ฉันโกหกลี.....
ที่ฉันตบตาล เพราะต้องการให้เธอหุบปาก.....
เพื่อให้เธอหยุดแส่เรื่องฉัน
เรื่องที่ฉันพูดจะได้ไม่เผยแพร่ ให้ใครรู้ทั้งนั้น
ระหว่างที่ฉันยืนหัวเสียกับรูปที่ถูกส่งเข้ามาในไลน์
ฉันคิดว่ามีบางข้อความที่หายไป
อาจเพราะใครบางคนบังเอิญเห็นแล้วได้แอบลบไปก่อนหน้า
คนที่ส่งมาหา คงเห็นว่าไม่มีการตอบกลับ
เลยส่งมาซ้ำอีกรอบ พร้อมแนบคำพูดจี้หัวใจของฉัน
ไลลา เธอเป็นเหมือนหมาบ้าที่กัดไม่ยอมปล่อย
พี่สาวต่างแม่ต่อสายเข้ามาเมื่อเห็นว่าฉันได้เปิดอ่านเรื่องราวแล้วไม่หัวเสียกลับไป
คุยไปคุยมา ฉันลั่นวาจาว่าจะแย่งผู้ชายคนนั้นคืน
แล้วเธอก็จะกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
ซึ่งตอนนั้นฉันพูดไปด้วยโทสะล้วน ๆ ไม่ได้คิดจริงแม้แต่น้อย
ตาลผ่านมาได้ยิน และ ปะติดปะต่อเรื่องราวให้มันบานปลาย เธอพูดยั่วโมโหฉันมากมาย จนสุดท้าย ฉันก็ฟาดเต็มแรงเข้าแก้มของเธอ
เรื่องแหวนนั่น ฉันประดิษฐ์ขึ้นมา ไม่มีความจริงเลย!
จนตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้ว่าตบตาลด้วยเหตุอะไร ความจริงคือโมโหที่เธอแส่ หรือแค่กลัวเธอบอกลีเรื่องที่ฉันลั่นวาจาโดยการประชดพี่ จนป่านนี้ฉันยังไม่รู้ตัว ว่าฉันเป็นอะไร?
"ลิน....."
เสียงของลีทำให้ฉันหลุดจากการนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เรายังคงนั่งอยู่เหมือนเดิม ตาลถูกเพื่อนหามกลับไปแล้ว การ์ดที่ผับเพียงตักเตือนฉัน และ จับตามองตลอด ไม่ได้ไล่ออกจากร้านไปในทันที
งานเลี้ยงยังไม่เลิกรา ตราบใดที่ผับยังไม่ปิดเพลง
"....."
ฉันหันมองหน้าลีโดยไม่คิดจะหือ หรือ อืออะไร แม้ลีจะถึงเนื้อถึงตัวฉันมากแค่ไหน ฉันก็คิดไกลเกินไม่ได้ในตอนนี้
ฉันรักหมอรุท ฉันรักเขามาก
และเขาก็ทำฉันไว้เจ็บมาก.....
"พรุ่งนี้เดี๋ยวไปส่งนะ"
ลีบอกกับฉัน คงเพราะลีได้แอบดูมือถือในตอนที่ฉันงีบหลับ เขาคงเห็นทุกข้อความที่ค้างคาในมือถือเป็นที่เรียบร้อย
หนึ่งในนั้นคือข้อความของพ่อ ว่าให้กลับไปนอนบ้าน
หนึ่งในนั้นคือข้อความของแม่ ว่าอยู่ที่ไหน งานพี่จะมีอีกสามวันข้างหน้า
ท่านทั้งสองไม่รู้หรอก ว่าลูกสาวที่กำลังจะแต่งงาน แย่งผู้ชายของน้องสาวอย่างฉัน ด้วยการเอาการตั้งครรภ์มามัดมือชก
หรือไม่.....
เขาสองคนอาจจะรักกันมาก สักขีพยานตัวน้อยจึงมาไวแบบปุบปับ
"แล้วแหวนเนี่ย.... ก็ห้ามถอด"
ลีบอกย้ำ ซึ่งฉันเองก็สวมไว้ตลอด ไม่คิดจะถอดเลย ไม่รู้เพราะอะไร
"แล้วจะมาหากูมั้ย"
ฉันถาม
"ไปวันงานแหละ พรุ่งนี้ไปส่งแล้วจะไปดูร้าน เดี๋ยวค่อยมาอีกที"
ลีอธิบาย นั่นหมายถึงจะขับเข้าเมืองเพื่อไปส่งฉัน แล้วจะหันทิศทางไปต่างจังหวัดที่มีร้านเหล้าตั้งอยู่
ขยันขับ หรือ น้ำมันเยอะ!!!
"มีอะไรเหรอ"
ลีถามอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าฉันมองหน้ามันนิ่ง ฉันนิ่งจนกระทั่งเรากลับบ้านลี
"มึงเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นนานแค่ไหนแล้ว"
ฉันถามลีขึ้นมา ขณะที่เขาพึ่งจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ ส่วนตัวฉัน จัดการตัวเองเรียบร้อย
"ต้องการอะไร มาถามแบบนี้"
ลียืนเช็ดผมที่เปียกอยู่หน้าพัดลม เขายังคงมีท่าทีสบาย ไม่เกร็ง ไม่อาย แม้จะเปลือยกายท่อนบน
ไม่แน่ใจว่า 'ชิน' หรือ 'ด้าน'
"ตอบมาสิ"
ฉันเดินไปยืนด้านหลังของลี แล้วแย่งผ้าชุ่มมาถือ จับมือลีให้มานั่งแหมะลงที่พื้นตรงขอบเตียงนอน ก่อนที่ฉันจะนั่งลง แล้วบรรจงเช็ดผมให้ลี อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ลีเองก็ดูจะแปลกใจ ที่ฉันถึงเนื้อถึงตัว
แต่ก็ยอมนั่งนิ่งให้ฉันเล่นหัว.....
"นาน ๆ ที"
ลีตอบเสียงเบา
"ไม่ตรงคำถาม"
ฉันขยำมืออย่างแรงหนึ่งที มันสะดุ้งวาบ แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร
"มีบ้าง ส่วนมากจะช่วยตัวเอง"
อันนี้ฉันไม่เชื่อ ไม่เชื่ออย่างมาก
สำราญอย่างลี คงมีผู้หญิงมาหาถึงที่ แล้วพากันไปถึงเครื่องมากกว่า
"แต่ที่มี ก็ซื้อเอานะ ไม่ได้สานต่อ เพราะแช่งให้มึงเลิกกับผัวทุกวัน"
ผัวะ!!!
"ปากปีจอ"
ฉันต่อว่า หลังจากที่ฟาดหัวลีไปเต็มแรง
"ฮ่า ๆๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้.....
......มึงก็รู้ว่ากูเปิดร้านเหล้า กลางวันกุ๊กก็ขายอาหารตามสั่ง มึงก็เห็นว่าบางทีกูก็ดูแลลูกค้าเอง ไปซื้อของเองถึงตอนนี้จะมีคนมาส่งถึงร้านก็เหอะ ตอนเปิดใหม่ ๆ กูทำของกูเองทั้งนั้น มันเหนื่อยนะเว้ยยย ! ส่วนผู้หญิงน่ะยอมรับว่าซื้อบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะบ่อยขนาดนั้น เอาแรงที่ไหนไปซ่ำเขา"
ฉันนั่งฟังลีทุกคำ พลางเช็ดผมเขาด้วยความเบามือ จนมันเริ่มจะหมาดไปทางแห้ง
ลีขยับกายขึ้นเตียงมานั่งข้างฉัน ฉันจึงเอนหัวไปซบไหล่มัน
"ห้ามถอดแหวนนะรู้มั้ย"
ลีจับมือของฉัน ลูบไล้แหวนอยู่อย่างนั้น
มันคิดจะจองตัวกันไว้ ขัดขวางไม่ให้เหลียวมองใครเลยเหรอ
ฉันก็อยากบริหารเสน่ห์บ้างนะ..... อุตสาห์โสดทั้งที
"ถ้าถอดล่ะ"
"รู้ก็ปล้ำไง ที่ไม่ให้ความสำคัญ ทั้งที่มันสำคัญกับกูพอ ๆ กับมึง"
ฉันรู้นะ ว่าลีจะสื่ออะไร
"ง่วงจัง....."
ฉันผลักลีออกอย่างไม่จริงจัง แล้วเอนตัวกลิ้งไปจนสุดขอบเตียง
คืนนี้ฉันจะได้หันหลังให้มัน จะได้เลิกฉวยโอกาสมากอด มาแอบหอมหน้าผากเหมือนสองคืนที่ผ่านมา
"ลินดา"
ลีเรียกชื่อเต็มแล้วแค่นหัวเราะเบา ๆ
ฉันที่คิดไว้ว่าจะไม่โดนกอด สุดท้ายร่างกายใหญ่โตก็มาเบียด และสอดแขนมาโอบกอดไว้แน่นดังเดิม.....
"พาลูกชายแม่มาอีกนะลูก"
แม่ของลีทั้งกอดทั้งหอมฉัน เสมือนฉันเป็นลูกสาวท่านอย่างนั้นเลย
"แม่ ผมพามันมาต่างหาก"
ลีแย้ง พลางเดินไปขึ้นรถโดยไม่คิดจะลาไหว้แม่สักคำพูด
"มาคราวหน้าขอให้เป็นตัวจริง ไม่ใช่ที่เล่นตบตาแม่นะลูก"
แม่ลีพูดเบา ๆ ฉันรู้ ว่าแม่รู้
ผู้ใหญ่ย่อมมองออกอยู่แล้ว เพราะเคยอาบน้ำร้อนมาก่อน
"ไว้ลินจะเก็บไปคิดนะคะ"
ฉันสวมกอดแม่อีกรอบ ประนมมือไหว้ท่าน จากนั้นก็หันมาก้าวเท้าขึ้นรถ
ลีที่นั่งรอ ก็ขอแว้งมาแขวะสักหน่อย
"รักกันดีขนาดนี้ เป็นสะใภ้จริง ๆ ไปเลยสิ"
ลีว่า พลางออกรถ มุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อไปส่งฉันที่บ้าน
"ไม่หยอดสักวัน จะตายมั้ย"
"ไม่ตายหรอก...... แต่นอนไม่หลับ"
"หน้าอย่างมึงนะลี"
"หน้าอย่างนี้แหละ ที่จะเป็นผัวคนสุดท้ายของน้อง"
"กูอาจจะท้องทั้งที่มีมึงเป็นผัวอยู่ก็ได้ ใครจะไปรู้ อยากเป็นคนสุดท้ายใช่มั้ยจ๊ะ"
ฉันยียวน แล้วหันไปก่อกวนพลขับโดยการเกาแขนมันเบา ๆ
"อยากท้องแล้วก็ไม่บอก"
ลีชะลอรถ ทำท่าจะจอด
"ไม่ตลก"
ฉันเปลี่ยนจากเกาเป็นตีแขนมัน
"ก็นึกว่าอยาก..... หึ ๆ "
"ผู้หญิงมึงเยอะแยะไปหมด ขี้เกียจสู้รบตบมือ ไม่อยากอะไรกับมึงหรอก"
ฉันพึมพำไปทั่ว จนนึกได้ว่าลืมตัว เผลอพูดบางอย่างออกไป
ทำเอาป้องปากปิดเสียงแทบไม่ทัน!
"กูอยากอยู่อย่าง"
ลีคงไม่ทันได้ยินเมื่อกี้
"เรื่องอย่างว่าล่ะน่าดู"
ฉันขู่
"ไม่ใช่ แค่อยากฝากลูกไว้กับมึง"
ฉันอึ้งจนทำตัวไม่ถูก ตัวมันแข็งทื่อกับอีแค่ประโยคธรรมดา แต่ความหมายมันโคตรลึก
ลึกยังไงน่ะเหรอ?
สุดโคนตอนเสร็จน่าจะผู้ชาย โอนอ่อนละมุนละไมตอนท้ายอาจได้ผู้หญิง
นี่ฉันคิดลามกอีกแล้ว!
"ไอ้ลี"
เพราะความคิดลามกของตัวเองเข้ามาแทรก เลยแหกปากเรียกลีอย่างดัง
แต่มันน่ะเหรอ จะสะเทือนขี้หู...
"ฝากได้ปะ ไม่นานหรอก แค่เก้าเดือน"
ลีหันมายิ้มกริ่ม.....
และ ฉันเกลียดรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของลีมากที่สุด.....