9# ตอน ฝนตกและสิ่งที่มากับน้ำ

2077 คำ
“ช่างเขาเถอะค่ะ ปล่อยให้พวกเขาผายลมต่อไป ฉันจะรอดูว่าผลผลิตของพวกเขาได้เท่าเราไหม ถ้าสู้ได้แสดงว่าเก่ง แต่ถ้าไม่...” “ไม่ต้องให้ถึงมือเธอหรอก น้าจะเป็นคนแรกที่หัวเราะใส่หน้า” “แล้วต้นข้าวโพดในไร่ยังมีเพลี้ยขึ้นอยู่ไหมคะ” “ไม่มีแล้ว โดนน้ำแช่ยาสูบเข้าไปหายเกลี้ยงเลย น้าผู้ชายของเธอบ่นเสียยกใหญ่ เขาบอกว่าเสียดายยาสูบที่ฉุนขนาดนี้ แต่ก็แค่บ่น ถ้าให้เลือกยังไงไร่ข้าวโพดย่อมสำคัญกว่า ของแบบนั้นมีเงินจะซื้อเท่าไหร่ก็ได้” “แต่ถ้าไม่มีแมลง ฉันแนะนำว่าอย่าใช้บ่อยนะคะ มันไม่ค่อยดีกับพืชเท่าไหร่ เพิ่งนึกได้ว่ามันไล่ไส้เดือนที่อยู่ในดิน เจ้าตัวเล็กพวกนั้นมีมากไว้ยิ่งดี เพราะจะช่วยพรวนดินให้ ที่สำคัญมูลของมันคือสุดยอดของปุ๋ย” “นี่เป็นเรื่องแปลกใหม่ตั้งแต่ฉันเกิดมาเลย ตอนทำนาเห็นแล้วขยะแขยงเหลือเกินที่แท้ก็มีประโยชน์ ถึงว่าที่ไหนมีไส้เดือนที่นั่นพืชมักจะงาม” เฟิ่งอิงอยู่สนทนากับนางจีไม่กี่คำจึงขอตัวกลับ เธอว่าจะเดินไปดูที่ลำคลองเผื่อว่าจะเจออะไรดีๆ ปกตินอกจากตักน้ำก็มาหาจับปลาตอนค่ำ “น้ำขึ้นสูงขนาดนี้เลย กลับบ้านไปเอาตาข่ายมาลากปลาดีกว่า” ความแรงความขุ่นของน้ำ ทำให้มีปลากระเสือกกระสนว่ายเข้าฝัง ชาวบ้านพากันวางลอบไซใส่ตาข่ายไว้ที่ปลายน้ำ แต่เธอคิดว่าจุดที่น่าสนใจคือตรงน้ำวน ถึงกระแสน้ำจะแรงต้องใช้แรงอย่างมาก แต่จุดนั้นจะมีปลาที่ตกค้างไปไหนไม่ได้ “เสี่ยวอิงเธอจะเอาสิ่งนั้นไปทำอะไร” เด็กสาววัยเดียวกับเธอร้องถาม เฟิ่งอิงมีความรู้เป็นคนที่โดดเด่นของหมู่บ้าน ครอบครัวเธอมักจะย้ำว่าให้หาทางตีสนิท ตอนนี้เหมือนว่าฟ้าจะเปิดทางแล้ว เธอไม่พลาดจะแสดงความเป็นมิตร “ฉันจะเอาไปช้อนปลา” ในบ้านมีเชือกหลายเส้น อี้หานนำมาถักเป็นตาข่ายตาถี่ไว้ผืนหนึ่ง แล้วเอาไม้มาลนไฟดัดเป็นวงจากนั้นก็นำมามัดร้อยด้วยเชือก ใช้ตักกุ้งปูปลา แต่น้ำแรงแบบนี้ลงไปไม่ได้ เพียงต่อไม้แหย่ลงไปในคลองคงพอไหว “บ้าไปแล้ว! น้ำแรงขนาดนั้นทั้งยังลึก เธอไม่สามารถลงไปได้นะ” “ฉันไม่ได้จะลงน้ำ แต่จะต่อไม้ยาวหย่อนลงไป น้ำยิ่งแรงปลายิ่งไหลมา นี่คือโอกาสดีสำหรับการตุนอาหาร” “ฟังดูน่าสนใจ ฉันไปกับเธอได้รึเปล่า บ้านฉันก็มีลอบ” “ไม่มีตาข่ายหรือ ฉันคิดว่าเธอสามารถดัดแปลงแบบเดียวกับฉัน แค่หย่อนลงน้ำตรงที่ไหลวนแล้วงัดขึ้น ไม่แน่ว่าจะดีกว่าวางลอบไว้ริมตลิ่ง” “ฉันขอเวลาเดี๋ยวสิ เหมือนมันจะมีอยู่ เธอรอฉันนะ” “อื้ม” เฟิ่งอิงคิดว่าเธอควรมีคนรุ่นราวคราวเดียวกันเพื่อไปไหนมาไหนบ้าง ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ลางสังหรณ์บอกว่าช่วงนี้เธอไม่ควรอยู่คนเดียว “เสี่ยวอิง อันนี้พอได้มั้ย” “ดัดแปลงนิดหน่อยน่าจะได้ เธอเอาถังมารึยัง” “ฉันเจอแต่ตะกร้า มันใช้ได้ไม่ต่างกัน” “เช่นนั้นไปจับปลา วันนี้เราจะต้องได้เสบียงไว้กิน ต้องตุนให้มากพอหน้าฝนหมดจะหนาว ถึงตอนนั้นทำอะไรล้วนลำบาก” “โอ้ฉันไม่อยากขยับตัวเลยล่ะ แต่บ้านฉันมีหลายคนและฉันดันเป็นเด็กผู้หญิง ถ้าเลือกได้ฉันอยากเกิดเป็นผู้ชาย” “แบบนั้นไม่ดีสิ เธอจะกลายเป็นผู้ชายหน้าหวาน” “พูดอะไรของเธอ! ทำฉันเขินนะ” เฟิ่งอิงหัวเราะเสียงใส เจียวเจียวหน้าแดงที่คล้ายจะโดนล้อ แต่ก็อดหัวเราะตามไม่ได้ ที่แท้เฟิ่งอิงร่าเริงมาก ต่างจากที่สาวน้อยในหมู่บ้านว่าร้าย คนพวกนั้นคงอิจฉาที่เธอสวยกว่า ยังมีอี้หานที่คอยดูแลอย่างดี เขาแตกวัยหนุ่มแล้วหน้าตาหล่อใช้ได้ ทั้งตัวก็สูงมาก ไหล่กว้างไม่ได้ผอมแห้งขี้เหร่เช่นตอนเด็ก คนที่เคยล้อเขายังแอบมองบ่อยครั้ง ถ้าไม่เพราะเขาบอกว่าจะแต่งงานกับเฟิ่งอิง ผู้หญิงหลายคนคงพากันไปเยี่ยมเพื่อเอาใจ สองคนเดินคุยระหว่างเดินไปลำคลอง ไม่นานจึงเดินมาถึง เสียงน้ำไหลดังมากเพราะไหลมาจากเนินเขาฟากนู่น หากหมู่บ้านนี้ไม่เสียหายจากภัยสงคราม ภูเขาจะสูงกว่านี้ ยังดีที่มันยังห่างไปหลายสิบกิโลเมตรและมีลำคลองที่กว้าง ไม่อย่างนั้นพอฝนตกน้ำป่าจะไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน “น้ำแรงมากเราต้องระวัง! ขืนตกลงไปจะเป็นอันตราย” “ใช่ แต่เราจะยืนข้างบนฝัง ตอนนี้สะพานยังชำรุดมันไม่น่าวางใจนัก” “ให้ตายฉันจะไม่ลงไป! เกิดไม้หักขึ้นมาได้ร่วงลงข้างล่าง โผล่อีกทีตัวจะบวมเท่านี้” “โอ้แต่ฉันว่ามันจะไม่ใช่แค่บวม ดูกิ่งไม้พวกนั้นสิ หากลอยไปกระแทกหัวต้องแตก เผลอๆ แขนขาจะหัก มาเถอะ ตรงนั้นที่เราจะหย่อนตาข่ายลงไป” จับวางตาข่ายทดลองแหย่ลงน้ำพบว่าแรงต้านมีมาก ยังดีที่เฟิ่งอิงเลือกจุดที่มีง่ามไม้ใหญ่ เธอไม่โง่พอจะแบกน้ำหนักมหาศาลไว้ แต่จะประคอง ตอนงัดขึ้นอาศัยใช้น้ำหนักตัวออกแรงกดที่ด้าม ให้เจียวเจียวเป็นคนตักปลา ที่ต้องมีไม้สองอันเผื่อมีหนึ่งอันชำรุด ไม่ต้องอารมณ์เสียตอนที่กำลังเก็บเจ้ามีครีบ “เจียวเจียวเธอเก็บนะ อึบ!” “ได้แล้ว! โอ้มีปลาติดมาเต็มเลย ฉันจะรีบเก็บเดี๋ยวนี้” วิธีของเฟิ่งอิงเรียกว่าบ้าก็ไม่ผิด ทว่ามันกลับได้ผลดีอย่างเหลือเชื่อ ตอนแรกคิดจะจับทีละตัว แต่เจียวเจียวกลัวว่าเฟิ่งอิงจะหนักเธอจึงจับตะกร้าลองด้านล่างและตะโกนบอกเพื่อนให้หมุนตาม “เสี่ยวอิง ฉันจะเทมันลง เธอช่วยหมุนไม้ตามฉันนะ” “อื้มได้เลย!” สองสาวทั้งตื่นเต้นและมีความสุข พวกเธอสามารถจับปลากับสัตว์น้ำอื่นๆ ได้เต็มตะกร้าเต็มถังในเวลาไม่นาน “โอ้แบบนี้ขืนใส่อีกต้องล้นแน่ๆ ถ้าฉันรู้ว่ามันจะดีขนาดนี้ ฉันจะไม่เอามาตะกร้าเดียว” เจียวเจียวถอนหายใจ เธอกำลังสนุกไม่อยากเดินกลับบ้านในตอนนี้ เพราะบ้านเธออยู่ค่อนข้างไกล “อย่ากังวลไป เธอสานเข่งเป็นมั้ย” “พอทำได้ แต่ไม่ดีเท่าไหร่ ถามทำไม คงไม่ใช่ว่าจะให้ฉันไปตัดไม้มานั่งทำตอนนี้นะ แบบนั้นคงได้มืดค่ำ” “ไม่ใช่แบบนั้น แต่เราสามารถใช้เครือหญ้าที่เหนียวมาถักสานเป็นถุงใบใหญ่เพื่อใส่ปลาตัวใหญ่ เอาตัวเล็กใส่ถัง ฉันพกมีดมาด้วย” “จริงของเธอ! แถวนี้มีเครือเถาขึ้นอยู่เยอะ พวกมันทั้งเหนียวและทน” พักการตักปลาไว้ชั่วคราวก่อนเพราะต้องทำถุงใส่ การเดินไปเดินมามันเสียเวลา เพราะเมื่อคนอื่นเห็นว่าวิธีนี้ได้ผลพวกเขาจะแห่กันมาทำตาม ดังนั้นตอนนี้รีบกอบโกยให้เยอะหน่อย “สุดยอด! เต็มอีกแล้ว” “เจียวเจียวฉันว่าเราพอเถอะ มันจะเยอะจนหิ้วไม่ไหว เท่านี้คงตากแห้งกินได้อีกนาน” “อื้ม! เชื่อว่าอีกเดี๋ยวชาวบ้านจะแตกตื่นแน่ พวกเขาจะขอคำแนะนำจากเธอ” “แค่เรื่องเล็กน้อย ถ้าทุกคนอิ่มจะมีความสุขและไม่ทำในสิ่งที่ผิด” “ฉันว่าฉันรู้แล้ว ทำไมที่บ้านฉันถึงอยากให้สนิทกับเธอ ไม่เพียงสวยมีน้ำใจ ยังเห็นอกเห็นใจคนอื่น ถ้าเป็นฉันคงไม่อยากให้คนอื่นได้ดีกว่าตัวเอง” “ไม่ใช่ความผิดเธอ หลายปีมานี้มันหนักมากจริงๆ เราใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวความยากลำบาก หูต้องคอยฟังสัญญาณเตือนวิ่งหาหลุมหลบภัยตลอด ไม่เคยได้กินอิ่มสักวัน แล้วจะยังมองคนอื่นได้ยังไงไหว” “เธอไง เธอเห็นและเธอได้ทำ ถึงจะมีคนพูดไม่ดีใส่เธอคอยหาและสร้างข่าวลือแย่ๆ เธอกลับไม่ถือสา” “ใครว่าเล่า! ฉันจดบัญชีไว้หมดแล้ว แค่รอเวลาเอาคืนเท่านั้น” “ถ้าอย่างนั้นเมื่อเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ฉันจะช่วยเธอจัดการเอง” “เธอพูดแล้วนะ หากเธอไม่ทำเธอจะกลายเป็นสุนัข” “ฉันเฉินเจียวเจียว พูดคำไหนคำนั้น” “ดี! คิกๆ” และเป็นไปตามคาด ระหว่างทางมีคนมากมายวิ่งกรูมาดู พวกเขาสงสัยว่าเธอสองคนใช้วิธีใดจับปลา เฟิ่งอิงกับเจียวเจียวจึงอธิบายและบอกจุดสังเกตที่ปลาจะเกาะกลุ่ม เมื่อพวกเขารู้จึงกลับบ้านไปหาเชือกมาถักตาข่ายไว้ตักปลา เพราะจะทำได้ผลตอนน้ำขึ้นสูงยิ่งไหลแรงยิ่งดี หากว่าน้ำลดแล้วจะยาก ตู้ม!!! “เสี่ยวอิง! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย เสี่ยวอิงตกน้ำ” “ว่าไงนะเสี่ยวอิงตกน้ำ! เร็วเข้า! ใครว่ายน้ำแข็ง รีบกระโดดลงไปช่วยเธอ” “เสี่ยวอิง เธอแข็งใจไว้หน่อย มีคนลงไปช่วยเธอแล้ว!” “เจียวเจียวนี่มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมเสี่ยวอิงถึงตกน้ำ” “ลุงหัวหน้าหมู่บ้าน คุณต้องจัดการเรื่องนี้ ซูเจินตั้งใจผลักเสี่ยวอิง ทั้งที่รู้ว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็น” “ฉันไม่ผิด! เป็นยัยนั่นที่ล้มลงไปเอง” “ล้มหรือ! เธอมันพวกปีศาจ เธอโกรธที่เสี่ยวอิงไม่แบ่งปลาให้เธอ ตัวเองขี้เกียจคิดรีดไถ่คนอื่น มือเท้าก็ดีงานไม่ยอมทำ อย่ามาอ้างว่าไม่มีอุปกรณ์นะ ฉันให้เธอยืมแต่เธอปฏิเสธ” “มันเรื่องจริงหรือ? ซูเจินเธอทำเกินไปแล้ว!” “ก็แค่แบ่งมาให้ฉันมันเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เธอหามาได้ตั้งเยอะ เป็นเธอสองคนที่ขี้เหนียว” “ถุย! คนทั้งหมู่บ้านต่างหาปลาได้ เธอเป็นพระเจ้าองค์ไหนกันคนถึงต้องเซ่นไหว้เธอ อีกอย่างเธอไม่ได้พิการสักหน่อย เธอขี้เกียจแล้วยังทำร้ายคน น้ำแรงขนาดนั้นทำให้คนตายได้ เธอคิดว่าพูดแบบนี้จะไม่มีความผิดหรือ ฆ่าคนตายต้องถูกยิงเป้า” “ซูเจิน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่เธอทำมันรุนแรงเกินไป ดูนั่น จนป่านนี้พวกเขายังพาเสี่ยวอิงขึ้นมาไม่ได้ หากเธอบาดเจ็บฉันจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย” หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกโกรธ แต่เขาไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เฟิ่งอิงเป็นที่ชื่นชอบของคนเกือบทั้งหมู่บ้าน แนวคิดของเธอสร้างประโยชน์ให้ผู้คน เธอยังอ่อนน้อมถ่อมตน มีน้ำใจและเคารพตนที่เป็นผู้ใหญ่ อีกทั้งเรื่องการจัดสรรพืชเธอกับอี้หานเคยถูกใส่ร้าย ตอนนั้นทหารจัดการกับคนที่กล่าวหาอย่างรุนแรง รวมถึงหัวขโมย พวกเขาถูกนำตัวไปขังเพื่อสอบสวน จนป่านนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม หากเขาหลับตาข้างหนึ่งอี้หานจะไม่ยอมเฉยแน่ เจ้าหนุ่มนั้นจะเลือดร้อนทันทีถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเฟิ่งอิง “ไม่นะ! เราแค่เถียงกันไม่กี่คำจะมาลงโทษฉันได้ยังไง” “เธอจะฆ่าคนแล้วยังมาพูดแบบนี้ ซูเจิน เธอมันไร้ยางอาย ไม่มีจิตสำนึกบ้างเลย!” “ฉันไม่รู้! ฉันไม่ผิด! ใครก็ลงโทษฉันไม่ได้ทั้งนั้น บ้านตระกูลซูของฉันไม่มีทางยอม” ใช่แล้ว เธอคือคนของตระกูลซู หากใครกล้าแตะเธอพวกเขาจะต้องเอาเรื่อง ซูเจินที่เมื่อครู่ยังตกใจตอนนี้กลับเชิดหน้าท้าทายทุกคน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม