่ยนใจก็เป็นได้แม้พี่ชายเธอจะดูเจ้าชู้แต่ก็มีความรับผิดชอบเธอเชื่อว่าความใกล้ชิดในการดุแลกันและกันของทั้งสองจะทำให้ความรู้สึกของทั้งสองค่อยๆดีขึ้นต่อกันในทุกๆวัน  ครู่ต่อมา  "คุณย่าคะคุณน้า" เพียงฟ้าจัดการดุแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้ผ้าแพรเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาหาขบวนแห่ของเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้ตั้งเพื่อส่งข่าวให้รู้ว่าเจ้าสาวนั้นเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้ทุกคนนั้นจัดตั้งขบวนขันหมากได้  "อ้าวหนูแพรมาพอดีเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จหรือยังล่ะย่าจะได้ตั้งขบวนเลย" สายทองดูจะวุ่นกว่าคนอื่นเพราะเธอเป็นคนจัดแจงทุกอย่างรวมถึงสินสอดทองหรือเพชรนิลเงินสดทั้งหลายก็ของเธอทั้งนั้น  "เรียบร้อยแล้วค่ะ" เพียงฟ้าพยักหน้าเบาๆทั้งรีบไปช่วยถือพานสินสอดก่อนจะตั้งขบวน  "ทำหน้าให้มันดีหน่อยตาภู" โสพิศรู้ว่าลูกชายของเธอไม่ชอบงานแบบนี้นักแต่ยังไงวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของเจ้าตัวเจ้าบ่าวจะมาหน้านิ่งบูดบึ้งเหมือนไม่อยากมาไม่ได้  "นั่นสิแต่งงานทั้งทียิ้มหน่อยสิคะพี่ภู" เพียงฟ้าเอ่ยเสริมอีกแรง  "ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษเลยนะเรา" ภูผาตวัดสายตามองเพียงฟ้าที่ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษราวกับเป็นงานตัวเอง  ทางด้านผ้าแพรที่มองขบวนขันหมากผ่านหน้าต่างของห้องนอนพร้อมกับน้าสาวของเธอในใจก็แอบกังวลไม่น้อยเพราะวันนี้เธอจะต้องแต่งงานอยู่กินกับภูผาแล้วไม่รู้ว่าเธอกับเขาจะเข้ากันได้ดีหรือป่าวเขาจะรังเกียจเธอจนไม่อยากจะเข้าใกล้เลยหรือไม่ตอนนี้เธอเป็นกังวลไปหมด  "หนูมาดูสิลูกขบวนแห่กำลังจะมาถึงแล้ววันนี้หลานน้าจะได้ออกเหย้าออกเรือนซะทีนะเวลาช่างผ่านไปไวเสียจริงเหมือนหนูยังเล็กๆอยู่ไม่กี่ปีเลย" พิมพรรณทำใจล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าหลานจะต้องออกจากอ้อมอกแต่เมื่อพอถึงวันจริงเธอก็อดใจหายไมได้พิมพรรณพูดไปน้ำตาของเธอก็คลอไปพยายามไม่อยากให้ร้องออกมาเพราะวันนี้เป็นวันมงคลของหลานสาวที่เธอรักมากที่สุด  "ยังไงหนูก็เป็นเด็กตัวเล็กของน้าพิมเสมอนะคะ" ผ้าแพรโอบกอดน้าของเธอใช่น้าเธอคนเดียวเสียที่ไหนที่ใจหายเธอเองก็ไม่ต่างกัน  "เจ้าบ่าวจะมาแล้วเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ" พิกุลเดินมาบอกให้หลานของเธอเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเมื่อเจ้าบ่าวมาถึงก็จะต้องออกไปทำพิธีตักบาตรแล้วผูกข้อไม้ข้อมือ  "ค่ะยาย" ผ้าแพรผละออกจากอ้อมกอดพิมพรรณและเอ่ยเสียงตอบยายของเธอยอมรับเลยว่าตอนนี้ใจของเธอเต้นแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว    
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม