ฉันจ้องหน้าพี่องศาอย่างท้าทาย คงเป็นเพราะฤทธิ์เหล้าที่ยังเหลืออยู่ช่วยเพิ่มความกล้าให้กับฉัน
“รู้ใจฉันดีจังเลยนะ” พี่องศากดเสียงทุ้มต่ำฟังดูน่าขนลุก พร้อมกับโน้มใบหน้าเขามาใกล้จนปลายจมูกของเขาแตะโดนพวงแก้มของฉัน
ฉันรีบเบือนหน้าหนีแต่ก็ถูกพี่องศาบีบปลายคางและบังคับให้หันกลับมาเหมือนเดิม
“…รู้ใจแถมยังใจดีพูดในสิ่งที่ฉันอยากได้ยิน” นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าไปทัดไว้หลังหู “…ถ้าอย่างนั้นช่วยสนองในสิ่งที่ฉันอยากทำด้วยเลยสิ”
แคว่ก!!
“กรี๊ดดดดดด! ทะ…ทำบ้าอะไรของพี่คะ!” ฉันกรีดร้องก่อนจะตะโกนแสกหน้าพี่องศาด้วยความตกใจปนโมโห อยู่ๆ เขาก็ฉีกกระชากเสื้อนักศึกษาของฉันจนขาดหลุดลุ่ย
“ชอบสนองความต้องการฉันนักไม่ใช่เหรอ? นี่ไง ฉันกำลังจะทำ!” สิ้นสุดคำพูดนั้นมือหนาก็เอื้อมมารั้งท้ายทอยของฉันแล้วออกแรงดึงเข้าหาตัวเอง ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะบดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง
“อื้อ!!” ฉันพยายามจะดิ้นและทุบตีแผงอกแกร่งรัวๆ แต่พี่องศาก็ดูจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
เขากดจูบลงมาจนปลายจมูกของฉันบี้และรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก หนำซ้ำพี่องศายังพยายามจะดันเรียวลิ้นเข้ามาภายในปาก แต่ฉันก็กัดฟันเอาไว้ไม่ยอมให้เขารุกล้ำเข้ามาง่ายๆ
พี่องศาจึงใช้มือบีบเคล้นหน้าอกของฉันแรงๆ แล้วผละริมฝีปากออก
“โอ๊ย! อื้อ!” ทันทีที่ฉันเปิดปากส่งเสียงร้องเพราะรู้สึกเจ็บ เขาก็กระโจนเข้าจูบฉันอีกครั้ง และครั้งนี้พี่องศาก็สามารถส่งเรียวลิ้นเข้ามาได้สำเร็จ
พี่องศาตวัดลิ้นควานเลียไปทั่วทุกซอกทุกมุม ทั้งยังเกี่ยวรัดลิ้นฉันอย่างอยากเอาชนะ สองมือเลื่อนขึ้นประคองใบหน้าฉันแล้วจูบแลกลิ้นอย่างหนักหน่วง
เสียงหอบหายใจดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับความรู้สึกปั่นป่วนที่บริเวณท้องน้อย จูบของพี่องศาไม่ได้อ่อนโยนเลยสักนิด แล้วทำไมฉันถึงได้…
ได้…เริ่มลุ่มหลงคล้ายกับถูกเขามอมเมาอย่างนี้
สัมผัสของพี่องศาที่มอบให้กับฉันเปรียบเสมือนแอลกอฮอล์ที่เพิ่งดื่มเข้าไป แรกๆ ก็รู้สึกไม่ชอบรสชาติที่ขมฝาด ทว่าไม่นานกลับรู้สึกเคลิบเคลิ้มและมัวเมาไปกับมัน
มือเล็กจากที่เคยทุบตี ค่อยๆ ผ่อนปรนลงจนกลายเป็นบีบไหล่แกร่งเพื่อระบายอารมณ์บางอย่างที่ก่อตัวขึ้น
พอเห็นว่าฉันหยุดทุบตี พี่องศาก็ผ่อนแรงจูบลง สัมผัสจากริมฝีปากนุ่มนวลขึ้น ทว่ากลับให้ความรู้สึกที่เผ็ดร้อนกว่าเดิม
พี่องศาดูดเม้มปากอวบของฉันด้วยลีลาชวนลุ่มหลง เป็นสัมผัสที่แตกต่างไปจากทุกครั้งจนหัวใจฉันกระตุกสั่นไหว ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่ฉันเลื่อนมือขึ้นคล้องลำคอของเขา
ไม่เพียงแค่นั้นแต่ฉันยังจูบตอบอย่างเงอะงะ…
มือหนาลูบไล้ตั้งแต่ไหปลาร้าของฉันลงมาผ่านเนินอกที่แน่นล้นเต็มบราเซียจนถึงหน้าท้องแบราบ จากนั้นเขาก็ลูบอ้อมไปด้านหลังช้าๆ เพื่อปลดตะขอบราออก
พริบตาเดียวสิ่งกีดขวางก็หลุดร่วงลงกับเบาะ หน้าอกตั้งเต้าประดับด้วยยอดจุกสีสวยแอ่นขึ้นเสียดสีกับแผงอกกำยำผ่านเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมใส่
พี่องศาขยับตัวเบาๆ ให้เกิดการเสียดสีระหว่างยอดอกและผิวผ้า ความเสียววาบโลดแล่นไปทั่วร่างกายฉันทันที
จุกนมแข็งตั้งเป็นไต นิ้วเรียวรีบยกขึ้นมาบดคลึง ขณะที่ริมฝีปากยังจูบอย่างดูดดื่ม
ทั่วทั้งร่างมันร้อนวูบวาบราวกับผู้ชายตรงหน้าฉันคือไฟ ที่ไม่ว่าเขาจะแตะหรือสัมผัสตรงส่วนใดก็มักจะทิ้งความร้อนไว้เสมอ
เนิ่นนานหลายนาทีพี่องศายอมถอนริมฝีปากออก เขาจูบซับผิวกายของฉันตั้งแต่ปลายคางลงมาจนถึงเนินหน้าอก เรียวลิ้นสากแลบออกมาเลียรอบเต้านมอวบอั๋น
“อ๊ะ~” ฉันร้องสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อเรียวลิ้นนั้นลากผ่านจุกนมสีเชอรี่ ความรู้สึกวาบหวามแล่นลงมากองรวมกันอยู่ที่กึ่งกลางกาย
ซึ่งตอนนี้กำลังเหนียวเหนอะ…
“ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจ” เสียงทุ้มต่ำกระซิบใกล้ใบหู ก่อนที่พี่องศาจะควานเรียวลิ้นเข้ามาเลียทางด้านใน ทำเอาฉันเสียวสยิวจนต้องครางระบายออกมา
“อ๊า…”
ใบหน้าคมคายเลื่อนลงสูดดมซอกคอก่อนจะดูดดึงผิวเนียนเบาๆ ฉันในตอนนี้เหมือนผีเสื้อที่กำลังรัญจวนไปกับสัมผัสวาบหวิวจนมองไม่เห็นความเจ็บปวดที่กำลังรออยู่ข้างหน้า
ฉันพยายามที่จะขัดขืนแล้ว แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าลึกๆ แล้วฉัน…
คลั่งไคล้และหลงใหลในตัวพี่องศามากจริงๆ
“อ๊ะ…อ๊า~” ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อพี่องศาเลื่อนใบหน้าลงมาใช้อุ้งปากอุ่นร้อนดูดดุนยอดปทุมถันอย่างมูมมาม สองมือโอบอุ้มรอบเต้าเพื่อให้ถนัดต่อการดูด
ฉันแอ่นอกขึ้นรับเรียวลิ้นพร้อมครวญครางราวกับใจจะขาด เพียงไม่นานมือหนาก็ปล่อยออกจากหน้าอกแล้วปลดตะข้อกางเกงของตัวเองออก ควักเอาลำกายดุ้นใหญ่ออกมา
พี่องศาผละริมฝีปากออก ปรับเบาะที่ฉันนั่งให้เอนนอนลง จากนั้นก็ขึ้นมาคร่อมร่างของฉันและถกกระโปรงขึ้น นิ้วเรียวแหวกขอบด้านข้างกางเกงในออก
เสียงหายใจของพี่องศาทั้งดังและหอบถี่ ขณะที่มือหนาจับลำเอ็นจ่อลงมา ฉันหลับตาปี๋ภายในท้องปั่นป่วนและเสียววาบ
ร่างกายกระตุกเกร็งอย่างตกใจในตอนที่ปลายหัวเห็ดสัมผัสกับรอยกลีบบริสุทธิ์ ก่อนจะเสียดสีขึ้นลงเบาๆ
นะ…นี่ฉันกับพี่องศา…ระ…เรากำลัง…
ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ พี่องศาชะงักการกระทำคล้ายกับกำลังได้สติ เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก ก่อนจะผละตัวถอยกลับไปนั่งที่เดิม
ฉันเม้มริมฝีปากแน่น รีบลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบเสื้อนักศึกษาที่ขาดลุ่ยขึ้นมาปิดท่อนบนของตัวเอง สองขาหนีบเข้าหากันแน่น สัมผัสจากกายแกร่งของเขายังคงอุ่นร้อนอยู่ที่ตรงนั้นจนฉันรู้สึกว้าวุ่น
ทุกอย่างกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ทว่าความรู้สึกฉันกลับกำลังจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรที่ทั้งลึกและมืดสนิท…
หากไม่มีสายเรียกเข้าเมื่อกี้ ป่านนี้ฉันกับพี่องศาคงกำลัง…
ไม่อยากจะคิดเลย ฉันปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเองจริงๆ
“เมื่อกี้…” พี่องศาเกริ่นขึ้นพร้อมกับโยนเงินจำนวนหนึ่งมาบนตักฉัน “คิดซะว่าฉัน…ซื้อความเสียวฆ่าเวลาก็แล้วกัน”