Ep.2 เอาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆ (BEHIND STORY 2)
BEHIND STORY (2)
พีท
ผมไม่ได้นับเวลา ผ่านมากี่วัน กี่เดือน หรือกี่มื้อทานข้าวที่นั่งตรงข้ามกันในโรงอาหาร รู้แค่ว่าตอนนี้ผมอยู่ปีสองแล้ว เธอแม่งเป็นอะไรนักหนาก็ไม่รู้… ไม่รู้จักสังเกตเลยเหรอว่าเวลาเจอหน้ากันแล้วผมมองเธอด้วยสายตาแบบไหน
ไม่รู้เลยเหรอว่าผมแกล้งหยิบขวดน้ำให้เพราะอยากให้เธอพูดคำว่าขอบคุณพร้อมรอยยิ้มหวาน
แต่ไม่เลย… เธอมองผมเป็นแค่สมาชิกในแก๊งคนหนึ่ง มองเป็นแค่เพื่อนที่นั่งเถียงกับเธอเรื่องเมนูอาหารในช่วงพักกลางวันทุกวัน
เราสนิทกันมากขึ้นก็จริง แต่การกระทำแม่งโคตรเพื่อนเลย เธอกอดคอเมากับผม เถียงกับผม แถมยังด่าผมว่าสูงเหมือนเปรต หรือว่า ที่ผู้หญิงด่าหมายถึงผู้หญิงรัก ถุย ไม่ใช่แล้วล่ะ เกิดมาขายาวผิดตรงไหน แบบนี้มันคือบอดี้ที่สาวๆ ใฝ่ฝัน แต่เมลญ่าไม่ได้รู้สึกว่าผมพิเศษในสายตาเธอเลย
ถ้าแสดงออกดีๆ ไม่รู้ตัว หรือต้องลากเข้าห้องเลยไหม จะได้จบๆ ไป
นี่พูดจริงนะ ไม่ได้ขู่ เพราะถ้าคะแนนความพยายามผมเปลี่ยนเป็นเกรดได้ ตอนนี้น่าจะได้ A+ เพราะผมทำทุกอย่างแล้ว
แอบหอมแก้มตอนเมาก็ทำมาแล้ว แต่เมลญ่าพูดว่าเมื่อกี้ยุงบินชนแก้ม ยุงเหี้ยไรวะ น่าโมโหชะมัด
แอบหอมหัวตอนที่เธอยืนหันหลังให้ผมก็ทำมาแล้ว
ไปส่งเธอที่คอนโดตอนเมาก็ทำมาแล้ว ไม่แค่นั้น เธอมานัวเนียกอดผมเพราะคิดว่าผมเป็นหมอนข้าง… เธอก็ทำมาแล้ว
เธอนัวเนียกอดผม ฟัดผม เอาแก้มนุ่มๆ มาถูกับหน้าอกแกร่งของผม แล้วพูดเสียงงัวเงียว่า... ‘หมอนข้างของเมลญ่าหอมจังเลย~ กอดแล้วอุ่น’
หมอนข้างบ้านเธอยาว 187 ซม. เหรอวะ พูดแล้วมีน้ำโหฉิบหาย ที่กอดอยู่น่ะ กูเองครับ ยัยนี่ชักจะมากไป เล่นกับระบบมากเกินไปแล้ว
สงสัยที่ผ่านมายังใกล้กันไม่พอ ได้… ได้เลย
ร้านสะดวกซื้อหน้าคอนโด
ภีมกับอิลยืนมองตึกสูงตรงหน้า แล้วหันไปมองพีทที่กำลังจิบลาเต้แบบมาดเนิร์ดสุดๆ “ไอ้พีทมึงย้ายคอนโดทำไมวะ” อิลถามอย่างแปลกใจ เพิ่งจะอยู่คอนโดเดิมได้สองปีกว่าๆ เอง
“มึงจะเสือกเรื่องของมันทำไมวะ พ่องมันเป็นเจ้าของคอนโดหลายโครงการหลายแห่ง มันจะอยู่ที่ไหนก็เรื่องของมัน” พีทยังไม่ทันได้ตอบคำถามเพื่อน แต่ภีมตอบให้ก่อนแล้ว แต่ภีมเว้นไปสองวินาที แล้วหันกลับมาถามต่อ
…“เออ แล้วมึงย้ายทำไมวะ” สุดท้ายภีมเองก็อยากรู้ไม่ต่างจากอิล
“ขี้เสือกทั้งคู่”
“ไอ้สันขวาน กูถามดีๆ นะ”
“ไม่มีเหตุผล กูแค่อยากย้าย”
เหตุผลน่ะมีครับ แต่ผมไม่จำเป็นต้องบอกเพื่อนหรอก ว่าสาเหตุที่ผมย้ายคอนโดมาอยู่ที่นี่ เป็นเพราะอยากย้ายมาอยู่โครงการเดียวกันกับคอนโดเมลญ่า ไม่เอาอ่ะ ไม่บอกหรอก เขินสัส ไอ้พวกเวรนี่ยิ่งชอบแซว ปากก็หมา ไม่งั้นนะเสียระบบหมด
แต่ผมกับเมลญ่าอยู่คนละตึกกัน คอนโดแห่งนี้เป็นโครงการของป๊าพอลผมเอง ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อสามปีที่แล้ว เข้าทางผม เหลือก็แค่อ่อย อ่อยให้เธอติดกับดักรัก
และแล้วจู่ๆ ก็มีเสียงหวานที่ฟังดูคุ้นเคยเอ่ยทักทาย
“อ้าว เจอคนกันเองนี่นา มาทำอะไรกันที่นี่เหรอ”
“อ้าวเมล บังเอิญจังเลย อยู่ที่คอนโดนี้ด้วยเหรอ” ภีมถามอย่างแปลกใจ เพราะเขาก็ไม่เคยรู้หรอกว่าเพื่อนพักที่คอนโดไหน รู้แค่ว่าอยู่แถวทำเลนี้
“ใช่ๆ แต่เราอยู่ตึกโน้นนะ”
“บังเอิญดีนะ” อิลน่าจะเริ่มได้กลิ่นตุๆ ปากพูดกับเมลญ่าแต่สายตาจับผิดอยู่บนใบหน้าเพื่อนรักฮอตเนิร์ดหลุด QC ของเขา
“บังเอิญยังไงเหรอ”
“ช่างมันเถอะ ว่าแต่นี่มาซื้ออะไรอ่ะ”
“หิวอะดิ ก็เลยลงมาหาข้าวกิน”
“พอดีเลย เรากำลังจะกินชาบูกัน ไปทานด้วยกันป่ะ”
“ที่ไหน”
“ห้องไอ้พีท” อิลรู้อิลเห็น อิลก็เลยทอดสะพานให้เพื่อน
“...” เมลญ่าเกิดความสงสัย เพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพีทอยู่ที่นี่ โครงการเดียวกันกับเธอ
“งั้นเดี๋ยวเราไปรับลิซก่อน เตรียมของกันพลางๆ เลยนะ”
อิลไม่รอช้า รีบขับรถไปรับเพื่อนสาวคนสนิททันที
“กูไปตกลงกับมันตอนไหนวะว่าจะแดกชาบู ช่างแม่งเถอะ ถ้างั้นเดี๋ยวกูกับเมลซื้อวัตถุดิบก็แล้วกัน ส่วนมึงไอ้พีท กลับห้องไปเตรียมอุปกรณ์รอจะได้ไม่เสียเวลา”
“อืม”
ภายในห้องของพีท
หลังจากที่ซื้อวัตถุดิบเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว ภีมนั่งดื่มเบียร์รอ เขาไม่ได้สนใจภายในห้องครัว เพราะสิ่งที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ราคาแพงมันน่าสนใจมากกว่า ทางสะดวกของพีทจึงบังเกิด
“นายจะมายืนเบียดฉันทำไมเนี่ย”
“เบียดตรงไหน ก็ฉันจะหยิบของตรงนั้น”
“บอกกันก็ได้ป่ะ เดี๋ยวหยิบให้เอง ทำไมถึงชอบมาโดนตัวฉันนักนะ”
“นั่นสินะ”
“...”
“ไม่รู้จริงๆ เหรอ”
“มะ ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พีทชอบเอาตัวเองมาอยู่ใกล้ฉัน บ้างก็ชอบเอาหน้ามาอยู่ใกล้ๆ เวลาพูดกัน เขาอ้างว่าไม่ได้ยิน แล้วก็หาว่าฉันตัวเตี้ยก็เลยต้องโน้มใบหน้ามาคุยใกล้ๆ เป็นแบบนี้มานานแล้วด้วย ตอนแรกก็ว่าจะไม่คิดอะไรหรอก แต่ภีมกับอิลไม่ได้ทำแบบนี้ไง มีพีทคนเดียวที่ชอบมาสัมผัสตัวฉันที่มันดูจะมากกว่าความจำเป็นไปหน่อย
“หึ ความจริงก็…”
“อะไร”
“เปล่า”
“นี่ มาหลอกให้ฉันอยากรู้เหรอ”
“ตัวสูงกว่านี้เมื่อไหร่ฉันจะบอก”
“หนอยยย~ นายเองหรือเปล่าที่สูงเหมือนเปรต ฉันส่วนสูงปกติย่ะ ชิ” ยอมไม่ได้ ชอบว่าฉันเตี้ยตลอดเลย สงสัยโคตรพ่อโคตรแม่ของบ้านพีทคงจะตัวสูงกันหมด
“หึ ยัยแคระกุมารทอง”
“นี่” ฉันยกมือกำลังจะตีที่แขนแกร่ง ทว่า…
“ตีฉันสิ หอมนะ”
“...”
“ฉันหมายถึงหอมหัวใหญ่น่ะ หั่นด้วย”
“...”
“หรือเธออยากได้อยากอื่น”
“...”
“เช่น อยากให้ฉันหอมแก้มเธอ”
“อะ ไอ้บ้านี่” ฉันรีบหันหลังหลบหน้า ยกมือขึ้นลูบๆ ที่ตำแหน่งหัวใจ ใจสั่นทำไม ใจเต้นแรงทำไมเนี่ย
“หึ”
“หยิบจานในตู้ชั้นบนให้หน่อยสิ” ฉันเปลี่ยนเรื่องคุยและกำลังจะเดินออกจากจุดนั้นเพื่อให้คนตัวสูงกว่าเอื้อมจานใหญ่ด้านบนให้ แต่ก็หลบไม่ทัน
พีทยืนช้อนหลังของฉันแล้วค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นไปหยิบจานใบใหญ่ที่ชั้นวางด้านบน
“ใบนี้เหรอ”
“มะ ไม่ใช่ อีกใบนึง”
“งั้นใบนี้สินะ”
ในจังหวะที่พีทเอื้อมไปหยิบ หน้าอกแกร่งของเขาก็สัมผัสเข้ากับแผ่นหลังบาง เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยแอบหัวหอมเธอแบบที่ชอบทำ แต่ทว่าครั้งนี้เมลญ่ารู้ตัว รู้ตัวแต่ก็ชะงักนิ่ง ความรู้สึกตอนนี้มันรู้สึกแปลกๆ
“ยัยเมล มีอะไรให้ชะ…”
พรึบ!
“เอ่อ มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า”
ลลิซที่มาถึงก็รีบวิ่งเข้าครัวเพื่อจะช่วยเพื่อนสาวเตรียมวัตถุดิบ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะมาเห็นอะไรแบบนี้ แต่ก็ต้องทำทีเป็นไม่เห็นอะไร เพราะตอนนี้เมลญ่าแก้มแดงลามไปถึงใบหูแล้ว แบบนี้มันอาการเขินชัดๆ
.
.
ลมเย็นพัดเบาๆ บนชั้นดาดฟ้าของคอนโด อภิสิทธิ์เหนือใครเพราะเขาเป็นลูกชายของเจ้าของโครงการ ทั้งห้าคนเปลี่ยนสถานที่มานั่งชิลกันที่นี่ เพราะหากทานชาบูหรือปิ้งย่างในห้องแอร์ พีทไม่ชอบ กลิ่นอาหารมันทำลายห้องของเขา เขาค่อนข้างเรื่องเยอะพอสมควร
กลิ่นน้ำซุปชาบูกำลังเดือดเบาๆ ผักวางเรียงกันน่ากิน หม้อชาบูที่มีทั้งปิ้งย่างและหม้อต้มในเครื่องเดียวกัน สองสาวเหมือนจะมีความสุขกับการกินจนลืมสังเกตคนรอบข้าง วิวบนชั้นดาดฟ้ามันดูสวยงามน่ามอง ทั้งยังมีอาหารที่ชอบทาน มีเพื่อนคุยเล่นเล่าเรื่องตลก บรรยากาศมันโคตรจะดี โดยเฉพาะเมลญ่าที่ดูสนุกสนานกับการทานชาบูและปิ้งย่างเป็นพิเศษโดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า พีทนั่งจ้องมองแค่เธอเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้นั่งเฉยๆ เขาคอยย่างเนื้อหมูให้เธอ คอยกลับด้านให้เธอ จนได้สีเนื้อที่สวยน่าทาน ทุกชิ้นค่อยๆ วางลงจนจานเมลญ่า เธอแปลกใจที่เขาดูแล เอาใจ โดยไม่พูดอะไรเลย แต่ก็ขอบคุณเขาอยู่บ้าง
หนุ่มๆ ไม่ได้เน้นทานอาหารตรงหน้ามากเท่าที่ควร พวกเขานั่งดื่มเบียร์กันเสียมากกว่า บรรยากาศตอนนี้มันเหมาะ มันกำลังดี และมีแต่เสียงหัวเราะของสาวๆ ที่ดังเป็นระยะ เพราะความตลกของภีม แค่ภีมคนเดียวก็เอาอยู่ บรรยากาศตรงหน้าจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะไม่ขาดสายเลย
“ถ้าเธอชอบที่นี่ก็มาอีกได้”
“อะไรวะ ชวนแค่ยัยเมล” ภีมพูดจาราวกับน้อยใจแต่ความจริงไม่ได้น้อยใจหรอก เขาเองก็เริ่มสังเกตอะไรบางอย่างแล้วเช่นกัน
“มากันทุกคนนี่แหละ ใช่ไหมพีท นายชวนทุกคน”
“...” พีท
“...” ภีม
“...” อิล
“...” ลลิซ
“...” เมลญ่า
ทุกคนเงียบพร้อมกันราวกับเป็นใบ้ พีทไม่ตอบแล้วใครจะตอบ แล้วการที่พีทเงียบไปแบบนี้ก็หมายความว่า เขา... ไม่ได้ชวนทุกคนตามที่เมลญ่าพูดก่อนหน้านั้นเลย
“ไอ้สัส แบบนี้มีเสี้ยนตำ”
“อะไรของมึงวะไอ้ภีม” อิลทักท้วงอย่างไม่เข้าใจ
“ไอ้หน้ากบ กูหมายถึงมีเงื่อนงำเว้ยไอ้โง่ ไม่เข้าใจหรือไงคำเลี่ยงน่ะ”
“เลี่ยงหาพ่องมึงดิ เลี่ยงซะไกลจนกูไม่เข้าใจ”
“...”
พีทส่ายหน้าเอือมระอาเพื่อนทั้งสองคน เพื่อนคนนึงโตมาโคตรหล่อแต่เสือกโง่ ส่วนอีกคนเติบโตมาก็โคตรหล่อมากเช่นกัน แต่ทำให้คุณครูภาษาไทยต้องปวดหัว ภาษาไทยวิบัติเพราะภีมไปแล้ว 90 %
✨✨✨