“มีนอยู่ไหน” ผมเน้นเสียงกดต่ำทีละคำ ถ้ามันไม่โง่ก็คงจะรับรู้ถึงอารมณ์ของผม
(ฉันถามว่าแกเป็นใคร?)
“มึงนั่นแหละเป็นใคร!”
ตู้ด!
พอผมตะคอกถามไปแบบนั้นไอ้เวรนั่นก็กดตัดสาย มันตั้งใจจะยั่วโมโหผมใช่ไหม ได้!!
ผมยั้งอารมณ์โกรธแล้วกดโทรหามือขวาคนสนิทเพื่อให้สืบหาที่อยู่ของเพื่อนยัยตัวแสบ กล้าดียังไงถึงได้ขัดคำสั่งของผม
แล้วเราจะได้เห็นดีกันแน่!
Talk มีน
“มัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น มานั่งสิ” ฉันตะโกนเรียกลอว์ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่หน้าห้องน้ำ
ลอว์ไม่ตอบอะไร เขาเดินกลับมานั่งลงข้างๆ กับฉันแล้วพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ราวกับกำลังไม่พอใจ
“เป็นอะไรของแก” ฟองถามขณะยกแก้วเหล้าเข้าปาก
“เสือก!” ลอว์กระแทกเสียงตอบ ก่อนจะเหลือบตามองหน้าฉันอย่างขุ่นเคือง จากนั้นก็รินเหล้าใส่แก้วเป๊กเพียวๆ แล้วกระดกมันลงคอ
“มองหน้าฉันแบบนั้นทำไม”
“ไม่มีอะไรหรอก” ถึงจะตอบแบบนั้นแต่สายตาของลอว์ก็ยังอัดอั้นไปด้วยความโกรธ ผีเข้ารึไงกัน
“มีใครทำอะไรให้ลอว์ไม่พอใจหรือเปล่า” เอิงแตะแขนถามลอว์เบาๆ ด้วยความเป็นห่วง
“กูบอกไม่มีอะไรไง พวกมึงนี่ถามมากกันจริง!” ว่าจบลอว์ก็ลุกขึ้นเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ริมระเบียง ทิ้งให้พวกฉันทั้งสามคนจมอยู่กับความงุนงง
แต่ช่างเถอะ บางทีเด็กๆ ในสต๊อกของเขาอาจจะทำเรื่องขัดใจให้ก็ได้
สองชั่วโมงผ่านไป…
เพื่อนทุกคนของฉันในตอนนี้ต่างคอพับหลับกันเป็นแถว แม้แต่เอิงเอยที่ตอนแรกดื่มแค่น้ำเปล่า แต่พอถูกลอว์ตวาดว่าถึงสองครั้งก็คงจะเสียใจเลยหันมาดื่มเหล้าแทน
ส่วนฉันตอนนี้ก็เริ่มเมามากเหมือนกัน แต่ยังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง
ฉันค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นเพราะอยากไปเข้าห้องน้ำ ทว่าตอนเดินผ่านโต๊ะที่วางอยู่ใกล้ๆ แสงสว่างวาบจากโทรศัพท์ที่ฉันชาร์จแบตทิ้งไว้ก็ชะงักฝีเท้าที่กำลังเดิน
ฉันหยิบมันขึ้นมาดูด้วยดวงตาที่ปรือจนแทบจะปิด เห็นว่าพี่องศาส่งข้อความมาเยอะมากๆ แถมยังมีสายที่ไม่ได้รับจากเขาเกือบยี่สิบสาย
ทั้งโทรทั้งส่งข้อความมาเยอะขนาดนี้ มีอะไรหรือเปล่านะ
ฉันลังเลอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจโทรกลับไปหาเขา เสียงสัญญาณยังดังไม่ทันสุด ปลายสายก็รีบกดรับทันที ราวกับกำลังรอการติดต่อกลับจากฉัน
“มีอะไรคะ” ฉันไม่อยากให้พี่องศารู้ว่าตัวเองดื่มจนเมา จึงพยายามคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ
(อยู่ไหน) น้ำเสียงเย็นยะเยือกที่ตอบกลับมาทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกสั่นไหว
“ยะ…อยู่ห้องเพื่อนค่ะ”
(ลงมา)
“อะไรนะคะ?”
(ฉันจอดรถรออยู่ข้างล่าง ลงมา)
“มะ…มาทำไมคะ” ยอมรับว่าฉันค่อนข้างตกใจที่รู้ว่าพี่องศามาที่นี่ แล้วเขารู้จักคอนโดลอว์ได้ยังไงกัน
(จะถามอะไรนักหนาวะ บอกให้ลงก็ลง!)
“แต่…”
(ถ้าอีกสองนาทีฉันยังไม่เห็นหน้าเธอล่ะก็…)
ตู้ด!
สายถูกตัดไปหลังจากนั้น และแม้พี่องศาจะไม่ได้พูดจนจบประโยคแต่ฉันก็รู้ดีว่าเขาจะทำอะไร
ถึงจะไม่อยากลงไปหาเขาตอนนี้แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องเดินกลับไปหยิบกระเป๋าแล้วรีบวิ่งลงบันไดหนีไฟไปหาพี่องศา
เขาให้เวลาฉันแค่สองนาที ถ้ารอลิฟต์คงไปไม่ทันแน่ ฉันเลยจำเป็นต้องวิ่งลงทางบันไดหนีไฟ
พอมาถึงชั้นล่างฉันก็พักหายใจเพราะมันเหนื่อยหอบมากๆ อาการมึนเมาในตอนแรกมันสร่างไประหว่างทางที่วิ่ง
ฉันมองเห็นรถของพี่องศาจอดรออยู่หน้าคอนโด จึงรีบเดินไปขึ้นเพราะไม่อยากฟังคำข่มขู่ของเขา
“กล้าดียังไงถึงได้ขัดคำสั่งฉัน” นี่เป็นประโยคแรกที่เขาเอ่ยหลังจากฉันเข้ามานั่งด้านในรถ
“มีนไม่มีเวลาค่ะ”
“เพราะมัวแต่มั่วกับผู้ชายงั้นสินะ”
“ใช่ค่ะ ก็ลอว์เขาเร่าร้อนถูกใจมีนมากจริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้พี่องศาต้องเสียอารมณ์”
“พูดอะไรออกมาวะฮะ!!” แขนฉันถูกพี่องศากระชากอย่างแรงจนร่างเล็กถลาเข้าหาร่างกำยำ
“ก็พูดในสิ่งที่พี่องศาอยากได้ยินไงคะ”