ฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนสุดหรูติดทะเล วิวล้านแปดก็ซื้อไม่ได้ น้ำทะเลสีฟ้าสวยทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา ห่างไกลออกไปมีเกาะเล็กเกาะน้อยเต็มไปหมด
"นี่มันอะไรกันเนี่ย!"
พอก้มมองตัวเองเท่านั้นแหละ!!
ไม่มีเสื้อผ้า!
แกรก~
เสียงเปิดประตูดังขึ้นไกลๆ ฉันรีบใช้ผ้าห่มพันรอบกายไว้ จากนั้นค่อยๆ ย่องเท้าลงเตียงให้เบาที่สุด พยายามหาที่ซ่อนแต่ทั้งห้องมันโล่งซะยิ่งกว่าโล่ง ไม่มีมุมไหนที่จะซ่อนได้เลย
"เตรียมพร้อมหรือยัง"
"ครับท่าน เธออยู่ในห้อง"
สิ้นเสียงบทสนทนา ม่านบังแสงที่อยู่บริเวณรอบมันค่อยๆ เลื่อนปิดลงทั้งห้องมืดมิดไปหมด ฉันรีบคล้ำหาทางออกทันที
หมับ
มือสัมผัสเข้ากับความอุ่นของเนื้อกายมนุษย์ ฉันรีบชักมือกลับเตรียมวิ่งหนีแต่ดูเหมือนคนตรงหน้าที่ฉันเจอในความมืดจะไวกว่า เขาจับฉันเหวี่ยงขึ้นเตียงทันที
ฟุบ!!
"กรี๊ด! ไม่นะ!"
คนในความมืดไม่พูดพร่ำอะไรสักอย่าง เขาใช้มือกระชากผ้าห่มออกจากตัวฉันจนตัวหมุน
"กรี๊ด!! เจ็บ!!"
ฉันกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกของแข็งขนาดเล็กล่วงล้ำเข้ามาในกาย ความเจ็บแสบกลางกายสาวที่ถูกล่วงล้ำเข้ามาไม่ทันตั้งตัวแล่นแป๊บขึ้นมาจนน้ำตาไหล ในขณะเดียวกันอยู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าตัวฉันร้อนรุ่มไปหมดอารมณ์ของตัวเองมันกำลังพลุกพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"หึ!"
"ปล่อยฉันไปเถอะนะ....อื้อ!"
เลือดในกายมันพลุ่งพล่านไม่หยุด ปากฉันบอกปฏิเสธแต่ทำไมร่างกายฉันรู้สึกโหยหาการสัมผัสจากเขากัน
ฉันรู้สึกได้ถึงความยุบลงของเตียงนอนใหญ่ ลมหายใจอุ่นรดลงบนใบหน้า ดวงตากลมสีดำตรงหน้าที่สะท้อนกับความมืดในห้อง มันแวววาวน่าค้นหาเสียจริง
ฉันรู้สึกอยากสัมผัสเขา...
อยากจูบคนตรงหน้าทั้งที่ไม่เคยจูบใครมาก่อน..
อยากมอบความเป็นสาวที่ตัวเองหวงแหนมากที่สุดให้กับเขาที่ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร...อยากให้ตอนนี้และเดี๋ยวนี้!
และมันเป็นสติที่เหลืออยู่สุดท้ายของฉัน ก่อนที่ฉันจมดิ่งสู่รสสัมผัสที่เขามอบให้
"อื้อ~~ แพงต้องการคุณ"
•••••
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไหร่ ตื่นมาเนื้อตัวมันปวดร้าวไปหมด ห้องที่เคยมืดสนิทเพราะม่านทึบบังแสง ตอนนี้มันโปร่งใสจนเห็นวิวทะเลผ่านกระจกบานใหญ่ในยามราตรีอีกครั้ง ฉันรีบขยับตัวพาตัวเองลุกขึ้นจากเตียง
"อะ!"
ความเจ็บปวดระหว่างกายแล่นแป๊บเข้ามาทันทีที่ตัวฉันขยับรีบเปิดสำรวจตัวเองใต้ผ้าห่มหนา
พรึ่บ! ไฟในห้องสว่างจ้า จนฉันต้องหรี่ตาปรับแสง
What the fuck!!
นี่มันอะไรกันเนี่ย!!
รอยเลือดที่เลอะเปรอะเต็มเตียงเป็นด่างดวงหลายๆ จุด ข้อมือฉัน ข้อเท้าฉันแดงเป็นรอยรัด ก้มมองตัวเองก็มีแต่รอยช้ำเป็นจ้ำๆ แถมยังมีรอยฟันตรงนั้นตรงนี้เยอะแยะเต็มไปหมด และฉันก็ไม่ได้อินโนเซนต์ที่จะไม่รู้ว่ามันคือรอยอะไร
ฉันถูกรุมโทรมหรือยังไง?
น้ำตาไหลพรากอยู่คนเดียวบนเตียง ร่างกายที่หวงแหนมา เฝ้าทะนุถนอมมันเป็นอย่างดี ถูกปู้ยี่ปู้ยำไม่มีเหลือ พอมานั่งคิดอีกทีความทรงจำอันเลือนรางก็มองเห็นแต่ตัวเองปรนเปรอเขา แถมปากยังร้องหาแต่เขาไม่หยุดอีก
"คุณตื่นสักทีนะคะ ท่านให้ฉันมาตามคุณค่ะ"
เสียงผู้หญิงดังมาจากข้างหลัง ฉันรีบพยุงตัวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเลใช้ผ้าห่มพันรอบร่างกายเพื่อปกปิดความโสมมของตัวเอง ยกมือปาดน้ำตาที่มันไม่หยุดไหลสักทีด้วยความเหนื่อยล้า
หล่อนคนนั้นไม่รอให้ฉันอิดออดแม้แต่น้อย ทั้งลากทั้งจูงฉันไปในห้องน้ำ และพาเพื่อนของเธอมารุมฉันกันยกใหญ่
"ฉันอยู่ที่ไหนเหรอคะ"
"ท่านไม่ให้แจ้งอะไรกับคุณค่ะ"
"คำก็ท่าน สองคำก็ท่าน..ท่านของพวกคุณเป็นใครกัน ใหญ่มาจากไหน"
ทุกคนไม่ตอบคำถามฉัน แถมยังออกแรงขัดตัวจนฉันตัวแดงไปหมด พอมั่นใจว่าฉันคงไม่ได้คำตอบอะไรจากพวกหล่อน ฉันก็เลยได้แต่เงียบปล่อยให้พวกเขารุมกระทำกับร่างกายของฉันไป
เอาเลย! เชิญเลย! ตามสบาย อยากทำอะไรก็ทำ!
อย่าให้ฉันหนีไปได้ก็แล้วกัน!
พวกเมดของนายท่านอะไรนั่น พาฉันออกจากห้องนอนใหญ่ด้วยชุดเดรสสีสด เดินลัดเลาะภายในบ้าน ซ้ายที ขวาที จนฉันงงไปหมด จนมาถึงห้องโถงใหญ่ห้องหนึ่งที่มีเฟอร์นิเจอร์สุดหรู ราคาน่าจะแพงไม่เบาอยู่กลางห้อง
นายท่านของพวกหล่อน..ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้ากระจกบานใหญ่ที่มองเห็นวิวคนละฝั่งจากห้องนอนที่ฉันจากมาเลย แค่มองแค่ข้างหลังรังสีอำมหิตยังแพร่ออกมาให้ฉันรู้สึกเลย
"ท่านคะ..เธอมาแล้วค่ะ"
เมดหัวหน้าที่เป็นคนไปลากฉันออกจากเตียงทำความเคารพหนึ่งทีแล้วทิ้งฉันไว้ตรงนั้นกับเขาที่ยืนสูบบุหรี่หันหลังให้ฉันและชายชุดดำนับสิบคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา มีเพียงหนึ่งคนที่มองฉันนิ่งและทักทายฉันเป็นคนแรกด้วยประโยคคำสั่ง
"ช่วยแนะนำตัวด้วยครับ"
เขาคือผู้ชายที่ลากฉันขึ้นฮอนิหน่า! เพิ่งจะเห็นหน้าชัดๆ ก็คราวนี้แหละ! มองดูเนกไทที่คอก็นึกถึงเมื่อสองวันก่อนได้เลย
"ทะ..ทำไมฉันต้องทำด้วย!"
พออิคุณเนกไทปัดสูทให้เห็นสิ่งที่แนบไว้กับกางเกงเท่านั้นแหละ
ฉันรีบหลับตาปี๋แนะนำตัวตามคำสั่งทันที
"ฉะ..ฉันชื่อ พะแพง ไมตรีภัทรหิรัญ อายุ 23 ปี..เรียนชั้นปีสุดท้ายคะ..ค่ะ"
ทั้งห้องเงียบกริบ ส่วนหัวหน้าใหญ่ของฉันก็เอาแต่สูบควันเข้าปอดและปล่อยควันออกจนคลุ้งไปหมด ฉันจึงรีบยกมือบีบจมูกตัวเองแน่น
ฉันไม่ชอบมัน ได้กลิ่นทีไรหายใจไม่ออกทุกที
"คุณมีพี่สาวชื่อ พะเพื่อน"
ฉันพยักหน้าหงึกๆ ตอบอิคุณเนกไทดำอีกครั้ง
"คุณมีน้องชายชื่อ พะพาย"
ฉันทำแบบเดียวกับคำถามเมื่อกี้อีกครั้ง
"ตามประวัติครอบครัวคุณล้มละลาย พ่อแม่เสียชีวิต พี่น้องต้องแยกกันอยู่คนละที่...เพิ่งจะกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อพี่สาวคุณได้เงินก้อนโตกลับมาตั้งตัวที่ประเทศไทย"
"ชะ..ใช่"
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีอำนาจขนาดไหน คงรู้ถึงไส้ถึงพุงฉันหมดแล้วมั่ง
"ชีวิตคุณกับน้องชายลำบากกว่าพี่สาวมากที่มีผู้อุปการะ คุณกับน้องชายต้องใช้เงินประกันก้อนสุดท้ายที่พ่อแม่คุณจัดฉากยิงกันตายในบ้าน..ผมพูดถูกไหมครับ"
ฉันเบิกตาด้วยความตกใจ มองหน้าอิคุณเนกไทดำอย่างตื่นตระหนก ไม่ลืมที่จะมองแผ่นหลังของบิ๊กบอสที่ยืนสูบบุหรี่หันหลังให้กับฉัน
ฉันไม่ตอบกลับไป พวกเขาคงจะรู้แล้วละว่ามันเป็นเรื่องจริง
อยู่ๆ อิตาบิ๊กบอสก็ยกมือขึ้นสะบัดไล่ทุกคนออกไป ยกเว้น อิคุณเนกไทที่ยังยืนนิ่งที่เดิม
"สองคนนั้นหรือเปล่าที่เป็นคนไปลากคุณออกจากห้องขังมา"
ฉันมองออกไปยังกระจกบานใหญ่ตรงหน้า ข้างล่างพบผู้ชายชุดดำสองคนนั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่
"มองไม่ค่อยชัดค่ะ"
"เชิญครับ"
ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปหากระจกบานใหญ่ที่บิ๊กบอสของเขายืนสูบบุหรี่อยู่ แต่ฉันไม่กล้ามองหน้าเขาก็เลยได้แต่มองไปตามคำสั่ง
"ชะ..ใช่ค่ะ"
"พวกเขาพาคุณมาได้ยังไง"
"ขุดเรื่องฉันได้ขนาดนี้ ยังจะถามอีกเหรอคะ"
ฉันเผลอตัวประชดประชันพวกเขาไป เขยิบถอยหลังจะกลับที่เดิมแต่
หมับ! ปึก!
"โอ๊ย!"
มือหนาจับเข้าที่ท้ายทอยฉันอย่างแรงและดันตัวฉันแนบกับกำแพงกระจกตรงหน้าอีกครั้ง
"นายท่านพวกผมหวังดี..พวกผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจ..ขอโอกาส โอกาส!"
เสียงของทั้งคู่ตะโกนขึ้นมา
"อย่าสู่รู้ให้มันมาก"
บิ๊กบอสเอ่ยออกมาแค่ประโยคเดียว จากนั้น
ปัง!
T^T โหดฉิบหาย!
ปึก!
ยิงนัดเดียวพร้อมกันคนละฝั่ง สองร่างล้มลงกระแทกกับพื้นทันที ร่างของสองคนนั้นถูกเตะร่วงลงไปในบ่อกระจกข้างล่างที่มีฝูงฉลามว่ายวนนับสิบตัว
"ออกไป!"
เขาสั่งอิคุณเนกไทออกจากห้องไปและหันมามองฉันที่กำลังจะหายใจไม่ออก
O-O
ฉันควรตกใจกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา....หรือ
ฉันควรตกใจในความโหดของเขาก่อนดี…หรือว่า
คนเมื่อคืน เรื่องเมื่อคืน คือ เขา!