Chapter 3: คู่ควงราคาห้าหมื่น

2056 คำ
เมื่อพวกหมออายุงานสูงทั้งหลายในโรงพยาบาลคะยั้นคะยอให้ศึกรบมาสังสรรค์ด้วยกันศึกรบไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาเจอเรื่องสนุกที่ผับแห่งนี้เลยด้วยซ้ำ พวกแร้งอยากจะรุมทึ้งเหยื่อ... ไม่ได้ดูเลยว่าเหยื่อนั้นเป็นลูกไก่หรือเป็นเหยี่ยว... เขาได้ยินมาว่าหัวหน้าแผนกบางคน รวมถึงผู้บริหารของโรงพยาบาลบางท่านอยากจะจับคู่เขากับลูกหลานของตัวเอง หวังว่าวิสัญญีแพทย์ที่ควบตำแหน่งเจ้าของโรงพยาบาลอย่างเขาจะเป็นขุมทองให้พวกบ้าเงินขุดกันได้ คิดน้อยกันเกินไปหรือเปล่า? นี่นึกว่าเขาจะบ้าผู้หญิงขนาดยอมให้ไอ้พวกตาแก่งี่เง่าถลุงเงินได้เหรอ? ศึกรบตามมาสังสรรค์กับพวกรุ่นพี่หมอในโรงพยาบาลด้วยความจำยอม หมอที่ทำงานจริงจังที่ไหนจะมีเวลามาสังสรรค์ได้แบบนี้เว้นแต่ตัวเขาที่เป็นวิสัญญีแพทย์ซึ่งมีเวลาเข้าออกงานแน่ชัด น้อยครั้งจะมีกรณีฉุกเฉิน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพวกหมอรุ่นพี่เหล่านี้ไม่ได้ทุ่มเทให้การทำงานแม้แต่น้อย ทุกอย่างในผับมันดูน่าเบื่อ ห้องวีไอพีดูดีก็จริง แต่ก็ยังน่าเบื่ออยู่ดี ชัชชัยผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกอายุรแพทย์บอกว่าคืนนี้รองผู้อำนวยการอยากมาสังสรรค์ด้วย เห็นว่าจะพาหลานสาวเพิ่งเรียนจบหมอมาเปิดหูเปิดตาด้วยเพราะเธออายุ 27 ทั้งสวยทั้งฉลาด แต่ยังไม่เคยเข้าผับเข้าบาร์เลยสักครั้ง แค่ฟังก็รู้ว่าโกหก สาว 27 ที่ไหนวะไม่เคยเข้าผับบาร์ บวชชีพราหมณ์หรือไงวะ? ศึกรบอดคิดไม่ได้ว่าเพราะอย่างนี้ทุกคนถึงอยากให้เขามาร่วมสังสรรค์หรือเปล่า? อยากให้เขาได้เจอกับหลานสาวของท่านรอง... ท่านรองและหลานสาวมาสายนิดหน่อย ศึกรบและหมอคนอื่นมาถึงก่อนท่านรองเกือบสิบนาที น่าจะตามสไตล์คนสวยที่อยากเปิดตัว เหมือนในหนังที่นางเอกมาช้ากว่าที่นัดหมาย พระเอกที่มาก่อนพอเห็นแล้วต้องตะลึงอะไรประมาณนั้น พอท่านรองมาถึงก็โทรเรียกหมอชัชชัยให้ออกไปรับ ทุกคนในห้องที่เกรงอำนาจท่านรองก็รีบแห่ไปรับกันหมด เว้นแต่ศึกรบ... ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงเพราะแม้ตำแหน่งในที่ทำงานของศึกรบจะต่ำกว่าท่านรองผู้อำนวยการหลายเท่าแต่ทุกคนล้วนรู้ดีว่าเขาคือทายาทชายเพียงคนเดียวของตระกูลเลิศรักษาวงศ์ที่บิดาเพิ่งเสียชีวิตไปได้เพียงสามเดือนและตัวเขาก็บินกลับมาจากอังกฤษเพื่อมารับช่วงกิจการต่อ การเข้าทำงานที่โรงพยาบาลก็เหมือนเข้าไปดูระบบการทำงานเพื่อรอวันขึ้นบริหารก็เท่านั้น แล้วแบบนี้ใครกันจะกล้าขัดเจ้าของโรงพยาบาลได้? และนับเป็นโชคดีของศึกรบที่ขี้เกียจออกไปต้อนรับท่านรอง เขาจึงมีโอกาสได้เจอคนที่น่าสนใจแบบแม่สาวเบบี้ที่ตอนนี้ทำหน้างุนงงเมื่อเขาประกาศว่าเขาอยากได้เธอมาเป็นแขกในห้องวีไอพีของเขา “เออ... คุณผู้ชายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ? ฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟนะคะ ไม่มีสิทธิ์มานั่งเป็นแขกของพวกวีไอพี” กนากานต์เอียงหัวไปด้านข้างแล้วมองเขาด้วยสายตาประหลาด เหมือนเคลือบแคลงสงสัยและไม่ไว้ใจไปในตัว “ห้าหมื่น นั่งเป็นเพื่อนผมแค่คืนนี้... ทำหน้าที่เป็นคู่ควงหลอก ๆ ไม่ใช่ทั้งคืนด้วย อย่างมากก็แค่ 2-3 ชั่วโมงได้มั้ง คุณบอกว่าถ้าเงินถึงก็โอเคนี่นา อืม... ติดอยู่นิดเดียว คุณแต่งตัวเป็นเด็กเสิร์ฟแบบนี้ไม่ค่อยโอเค ไม่เหมาะเป็นคู่ควงผมเลย เดี๋ยวถ้าคนอื่นกลับมาเห็นว่าผมเอาเด็กเสิร์ฟมานั่งเป็นเพื่อนคงไม่ดีแน่..” แคว่ก! กนากานต์ใช้มีดคัตเตอร์ที่เธอพกไว้สำหรับเปิดกล่องของในสต๊อกกรีดตามขวางลงไปบนกางเกงสแล็กส์สีดำแล้วฉีกมันออกจนเป็นกางเกงขาสั้นทันที “เรื่องชุดไม่มีปัญหา ขอแค่เงินห้าหมื่นไม่ใช่เรื่องโกหก ฉันเปลี่ยนชุดได้ภายในห้านาทีโดยที่คุณไม่ต้องกลัวพวกเพื่อนวีไอพีของคุณจะว่าคุณคว้าเอาเด็กเสิร์ฟมานั่งดริงก์ด้วย” กนากานต์กล่าวน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ศึกรบมองสาวน้อยตรงหน้าแล้วยิ้มอย่างพึงใจ ความจริงเธอไม่ใช่เด็กสาวแล้ว แต่สำหรับเขาที่อายุย่าง 30 มองยังไงเธอก็ยังคงเป็นสาวน้อยอยู่ดี “หลับตาสิคุณ ฉันจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ถ้าจะให้ฉันเปลี่ยนชุดทันก่อนที่พวกเพื่อนคุณจะกลับมาก็ต้องเปลี่ยนกันตรงนี้แหละ ไม่มีเวลาไปห้องน้ำนะ” กนากานต์สั่งคนตัวสูงที่บัดนี้นั่งเอนหลังพิงโซฟาแล้วมองเธอจัดการฉีกขากางเกงอีกข้างออกเผยให้เห็นเรียวขาเนียนและรองเท้าบู้ทครึ่งข้อที่สีดำเธอใส่ทำงานอยู่ ศึกรบยักไหล่แล้วถอดแว่นตาออก “ครั้งล่าสุดที่ผมวัดสายตาได้ -900 ถ้าถอดแว่นออกแค่เมตรเดียวผมก็มองไม่เห็นแล้วแหละ” หลังจากจบประโยคกนากานต์ก็ถอนหายใจน้อย ๆ แล้วรีบถอดเสื้อกั๊กสีดำและเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวของเธอออก ครั้งล่าสุดที่ศึกรบวัดสายตาก็ประมาณ... 2 ปีที่แล้วได้ หลังจากนั้นก็ผ่าตัดเลสิกเรียบร้อย แต่ยังชอบใส่แว่นอยู่เพราะมันทำให้เขาดูมีวุฒิภาวะพอที่จะกำราบพวกคนแก่หัวโบราณที่เห็นว่าเขาเป็นแค่เด็กอมมืออายุเพิ่งจะ 30 ก็จะขึ้นมากุมบังเ**ยนคุมโรงพยาบาลใหญ่ระดับประเทศแล้ว สรุปโดยย่อคือตอนนี้ศึกรบนั่งมองดูสาวน้อยเปลื้องผ้าต่อหน้าต่อตาด้วยความสุขใจ ยัยเด็กนี่ซ่อนรูปไม่น้อย... มองข้างนอกก็พอรู้อยู่ว่ามีหน้าอกหน้าใจอยู่พอตัว แต่ยิ่งแก้ผ้ายิ่งเห็นชัดว่าโนมเนื้อของเธอนั้นมันอวบแน่น ไม่ได้ใหญ่จนล้นน่ากลัว แต่คิดว่าถ้าเขาขยำก็คงเต็มไม้เต็มมือ ส่วนเอวก็คอดเล็ก... เวลาจับเอวเล็ก ๆ นั่นกระแทกคงมันน่าดู... ยิ่งเห็นยิ่งคอแห้ง ชายหนุ่มหน้าสวยจึงยกแก้วน้ำเปล่าที่บริกรนำมาเสิร์ฟเมื่อครั้งแรกที่พวกเขามาถึงขึ้นจิบแล้วนั่งมองโชว์อันวาบหวิวหัวใจตรงหน้าต่อ ในระหว่างที่กนากานต์กำลังดัดแปลงชุดของเธออยู่นั้นหญิงสาวเองก็มองหนุ่มหน้าสวยที่จ้องเธอไม่ละสายตาอย่างคลางแคลงใจ แววตาของเขาไม่ยักเหมือนคนมองอะไรไม่เห็นสักนิด กนากานต์จ้องเข้าไปในดวงตาสีดำนิลคู่หวานฉ่ำของหนุ่มหน้าสวยแล้วขยับเข้าไปใกล้จนจมูกเล็กรั้นของคนตัวน้อยแทบชนกับจมูกโด่งเรียวของเขา “ถึงผมจะสายตาสั้นแค่ไหน ถ้าคุณเข้ามาใกล้ขนาดนี้ผมก็เห็นหมดนะ ไอ้นมใหญ่ ๆ ไซซ์สัก 32 C นี่ก็เหมือนกัน ตอนนี้คือเห็นชัดแจ๋วเลยแหละ” เขาบอกเสียงเรียบแล้วจิ้มไปที่เนื้อเนินนิ่มนั่นทีหนึ่ง มันนิ่มจนเจ้าท่อนเอ็นกลางกายของหนุ่มหล่อเริ่มแข็งขืนขึ้นมาทันทีที่นิ้วเรียวยาวของเขาแตะลงไปบนเนื้อนวลเลยทีเดียว เพี้ยะ! กนากานต์ตบลงไปบนมือข้างที่เขาใช้จิ้มหน้าอกเธอทันที “ห้าหมื่นที่ว่าไม่รวมค่าจิ้มนม! ห้ามแตะตัวค่ะ แตะตัวชาร์จเพิ่มนะคะคุณผู้ชาย” กนากานต์สั่งน้ำเสียงจริงจังแล้วรีบถอยร่นออกมาทันที “ก็คุณยื่นนมเข้ามา ผมนึกว่าคุณอยากให้ผมจิ้มดูว่าเป็นของแท้ ไม่ใช่ซิลิโคน” “ไม่ได้ยื่นนมย่ะ! ยื่นหน้าย่ะ! ก็ใครใช้ให้มองเหมือนเห็นชัดแจ๋วกันล่ะ ฉันก็ต้องสงสัยสิว่าคุณสายตาสั้นจริงหรือเปล่า” หญิงสาวเถียงใหญ่ เธอเริ่มสวมเสื้อกั๊กกลับเข้าไปแล้วติดกระดุมที่สูงมาถึงแค่ตรงร่องอกอิ่มพอดิบพอดี สาวน้อยยัดชายเสื้อกั๊กลงไปในกางเกงที่เธอฉีกขาให้สั้นลงแล้วหยิบเอาเสื้อเชื้ตแขนยาวสีขาวของเธอมาผูกเอว กนากานต์หยิบเศษชายกางเกงที่เธอฉีกทิ้งโยนใส่ถังขยะที่อยู่ตรงมุมห้องจากนั้นเดินกลับมาหมุนตัวให้ศึกรบดู “ใส่แว่นกลับเข้าไปแล้วกรุณาดูด้วยค่ะว่าฉันพอจะเหมาะสมกับค่าจ้างห้าหมื่นหรือเปล่า?” หญิงสาวกล่าวแล้วฉีกยิ้มกว้าง เธอค่อนข้างจะมั่นใจในเซนส์ทางด้านแฟชั่นของเธอไม่น้อย และบัดนี้เธอก็เหมือนอยู่ในชุดมาเที่ยวเธคผับ ไม่ต่างจากพวกสาวสวยที่เต้นเร่าอยู่กลางฟลอร์เลย “อืม... สวย แต่คุณลืมไปอย่าง” ศึกรบยกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจในความหัวไวของสาวน้อย จากนั้นจึงยกนิ้วกระดิกเรียกเธอให้เข้ามาหาเขา กนากานต์ยืนงงอยู่ครู่เดียวก็เดินเข้าไปใกล้หนุ่มหล่อตามที่เขาสั่ง ศึกรบยืดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเอื้อมมือไปด้านหลังคอของหญิงสาว เธอได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่สดชื่นเหมือนสายลมแผ่วเบาที่ไล้ผิวยามเย็นออกมาจากตัวเขา ผู้ชายที่ใช้กลิ่นล่อลวงหญิงสาว... แค่ดมดูก็รู้ แม้ไม่ใช่หมาแต่เรื่องมายาผู้ชายไอ้เบบี้ไม่เคยเดาพลาด หนุ่มหล่อดึงยางรัดผมออกจากหางม้าตึงเปรี๊ยะของเจ้าหล่อน ปล่อยให้ผมสีน้ำตาลยาวเลยบ่ามาเล็กน้อยคลอเคลียอยู่ตามกรอบหน้าเล็กดูไร้เดียงสา... ถึงเจ้าของใบหน้าจะนิสัยไม่ไร้เดียงสาเหมือนหน้าตาก็ตาม “โอเค แบบนี้ดูเซ็กซี่ขึ้นหน่อย เหมาะจะเป็นคู่ควงหลอก ๆ ของผมขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว ถ้าเติมลิปบนปากซีด ๆ นั่นเสียหน่อยก็...” เขายังพูดไม่ทันขาดคำกนากานต์ก็ล้วงลิปสติกแท่งเล็กจากในกระเป๋ากางเกงมาวาดปากรอบหนึ่งแล้วเม้มปากอิ่มเข้าหากันให้สีแดงสดกระจายไปทั่วริมฝีปาก “เออ... สวยแล้ว... นี่กระเป๋ากางเกงคุณเก็บอะไรมากมายนักหนา? ไม่น่าจะชื่อเบบี้เลยนะเนี่ย น่าจะชื่อโดราเอมอน” ศึกรบอดแซวไม่ได้ “ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น พูดเรื่องเงินห้าหมื่นของฉันพอค่ะ ขออนุญาตกดอัดเสียงนะคะ” สาวน้อยพูดแล้วล้วงมือถือออกมากดอัดเสียงทันที “บทสนทนาต่อไปนี้ถือเป็นสัญญาที่ทำด้วยความยินยอมพร้อมใจระหว่างข้าพเจ้านางสาวกนากานต์ สมานกุล และ...?” สาวน้อยหันไปเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามกับชายที่อยู่เบื้องหน้า “... นายศึกรบ เลิศรักษาวงศ์” เขาต่อให้แล้วยิ้มในความรอบคอบของเธอ “เราสองคนตกลงเป็นนายจ้างและลูกจ้าง ค่าจ้างห้าหมื่นบาท ต่อการจ้างงาน 3 ชั่วโมง ทีนี้... คุณต้องระบุมาก่อนว่าหน้าที่คู่ควงที่คุณว่าต้องทำอะไรบ้าง? แตะเนื้อต้องตัวไม่ได้นะ” กนากานต์ออกกฎก่อน “ก็แค่ทำตัวเป็นคู่ควงผม ไอ้พวกหมอแก่ ๆ พวกนั้นจะได้ไม่ต้องยัดเยียดผู้หญิงคนอื่นให้ผม แตะเนื้อต้องตัวอาจต้องมีบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นเอาทำเมียแน่ ขอแค่ให้มันดูสมจริงสมจังหน่อย จะชาร์จเพิ่มก็บวกไป ผมจ่ายไม่อั้น” ศึกรบพูดแล้วยักไหล่ “โอเค ตามนั้น” สาวน้อยยิ้มกริ่มแล้วกดจบการบันทึกเสียง แค่คิดถึงเงินมหาศาลเท่ากับเงินเดือนสองเดือนภายในคืนเดียวใจเธอก็เบาฟูเป็นนุ่นลอยได้แล้ว เดี๋ยวแม่จะแตะแขน ซบอก ลูบหน้าแล้วชาร์จไปแตะละพันเลยเชียว คอยดู อยากโชว์รวยดีนัก ต้องเอาให้กระเป๋าแบนกลับบ้านให้ได้!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม