2 บทที่ 2 (1)

1265 คำ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่คี น้ำไม่ได้โกรธเลยจริงๆ พี่คีอย่าคิดมากเลยนะคะ” ธาราเอ่ยปลอบคนรักที่โทรมาเอ่ยคำขอโทษตั้งแต่เช้าที่ไม่ได้ติดต่อมาหาเธอเมื่อคืนตามที่ได้คุยกันไว้ อีกฝ่ายยังคงส่งเสียงเว้าวอนอย่างเสียใจที่เป็นฝ่ายผิดนัด แถมยังไม่ได้ติดต่อกลับเมื่อธาราต้องเป็นฝ่ายโทรไปหาเขาอยู่หลายครั้ง “พี่ขอโทษจริงๆ ค่ะน้ำ พอมาถึงบ้านพี่ก็คุยเรื่องงานกับคุณพ่อหลายเรื่อง พอดูเวลาอีกทีก็ดึกแล้วเลยไม่อยากส่งข้อความหรือโทรกลับไปกวนน้ำ” อัคคีเอ่ยอ้างโดยเลี่ยงที่จะพูดถึงความขัดแย้งระหว่างเขาและบิดาที่ทำให้เขาขุ่นเคืองจน ‘ลืม’ เรื่องอื่นๆ ไปเสียสนิท “ค่ะ น้ำเข้าใจพี่คีนะคะ” ธารากล่าวย้ำเพราะรู้ดีว่าคนรักกำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้งานเพื่อรับช่วงต่อการบริหารจากบิดา คนฟังลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเอ่ยเอาใจหญิงสาว “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่จะรีบออกจากบ้านไปรับน้ำไปมหาวิทยาลัยเหมือนเดิมนะคะ” “ค่ะ แล้วเจอกันค่ะพี่คี” ธารากดวางสายแล้วจึงหันไปคว้า กระเป๋าถือและหนังสือเรียนที่จะต้องใช้มาถือไว้ หญิงสาวเดินออกจากห้องนอนมุ่งหน้าไปทางห้องทานอาหารเพื่อรอคนรักที่นั่นอย่างเช่นในทุกๆ วันตามปกติ เธอวางของไว้ที่โต๊ะตัวเล็กเว้นแต่โทรศัพท์มือถือที่คว้ามาวางไว้ใกล้ตัวก่อนจะเอื้อมมือหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านพลางๆ ระหว่างรอแม่บ้านจัดเสิร์ฟอาหาร ดวงตากลมสวยไล่สายตาไปตามข่าวต่างๆ ก่อนจะต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นหัวข้อที่ทำให้หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้น “เป็นไปไม่ได้...” ธาราครางเสียงแผ่วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งเพื่ออ่านข่าวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเธอโดยตรงแต่เธอกลับไม่เคยรู้หรือระแคะระคายมาก่อน ใบหน้านวลเผือดสีขึ้นเรื่อยๆ ยังคงตั้งรับไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ในชีวิตครั้งนี้ บริษัทที่เป็นดั่งเสาหลักของครอบครัวเธอกำลังจะมีคนอื่นก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของ... ร่างบางเกือบทรงตัวไม่อยู่เมื่อข้อความในข่าวยิ่งตอกย้ำถึงความจริงตรงหน้า หรือว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้บิดาของเธอโหมทำงาน หามรุ่งหามค่ำในช่วงที่ผ่านมาจนแทบไม่มีเวลาใส่ใจเธอหรือแม้กระทั่งตัวของท่านเองเลยก็ตามที “น้ำ” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นที่ประตูห้องทานอาหาร ธาราจึงค่อยๆ เบนสายตาที่เริ่มมีน้ำใสขึ้นมาคลอหน่วยไปทางนั้น “พี่ภู ลุงปราณ” หญิงสาวเรียกชายสองคนที่มีท่าทีร้อนรนด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า ภูผามองหนังสือพิมพ์ในมือหญิงสาวก่อนจะเร่งฝีเท้าเข้ามาโอบปลอบเธอด้วยความห่วงใย ในขณะที่ปราณ บิดาของเขาเองก็ก้าวมาหยุดอยู่ข้างๆ เด็กสาวที่เขารักและเอ็นดูราวกับลูกสาวแท้ๆ ของตน “นี่มันเรื่องอะไรกันคะพี่ภู น้ำไม่เข้าใจเลย นี่มันเรื่องอะไรกัน” ธาราเริ่มคร่ำครวญ ภูผาจึงกระชับวงแขนของเขาพลางปลอบโยนเธอ “ใจเย็นๆ ก่อนนะน้ำ ใจเย็นๆ ก่อนนะ แล้วนี่อาธีติดต่อมาหาน้ำหรือยัง” “ยังเลยค่ะ คุณพ่อยังไม่ได้บอกอะไรน้ำเลย น้ำ...น้ำจะโทรหาคุณพ่อ” ธารารีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาธีรัชทันทีด้วยความเป็นห่วงที่พลุกพล่าน แต่สีหน้าของเธอต้องย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่อาจจะติดต่ออีกฝ่ายได้ “ไม่เป็นไรนะหนูน้ำ เดี๋ยวลุงหาทางติดต่อไอ้ธีเอง ภูดูแลน้องนะ” ปราณแตะไหล่บางเอ่ยปลอบเสียงนุ่มเพื่อให้เด็กสาวสงบลง เขาสบตากับบุตรชายวูบหนึ่งก่อนจะเดินแยกออกไปทำตามที่ตนเองพูดไว้ “เดี๋ยวให้คุณพ่อของพี่เป็นคนติดต่ออาธีเอง ตอนนี้น้ำต้องใจเย็นๆ เพื่อรอเป็นกำลังใจให้อาธีก่อนนะ” ภูผาใช้นิ้วของตนค่อยๆ เกลี่ยน้ำตาให้พ้นไปจากใบหน้านวล เขายังสบตาเรียกความเชื่อมั่นของหญิงสาวที่กำลังพยายามตั้งสติตามคำแนะนำของเขา ธาราเริ่มสงบลงก่อนจะรีบคว้าโทรศัพท์ที่ส่งเสียงขึ้นมารับ แม้สุดท้ายปลายสายจะไม่ใช่คนที่เธอรอคอย แต่อีกฝ่ายก็ยังคงเป็นคนสำคัญของเธอ “พี่คีคะ...” “น้ำคะ พี่เพิ่งรู้ข่าวจากอัณและเราสองคนกำลังรีบไป อีกไม่นานคงจะถึง น้ำรอพี่ก่อนนะคะ” อัคคีเอ่ยเสียงร้อนรนท่าทางเร่งรีบอย่างที่เขาพูด “ค่ะ รีบมานะคะพี่คี น้ำรอพี่คีอยู่นะคะ” “ค่ะ พี่จะรีบไปให้เร็วที่สุดเลยค่ะ พี่รักน้ำนะคะ” อัคคีทิ้งท้ายก่อนจะกดตัดสาย ธาราลดโทรศัพท์ในมือก่อนจะเงยหน้าสบตากับร่างสูงที่ยืนข้างๆ ตน “พี่คีกับอัณกำลังจะมาค่ะพี่ภู” ภูผาพยักหน้ารับ ใช้มือลูบศีรษะน้องน้อยของเขาอย่างแผ่วเบาและใช้ตัวเองเป็นที่พักใจของหญิงสาว ผ่านไปอึดใจทั้งสองจึงได้ยินเสียงฝีเท้ารัวเร็วดังเข้ามาก่อนการปรากฏตัวของอัคคีและอัณณา “พี่คี” ธาราโผเข้าหาชายคนรักทันทีที่เขาเดินมาแทนที่ๆ ภูผาเคยยืน “ไม่เป็นไรนะคะน้ำ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น น้ำยังมีพี่ ยังมีอัณอยู่นะคะ” อัคคีสวมกอดร่างน้อยแน่นราวกับต้องการยืนยันคำพูดของเขา “แล้วนี่อาธีว่ายังไงบ้างคะ” “น้ำยังติดต่อคุณพ่อไม่ได้เลยค่ะพี่คี น้ำเป็นห่วงท่านจังเลยค่ะ” ธาราเอ่ยเสียงสั่น ห่วงบิดาของตนจนยิ่งคิดมาก คนที่เหลือจึงมองหน้ากันอย่างหนักใจที่เห็นสีหน้าของธาราย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ “น้ำ...” เสียงแหบระโหยดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบจนเรียกให้ทุกคนหันไปมอง ธีรัชยืนไหล่ตก มองบุตรสาวของตนด้วยใบหน้าหมองเศร้ามาดของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศที่เคยมีตอนนี้ไม่หลงเหลือ “คุณพ่อ...” ธาราอุทานก่อนจะวิ่งเข้าไปสวมกอดอีกฝ่ายที่อ้าแขนรอไว้แล้ว “คุณพ่อหายไปไหนมาคะ น้ำเป็นห่วงคุณพ่อมากเลยรู้ไหมคะ” ร่างบางสะอื้นหนักพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไป คนเป็นพ่อยิ่งกอดแน่น ทั้งผิดหวังในตนเองและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ “พ่อขอโทษนะลูก พ่อขอโทษ” ธีรัชเอ่ยซ้ำๆ พยายามข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล “พ่อขอโทษนะที่พ่อมันเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน พ่อขอโทษจริงๆ” ธีรัชข่มเสียงสั่นพร่า พยายามเข้มแข็งเพื่อเป็นหลักให้แก่บุตรสาวคนรอบข้างต่างพากันมองคนทั้งสองด้วยความเห็นใจก่อนที่ปราณจะเดินกลับเข้ามาสมทบและเอ่ยทักเพื่อนสนิทที่เพิ่งวางสายจากตนก่อนหน้านี้ไม่นาน “ไอ้ธี” ธีรัชเงยหน้าเพื่อสบตาของอีกฝ่ายเพื่อสื่อความนัย เขาปลอบใจบุตรสาวต่อไปสักพักก่อนจะค่อยๆ ดันร่างเล็กออกจากอ้อมแขนของตน “เดี๋ยวพ่อขอคุยกับลุงปราณก่อน แล้วพ่อจะอธิบายทุกอย่างให้ลูกได้รู้นะลูกนะ” ธาราพยักหน้ารับก่อนจะผละออกมาโดยมีอัคคีเข้ามาประคองเอาไว้ ธีรัชมองหน้าชายหนุ่มอย่างนึกขอบใจ ก่อนจะเดินนำเพื่อนสนิทเพื่อไปคุยธุระที่ห้องทำงานของตน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม