ในรถอาวดี้ RS5 คันหรูสีขาวมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอย่างหาตัวจับได้ยากจ้องมองไปที่บ้านไม้สักหลังใหญ่ที่ตอนนี้ประตูบ้านเปิดออกพร้อมเจ้าบ้านหน้าตาสวยน่ารัก ใบหน้าที่หนุ่มหล่อคุ้นเคยขยับยิ้มราวยั่วเย้าหยอกล้อกับอาคันตุกะหนุ่มที่ชลราชาไม่เคยเห็นหน้าค่าตาและไม่เคยรู้จักมักจี่
มนเคยบอกว่ามีพี่ชายฝาแฝด แต่ไอ้หมอนั่นดูยังไงก็ไม่มีส่วนคล้ายมนเลยสักนิด หรือจะเป็นแฟนมน? เฮ้ย! เป็นไปไม่ได้ จูบยังไม่ค่อยจะเป็น ริจะมีแฟนได้ยังไง?
ชลราชาขมวดคิ้วนิ่วหน้าแล้วจับตามองสองหนุ่มสาวที่คุยกันตรงประตูไม้สักอย่างตั้งใจก่อนที่จะตัดสินใจเลิกคิดทุกสิ่งแล้วเดินลงจากรถ
การกังวลเรื่องชายอื่นเกาะแกะผู้หญิงที่เขาหมายตาไว้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือจะพูดว่าเขาไม่เคยหมายตาผู้หญิงคนไหนมาก่อนคงจะถูกกว่า มีแต่เพียงพันมนตร์เป็นคนแรก มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกขัดเคืองใจอย่างบอกไม่ถูก
หงุดหงิดที่มีไอ้เด็กน้อยอายุไม่น่าถึง 30 เสียด้วยซ้ำมากล้าวัดรอยของเขาบวกกับผู้หญิงของเขาเองก็ดูเหมือนจะสนิทสนมคุ้นเคยกับไอ้เด็กนั่นเป็นอย่างดี
“...ได้ยินมาว่าช่วงนี้ป่วยบ่อยด้วยนี่”
ชลราชาเดินเข้ามาทันได้ยินประโยคสุดท้ายที่ไอ้เด็กน้อยนั่นพูดกับผู้หญิงของเขาด้วยน้ำเสียงคล้ายห่วงใย
น่ากัดร่างให้ขาดเป็นสองท่อนมาก!
พญาจระเข้คิดในใจก่อนที่จะเห็นว่าพันมนตร์สังเกตถึงการมาของเขาแล้ว หญิงสาวทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วเหมือนจะบุ้ยใบ้บอกอะไรเขาบางอย่าง ถ้าเดาไม่ผิดเหมือนเธอจะบอกให้เขาหลบไปก่อน
แต่หลบก็กลัวสิวะ! ชลราชาเกิดมาร่วมร้อยปีไม่เคยต้องกลัวอะไร
“สวัสดีที่รัก” หนุ่มหล่อที่เดินมาอย่างเงียบกริบหยุดอยู่ด้านหลังของก้านกล้าแล้วเอ่ยทักทายพันมนตร์พร้อมส่งยิ้มเยือกเย็นให้เธอ
สิ้นคำทักทายก้านกล้าก็หันขวับมามองเขาทันที
หน้าตาดีกว่าที่คิด หุ่นหนากว่าผมนิดหน่อย แต่หน้าตาผมหล่อกินขาด มนชอบคนที่หน้าตาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องหน้าตาผมเหนือกว่าเห็น ๆ แถมยังตัดผมสั้นดูเหมือนพวกนักกีฬาออกกำลังกาย เหมือนพวกเล่นกล้ามที่ต้องเข้ายิมทุกวันด้วย แต่เรื่องพลังผมชนะขาดแน่นอน พญาจระเข้ ลากช้างทั้งตัวลงน้ำยังทำได้ นับประสาอะไรกับไอ้หนุ่มหุ่นหมีหน้าตาดีแค่พอไปวัดไปวาได้คนนี้
ชลราชาที่เผชิญหน้ากับก้านกล้าคิดในใจ
“ไอ้หมอนี่ใครมน?” ก้านกล้าขมวดคิ้วแล้วถามพันมนตร์ทั้งที่สายตาล็อกเข้ากับไอ้หนุ่มหน้าหล่อที่เขาไม่เคยรู้จัก
“ไอ้หมอนี่ใครมน?” ชลราชายกยิ้มยียวนที่มุมปากแล้วถามหญิงสาวบ้างตามอย่างไอ้เด็กน้อยที่ตรงหน้า
“เออ... พี่ชลคะ นี่พี่ก้านค่ะ ก้านกล้า เป็นพี่ชายแก้ว ส่วนนี่พี่ชลค่ะ ชลราชา ที่มนเล่าให้พี่ก้านฟัง มนขอเขามาเป็นติวเตอร์สอนเรื่องเกี่ยวกับจระเข้ มนเรียนรู้เอาไว้เสริมเพื่อรับมือกับปัญหาที่พี่ก้านก็รู้ว่าเรื่องอะไร” พันมนตร์รีบแนะนำให้สองหนุ่มรู้จักกันอย่างลวก ๆ แล้วแต่งตั้งให้ชลราชาเป็นติวเตอร์โดยที่ไม่ปรึกษาเขาสักคำ
“เธอจะต้องเรียนรู้เรื่องจระเข้ไปทำไม? มีพี่และไอ้ยันต์อยู่ ยังไงพวกพี่ก็ไม่ปล่อยให้เธอตายหรอกนะมน” ก้านกล้าพูดแต่ยังจ้องมองชลราชาไม่วางตา
“ถ้าคุณช่วยชีวิตมนได้จริง มนคงได้ดื่มเลือดพญาจระเข้ไปตั้งนานแล้วไหม? ไม่ต้องรอให้ใกล้ถึงเบญจเพสขนาดนี้” ชลราชายิ้มอย่างใจเย็นแล้วตอบเขา
“นี่มนบอกเรื่องคำสาปของเธอให้มันรู้เหรอ? เรื่องในตระกูล บอกมันทำไม? มันเป็นคนนอก” ก้านกล้ารีบหันไปซักพันมนตร์เป็นการใหญ่
“โอ๊ย! ไปกันใหญ่แล้ว สรุปนะ มนมีเรื่องจะต้องทำกับพี่ชล พี่ก้านกลับไปก่อนเลย ยังไงพี่ยันต์ก็ไม่อยู่ ไว้วันหลังค่อยมาหา พี่ชลเองก็มาสาย นัดไว้ก็ไม่ยอมมาให้ตรงเวลา รีบไปกันเร็ว เดี๋ยวไม่ทัน” พันมนตร์รีบตัดบท ไม่อยากให้ก้านกล้ารู้เรื่องราวมากเกินความจำเป็น
หญิงสาวหมุนตัวกลับไปปิดประตูรั้วแล้วเดินผ่านหน้าก้านกล้าพร้อมกับลากชลราชาไปทางรถที่เขาจอดทิ้งไว้ไม่ไกลจากประตูรั้วก่อนที่จะหันหน้ากลับมาตะโกนบอกก้านกล้า
“พี่กล้าอย่าไปบอกพี่ยันต์นะว่ามนนัดพี่ชลมาหา ถ้าพี่ยันต์รู้ มนจะถือว่ามันออกมาจากปากพี่ก้าน มนจะโกรธพี่ก้านจริง ๆ ด้วย”
“ยัยมน! เธอกลายเป็นผู้หญิงใจแตกตั้งแต่เมื่อไหร่? นี่เธอกล้าโกหกไอ้ยันต์ว่าป่วยแล้วนัดผู้ชายให้มารับถึงบ้านเหรอ? เธอนี่มัน.... ยัยแก้วทำเธอเสียคนหรือยังไง?” ก้านกล้าตะโกนถามตามหลังพันมนตร์
เขาอยากจะตามไปฉุดรั้งพันมนตร์ไว้ด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำแต่ก็ยังวางท่า ไม่อยากทำตัวเป็นเหมือนคนแอบรักที่หึงหวงเธอ แต่สุดท้ายเมื่อเห็นเธอขึ้นรถไปกับไอ้หน้าหล่อคนนั้นเขาก็ยิ่งร้อนใจ
“แก้วไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นมนคิดเอง ทำเองทั้งนั้น สรุป... อย่าบอกพี่ยันต์พอ ถ้าพี่ยันต์รู้ มนเอาพี่ก้านตายแน่!” พันมนตร์ลดกระจกรถยนต์หรูลงมาแล้วตะโกนย้ำกับเขาอีกครั้งก่อนที่ชลราชาจะเหยียบคันเร่งแล้วพาเธอจากไปภายในเสี้ยววินาที
*********************
“สรุปไอ้เด็กเมื่อกี้เป็นแค่พี่ของเพื่อนสนิทหนูแค่นั้นเหรอ?” ชลราชาที่ขับรถพาเธอข้ามสะพานแขวนคอนกรีตเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาถามขึ้น
“เป็นพี่ชายแก้วและเป็นเพื่อนสมัยเด็กของมนค่ะ บ้านเรารู้จักกันมาหลายรุ่นแล้ว เออ... บ้านแก้วเป็นทายาทของอาจารย์คงน่ะค่ะ อาจารย์ของไกรทองอีกที” พันมนตร์พยายามอธิบาย
“อ้อ... พวกหมอปราบจระเข้ด้วยกัน งั้นก็เอากันเลยสิ ดองกันเลย เลือดหมอปราบจระเข้น่าจะแรง” ชลราชาหลุดปากพูดประชดประชันออกไปทั้งที่เขาเองไม่เคยมีปฏิกิริยาแบบนี้กับใครมาก่อน
พอพูดออกไปปุ๊บ ความรู้สึกผิดก็เกิดขึ้นในใจทันที
เขารู้ดีว่าพันมนตร์ไม่คิดเกินเลยกับไอ้หนุ่มหุ่นล่ำนั่น เพราะหากคิดเกินเลยเธอคงไม่ตัดสินใจเลือกที่จะมากับเขา
หรือเพราะมนแค่กลัวว่าจะไม่ได้ดื่มเลือดผมติดต่อกัน 99 วัน? เพราะเวลาของเธอเหลือน้อยเต็มที หากหยุดดื่มเลือดวันใดวันหนึ่งก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ซึ่งยิ่งเสี่ยงต่อการที่เธอจะต้องตายเพราะคำสาป
“พูดแบบนี้ได้ยังไง? บอกขนาดนี้พี่ชลก็น่าจะรู้ไหมคะว่ามนกับพี่ก้านรู้จักกันมาตั้งนาน ถ้าจะเป็นแฟนกันเป็นไปนานแล้วค่ะ ไม่ต้องรอให้พี่ชลเอาเลือดมาแลกมนไปเป็นเมียหรอก” พันมนตร์พูดแล้วทำหน้างอ ไม่พอใจที่หนุ่มหล่อคิดว่าเธอมีสัมพันธ์สวาทกับพี่ชายเพื่อน
“พี่ขอโทษมน พี่ไม่ได้ตั้งใจ” ชลราชารับผิดแต่โดยดี
“ขอโทษแล้วหายเหรอคะ? ทำร้ายจิตใจมนชัด ๆ ตัวเองมารับมนสายแล้วหาเรื่องมนกลบเกลื่อนความผิดหรือยังไง? ทำไมถึงมาสายคะ?” พันมนตร์ไล่เบี้ยเอากับเขาต่อ
“เออ... พี่ติดงาน” หนุ่มหล่อตอบสั้น ๆ
“งานอะไร? พี่เป็นเจ้าของผับ ตอนนี้เพิ่งทุ่มครึ่ง ผับคนเยอะตอนสามทุ่ม จะติดงานอะไร?” พันมนตร์ถามต่อ
“พี่เป็นเจ้าของผับ แต่งานพี่ไม่ใช่เจ้าของผับนี่นา พี่ไม่เคยบอกมนเหรอว่าพี่ทำงานอะไร?” ชลราชาถามเธอกลับ เพิ่งคิดได้ว่าเขาและเธอรู้จักกันได้เพียงแค่อาทิตย์เดียว
แม้เหตุการณ์หลายอย่างรวมถึงความรู้สึกที่ดึงดูดให้เขาสองคนเข้าใกล้กันทำให้เขาและเธอมีอาการคล้ายสนิทสนมกันมาแต่ชาติปางก่อน แต่สุดท้ายก็มีอีกหลายอย่างในชีวิตที่พันมนตร์ไม่รู้เกี่ยวกับตัวเขา และตัวเขาไม่รู้เกี่ยวกับพันมนตร์
“ถ้าพี่ไม่บอกมนจะรู้ไหมคะ? สรุปพี่ยังมีงานอื่นอีกเหรอคะ? มนคิดว่าพี่มีเงินเยอะจนไม่ต้องทำงานทำการ เปิดผับเอาไว้งาบสาว ๆ แค่นั้นเสียอีก งาบแบบงาบจริง ๆ น่ะ แบบที่ชาละวันงาบตะเภาทองลงใต้น้ำ” พันมนตร์พูดแล้วอดหัวเราะออกมาเบา ๆ ไม่ได้ ความขุ่นเคืองหายไปเมื่อในหัวคิดภาพของชลราชากลายร่างเป็นจระเข้ตัวใหญ่คาบใครสักคนจากกลางผับแล้วใช้สี่ขาสั้น ๆ วิ่งตุ๊ต๊ะออกไปจากผับจากนั้นมองหาลำน้ำเผื่อกระโดดลงไป
“มนหัวเราะอะไร? แปลกเด็กจริงเชียว เดี๋ยวก็โกรธเดี๋ยวก็หัวเราะ” ชลราชานิ่วหน้าแล้วหันไปถามเธอก่อนที่จะอดยิ้มออกมาน้อย ๆเมื่อเห็นเธออารมณ์ดีขึ้นไม่ได้
“มนคิดภาพพี่กลายร่างเป็นจระเข้ตัวโต ๆ แต่ขาสั้น ๆ แล้วคาบสาวจากกลางผับออกมาน่ะสิคะ คงจะตลกน่าดู มนเห็นพี่ชลสูงเกิน 180 หุ่นอย่างกับนายแบบ ถึงในร่างกึ่งจระเข้พี่ชลจะยังดูเท่ แต่ถ้ามนเห็นพี่ในร่างจระเข้คงจะไม่เหลือเค้าความหล่อเลย แล้วที่เขาว่าจุ๊ดจู๋ของจระเข้มันแข็งตัวตลอดเวลา ถ้าพี่ชลกลายร่างเป็นจระเข้เต็มตัว เวลาคาบสาวไป มันก็แข็งไปงี้เหรอคะ? ฟังดูวิตถารน่าดู แต่มนอยากเห็นนะ พี่ชลในร่างจระเข้น่ะ” หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะไปด้วย
คำพูดกึ่งลามกถูกพูดออกมาจากปากของพันมนตร์แต่ชลราชากลับมองว่าเธอดูน่ารักและช่างเจรจาทั้ง ๆ ที่หากเป็นจระเข้แปลงกายตัวอื่นได้ยินอาจคิดว่ามันเป็นคำพูดล้อเลียนลักษณะทางกายภาพของพวกจระเข้
“ตอนที่พี่เป็นจระเข้มันอาจควบคุมไม่ได้ แต่ตอนที่พี่อยู่ในร่างมนุษย์พี่ควบคุมมันได้ พี่กลายร่างกลับเป็นจระเข้เต็มตัวน้อยมาก แต่ถ้ามนอยากเห็น วันนี้หลังจากที่มนดื่มเลือดพี่ พี่จะกลายร่างให้ดู ว่าแต่... มนอยากเห็นร่างจระเข้ของพี่ หรืออยากเห็น ‘ตรงนั้น’ ของพี่ที่แข็งตลอดเวลา?” ชลราชาถามเธอด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“ก็ต้องร่างจระเข้ของพี่สิคะ ว่าแต่พี่ชลตอบมนมาได้หรือยังคะว่าพี่ทำงานอะไร?” พันมนตร์ยังไม่ลืมคำถามที่หนุ่มหล่อติดค้างคำตอบเอาไว้
พญาจระเข้หนุ่มยกยิ้มอย่างหล่อที่มุมปากก่อนจะตอบเธอ
“เดี๋ยวมนก็รู้ว่าพี่ทำงานอะไร เพราะพี่กำลังจะพาหนูไปที่ทำงานพี่ รับรองว่าหนูต้องได้รู้ทั้งอาชีพพี่และเห็นร่างจระเข้ของพี่ไปพร้อม ๆ กันแน่”