ฉันนั่งเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ลีเองเหมือนจะได้ใจกับอะไรบางอย่าง จึงผิวปากหวอตลอดการเดินทาง ที่ผ่านมาแล้วครึ่งหนึ่ง ซึ่งอีกไม่นาน ก็จะถึงบ้านเขา
สมองสั่งให้นึกย้อนเรื่องเมื่อคืน
ตี้ล่ะ อยู่ไหน?
"ลี..... "
"ฮึ..... "
"เมื่อคืนใครไปส่งตี้"
ฉันเอียงหน้ามามองพลขับที่กำลังสอดส่องสายตาไปยังหน้าถนน เพื่อเพ่งมองการจราจรที่ติดขัดในเมืองกรุง
"ไอ้กี้ดิ ก็เมียมัน"
ลีบอกให้กระจ่าง ลีกับพี่กี้ เป็นคนรู้จักกันที่ค่อนข้างสนิทกัน เขาไม่เรียกพี่กี้ว่าพี่ ทั้งที่อายุห่างกันตั้งสามปี พี่กี้เข้าเลขสาม แต่ใบหน้ายังเหมือนคนรุ่นเดียวกันกับพวกเราอยู่เลย
ตี้น่ะเป็นเมียพี่กี้ แต่ตี้มันจะยอมรับการยัดเยียดนี้ รึเปล่าล่ะ!
"อืม.... "
ฉันเลยเลิกสนใจลี เพราะมือถือดันเกิดการแจ้งเตือนพอดี
ไลน์: ตี้
(ปล่อยกูมากับไอ้นี่ได้ไงวะ)
ฉันเดาว่า ตี้น่าจะพึ่งฟื้นแน่ ไม่งั้นคงจะส่งมาตั้งแต่ลืมตาตื่นแล้วล่ะ
ฉัน:กูมีสติมาห้ามเขามั้ยล่ะ ก็เตือนแล้วอย่าสั่งมาเยอะ
(เสร็จมันอีกจนได้)
ฉัน:win win
(บ้านแกสิไอ้ลิน)
ฉัน:ซิงหรือไง ถึงได้โวยวาย
(เลิกพูด ละอยู่ไหน)
ฉัน:อยู่กับลี
(ได้กันยัง?)
ฉัน:อีกนาน แค่นี้ รำคาญ
ฉันอมยิ้มนิด ๆ กับบทสนทนาระหว่างฉันและตี้ ไม่รู้สิ อยู่ดี ๆ ก็ยิ้มซะงั้น
"คุยกับใคร"
น้ำเสียงติดจะรำคาญกันของลี ทำให้ฉันหุบยิ้มและได้สติ
"คนคุยเยอะแยะ"
ฉันหลีกเลี่ยงจะบอกความจริง ทั้งที่มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องปิดบัง
แต่พอฟังเสียงของลีเมื่อครู่ จู่ ๆ ก็นึกอยากจะยั่ว
'โมโห' ลีเล่น ๆ
"เกรงใจแหวนที่สวมด้วย"
ลีว่าให้ แล้วจอดรถตามสัญญาณไฟ
ไม่นานก็เหวี่ยงสายตามามองฉันแบบ 'แรงมาก'
"จริงจังไปนะมึงอะ"
ฉันทำเป็นยกมือข้างซ้ายขึ้นมา แล้วแบให้สวยงาม พลางใช้สายตามองไปก็คิดไป
'ทำไมมันถึงเหมาะจัง กับการสวมแหวนของลี'
"ได้กันจริงตอนไหน กูจริงจังมากขึ้นอีก เตือนไว้"
"มาพิศสวาทกันตอนใกล้สามสิบเนี่ยนะ?"
"ถ้าสังเกตกู มึงจะไม่กล้าพูดคำนี้"
"โถ่ลี ..... มึงน่ะเจ้าชู้จะตาย เพราะสนิทเลยคิดอยากให้ช่วย ไม่ได้คิดมาก่อนว่ามึงจะจริงจังขนาดนี้"
ฉันเริ่มหาเหตุมายก หาผลมาอ้าง ถึงข้อผิดพลาดที่เคยเอ่ยชวน เพียงเพราะไม่อยากให้แม่จับคู่ก็เท่านั้น
"ขอเอง รับผิดชอบคำพูดตัวเองไป"
"แต่กูเมา....."
"นั่นปัญหามึง"
เหนื่อยการจะถกเถียงกับผู้ชายเอาแต่ใจอย่างลี
ไม่ฟังเหตุผลใครอย่างลี
ความคิดนี้ ต้องถูกเสมออย่างลี
พอฉันเงียบใส่ ลีเองก็เงียบเสริม
กลายเป็นว่าเรามาถึงบ้านแม่ของลีในช่วงบ่ายของวัน
ท่านโผเข้ากอดลูกชายอย่างคนึงหา ก็เพราะลีมันบ้า สามเดือนยังไม่มาหาท่านให้เห็นเงามันเลย
"หนูลินมาด้วยเหรอจ๊ะ"
แม่ของลีเดินมาสวมกอดฉันบ้าง ท่านเอ่ยถามทันทีที่ฉันไหว้ทักทายเสร็จ
"ค่ะ ลินขอมากับลีเองค่ะ"
กระดากปากจะพูดว่าลูกชายท่านบังคับให้มา
โกหกผู้ใหญ่มันบาป แต่ถ้าไม่พูดเพราะคนที่จะฟังอาจเกิดความไม่สบายใจ ก็อมไว้ดีกว่า อย่าพูดเลย
"แม่สบายดีนะคะ"
"จ้า เราล่ะ ไม่เห็นหน้าตั้งหลายปี ไม่ค่อยเปลี่ยนเลยนะลูก"
"ลินคนเดิมครับ เพิ่มเติมคือมันกำลังจะเป็นลูกสะใภ้แม่"
ไอ้บ้าลีที่เดินเข้าบ้านไปก่อน พอได้ยินแม่ชมฉันเข้าหน่อย ก็วางระเบิดลูกใหญ่ให้ฉันเลย
"จริงหรือจ๊ะ แม่ดีใจที่สุดเลย"
แล้วแม่ก็ดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดอีกครั้ง พร้อมกับจับมือพาเดินเข้าบ้าน
ท่านยิ้มอย่างดีใจ ขัดผู้ใหญ่ก็จะเสียมารยาท เอาเป็นว่า ตามน้ำไปก่อนละกัน
"หนูลินมาก็ดีนะวันนี้ มีงานแต่งที่เขาเชิญแม่ แต่แม่ยังไม่มีคู่ควงเลย"
แม่พาฉันมานั่งตรงเก้าอี้ ที่ตั้งอยู่อีกมุมของบ้าน ซึ่งจัดวางให้เป็นห้องรับแขก นั่งเล่น นอนเพลิน ก็แล้วแต่สะดวก
ฉันมาบ้านลีก็หลายครั้ง แต่ไม่เคยมีสักครั้ง ที่จะเห็นพ่อของลี
"เชิญแม่ก็ไปคนเดียวดิ จะมาลากลินไปทำไม อีกอย่างเราจะไม่ค้าง"
ลีเดินกลับมา พร้อมกล่องผลไม้ที่เขาน่าจะหยิบมาจากตู้เย็น ซึ่งตรงที่เขาเดินออกมา มันคือครัว
"อย่าขัดแม่สิ เราก็ต้องไปนะลี"
แม่บอกลี พร้อมยื่นซองสีขาวนวลให้ลี
นี่เล่นเชิญทั้งแม่ทั้งลูกคนละซองเลยเหรอ
งานแต่งหรือซองผ้าป่ากันแน่?
"หนูไปกับแม่นะลิน แม่ตัดชุดไว้เยอะ หนูน่าจะใส่ได้พอดี"
แม่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ท่านเองเป็นสาววัยใกล้ห้าสิบ แต่ด้วยความที่ทำงานไม่หนักมาก พร้อมกับการดูแลตัวเอง ท่านจึงแข็งแรงเหมือนสาววัยสามหรือสี่สิบ ด้วยความที่ขนาดตัวเราสองคนก็ใกล้เคียงกัน เป็นฉันมากกว่าที่ดูเหมือนจะไหล่กว้างกว่าแม่ และ สูงกว่านิดหน่อย
"แม่....."
เสียงลีดังขึ้นเหมือนคนตกใจ
"อะไร ใกล้แค่นี้"
แม่ฟาดแขนลีเบา ๆ เป็นการเอ็ด
"ไอ้ท็อปปีนี้มันแต่งสองรอบแล้วนะ"
พอลีได้อ่านเนื้อในที่บรรยายบอกถึงคู่บ่าวสาว ดวงตาเขาก็เบิกอย่างตกใจ ก่อนจะเอ่ยถามแม่ ในสิ่งที่ฉันเอง ก็ไม่รู้
คนบ้าอะไร ต้องหล่อขนาดไหน ถึงได้เข้าวิวาห์บ่อยนัก
"เจ้าชู้ไง มีผู้หญิงอุ้มท้องมาร้องขอสิทธิเยอะนัก แม่มันกุมขมับเลยล่ะ"
แม่เหมือนอธิบาย ซึ่งคนที่ถูกพาดพิงถึง น่าจะอยู่ในหมู่บ้านนี้ หรือไม่ ก็อาจจะเป็นลูกของเพื่อนแม่ ลีเลยรู้จัก
"ดีนะ ป้องกันตลอด"
ไอ้บ้าลีมันพึมพำ
แต่ฉันน่ะ 'คว่ำปาก' แล้ว
"ส่วนชุดเรา แม่ไม่ได้เตรียมนะ เพราะไม่รู้ว่าจะมา"
แม่บอกลูกชายที่นั่งหน้านิ่งปลาตายไม่ได้มีความทุกข์ร้อนอันใด
"ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ได้แม่"
ดูมันค่ะ งานแต่งนะ ไม่ใช่ไปบวชนาค จะแต่งได้ตามใจปานนั้น
"ให้เกียรติเจ้าของงานด้วย ไม่รู้ล่ะ ห้าโมงเย็นเจอกันตรงนี้ ลูกต้องมีชุดให้พร้อม"
แม่บอกเพื่อเน้นย้ำกับลี แล้วเดินตรงขึ้นชั้นสองเพื่อเข้าห้องนอนของท่าน
"มึง....."
ลีเรียกพร้อมมือที่เริ่มสะกิดขา
"ว่า"
ฉันปัดป่าย เพราะมันไต่ระดับขึ้นสูงเรื่อย ๆ
"กูใส่แบบที่พูดจริง ๆ นะ"
"เห็นแก่หน้าแม่หน่อย"
"ก็มัน....."
"อันนี้ชุดหนูจ้ะ"
แม่ถือชุดราตรีสีครีมที่ดูเหมือนจะเรียบร้อย แต่ก็แอบวาบหวิวเพราะเปิดไหล่ และ เป็นลูกไม้สวยงาม
ท่านคงจะชื่นชอบผ้าแบบนี้ ซึ่งชุดของแม่ แอบแซ่บอยู่เหมือนกันนะ
"ใส่ก็ไม่เหมือนแม่หรอก ไอ้ลินมันไม่มีนม"
อยากบีบคอลีว่ะ บีบให้รัด แล้วเอานมอัดหน้ามันให้ขาดอากาศตายไปเลย
ก็คนมันมีน้อย ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีเลย!!!
"ปากดีแบบนี้ ตอนเอาอย่าให้มันดูดนมนะลูก อย่าไปดูดให้มันด้วย"
เอ่อ..... แม่คะ จะพูดเรื่องแบบนี้อย่างหน้าตาเฉยแบบนี้ไม่ดีนะคะ หนูกับลูกแม่ ยังไม่ได้กันค่ะ
อยากแก้ตัว แต่ไอ้เพื่อนชั่วมันยกยิ้มเย้ยใส่
มองบนได้มั้ย?
ถึงเวลาออกจากบ้าน ฉันจัดการแต่งหน้าตัวเองเรียบร้อยโดยใช้เครื่องสำอางของแม่ลี เห็นเป็นแบบนี้ แม่ลีแซ่บมากขอบอก มีทุกอย่างที่ออกใหม่ ลิปมีประมาณเกือบร้อยแท่ง โดยทุกอย่างถูกวางไว้เป็นตำแหน่งเป็นสัดเป็นส่วนอย่างเรียบร้อย
แตกต่างจากฉันอย่างสิ้นเชิง
"คราวนี้งานใหญ่เชียว"
ลีพูดขึ้นหลังจากที่เราพากันมาหยุดยืนตรงหน้างานแล้ว
ห้องโถงใหญ่ในโรงแรมดังของเมือง ถูกเนรมิตให้สวยงามตามคอนเซ็ปที่บ่าวสาวบรีฟไว้ ซึ่งให้ฉันวิเคราะห์ ฉันว่ามูลค่าเบ็ดเสร็จ น่าจะเจียดล้าน
ถ้าเป็นงานฉันละก็ ไม่ขอมากขนาดนี้ สิ้นเปลืองเปล่า ๆ
"มึงชอบงานมั้ย?"
คำถามที่ไม่ชัดเจนตรงประเด็นนักถามฉันขึ้นมา
แม่ขอปลีกตัวไปหาเพื่อน ฉันเองทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้จักใคร ก็เลยเกาะติดลีไว้
"ก็ชอบนะ แต่มันดูเว่อร์ไปอะ"
อีคำหลังฉันขยับไปใกล้ลีแล้วกระซิบแผ่วเบา เนื่องจากคนเริ่มมากขึ้น พูดดังไป เดี๋ยวโดนหมั่นไส้เอา
สายตาหลายคนจับจ้องมาที่เราอย่างประหลาดใจ ทำให้ฉันรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ลีเองคงรู้สึก ก็เลยจับมือของฉันมาสอดใต้แขนของเขาเอาไว้
"แล้วชอบงานแบบไหน"
ลีพาฉันก้าวเดิน คงไม่อยากให้เราเป็นเป้านิ่งให้ใครจับตามอง
"ก็นะ....."
แล้วฉันก็รู้สึกผ่อนคลาย เลยสาธยายซะยาวเหยียดถึงความประสงค์ที่ต้องการในวันงานแต่ง คงเพราะเล่าเพลินมากไป ลีก็เลยทั้งยิ้มฝืนและหัวเราะแบบฝืน ๆ ให้กัน
"ที่พูดมาทั้งหมดคืออยากให้จัดแบบนี้ใช่มั้ย"
ฉันขมวดคิ้วเมื่อคำถามกำกวมออกจากปากของลี
"อ๋อ ... ใช่ กูชอบแบบที่บอกมึงหมดนั่นแหละ งานแต่งทั้งทีนะลี ก็อยากตามใจตัวเองที่สุด"
ฉันพูด ลีพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าแล้วล้วงมือถือออกมา
"วันงานแต่งเรา กูจะจัดตามที่มึงพูดเป๊ะ ๆ เลยนะ"
ใครก็ได้ ช่วยฉันทีเถอะ ทำไมลีเจ้าเล่ห์นักนะ
เขาอัดเสียงฉันไว้อีกแล้ว ทำไมฉันไม่สังเกตเลย
แล้วดูสิ ทิ้งฉันอีกแล้ว
"ไอ้บ้าลี กลับมาเดี๋ยวนี้นะ"
จะทำไรได้ ไม่รู้จักใครเลยในนี้ เลยต้องหอบชุดรีบเดินตามลีไปให้ถึงตัวไวที่สุด
ถ้าใครเกิดตามัวมาฉุดฉันล่ะ งานแต่งที่บอกลี คงไม่ได้จัดแน่เลย!