ร้ายรัก(พ่อของลูก) บทที่ 7
สายๆ ของวันนั้น..
"ทำไมเรายังไม่ไปเรียนอีก" ป้าตื่นขึ้นมาเห็นว่าฟีฟ่ายังไม่ออกไปจากห้องเลย แต่ที่จริงนางตื่นมาทีหนึ่งแล้ว
"จุ๊จุ๊ครับป้า" ฟีฟ่าหันมองไปดู คนที่กำลังให้นมลูกอยู่ "อุ๊ย.." มองไปก็เห็นว่าข้าวทิพย์มองมาเช่นกัน
"ไหนบอกไม่มีเรียนไง"
"ถึงไปก็ไม่ทันแล้ว"
"นายทำแบบนี้คิดว่าฉันจะดีใจเหรอ"
"อย่าพูดเสียงดังสิเดี๋ยวลูกก็ตกใจหรอก"
"ลูกฉันไม่ใช่ลูกของนาย"
ฟีฟ่ามองต่ำลงเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายไม่เห็นความดีของเขาเลย แต่ทันใดนั้นดวงตาคมเหลือบมองขึ้นมาใหม่ "..รอถามลูกตอนโตแล้วกัน อย่าเพิ่งตัดสินใจแทนลูก"
"......." คนบ้าอะไรพูดยังไงก็ไม่โกรธ ทีแรกกำลังจะง้อแล้วเชียว เพราะคิดว่าเขาน้อยใจ
"ป้าก็ไม่ชอบให้เราทำแบบนี้หรอก ถ้ามีเรียนก็ไปเรียน เลิกเรียนจะมาหาไอ้ข้าวมันป้าก็ไม่ว่า"
"ผมเป็นพ่อคนแล้วนะครับอยากดูแลลูกกับเมีย"
"นี่!"
อุแง้ อุแง้
"เห็นไหมบอกแล้วว่าลูกจะร้อง" ฟีฟ่าตำหนิข้าวทิพย์ที่ตะคอกเขาเมื่อสักครู่ "โอ๋มาหาพ่อดีกว่าครับแม่ใจร้าย"
ดึกๆ คืนนั้น..
"จะเข้าห้องน้ำเหรอ"
"อืม"
"ไม่ต้องลุกเลยเดี๋ยวฉันจะอุ้ม"
"นายจะบ้าเหรอ"
"ไม่บ้าหรอกเดี๋ยวก็ราดอีก" ไม่ใช่ว่าข้าวทิพย์เพิ่งจะลุกเข้าห้องน้ำ แต่เขาสังเกตเวลาเธอลุกเข้าห้องน้ำช่วงดึกตอนที่นอนไปแล้วน้ำคาวปลาไหลเยอะมาก
ข้าวทิพย์ก็เลยยอมให้ฟีฟ่าอุ้มพาเข้าห้องน้ำ
"ขอบใจนายมากนะ"
"อะไรนะ?"
"ก็บอกว่าขอบใจไง"
"ผีในโรงพยาบาลเข้าหรือเปล่า"
"ไอ้บ้า!"
"แบบนี้สิมันถึงเหมือนเธอ"
"คนบ้าอะไรไม่อยากให้พูดดีด้วย"
"พูดได้ครับแต่รู้ไหมว่ามันขนลุก"
พอพูดจบเท่านั้นแหละทั้งสองก็มองต่ำลงไปดูพื้นห้องน้ำ...
"เห็นไหมล่ะมัวแต่ชวนคุย ออกไปเลยนะ!"
"เดี๋ยวจะทำความสะอาดให้ก่อน" เพราะตอนนี้น้ำคาวปลาที่ยังค้างอยู่ไหลออกมาอีก โชคดีที่เลอะแค่พื้นห้องน้ำ
"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันทำเอง"
"ก้มก็ลำบากจะทำเองได้ยังไง ไปนั่งชักโครกให้เรียบร้อย"
"นายอยู่ตรงนี้ฉันจะนั่งได้ยังไงล่ะ"
"พูดเหมือนไม่เคยเห็น"
"ไอ้ฟีฟ่าบ้า!" ที่จริงฟีฟ่ายังไม่เห็นหรอกตอนที่พยาบาลล้างแผล ฟีฟ่าเปิดประตูเข้ามาพอดี ข้าวทิพย์คิดว่าฟีฟ่าเห็นแต่เขาไม่ได้มองเขารีบหันหลังก่อน
เช้าวันต่อมา..
"ทำไมโรงพยาบาลให้ออกเร็วจังล่ะครับ น้ำคาวปลาก็ยังไม่หมดเลย"
"มันไม่หมดง่ายหรอก เราต้องไปนอนพักรักษาตัวที่บ้านต่อ เป็นกฎของโรงพยาบาลเขาไม่ให้อยู่นาน"
"แต่เราก็จ่ายค่าห้อง"
"จ่ายค่าห้องน่ะมันใช่..แต่ค่าหมอเราใช้สิทธิ์ของรัฐบาล"
"ผมช่วยจ่ายก็ได้นี่ครับ"
"แล้วนายจะเถียงป้าทำไม ฉันดีขึ้นมากแล้ว"
หน้าโรงพยาบาล..
"ข้าว?"
"รีบไปเร็ว" ข้าวทิพย์แกล้งไม่ได้ยินคนที่เรียก พอขึ้นแท็กซี่ได้เธอก็บอกแท็กซี่ให้รีบออกไป
"ใครเหรอข้าว" ฟีฟ่าหันมองกลับไปดูผู้หญิงที่กำลังวิ่งตามท้ายรถแท็กซี่
"แล้วนายจะหันไปมองทำไม"
"ข้าว!" คนที่วิ่งตามมาเหนื่อยหอบจนวิ่งต่อไม่ได้ "ทำไมเธอต้องหลบหน้าฉันด้วย" คนที่วิ่งตามมาก็คือมินนี่ เธอมาทำธุระแถวนี้เห็นข้าวทิพย์และผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างข้าวทิพย์ก็อุ้มเด็กเหมือนว่าเพิ่งจะคลอด...
[มหาวิทยาลัย]
"อะไรนะ เธอเห็นข้าวทิพย์จริงเหรอ" เจ้าขาพูดเสียงดังเพราะอยากดูปฏิกิริยาของผู้ชายบางคน
"ใช่ เหมือนว่าข้าวทิพย์มาคลอด"
"ห๊า?" เพื่อนที่ได้ยินต่างก็อุทานออกมาพร้อมกัน
"ในเมื่อข้าวทิพย์แต่งงานแล้วจะมาคลอดมันก็ไม่แปลก แต่ฉันอยากรู้ว่าทำไมข้าวทิพย์ต้องขาดการติดต่อกับเพื่อนด้วย" เจ้าขาเคยเอาที่อยู่ที่ข้าวทิพย์สมัครเรียนไปตามหาตามที่อยู่นั้น แต่ข้าวทิพย์ก็ไม่ได้อยู่ที่เดิมแล้ว
มินนี่อยากเจอเพื่อนมาก แต่คิดว่าข้าวทิพย์คงอยากลืมอดีต เพราะถ้าไม่เช่นนั้นคงไม่ทิ้งทุกอย่างไป เพราะไม่ใช่แค่เบอร์ที่ข้าวทิพย์ทิ้ง ทั้ง Line Facebook IG ทุกช่องทางคือติดต่อข้าวทิพย์ไม่ได้เลย
"ฉันก็ดีใจกับเพื่อนนะ เพื่อนคงจะลืมทุกอย่างได้แล้ว สมน้ำหน้าคนแถวนี้"
"พอได้แล้วเจ้าขา"
"ก็มันอดไม่ได้นี่ เธอเห็นหน้าสามีของข้าวทิพย์ไหม"
"เห็นสิ"
"หล่อไหม"
"หล่อ"
"เขตแดนฉันซื้อน้ำมาให้" พอเสียงนี้ดังขึ้นคนที่พูดคุยกันอยู่เมื่อสักครู่หันไปมองแทบจะพร้อมกัน
"เขตแดนฉันซื้อน้ำมาให้..แหวะ"
"เจ้าขาไม่เอาน่าเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว"
สามปีผ่านไป...
"ไปสมัครงานที่ใหม่เป็นยังไงบ้างล่ะลูก"
"เขาบอกจะติดต่อกลับมาค่ะ"
"ถ้างานข้างนอกมันไม่ดี เราก็กลับมาเปิดร้านค้าเหมือนเดิมก็ได้นี่ลูก"
"ป้าดูแลหลานก็เหนื่อยพอแล้วค่ะ เรื่องหาเงินปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าวเถอะ" ช่วงหลังมาป้าสุนีย์ป่วยออดๆ แอดๆ เธอก็เลยไม่อยากให้เปิดร้านค้าอีก เพราะป้าทำงานหนักเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว และบ้านหลังที่เช่าใหม่ไม่เอื้ออำนวยแก่การเปิดร้านค้าด้วย