เช้า....
เฮือก !!
ฉันใจหล่นวูบทันทีเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอยู่เลยสักชิ้น แถมข้างกายยังมีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มานอนอยู่ ข้างๆ อีกด้วย แล้วที่นี่มันที่ไหนกันละเนี่ย
เมื่อคืนฉันมาวันเกิดของสายธารเพื่อนสนิทของฉัน มันคือครั้งแรกกับการที่ฉันได้ดื่มเหล้า ฉันเมา ฉันจำอะไรไม่ได้เลย จริงๆ
ฉันลุกขึ้นหันไปมองที่ผู้ชายเจ้าของใบหน้าหล่อคมคาย ผ้าปูที่นอนข้างกายของเขามันมีเลือดของฉันเปื้อนอยู่ มันยิ่งตอกย้ำว่าฉันได้เสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปแล้ว จริงๆ
ฉันรีบเก็บเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำแต่งตัว และออกจากห้องทันทีโดยที่ผู้ชายคนนั้นยังไม่ตื่น
ใครจะไปทำใจได้ที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนกับใครก็ไม่รู้ ฉันได้แต่โทษความใจง่ายของตัวเอง ฉันสาบานว่าจะไม่ดื่มอีกแล้ว
และขอให้ฉันไม่เจอกับผู้ชายคนนั้นอีก...
— บ้าน
“พริ้ง ไปไหนมาฉันโทรไปหาแกทั้งคืน” นี่คือเสียงของพี่มารีพี่สาวของฉันเอง
“พะ พริ้งไปวันเกิดสายธารมาค่ะ” ฉันก้มหน้าตอบเพราะกลัวว่าพี่มารีจะจับพิรุธได้
“อื้อ ฉันจะให้มาช่วยดูชุดที่จะใส่ในวันหมั้นหน่อย”
“อ้อ ค่ะๆ”
ฉันพยักหน้าตอบ พี่มารี คือฉันกับพี่มารีเป็นพี่น้องกัน แต่คนละแม่ พ่อแม่พึ่งเสียไปเมื่อสามเดือนที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากพ่อกับแม่เสีย จู่ๆ ก็มีเพื่อนของคุณพ่อ ซึ่งฉันก็ไม่เคยเห็นหน้า ท่านมาบอกว่าจะให้ลูกชายของท่านแต่งงานกับลูกสาวคนโตของคุณพ่อ นั่นก็คือพี่มารี
เหมือนว่าคุณพ่อกับเพื่อนของคุณพ่อตกลงกันเอาไว้แล้ว พี่มารีกับคู่หมั้นก็ยังไม่เคยเจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำตอนนี้ แต่พี่มารีก็ไม่ได้มีท่าทางว่าไม่อยากแต่งอะไรนะ ซึ่งถ้าเป็นฉันโดนบังคับแบบนั้นฉันคงคิดไม่ตก
หลังจากแยกตัวกับพี่มารี ฉันก็อาบน้ำล่างเนื้อล้างตัว ตราบาปที่ฉันได้ทำพลาดไป ฉันจะลบมันออกไปได้ยังไง...
กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นหลังจากอาบน้ำเสร็จพอดี
เบอร์ที่โทรเข้ามาคือเบอร์ของสายธารเพื่อนสนิทของฉันเอง
( ว่าไงแก )
( พริ้ง เมื่อคืนแกไปไหนกลับยังไง ฉันจำได้ว่าฉันฝากแกไว้กับ....)
( ฮัลโล่ ฮัลโล่ แค่นี้ก่อนนะพี่มารีเรียกให้ฉันไปช่วยดูชุด เอาไว้ค่อยคุยกันนะ )
ฉันรีบกดวางสายทันที
โทรศัพท์ในมือถูกฉันกำแน่นจนมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ฉันจะลบเรื่อง บ้าๆ แบบนี้ออกไปได้ยังไงกัน
1 อาทิตย์ผ่านไป...
วันนี้เป็นวันที่ฝั่งทางลูกชายเพื่อนของคุณพ่อจะมาคุยกับทางบ้านเรา ซึ่งทางฉันกับพี่มารีก็ไม่ได้มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหน มันเหมือนเป็นการมาดูตัวและตกลงเรื่องงานหมั้นประมาณนั้นแหละ
“เตรียมอาหารเสร็จหรือยังพริ้ง” พี่มารีเดินเข้ามาถามฉันในครัว
“เกือบเสร็จแล้วค่ะ”
“อื้อ ยกอาหารออกไปแล้วก็อยู่ในครัวนี่แหละนะ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นนอกบ้าน ไม่ต้องเข้าไปนั่งฟังคนใหญ่เขาจะคุยกัน”
“อะ ค่ะๆ”
ฉันไม่ได้คิดมากอะไรที่พี่มารีจะไม่ให้ฉันไปพบเพื่อนของคุณพ่อและลูกชายที่กำลังเดินทางมาดูตัวพี่มารี อะไรแบบนี้ฉันไม่ค่อยชอบอยู่แล้ว ฉันชอบอยู่คนเดียวมากกว่า
หลังจากยกอาหารไปเสริฟแล้ว ฉันก็เดินไปเล่นที่สวนหลังบ้าน เพื่อนของคุณพ่อกับลูกชายคงจะมากันแล้วแหละ
ฐานะทางบ้านของฉันอยู่ในระดับเศรษฐีเลยก็ว่าได้ แต่พอคุณพ่อกับคุณแม่เสีย ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะถูกยึด ฉันกำลังจะได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องพักเอาไว้ก่อน
ถ้าพี่มารีได้แต่งงานกับเพื่อนคุณพ่อ เขาคงจะช่วยเราได้เยอะ อย่างน้อยมากเราสองพี่น้องก็คงจะต้องมีที่อยู่ แทนบ้านหลังนี้ที่กำลังจะถูกยึดไป
“หวัดดี เธอรู้สึก คุ้นๆ หน้าฉันเหมือนที่ฉันคุ้นหน้าเธอมั้ย...”
เฮือก....
ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อหันไปมองด้านข้างของตัวเองแล้วเจอกับคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด คนที่ฉันภาวนาขอให้ไม่เจอเขาอีกตลอดชีวิตนี้
ผู้ชายที่นอนกับฉันในวันนั้น ทะ ทำไมเขาถึง...มาอยู่ที่นี่
“จะ จำผิดคนแล้วค่ะ พริ้งไม่คุ้น...”
“อ่า! ชื่อพริ้งหมือนกันซะด้วย แบบนี้คงไม่ผิดคนแล้วมั้ง...”