“บ้าจริง…” เสียงพึมพำปนอารมณ์เสียของเจ้าที่สาวดังขึ้น ขณะนั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอมานอนเปลือยอยู่บนเตียงกว้างเวลานี้ สองมือเรียวทึ้งหัวตัวเองอย่างหัวเสีย ดวงตาคมเฉี่ยวมองคนข้างกายที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ด้วยความไม่ชอบใจนัก ในใจนึกอยากย้อนเวลาได้ หากทำได้จริงเธอจะไม่เข้าใกล้เขา
“ช่างเถอะ เมื่อคืนก็เมาทั้งคู่ คงจำเราไม่ได้หรอก มืดขนาดนั้น” ใช่อยู่ในผับน่ะมืด แต่เธอคงลืมไปว่าในห้องน้ำน่ะสว่างจ้ามากแค่ไหน “ลบความจำดีไหมนะ ทำให้รู้สึกเหมือนฝัน” คิดได้แบบนั้นก็ขยับตัวช้า ๆ เข้าไปนั่งใกล้ ๆ คนที่หลับอยู่ ทว่าเพียงแค่หลับตาลงก็ต้องลืมตาขึ้น แล้วถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เหมันต์สะกดทุกอย่างเอาไว้ ไม่ว่าจะคนหรือผีที่มีของดีหรืออิทธิฤทธิ์อื่นใดก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อย่างกรายเข้ามาในเขตของเขา
“บ้าเอ๊ย” เจ้าที่สาวสบถออกมาด้วยความอารมณ์เสีย ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขาอันสั่นเทาลงจากเตียงกว้าง เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วรีบจัดการตัวเองให้อยู่ในสภาพปกติ
‘คุณโสดหรือเปล่า ฉันอยากไปต่อกับคุณนะ’
ประโยคชักชวนที่เจ้าตัวเอ่ยกับเขาเมื่อคืนดังก้องอยู่ในหัว ภาพความจำมากมายตอนนั่งดื่มด้วยกันแล้วเธอพร่ำเพ้อหาคนรักเก่าราวกับจะเป็นจะตายมันน่าเวทนา แต่พอได้ระบายให้เขาฟังก็สบายใจขึ้น ทว่าหลังจากที่สบายใจแล้ว ร่างกายของเธอก็อยากผ่อนคลายบ้าง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อยู่ในกายทำให้เธอเริ่มรุกรานเขา เริ่มลูบไล้หน้าขาและซบไหล่เขา พยายามถึงเนื้อถึงตัวเขาราวกับไม้เลื้อย
“นี่ฉันทำอะไรลงไป” เจ้าที่สาวตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ ขณะยืนมองเงาสะท้อนในกระจกหน้าเคาน์เตอร์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเธอเป็นคนเริ่มก่อน แม้กระทั่งตอนขอให้เขาพาไปเข้าห้องน้ำเธอก็เป็นฝ่ายเอ่ยชวน
“ไอ้คนฉวยโอกาส รู้ว่าคนอื่นเมาก็ยังจะตามน้ำอยู่นั่นแหละ หึ้ย” ยืนฟึดฟัดอยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักก็ใจเย็นขึ้น ตอนนี้เพิ่งจะเช้า หากเธอรีบหนีกลับไปก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาอีก
แกร๊ก!
“อยู่ในนี้เองเหรอ”
“...” แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออก ร่างกำยำที่มีผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบเอวเอาไว้ก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว “คุณ!”
“อันนี้แก้เมาค้าง” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมยื่นขวดเครื่องดื่มขนาดเล็กให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟา “ถ้าไม่ดื่มอันนั้น อันนี้ก็แก้เมาค้างได้ แต่อย่าดื่มเยอะเดี๋ยวจะเมาอีก แค่จิบเบา ๆ ก็พอ” เขาพูดต่อขณะวางขวดเครื่องดื่มสีอำพันลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้า ก่อนจะวางแก้วเปล่าลงอีกสองใบ
“ขอบคุณ” เสียงเรียบตอบเขา
ตอนนี้เจ้าที่สาวครุ่นคิดหลายอย่าง ทั้งอยากหนีจากเขาให้เร็ว ๆ ทั้งอายเรื่องที่ทำไว้เมื่อคืน ไหนจะกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอเป็นผีที่บ้านอีก ไม่รู้เลยว่าอคินเคยเห็นเธอไหมตอนอยู่บ้าน รู้เพียงแต่ว่าเขามองเห็นผีเห็นวิญญาณ แต่จะว่าไปเขาก็ไม่เคยทักทายเธอเลยถ้าเกิดมองเห็นจริง ๆ
สรุปแล้วเขามองเห็นเธอไหมนะ…
ถ้าไม่ก็ดี เพราะจะได้ทำเหมือนคนที่ผ่านมาเจอกันแล้วก็ผ่านไป
“อึก อึก อึก”
“เบา ๆ สิคุณ เดี๋ยวก็เมาอีกหรอก” เสียงทุ้มรีบปรามเมื่อเห็นคนข้าง ๆ รินเครื่องดื่มสีอำพันลงแก้วแล้วกระดกลงคอพรวดเดียวหมด
“เมาก็ดี” เจ้าที่สาวว่าก่อนจะรินเครื่องดื่มใส่แก้วอีกครั้ง ตอนนี้เธอทั้งเครียดทั้งไม่รู้จะทำยังไง ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว
“พอแล้วมั้ง ตัวนี้มันแรงนะ” คนข้าง ๆ ปรามต่อ
“แรง ๆ สิดี” ว่าแล้วก็กระดกลงคออีกแก้ว
“ดื้อจัง” เสียงทุ้มว่าก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟา เขากระดกเครื่องดื่มแก้แฮงค์แล้วนั่งมองเธอดื่มแบบเงียบ ๆ พอนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก็ตกใจนิดหน่อย แต่ถามว่าชอบไหม ตอบเลยว่ามาก อยากได้อีก
“เล็งไว้ตั้งนาน” เสียงทุ้มพึมพำก่อนจะวางขวดเครื่องดื่มเปล่าลง
“เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ” คนข้างกายถามเสียงเหวี่ยงพร้อมตวัดตามองเขา
“คุณเมาแล้ว” คนถูกถามไม่ตอบ แต่แย่งแก้วเครื่องดื่มในมือเธอวางลงบนโต๊ะ ทำคนถูกขัดชักสีหน้าใส่
“ฉันไม่ได้เมา”
“ตอนเมาคุณจะพูดไม่เพราะกับผม”
“ทำไม? คิดว่าตอนไม่เมาฉันจะพูดจาดี ๆ เพราะ ๆ กับนายหรือไง”
“อ๋อ แสดงว่าที่พูดเพราะ ๆ ดี ๆ ด้วยเมื่อคืนก็แกล้งทำ? ” เขาเลิกคิ้วถามพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ไอ้คนฉวยโอกาส” คนเมาไม่หลบ แต่ว่าเขาพลางจิ้มนิ้วชี้ลงกลางหน้าผากหนาแล้วดันแรง ๆ จนคนตัวใหญ่เกือบหงายหลัง
“ผมไม่ได้ฉวยโอกาส คุณนั่นแหละเปิดโอกาสให้ผมเอง”
“แต่เมื่อคืนฉันเมา นายก็ควรห้ามสิ”
“ก็อยากได้อะ ทำไมต้องห้าม” ไม่ว่าเปล่าแต่ยิ้มร้ายใส่เธอด้วย
“อะ ไอ้ทุเร…อื้ออ!” อคินไม่ยอมโดนด่าอีกรอบ แต่รั้งท้ายทอยบางเข้ามาใกล้แล้วทาบจูบหนัก ๆ ลงบนเรียวปากสวย ใบหน้างามเหยเกด้วยความเจ็บเมื่อคนตรงหน้าไม่อ่อนโยนด้วย ไม่สิ เขาเคยอ่อนโยนที่ไหนกัน เมื่อคืนเธอก็ช้ำไปทั้งร่าง เขามันงูใหญ่กระหายเหยื่อ
“แฮก แฮก” เสียงหอบหายใจของเจ้าที่สาวดังขึ้นหลังจากกลีบปากหนาผละออกจากจูบ ร่างเล็กขยับหนีจนแผ่นหลังชนเข้ากับที่พักแขน “อะ ออกไปนะ” เสียงเหวี่ยงไล่คนที่ตามมาคร่อมเอาไว้
“พูดเพราะ ๆ กับผมก่อนสิ”
“ไม่!”
__________
ติดต่อนักเขียน Face Book ใจดินสอ / เดือนสิบสอง