22.30 น.
“น้อง! บางไปหน่อย ขอที่มันแรงๆ กว่านี้”
“บางไปหน่อยหรือครับ”
“เอ่อ เอาเข้มๆ มาเลยนะ”
“ต้องขออภัยด้วยครับ ผมผสมตามสูตร ถ้าเพิ่มบางอย่างเข้าไปรสชาติมันจะเพี้ยน”
“งั้นก็คิดเงิน”
“คุณผู้หญิงลองสูตรนี้ดูมั้ยครับหากชอบบรั่นดีเข้มๆ”
สาวหน้านิ่งรนั่งสั่งเครื่องดื่มอยู่เคาเตอร์บาร์ทรงสูงสีเข้ม
คืนนี้อุตส่าห์แต่งตัวสวยมาออกเดตแต่ก็โดนเทกลางอากาศเข้าให้
อ้ายอันมาถึงสถานที่นัดเร็วกว่าเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง แต่พออีกคนโทรมาเลื่อนเธอก็แต่งชิมน้ำสีต่างๆ ในโรงแรมชื่อดังอยู่คนเดียวลำพัง
“ไอ้เครื่องดื่มพวกนี้มันเอาไว้ถือสวยๆ หรือไงวะ”
“ถ้าคุณผู้หญิงเน้นรสชาติหนักๆ แรงๆ งั้นลองสูตรนี้นะคะ”
“คุณผู้หญิงอะไรวะ เรียกพี่ก็ได้”
“อ่า...”
มาตรฐานการบริการที่ทางโรงแรมตั้งไว้คือการเรียกสรรพนามแทนตัวลูกค้าชายและหญิง ไม่ว่าจะวัยใดก็ให้เอ่ยเป็นในทางเดียวกันเพื่อให้เป็นมาตรฐาน
“สูตรไหนชงมา”
“ค่ะ”
“ครับ”
บารเทนเดอร์หนุ่มและสาวต่างพากันโชว์ฝีมือผสมเครื่องดื่มลงในแก้วทรงสวยเพื่อเอาใจลูกค้าคอแข็งรายนี้
สามชั่วโมงกว่าที่เธอสั่งมาชิมแต่ยังไม่แก้วไหนที่ชอบ
“ไหวไหวครับคุณผู้หญิง”
“สบาย”
พอแล้วสำหรับการดื่มไปหลายขนาน อ้ายอันเรียกเช็คบิลและรอบริการเรียกรถแท็กซี่
แต่เอ๊ะ!
“มองทำไมไม่ทราบ” ระหว่างนั่งรอรถไปพรางๆ อยู่ก็มีหนุ่มตี๋หน้าตาดีดูลูกคุณหนูมานี่งจ้องหน้า
ความปากไวใจกล้าบสกแอลกอฮอล์ในเลือดวิ่งพล่านทำให้อ้ายอันไม่กลัวที่จะเอ่ยปากถามเขาคนนั้น
“มาที่นี่บ่อยไหมครับ”
“บ่อยแล้วทำไมคะ คุณจะมาดื่มกับฉันเหรอ”
“เมารึเปล่า เมาใช่ไหม”
“คนอย่างฉันไม่เมาง่ายๆ ค่ะ แค่นี้กระจอกมาก” ไม่เมาแต่ก็ไม่ปกติ
อ้ายอันดูจะพูดมากคำกับคนแปลกหน้าผิดกับนิสัยของเธอ
“กลับไหวใช่ไหมครับ”
“ถามเหมือนจะไปส่งงั้นแหละ”
“เปล่าครับ! ถ้าไม่ไหวก็เปิดห้องนอนพักสักหน่อยดีไหมครับ”
“นี้นาย! ฉันดูแลตัวเองได้ จบนะ!”
ชายหนุ่มเสนอทางออกเพื่อให้ดีกับทุกฝ่าย
ลูกค้าสาวเมากลับบ้านไม่ไหวก็จะได้นอนพัก ไม่ต้องเสี่ยงภัยอันตราย ส่วนเขาก็ขายห้องได้ถือเป็นการ Up sales
“เดี๋ยว! ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ...” หญิงสาวเดินจากไปโดยไม่สนใจวราริช
เธอรีบตรงไปยังรถอท็กซี่และไม่นานก็มาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
“แปดสิบบาทครับ”
“เชี่ย!” ลูกค้าสาวควานมือหาในกระเป๋าใบเล็ก กระเป๋าอีกใบที่เก็บบัตรเครดิต คีย์การ์ดและเงินสดกลับไม่อยู่แล้ว
ไอ้ครั้นจะโอนให้ ลุงแท็กซี่ก็บอกว่าไม่มีบัญชี
ค่าแท็กซี่แค่แปดสิบบาทจะโอนทำไมให้เสียเวลา
“รอแปบนะคะพี่”
“จะไปไหนน้อง”
“เดี๋ยวไปยืมนิติคอนโดให้”
“แล้วถ้าน้องวิ่งไปทางอื่นพี่ก็อดได้เงินสิ ตะลงก็เอามือถือมามัดจำ” คนขับแอบเห็นว่ามือถือรุ่นที่อ้ายอันใช้นั้นมูลค่าก็แสนในระดับหนึ่ง
“เครื่องสามหมื่น ค่าแท็กซี่แปดสิบ ถ้าพี่ขับรถหนีละ”
“งั้นก็ห้ามลง โทรให้ใครเอาเงินให้จ่ายตอนนี้เลย และผมก็จะปล่อยให้มิเตอร์มันเดินต่อไป”
“แบบนี้ก็โกงดิ่!” ในขณะที่ผู้โดยสารด้ารหลังพยายามจะเอื้อมมือไปกดปุ่ม stop ที่หน้าจอ LED คนขับแท็กซี่ก็ไม่ยอมเสียเวลาเปล่าเช่นกัน จึงเกิดการยื้อยุดกันไปมาโดยไม่ทันสังเกตุคนด้านนอก
“งั้นก็จ่ายมาแค่สักที มันเสียเวลาทำมาหากิน”
“เท่านี้พอไหม”
แบงก์สีม่วงปริศนามาพร้อมมือใหญ่ส่งให้คนขับรถและอีกมือก็คว้าเอวอ้ายอันออกจากรถ
เจ้าตัวออกมายืนสองเท้างงๆ เพราะไม่น่ามีใครรู้ว่าเธอกำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ตอนนี้
“ไม่ต้องทอนครับ”
“เอ็งนี้ใช่ได้นะไอ้หนุ่ม แต่เมียเอ็งไม่ไหวเลย”
“เฮ้ย!!!”
“มันเสียเวลาพี่ไม่ใช่เหรอ ได้เงินแล้วก็ไปสิครับ” หญิงสาวตวัดตามองหน้าพร้อมทำท่าจะเอาเรื่องแต่ชายหนุ่มเจ้าของแบงก์ห้าร้อยขอโทษขอโพยคนขับ เขาพยายามประนีประนอมปัญหาที่เกิดขึ้น “คุณเป็นใครเนี้ย”
“เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะครับ”
“เรื่องไรห้ะ” อ้ายอันหันมองชายแปลกหน้าที่กอดประคองเอวเธอไว้
ความกรึ่มตึงในระดับหนึ่งทำให่เธอลืมสงวนตัวซ้ำยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพิ่มมองหน้าให้ถนัดขึ้นอีกนอด
“เรา...รู้จักกันเหรอ”
“ก็ไม่เชิง!”
...
“วันนั้นคุณจะให้ผมดูอะไรของคุณ”
“ฉัน?”
“ก็คุณนั่นแหละ ผู้หญิงอะไรถอดเสื้อให้ผู้ชายดู ชอบโชว์เหรอ”