สายลมยามดึกพัดกรรโชกแรง หอบเอากลิ่นอับชื้นและกลิ่นเหม็นเน่าของเยื่อกระดาษเก่าๆ ลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวง
โรงทำกระดาษตระกูลฉินที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายปี ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิดราวกับสุสาน โครงสร้างไม้ผุพังส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดน่าขนลุกทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน เงาตะคุ่มของเครื่องจักรเก่าๆ ทอดตัวยาวดูคล้ายสัตว์ประหลาดที่กำลังหมอบซุ่ม
หลิวจื้อเฉินในชุดองครักษ์สีเข้มกลมกลืนกับรัตติกาล ยืนเกาะอยู่บนขื่อคานสูงภายในโรงงาน สายตาคมกริบดุจเหยี่ยวจ้องมองลงไปยังลานกว้างเบื้องล่าง
ที่นั่น... ท่ามกลางกองกระดาษเก่าที่ขึ้นรา มีแสงเทียนสีแดงเลือดนกจุดสว่างไสวเรียงรายเป็นวงกลม ตรงกลางวงเวทย์คือแท่นบูชาที่เต็มไปด้วยคราบเลือด และร่างของบุรุษผู้หนึ่งที่กำลังดิ้นทุรนทุราย
"อึก... อ้ากกก!"
ฉินลี่หรงกุมหน้าอกตัวเองแน่น เลือดสีดำข้นทะลักออกจากปากไม่หยุด ผลจากการที่องค์ชายจวิ้นอี่ใช้เลือดมังกรทำลายอาถรรพ์เมื่อครู่ ส่งผลสะท้อนกลับมาหาผู้กระทำรุนแรงดั่งถูกค้อนยักษ์ทุบเข้าที่หัวใจ
"ยังไม่จบ... ข้ายังไม่แพ้!" ฉินลี่หรงคำรามเสียงแหบพร่า ดวงตาแดงก่ำปูดโปนด้วยความบ้าคลั่ง เขาคว้าตุ๊กตาตัวใหม่ขึ้นมา มันเป็นตุ๊กตาฟางที่หยาบกร้านกว่าเดิม แต่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำมันพราย "ถ้าข้าฆ่ามันด้วยเข็มไม่ได้... ข้าก็จะเผามันทั้งเป็น!"
จื้อเฉินที่ซุ่มดูอยู่กัดฟันกรอด
ไอ้ชั่วช้า... กัดไม่ปล่อยจริงๆ
เขาไม่รอช้า ดีดตัวลงมาจากขื่อคาน พุ่งเข้าใส่แท่นบูชาดุจลูกธนูที่หลุดจากแหล่ง
"หยุดเดี๋ยวนี้ ฉินลี่หรง!"
เคร้ง!
ดาบในมือจื้อเฉินฟาดฟันลงไป หมายจะทำลายตุ๊กตาในมืออีกฝ่าย แต่ทว่าฉินลี่หรงกลับไวกว่าที่คิด เขาขว้างตุ๊กตาทิ้งแล้วกลิ้งตัวหลบไปด้านข้าง พร้อมกับตวัดมือซัดผงสีขาวบางอย่างใส่หน้าจื้อเฉิน
"คิดจะขัดขวางข้าหรือ? ฝันไปเถอะ!"
จื้อเฉินกลั้นหายใจ ใช้แขนเสื้อปัดผงนั้นทิ้ง แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็ต้องพบกับภาพที่ชวนสยดสยอง
กองกระดาษเก่าๆ รอบตัวเริ่มขยับไหว... แผ่นกระดาษเหล่านั้นพับตัวเข้าหากัน ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเป็นรูปร่างมนุษย์ที่บิดเบี้ยว แขนขาที่ทำจากกระดาษแข็งคมกริบดุจใบมีด
วิชาหุ่นพยนต์กระดาษ
"ฆ่ามัน!" ฉินลี่หรงสั่งเสียงเหี้ยม
หุ่นกระดาษนับสิบตัวพุ่งเข้าใส่จื้อเฉินพร้อมกัน เสียงกระดาษเสียดสีกันดังสวบสาบน่าขนลุก จื้อเฉินตวัดดาบฟันร่างพวกมันขาดครึ่ง แต่ชิ้นส่วนที่ขาดกลับลอยกลับมาต่อติดกันได้ใหม่ ราวกับพวกมันไม่มีวันตาย
"บัดซบ! ฟันไม่เข้า!" จื้อเฉินสบถ เขาเตะหุ่นตัวหนึ่งกระเด็น แต่ก็ถูกอีกตัวใช้ขอบกระดาษบาดเข้าที่แก้มจนเลือดซิบ "หมอไป๋พูดถูก... ของพวกนี้ใช้ดาบธรรมดาจัดการไม่ได้!"
ฉินลี่หรงหัวเราะร่าอย่างคนเสียสติ "ฮ่าๆๆ! นี่คือวิชาลับของบรรพบุรุษข้า! ไม่มีใครทำลายพวกมันได้ เจ้าจงกลายเป็นปุ๋ยอยู่ที่นี่ซะเถอะ!"
จื้อเฉินถูกต้อนให้ถอยร่นไปติดกำแพง หุ่นกระดาษดาหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เขาเหนื่อยหอบ บาดแผลตามตัวเริ่มมากขึ้น แต่ในวิกฤตนั้น เขานึกถึงคำพูดของไป๋เหวินเจี๋ยและขวดกระเบื้องในอกเสื้อ
'อย่าใช้ดาบฟัน... ให้ใช้น้ำมันนี้ราดแล้วเผามันซะ!'
รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าเปื้อนเลือดของจื้อเฉิน
"เจ้าบอกว่าไม่มีใครทำลายได้งั้นรึ?" เขาหยิบขวดกระเบื้องออกมา ใช้นิ้วโป้งดีดฝาออก "งั้นลองเจอของขวัญจากท่านหมอไป๋หน่อยเป็นไง!"
จื้อเฉินไม่ได้สาดน้ำมันใส่หุ่นกระดาษ... แต่เขาขว้างขวดทั้งใบข้ามหัวพวกมัน ไปกระแทกใส่แท่นบูชาที่อยู่ด้านหลังฉินลี่หรงอย่างแม่นยำ!
เพล้ง!
ขวดแตกกระจาย น้ำมันสีฟ้าใสสาดกระเซ็นไปทั่วตุ๊กตา เครื่องเซ่นไหว้ และกองเทียนไข
"ไม่นะ!" ฉินลี่หรงกรีดร้อง
วินาทีที่น้ำมันสัมผัสกับเปลวเทียน มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดาที่ลุกไหม้... แต่มันคือการระเบิดของเปลวเพลิงสีน้ำเงินสดใสที่ร้อนแรงดุจนรกโลกันตร์!
พรึ่บ!!!
"อ๊ากกกกก!"
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เปลวไฟลุกท่วมแท่นบูชาและลามเลียไปติดกองกระดาษรอบๆ อย่างรวดเร็ว หุ่นพยนต์กระดาษที่กำลังรุมล้อมจื้อเฉินส่งเสียงหวีดร้องแหลมสูงราวกับเปรต ก่อนจะลุกไหม้เป็นจุณไปในพริบตา เพราะแหล่งพลังงานของพวกมันถูกทำลาย
"ไฟบรรลัยกัลป์..." จื้อเฉินมองเปลวไฟสีฟ้าด้วยความทึ่ง "เหวินเจี๋ย... เจ้านี่มันน่ากลัวจริงๆ"
ฉินลี่หรงที่อยู่ใกล้แท่นบูชาที่สุดถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นไปกระแทกผนัง เสื้อผ้าไหม้เกรียม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เขาพยายามตะเกียกตะกายจะเข้าไปหยิบตุ๊กตาคืน แต่ความร้อนแรงนั้นกั้นขวางเขาไว้
"ตุ๊กตาของข้า! อำนาจของข้า!"
"จบแล้ว ฉินลี่หรง" จื้อเฉินเดินฝ่าเปลวความร้อนเข้าไป ใช้ดาบพาดคอศัตรูที่กำลังสิ้นหวัง "วิชามารของเจ้าถูกเผาไปหมดแล้ว ยอมจำนนซะ"
ฉินลี่หรงเงยหน้ามองจื้อเฉินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยแตก เขายิ้มแสยะ น้ำลายฟูมปาก "ฆ่าข้าสิ... ฆ่าข้าเลย! ถ้าข้าตาย คำสาปก็จะฝังอยู่กับตัวเซี่ยเหยียนอวี่ตลอดไป!"
"ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก" จื้อเฉินแสยะยิ้มกลับ "ความตายมันสบายเกินไปสำหรับเจ้า... ฝ่าบาทมีที่ที่เหมาะสมกว่าเตรียมไว้ให้เจ้าแล้ว"
จื้อเฉินฟาดสันดาบเข้าที่ท้ายทอยของฉินลี่หรงเต็มแรง
ปึก!
ร่างของขุนนางชั่วร่วงลงไปกองกับพื้น สลบเหมือดคาที่
จื้อเฉินรีบมัดตัวฉินลี่หรงแบกขึ้นบ่า ก่อนที่ไฟจะไหม้โรงงานจนถล่มลงมา เขาหันกลับไปมองกองไฟสีฟ้าที่กำลังเผาผลาญทุกสิ่งที่เป็นความชั่วร้ายให้มอดไหม้
"ภารกิจสำเร็จ..." เขาพึมพำ
…
…
...
ณ เรือนตระกูลเซี่ย
แสงแรกของวันใหม่เริ่มจับขอบฟ้า ประตูห้องบรรพชนถูกผลักเปิดออก
ร่างสูงของหลิวจื้อเฉินเดินโซซัดโซเซเข้ามา สภาพมอมแมมเหมือนเพิ่งไปคลุกฝุ่นภูเขาไฟมา แต่รอยยิ้มกว้างขวางยังคงประดับอยู่บนใบหน้า
"กลับมาแล้ว!" เขาตะโกนบอกทุกคน พร้อมกับโยนห่อผ้าที่ใส่เศษซากของตุ๊กตาที่ไหม้เกรียมลงบนพื้น "ของฝากจากนรก... เผาเกลี้ยงไม่มีเหลือ!"
ไป๋เหวินเจี๋ยที่นั่งเฝ้าอาการเหยียนอวี่อยู่ รีบผุดลุกขึ้นวิ่งเข้ามาหา เขาสํารวจร่างกายขององครักษ์หนุ่มด้วยสายตาตื่นตระหนก
"เจ้า... เจ้าบาดเจ็บตรงไหนไหม? ไฟลวกหรือเปล่า?"
จื้อเฉินมองท่าทางร้อนรนของอีกฝ่ายแล้วหัวใจพองโต เขาแกล้งทำหน้าเจ็บปวด "โอ๊ย... เจ็บไปหมดเลยท่านหมอ สงสัยต้องให้เจ้าทายาให้ทั้งตัวเสียแล้ว"
"เจ้าบ้า!" ไป๋เหวินเจี๋ยทุบไหล่เขาเบาๆ ทั้งน้ำตาคลอ "ข้าเป็นห่วงแทบตาย ยังจะมาเล่นลิ้น!"
"ข้าสัญญาแล้วว่าจะกลับมา" จื้อเฉินกุมมือหมอหนุ่มไว้แน่น สายตาอ่อนโยนลง "ข้าไม่ยอมผิดสัญญากับเจ้าหรอก"
ที่มุมห้อง เซี่ยเหยียนอวี่ที่นอนหนุนตักองค์ชายจวิ้นอี่อยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าซีดเซียวเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
"พวกเขาปลอดภัย..." เหยียนอวี่กระซิบ
"ใช่... ทุกคนปลอดภัย" จวิ้นอี่ก้มลงจูบหน้าผากคนรักเบาๆ "และฉินลี่หรงก็ถูกจับแล้ว... ฝันร้ายจบลงแล้วนะ เหยียนอวี่"
เหยียนอวี่หลับตาลงอีกครั้ง ซึมซับความอบอุ่นจากอ้อมกอดของท่านอ๋อง และเสียงหัวเราะของสหายที่ดังก้องอยู่ในห้อง
แม้ร่างกายจะยังอ่อนล้า แต่วิญญาณที่เคยร้าวรานของเขา บัดนี้เริ่มได้รับการเยียวยาด้วยยารักษาที่ชื่อว่าความรักและมิตรภาพ
ทว่า... ในซอกหลืบของความทรงจำ เขายังจำสายตาอาฆาตของฉินลี่หรงก่อนจะถูกลากตัวไปได้
สงครามจบลงแล้วจริงหรือ? หรือนี่เป็นเพียงความสงบก่อนพายุระลอกสุดท้าย?