รักแรก

1414 คำ
“อคินลูก วันนี้เครื่องดื่มตัวใหม่เข้าแล้วใช่ไหม อย่าลืมเอาไปไหว้ศาลนะลูก ขากลับเอามาไหว้ศาลที่บ้านเราด้วย” เสียงผู้เป็นแม่คุยกับลูกชายขณะเดินออกมาส่งลูกขึ้นรถยามเย็น “ครับแม่ ไหว้สองศาลเลยเหรอครับ” “ใช่ลูก ศาลที่ร้านกับศาลที่บ้านเรา” “ครับ” ลูกชายรับคำก่อนจะร่ำลาผู้เป็นแม่แล้วขับรถออกไปทำงาน อคินเป็นเจ้าของผับแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขากำลังเปิดสาขาใหม่เพิ่ม ตั้งแต่มีน้องเขยเป็นผีเจ้าที่ กิจการของเขาก็รุ่งเรืองจนฉุดไม่อยู่ น้องสาวไม่ต้องไปทำงานที่ไหนเพราะมีน้องเขยคอยทำงานให้ แม่ก็ได้ใช้ชีวิตเกษียณก่อนถึงเวลา คุณนายไอยราจึงมีเวลาออกไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ และเดินสายทำบุญกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อยู่บ่อยครั้งเพราะไม่ต้องทำงานอะไร แต่ละครั้งก็ไปนานหลายสัปดาห์ บ้านหลังนี้จึงมีอคินอาศัยอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่ เพราะน้องสาวนั้นย้ายไปพักกับสามีเจ้าที่ จะกลับบ้านเฉพาะช่วงที่ผู้เป็นแม่กลับมาเท่านั้น “ช่วงนี้ท่านตรีนุชสมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยเนอะปอถัก” ป่านทอหันไปคุยกับเพื่อนรัก ตอนนี้สองวิญญาณสาวกำลังนั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ข้างบ้าน “ใช่ ๆ คิดว่าสาเหตุคงมาท่านผู้นั้นแน่เลย” ปอถักพยักหน้าให้เพื่อนรัก ในใจนึกถึงใบหน้าดุดันของเจ้าที่ผู้หนึ่ง เขาเป็นคนรักเก่าของตรีนุช “ร้อยวันพันปีไม่เคยได้เจอะเจอกัน ทำไม๊ทำไมต้องมาเจอกันอีกก็ไม่รู้เนอะ ท่านตรีนุชอุตส่าห์ทำใจลืมได้แล้วเชียว” ป่านทอตบเข่าตัวเองเสียงดัง ยิ่งนึกถึงผู้ที่หักอกนายหญิงของตนเมื่อหลายร้อยปีก่อน อาการหัวร้อนของดวงวิญญาณสาวก็ยากจะคุมอยู่ สัปดาห์ก่อนเป็นวันเลือกตั้งผู้ปกครองเขต เหล่าวิญญาณมากมายพากันไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงในฐานะพลเมืองผี และวันนั้นเอง เป็นวันที่พวกเธอและผู้เป็นนายหญิงได้เจอกับใครบางคน ‘พนา’ รักแรกและรักเดียวของตรีนุช เขาและเธอเลิกรากันไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนเพราะฝ่ายชายนั้นมีรักใหม่ วันนั้นเขาก็มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย หากเจอหน้ากันแล้วทำเป็นเหินห่างเหมือนไม่รู้จักก็คงดี แต่เจ้าที่ผู้นั้นเข้ามาทักทายพวกเธอกับนายหญิงนี่สิ ทั้งยังรั้นจะพูดคุยและขอโอกาสเริ่มต้นใหม่กับนายหญิงของพวกเธอด้วย “ปอถักล่ะกลัวใจท่านตรีนุชจริง ๆ กลัวว่าจะกลับไปคบหากับท่านผู้นั้นอีก” บริวารสาวถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ตอนนี้ตรีนุชไม่อยู่ที่ศาล พวกเธอเลยพากันพูดถึงเจ้านายได้อย่างสบายใจเฉิบ “ป่านทอก็กลัวเหมือนกัน ยิ่งตั้งแต่เลิกรากับท่านผู้นั้นไป ท่านตรีนุชก็ไม่เคยสนใจหรือชายตามองผู้ชายคนไหน แบบนี้แสดงว่าลืมท่านผู้นั้นไม่ได้แน่เลย” “เราหาแฟนให้ท่านตรีนุชดีไหมป่านทอ” ปอถักหันไปถามความเห็นเพื่อนรัก “จะหาใครล่ะ อย่าลืมสิว่าพวกเราน่ะออกไปนอกรั้วบ้านได้ที่ไหน ท่านตรีนุชพอเลิกรากับท่านผู้นั้นก็เคร่งครัดกฎระเบียบของโลกวิญญาณมากขึ้น วัน ๆ เอาแต่ทำสมาธิกับหมกตัวอยู่แต่ในรั้วบ้าน ออกบ้านแต่ละครั้งก็ต้องมีเรื่องจำเป็น อย่าว่าแต่เจอใครที่จะมารักษาแผลใจเลย เจอหน้าเพื่อนตัวเองให้ได้ก่อน” “เฮ้อ!” สองสาวถอนหายใจพร้อมกัน พวกเธอยังจำวันที่ตรีนุชถูกทิ้งได้ดี ตอนนั้นภาพของเจ้าที่สาวผู้น่าเกรงขามถูกขยี้ไม่เหลือชิ้นดี กว่าจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ ตรีนุชก็ใช้เวลาเกือบร้อยปีในการเยียวยาหัวใจตัวเอง @ศาลเจ้าที่เหมันต์ “ลมอะไรพัดมาถึงนี่ โลกวิญญาณจะแตกสลายหรือไงเธอถึงได้ออกจากเขตตัวเอง” เสียงทุ้มเย็นยะเยือกทักทายเจ้าที่สาวทันทีที่ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าเธอ “พูดมากจริง ๆ มีอะไรให้กินไหม” คนโดนกระแนะกระแหนไม่สนใจอะไร เธอเดินตรงเข้าไปหาเขาพร้อมกับกวาดตามองไปรอบศาล จนดวงตาคมเฉี่ยวสะดุดเข้ากับของไหว้บนแท่นเบื้องหน้า “เจ้าของบ้านเธอไม่เอาของไปไหว้หรือไง ทำไมทำตัวตายอดตายอยากมาขอกินของไหว้ศาลคนอื่นแบบนี้” เหมันต์เลิกคิ้วถามเพื่อนสาว ก่อนจะกระตุกข้อมือเธอ พาหายวับเข้าไปในศาลตัวเอง “เจ้าของบ้านฉันก็แม่ยายนายนั่นแหละ” เมื่อเข้ามาในศาลของเพื่อนได้ เจ้าที่สาวก็เดินตรงหยิบของไหว้มากมายมาวางบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา หนึ่งในของไหว้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาแรงตั้งอยู่ด้วย “ถ้าจะดื่มก็อย่าเมาในศาลฉัน ไปนั่งดื่มในร้านดี ๆ ทำตัวเหมือนคนปกติไปนั่งร้านเหล้าน่ะ ทำแค่นี้ไม่ตายใช่ไหม” ดวงตาคมกริบมองเพื่อนสาวรินเครื่องดื่มลงแก้ว ตรีนุชกระดกมันลงคอพรวดเดียวจนเขาเองยังต้องขมวดคิ้วตาม “เครื่องดื่มใหม่ของร้าน ตัวนี้ไอ้อคินบอกว่าแรงมากเลยนะ มันเอามาวางไว้แต่ฉันกับบริวารยังไม่ได้ลอง” เสียงทุ้มพูดต่อ “เหรอ? แรง ๆ สิดี” ตรีนุชกระดกของเหลวสีอำพันลงคออีกแก้วติด ๆ กัน เหมันต์ที่ยืนกอดอกมองยังรู้สึกแสบคอแทนเธอ ตั้งแต่มีเจ้าสาวเป็นคน ผีเจ้าที่อย่างเขาก็ไม่เคยกินของไหว้ที่มีคนนำมาวางไว้ให้อีกเลย เพราะชอบที่จะทำอะไรกินกับภรรยาสาวและออกไปนั่งร้านอาหารด้วยกันมากกว่า “ดีกับผีน่ะสิ กระดกถี่ ๆ แบบนี้เดี๋ยวก็เมาเป็นหมาในศาลฉันหรอก ออกไปนั่งในร้านดี ๆ ฉันไม่ชอบให้ใครมาเมาในศาลนอกจากเมียฉัน” คนหลงเมียเอ่ยปากไล่เพื่อน “หมดขวดนี้แล้วฉันจะออกไปต่อข้างนอก พอใจหรือยัง” ดวงตาคมเฉี่ยวตวัดใส่เพื่อนด้วยความหงุดหงิด หากไม่มีเรื่องให้คิดจนหนักอกหนักใจเธอคงไม่มาหาเขาหรอก “แล้วเป็นอะไร” อีกคนถามด้วยความเหนื่อยหน่าย “ทำไมไม่รอถามฉันพรุ่งนี้เลยล่ะ” เธอมาตั้งนานแล้วเขาเพิ่งนึกได้หรือไงว่าต้องถามไถ่ “ก็ไม่ได้อยากถามหรอก แต่นึกได้ว่ามันเป็นมารยาทน่ะ” คนตัวใหญ่ไหวไหล่ใส่เพื่อน “กวนตีนจริง ๆ” เธอมองเขาตาเขียว “แล้วนี่ไออุ่นไปไหน ไม่อยู่ในศาลเหรอ” พอนึกถึงใบหน้าจิ้มลิ้มของภรรยาเพื่อนก็อดถามถึงไม่ได้ ไออุ่นไม่กลับบ้านหลายวันแล้ว หากเด็กคนนั้นอยู่ที่นี่ก็คงดี เพราะอยู่กับไอ้เพื่อนบ้านี่แล้วเธอจะบ้าตาย “ไออุ่นไปร้านเปิดใหม่กับอคิน ฉันตรวจงานทางนี้เสร็จแล้วจะตามไปทีหลัง ต่อไปอคินมันจะดูร้านนี้ ส่วนฉันกับไออุ่นไปดูร้านใหม่” “ก่อนไปเอาเงินมาให้ฉันยืมก่อน ฉันไม่มีเงินของคนเป็น ไม่ได้แลกไว้” “บอกบาร์เทนเดอร์ว่าเป็นเพื่อนฉัน เดี๋ยวมาเคลียร์ให้” “ใจดีจริง ๆ ขอบใจนะที่เลี้ยงเหล้าฉัน” “บอกตอนไหนว่าจะเลี้ยง ฉันจะออกให้ก่อน” “ไอ้ผีขี้งก!” เสียงแหลมตวาดตามร่างใหญ่ที่หายวับไปหลังจากพูดคุยกันเสร็จ ตรีนุชนั่งกระดกเครื่องดื่มอยู่พักใหญ่ ในใจว้าวุ่นจนไม่เป็นอันทำอะไร อาการแบบนี้กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปแล้วเกือบร้อยปี “คนทรยศ” เสียงหวานพึมพำยามที่นึกถึงใบหน้าของอดีตคนรัก “มาพูดแบบนั้นแล้วฉันจะลืมนายได้ยังไง” ว่าแล้วก็หยัดกายลุกขึ้น อุ้มขวดเครื่องดื่มที่ยังดื่มไม่หมดหายวับออกจากศาล เพื่อย้ายเข้าไปนั่งยกแก้วในผับต่อ __________ ติดต่อนักเขียน Face Book ใจดินสอ / เดือนสิบสอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม