บทที่ 4.2 – ผู้หญิงต้องห้าม (อย่ายุ่งกับเธอ) (จบตอน)

1692 คำ
“เธอจะลีลาอีกนานไหม บอกให้ลงก็ลงสิ” “แล้วคุณพาฉันมาที่ไหนเล่า” “มีตาไหมพิมพ์ชนก ที่นี่ร้านเสื้อผ้า ฉันคงพาเธอมานั่งกินข้าวชมวิวหรอกมั้ง!” ความหงุดหงิดที่สะสมมาตั้งแต่ตอนคุยกับออสตินยังไม่ทันจาง แม่กวางน้อยยังมาขัดใจอีก “ลงมา!” ไม่รออีกต่อไป ลูเซียโน่ดึงข้อมือพิมพ์ชนกให้เดินตามตนเข้าไปในร้านสุดหรู “สวัสดีค่ะท่าน” พนักงานต้อนรับรีบยกมือไหว้ด้วยท่าทีสุภาพ ฉีกยิ้มกว้างเต็มที่ ระดับแขกวีไอพีมาเยือนทั้งทีก็ต้องพิถีพิถันกันหน่อย “วันนี้ท่านต้องการสูทแบรนด์ไหนเป็นพิเศษคะ?” ปกติเขามักจะมาหาซื้อเสื้อสูทสำหรับใส่ออกงานที่ร้านแห่งนี้เป็นประจำ “ไม่ครับ วันนี้ผมพาแฟนมาเลือกซื้อเสื้อผ้า” พิมพ์ชนกตวัดตามองคนพูดทันที แฟนงั้นหรือ? เขากล้าใช้คำ ๆ นี้ต่อหน้าคนอื่นได้ยังไงกัน ทำแบบนี้เธอเสียหายนะ “แฟน… หรือคะ?” พนักงานสาวมองหน้ากันอย่างงุนงง ปกติไม่เคยเห็นควงใครเป็นพิเศษ แล้วทำไมถึงมีแฟนได้ ตามข่าวแวดวงนักธุรกิจก็ไม่มีหลุดเรื่องความรักของเจ้าพ่อกาสิโนคนนี้แม้แต่น้อย “ครับ” ลูเซียโน่ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เชิญค่ะคุณผู้หญิง ทางร้านเรามีเสื้อผ้าหลากหลายแบรนด์ดังที่นำเข้าจากต่างประเทศ ชอบแบบไหนเลือกได้ตามสบายเลยนะคะ หรือถ้าอยากจะลองชุดก่อนก็เชิญที่ห้องลองได้เลยค่ะ” พนักงานสาวสามสี่คนกรูเข้ามาหาพิมพ์ชนก เธอหันไปสบตาผู้ชายด้านหลัง “เลือกเอาตามที่อยากได้” เขาบอกเพียงแค่นั้น “แต่ว่า…” คำพูดถูกกลืนหายลงลำคอ สายตาที่เขาทอดมองนั้นพร้อมหาเรื่องทุกเวลา ซึ่งเธอไม่ควรเสี่ยง พิมพ์ชนกจึงเดินตามพนักงานไปอย่างเงียบ ๆ ภายในร้านกว้างใหญ่อบอวลไปด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับหรูหรา เธอแอบดูราคาชุดเดรสสีแดงเพลิงตัวหนึ่งแล้วแทบช็อค “สองแสนแปดหมื่น!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง “มีอะไรหรือเปล่าคะ?” พนักงานสาวคนหนึ่งเอ่ยถาม “ปะ เปล่าค่ะ” พิมพ์ชนกส่ายหน้ายิ้มบางเบา “ขอตัวสักครู่นะคะ” เธอรีบจ้ำเท้าเดินออกมาหาชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างดูมือถืออยู่ตรงโซฟามุมรับรองลูกค้าวีไอพี ลูเซียโน่เก็บเครื่องมือสื่อสารใส่กระเป๋ากางเกงทันใด ดวงตาคมคายหรี่มองสาวน้อยที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา “มีอะไร?” “นี่คุณจะบ้าเหรอ พาฉันมาซื้อเสื้อผ้าอะไรไม่ทราบ รู้ไหมว่าราคาตัวต่อตัวเป็นแสน ๆ เชียวนะ” หล่อนกระซิบกระซาบให้ได้ยินกันแค่สองคน ลูเซียโน่แทบหลุดขำ ดีที่เขาไหวตัวทันจึงแสดงสีหน้าเรียบเฉยแทน “รู้ แล้วยังไง?” “มันแพงมากนะคุณ” พิมพ์ชนกอยากจะบ้าตาย รู้ว่ารวยแต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้ไหม “แล้วเธอจะซีเรียสไปทำไม ฉันเป็นคนออกเงิน ไม่ใช่เธอ” “แต่ฉันไม่ชอบ มันแพงเกินไป ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร คุณพาฉันกลับเถอะ” อารมณ์สุขสันต์หายวับไปกับตา ประโยคที่ว่าไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครมันหมายความว่ายังไง เธอเป็นคนของเขานะ เขาก็แค่อยากให้เธอแต่งตัวดี ๆ จะได้ไม่มีใครกล้าดูถูก “มานี่เลย” เขากระชากข้อมือเล็กให้เดินตาม “เอาตัวนี้ ตัวนี้ ตัวนี้ แล้วก็ตัวนี้ด้วย” “ค่ะท่าน” พนักงานสาวสามสี่คนรีบกุลีกุจอจัดแจงทุกอย่าง “คุณพอได้แล้ว” พิมพ์ชนกร้องบอก “ยังไม่พอ” เขาเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของร้าน “เอาทั้งหมดนี่เลยแล้วกัน” เมื่อเลือกไม่ได้เขาจึงใช้วิธีเหมาทุกชุดที่แขวนอยู่บนราวไม้มีระดับ พิมพ์ชนกเบิกตากว้าง มองการกระทำเอาแต่ใจแล้วอยากกรีดร้องเหลือเกิน “เรื่องมากนักเดี๋ยวฉันเลือกให้เอง!” เขาพูดลอดไรฟัน “คุณทำบ้าอะไรเนี่ย มัน…” เธอยังพูดไม่ทันจบก็ถูกขัดขึ้นเสียก่อน “นี่ครับ แล้วช่วยส่งทั้งหมดไปตามที่อยู่เดิมด้วย” ลูเซียโน่ยื่นบัตรสีทองอันมีมูลค่าไม่จำกัดวงเงินให้กับพนักงานสาว “ได้ค่ะท่าน รบกวนท่านเซ็นชื่อตรงด้านนี้ด้วยนะคะ” มือขวาที่ว่างอยู่จรดปลายปากกาลงลายมือชื่อโดยไม่คิดลังเลถึงมูลค่าที่ต้องจ่าย ทั้ง ๆ ที่เสื้อผ้าที่กว้านซื้อนั้นมีราคาเทียบเท่ากับบ้านหลังโตสี่ห้าหลังรวมกัน “เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณครับ” พูดจบชายหนุ่มก็โอบเอวร่างบางออกไปจากร้านทันที บรรดาพนักงานสาวรีบวิ่งมาจับกลุ่มเมาท์มอยกันอย่างสนุกสนาน “น่าอิจฉาเนอะ ได้เป็นแฟนกับคนหล่อแถมเปย์หนักอีก โอ๊ย! ทำบุญด้วยอะไรเนี่ย” “นั่นสิ แต่ฉันสงสัยนะว่าไปแอบมีแฟนตอนไหน ปกติก็ไม่เห็นคุณเขาจะจริงจังกับใครเลยสักคน มีแต่ซื้อกินไปวัน ๆ” คนพูดว่าไปตามข่าวที่ได้ฟังมาอีกที “ผู้หญิงยังดูเด็กอยู่เลยเนอะ ไม่น่าเชื่อว่าคุณลูเซียโน่จะมีรสนิยมชอบกินเด็กใสแบ๋วแบบนี้ด้วย ไหนใครว่าสเปกของเขาต้องเซ็กซี่อกโตเท่านั้นไง” ต่างคนต่างหลากหลายความคิดเห็น แต่สุดท้ายทุกคนก็ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าหญิงสาวปริศนาที่ชายหนุ่มเพิ่งประกาศกร้าวว่าเป็นแฟนออกนอกหน้านั้นช่างน่าอิจฉาจริง ๆ “ปล่อยได้แล้ว ฉันเดินเองได้ ปล่อยสิ” พิมพ์ชนกโวยวายตลอดทางที่ถูกคนเอาแต่ใจกุมมือไม่ยอมปล่อย “พี่ไม่ควรทำรุนแรงกับสุภาพสตรีนะครับ” น้ำเสียงที่ไม่อยากได้ยิน ใบหน้ายียวนส่งยิ้มทักทายทั้งคู่ “ยังไม่กลับอีกเหรอ” ลูเซียโน่ตวัดมองค้อน “ว่าจะค้างที่นี่สักสามวัน” เขาพูดโดยไม่ละสายตาจากร่างบาง ระหว่างที่ลูเซียโน่พาพิมพ์ชนกออกไปข้างนอกนั้น ออสตินถือโอกาสถามความเป็นมาของหญิงสาวเอเชียร่างเล็กกับเจมส์และพุดซ้อนทันที ได้ความว่าหล่อนถูกป้าที่เป็นผีพนันหลอกขายใช้หนี้ มีภูมิหลังน่าสงสารพอสมควร เจมส์เป็นคนสนิทของลูเซียโน่ แต่ก็ยังถือว่าเป็นลูกน้องของเขาด้วยเช่นกัน ข้อมูลที่ได้แม้ยังไม่ลงลึกรายละเอียด หากก็มากพอที่จะทำให้เขาหายแคลงใจได้ “ห้องนายยังไม่ได้ทำความสะอาด” “ไม่เป็นไรครับ ผมไปนอนที่ห้องรับรองแขกก่อนได้” ออสตินรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องการกีดกันเขา “งั้นก็ตามใจ” เมื่อเห็นว่าคนกวนประสาทไม่ยอมลดราวาศอก ลูเซียโน่จึงปล่อยวาง หันไปเล่นงานหญิงสาวแทน “ไป!” เขาออกแรงกระชากอีกครา แต่คราวนี้ออสตินกลับไม่ปล่อยให้เจ้าหล่อนถูกรังแกต่อหน้าต่อตา เขาคว้าแขนเรียวไว้ข้างหนึ่ง พิมพ์ชนกตกใจไม่คิดว่าชายหนุ่มมาดกวนจะกล้าแตะเนื้อต้องตัวเธอ “คุณ” หล่อนมองเขาสลับกับมองลูเซียโน่ เห็นประกายไฟลุกโชนในแววตาคมกล้า “ปล่อย!” คนมีอำนาจสูงสุดของบ้านกล่าวเสียงเย็น พยายามสะกดกลั้นความไม่พอใจเอาไว้ “ดูเธอไม่อยากไปกับพี่นะครับ ทำไมต้องบังคับกันด้วยล่ะ” นอกจากไม่ยอมทำตามยังยอกย้อน คนที่เริ่มหมดความอดทนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ “อย่ามายุ่งออสติน ปล่อย!” ฝ่ายน้องชายไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวใบหน้าถมึงทึง ตรงกันข้ามกลับยิ่งรู้สึกสนุกและสะใจอยู่ลึก ๆ ที่ตนทำให้คนเลือดเย็นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ “คุณพิมพ์ชนกอยากไปกับพี่ชายผมหรือเปล่าครับ” จู่ ๆ เขาก็เบนเข็มทิศมาที่เธอ “คะ?” ทำไมต้องถามเธอด้วยล่ะ ทำไมถึงโยนระเบิดมาทางนี้ ดูไม่ออกหรือว่าจอมมารกำลังขุ่นเคืองเพียงใด “คือฉัน” พิมพ์ชนกพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบ หญิงสาวพยายามสลัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของทั้งสองหนุ่ม “พิมพ์ชนก” ลูเซียโน่เป็นฝ่ายปล่อยแขน เขามองกดดันจนออสตินยอมปล่อยตาม “ขึ้นห้องไปซะ” ไม่รอให้เขาพูดซ้ำ เธอรีบวิ่งขึ้นชั้นสองทันที “ฉันรู้นะว่านายกำลังคิดอะไรอยู่” แม้ไม่ได้คลานตามกันออกมา แต่ความเป็นลูกพี่ลูกน้องที่คลุกคลีกันมาตั้งแต่เด็กทำให้รู้ความคิดของอีกฝ่ายดี “ผมคิดอะไร?” ออสตินแสร้งถาม ยักคิ้วกวนอารมณ์ “อย่ายุ่งกับเธอ!” แววตาเสือร้ายดุดัน เขาย้ำชัดว่าอย่า อยู่ที่ว่าคนฟังจะเชื่อหรือไม่? “ก็บอกแล้วไงว่าของแบบนี้ต้องขึ้นอยู่ที่ผู้หญิง เขาเลือกใครก็คือคนนั้น” ถ้าเป็นคนอื่นโดนเจ้าพ่อกาสิโนตัวร้ายอย่างลูเซียโน่ขู่คงกลัวหัวหด แต่นี่คือเขา… ออสตินไม่ใช่พวกขี้ขลาดหรือหวาดกลัวอะไรง่าย ๆ โดยเฉพาะกับคนที่เขามีอดีตฝังใจอยู่ลึก ๆ “แต่กับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้!” ลูเซียโน่ขึ้นเสียง พุดซ้อนและเหล่าบอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองสงครามอารมณ์ระหว่างสองพี่น้อง เพราะพวกเขารู้ดี เวลาทั้งคู่ปะทะกันทีไรย่อมดุเดือดเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน… “แล้วถ้าผมจะยุ่งล่ะ” แววตาของออสตินเปลี่ยนไป จากความยียวนถูกแทนที่ด้วยความลองดี “พิมพ์ชนกไม่ใช่คนที่นายควรยุ่ง ฉันเตือนนายแล้วนะออสติน” “…” “ว่าอย่ายุ่งกับเธอ!” ลูเซียโน่ชี้หน้าประกาศกร้าว!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม