8 ช่างบังเอิญ2

1578 คำ
ราวกับว่าคุณนายสุดาและบุตรสาวคอยจ้องอย่างไม่กะพริบตา เมื่อพนักงานถูกเรียกไปคิดเงินที่โต๊ะอาหารของอธิคมน์และกังสดาล สองแม่ลูกก็รีบเดินตรงมาทันที “ขอเวลาคุยกับกั้งสักสิบห้านาทีค่ะ” คุณนายสุดาเป็นคนเอ่ย อธิคมน์หลุบตามองหญิงสาวว่าหล่อนจะเอาอย่างไร ขณะนั้นสองแม่ลูกจดสายตาหยุดนิ่งยังมือเล็กที่ซุกอยู่ในอุ้งมือใหญ่ของชายหนุ่ม คุณนายสุดามองมือของหลานสาวที่อยู่ในมือของผู้ชายที่ครั้งหนึ่งนางผลักไสออกไปจากชีวิตกรธิดา คิดแล้วเจ็บใจตัวเองที่มองคนพลาดไปได้ขนาดนี้ “ว่าไงกั้ง อยากคุยไหม” อธิคมน์เอ่ยถามหญิงสาวอีกครั้ง ทำให้คนตัวบางเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วปรายตามองค้อนเมื่ออีกฝ่ายโยนปัญหามาให้ เจ้าของมุมปากได้รูปยกขึ้นนิดๆ คล้ายขบขัน คนตัวบางจึงลอบถอนหายใจยาวแล้วหันมายังสองแม่ลูกที่รอคอยด้วยใจจดจ่อ “ก็ได้ค่ะ” กังสดาลตอบชายหนุ่ม แต่ดวงตามองสองแม่ลูก คนตัวโตพยักหน้ารับรู้ เจ้าของร่างระหงจึงเดินตามคนทั้งสองตรงไปยังโต๊ะที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้ “อันที่จริงคุณคมน์มีธุระด่วนต้องรีบกลับไปทำ แต่กั้งขอเจียดเวลามาได้สิบนาที” คำว่า ‘เจียดเวลา’ ทำให้คุณนายสุดามุมปากกระตุก ทว่าดวงหน้าเรียวหวานของกังสดาลยังเจือรอยยิ้มจางๆ ยามสบตาญาติผู้พี่และภรรยาของผู้เป็นลุง หญิงแก่ใจดำที่หล่อนเลิกนับถือมานาน... หญิงสาววางมือลงบนโต๊ะแล้วเคาะเบาๆ เรือนร่างระหงตั้งตรง ดวงหน้าหวานงดงามไร้ที่ติ กรธิดาและผู้เป็นแม่แทบนึกภาพเด็กสาวกะโปโลเมื่อหลายปีก่อนไม่ออก เพราะกังสดาลคนใหม่กลบภาพเด็กสาวผอมแห้งไปจนหมด กังสดาลในวันนี้มีสง่าราศีจับพราวไปทั้งตัว เดินไปทางไหนมีข้ารับใช้ร่างใหญ่ตามต้อยคอยให้ความสะดวกสบาย ที่เจ็บใจคือตอนนี้พวกตนกำลังลำบากมากและต้องบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเด็กที่คิดเสมอว่าเป็นเพียงกาฝาก เป็นภาระ เป็นส่วนเกินที่ต้องกำจัดทิ้ง... แต่ดูตอนนี้สิ! คุณนายสุดาเจ็บใจนัก จะทำอะไรก็ทำได้ไม่ถนัด เพราะมีสายตาของอธิคมน์มองมาตลอดเวลา ยังไม่พอเพียงเท่านั้น คนของเขายังยืนกดดันอยู่ไม่ไกลนัก แบบนี้จะพูดอะไรถนัดล่ะ! “คุณลุงสบายดีหรือเปล่าคะ” คนแรกที่หญิงสาวเอ่ยถามถึงคือลุงผู้เคยมีจิตใจโอบอ้อมอารี เมื่อคิดเช่นนั้นก็หลุบตาลง อย่างน้อยก็เคยนะ ถ้าจำไม่ผิด เคยจนกระทั่งเขาจะส่งหล่อนเข้ามาในดงเสือ สิงห์ กระทิง แรด! วันนั้นทำให้หล่อนรู้ว่าสุดท้ายก็ไม่มีใครรักหล่อนมากไปกว่าตัวหล่อนเอง เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องเลือกลูกสาวในไส้มากกว่าหลานสาวที่แรมรอนมาพึ่งพิงใบบุญและอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมาโดยตลอด ทำทุกอย่างเพื่อแลกข้าว แลกน้ำ แลกการศึกษา แต่แล้วหล่อนได้อะไรคืนมา...ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความเมตตาปรานี “สบายดีจ้ะ กั้งดูดีขึ้นมากเลยนะรู้ไหม เขาคงดูแลกั้งดี” กรธิดาหมายถึงอธิคมน์ ทำให้อดีตเด็กสาวไร้ที่พึ่งยิ้มออกมาเล็กน้อย แน่นอน เขาดูแลหล่อนดี ดีมากจนสองแม่ลูกคิดไม่ถึงเลยเชียวละ เพียงแต่มันไม่ใช่สิ่งที่หล่อนต้องการมาแต่แรก แม้สุดท้ายจะหนีไม่พ้นก็ตามที “ค่ะ คุณคมน์ดูแลกั้งเป็นอย่างดี คุณป้ากับพี่ก้อยมีอะไรจะพูดกับกั้งหรือคะ” หญิงสาวเอ่ยตัดบทพลางยิ้มให้คนทั้งสอง เป็นรอยยิ้มที่ต่างจากเด็กสาวคนเก่า เรียกว่าไม่มีรอยยิ้มเศร้าปนเจียมตัวอย่างที่เคยเห็นอีกต่อไป แต่เป็นรอยยิ้มของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าในทุกทาง... “ฉันมีเรื่องต้องการให้แกช่วย” คุณนายสุดาไม่รอช้า รีบบอกความต้องการ “เรื่องอะไรคะ” น้ำเสียงว่าเย็นชาแล้ว แต่รอยยิ้มกลับเย็นเยียบจนคุณนายสุดารู้สึกหนาวเยือกแปลกๆ “เอ่อ” คุณนายสุดาแสดงอาการลอกแลกออกมาจากแววตา ก่อนมองลูกสาวแวบหนึ่งขณะที่ฝ่ายนั้นหลุบตาลงด้วยความละอายใจ “ตอนนี้พวกเรากำลังลำบากมาก ลุงของแกก็เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ เราไม่มีเงินเลย บ้านกำลังจะถูกยึด แกเองก็สุขสบายดีแล้ว ป้าเลยอยากให้ช่วยลุงกับป้าอีกสักครั้ง” คำบอกเล่าที่ออกมาจากปากของคุณนายสุดาทำให้กังสดาลคิดถึงกรรมที่อีกฝ่ายเพียรทำมาตลอด ชีวิต คงไม่เป็นแบบนี้หากสองผัวเมียหยุดเล่นการพนัน... “จะให้ช่วยยังไงคะ” คุณนายสุดาเม้มปาก นัยน์ตาเริ่มวาววาบเมื่อกังสดาลเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนอะไร ซ้ำยังมีรอยยิ้มเจือจางบางๆ ราวกับกำลังสาแก่ใจที่พวกตนต้องเผชิญชะตากรรมแสนโหดร้ายนี้! “ฉันกับลุงของแกต้องการเงินสักก้อน เอาไปไถ่บ้านที่ติดจำนอง” เสียงผ่อนลมหายใจยาวออกมาเบาๆ จากกังสดาล ทำให้ทั้งสองแทบกลั้นใจรออย่างมีความหวัง “พี่ก้อยช่วยคุณป้าไม่ได้เหรอคะ” กรธิดาอ้ำอึ้งและอับอายเมื่อถูกย้อนถามกลับ ส่วนคุณนายสุดาหน้าร้อนวูบวาบ โกรธและอายยิ่งกว่า “ถ้าช่วยได้ฉันคงไม่บากหน้ามาหาแก อย่าลืมนะที่แกนั่งเชิดหน้าชูคอ ทำท่าเย่อหยิ่งกับฉันได้แบบนี้ครั้งหนึ่งก็เป็นเพราะฉันช่วย”นางกระซิบดุดัน “ช่วย!?” กังสดาลเอ่ยออกมาพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ ยิ่งทำให้สองแม่ลูกร้อนผ่าวที่ใบหน้า “แน่ใจนะว่าที่ส่งกั้งมาแทนพี่ก้อยคราวนั้น มันคือการช่วย...” หญิงสาวสบตาคุณนายสุดานิ่งก่อนเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์เมื่อคิดถึงวันนั้น เด็กสาวตัวน้อยหวาดกลัวจับใจ รอคอยให้ลุงและป้าไปรับตามสัญญา ทว่ากลับไม่มีแม้เงา... ใบหน้างามๆ ก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนเป็นกระด้าง เย็นชา บรรยากาศที่เคยสว่างจ้าก็คล้ายจะมืดครึ้มลงในทันที อึดใจต่อมาปรากฏรอยยิ้มฉาบเคลือบดวงหน้างามอีกครั้ง “ก็ได้ค่ะ กั้งช่วยก็ได้” คุณนายสุดายิ้มกว้างอย่างโล่งอก ขณะที่กรธิดาเงยหน้ามองน้องสาวอย่างนึกแปลกใจ แต่เมื่อเห็นแววตาเจือยิ้มเย็นเยียบขนกายก็ลุกเกรียวอย่างประหลาด “แต่มีข้อแม้นะคะ” รอยยิ้มของคุณนายสุดาหุบฉับในทันทีเพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องแลกกับอะไรทั้งนั้น “ข้อแม้อะไร” กังสดาลลุกขึ้นยืนช้าๆ ทำให้สองแม่ลูกต้องเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวยิ้มนิดๆ ยามก้มลงสบตากับคนทั้งสอง เป็นรอยยิ้มของผู้ชนะอย่างแท้จริง “เปลี่ยนจากเจ้าหนี้คนเก่ามาเป็นกั้งแทน” “นังกั้ง!” เสียงของคุณนายสุดาไม่เบานัก ทำเอาริวและโดมขมวดคิ้วมุ่นและเตรียมขยับก้าวเข้าไปหา หากว่ากังสดาลให้สัญญาณเพียงนิด แต่หญิงสาวกลับยิ้มเฉย เป็นรอยยิ้มเลือดเย็นที่กรธิดาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นจากญาติผู้น้องคนนี้มาก่อน “ถ้าตกลงตามนี้ คุณลุงกับคุณป้าก็จะสามารถอยู่ในบ้านนั้นต่อไปจนกว่าไม่อยากจะอยู่ หรือ...” หญิงสาวเว้นคำพูดให้คนรอฟังร้อนใจเล่น พร้อมรอยยิ้มหวานๆ ที่ กว้างขึ้นกว่าเดิม “กั้งเห็นว่าสมควรที่คุณลุงกับคุณป้าควรจะขยับขยาย” “นังกั้ง แก!!” หญิงใจดำผู้กำลังตกที่นั่งลำบากลุกพรวดพราดกำมือแน่น ใบหน้าแดงจัดเพราะความโกรธจนกรธิดาต้องรีบตะครุบมือมารดาเอาไว้ก่อนจะทำเสียเรื่อง กังสดาลยืดลำตัวตรงพลางถอนหายใจยาว สีหน้าบ่งบอกถึงความสบายใจต่างจากสองแม่ลูกลิบลับ “คิดดูดีๆ นะคะ ถ้าตกลง ก็ติดต่อกลับมาที่คนของกั้งได้ทุกเมื่อ” หญิงสาวมองตรงไปที่ริว ฝ่ายนั้นก้าวอาดๆ เข้ามาหยุดตรงหน้าหญิงสาวพร้อมยื่นนามบัตรให้สองแม่ลูก คุณนายสุดาเงยหน้ามองหน้าคนตัวโตเป็นยักษ์ แต่เมื่อสบตาวาวโรจน์ของอีกฝ่ายก็ใจหายวาบ กระชากนามบัตรมาเก็บลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ กังสดาลยิ้มทิ้งท้ายแล้วหันหลังให้สองแม่ลูกพร้อมกับที่อธิคมน์ก้าวมาหาหญิงสาว แววตาที่มองมาแฝงรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าเขาพอใจกับผลงานของหล่อนมากแค่ไหน ก่อนจะโอบไหล่บอบบางพาเดินออกจากร้านอาหาร ริวจ้องตาสองแม่ลูกอย่างข่มขวัญอยู่ครู่หนึ่งพลางแสยะยิ้มแล้วเดินจากไปเป็นคนสุดท้าย คุณนายสุดาตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ มือเย็นเยียบราวจุ่มน้ำแข็งมาหมาดๆ ขณะที่กรธิดาขยับเท้าออกไปสองก้าวแล้วหยุดมองคนทั้งสี่ด้วยสายตาเย็นชาสิ่งที่ต้องเผชิญในวันนี้ทำให้หญิงสาวเริ่มคิดตามที่มารดาพร่ำบอก ที่ตรงนั้น ข้างกายของผู้ชายที่มีอิทธิพลล้นเหลือควรเป็นของหล่อนมากกว่ากังสดาล...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม