ทั้งคำพูดและการกระทำมันบ่งบอกว่าอีสเซหลงดาฟเน่มากแค่ไหน และมันมิใช่ความหลงใหลแบบธรรมดา มันคือความหลงใหลเข้าขั้นโคม่าเลยก็ว่าได้
การต่อต้านหรือว่าการปฏิเสธเขามิใช่หนทางที่ควรกระทำ!
ดาฟเน่หลับตาลง เธอยกยิ้มก่อนจะหมุนตัวเข้าไปหาอีสเซ เธอเอียงใบหน้าที่งดงามซบลงที่อกแกร่งของเขาพร้อมกับโอบกอดเขาเอาไว้
"จริงอยู่ที่ข้าจดจำเรื่องราวระหว่างเรามิได้ แต่ว่า..หัวใจของข้ากลับเต้นแรงขึ้นเมื่อได้มาอยู่ในอ้อมกอดของเจ้า อีสเซในเมื่อข้าจำมิได้ สิ่งที่เจ้าควรกระทำก็คือการพร่ำบอกมิใช่หรือ ว่าเรื่องราวระหว่างเรามันเป็นเช่นไร เหตุใดต้องรีบร้อน ข้ามิคิดจะหนีจากและเจ้าเองก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน..."
หัวใจของดาฟเน่เต้นแรงมากจริงๆเพราะเธอกำลังหวาดหวั่นกลัวว่าเขาจะโมโหหรือว่ากระทำการที่ไม่สมควร...
เสียงหัวเราะดังขึ้นมาพร้อมกับอ้อมแขนที่ตระกองกอดตัวของเธอเอาไว้ อีสเซก้มหน้าลงมาหอมแก้มเธอเบาๆ
"เมื่อวาน..คนของข้ารายงานมาว่าเจ้าเข้านอนที่เรือนรับรองกับลอร์ดมาเดลีน หัวใจของข้าพลันเจ็บปวดและสับสนจนทำตัวแปลกไปจากเดิม ข้าขอโทษนะดาฟ...ขอโทษที่หึงหวงไม่เป็นเรื่อง เจ้ากับลาร์ซไม่มีทางรักกันได้อยู่แล้ว เป็นข้าที่วิตกกังวลไปเอง!"
ในคำกล่าวที่ดูไม่มีอะไรของเขา มันกลับมีเรื่องราวหลายอย่างที่บอกเธอ...
หนึ่งคือเขาส่งคนจับตาดูเธอตลอด
สอง...เหตุใดเธอและลาร์ซถึงมิอาจรักกันได้? เพราะดาฟเน่คนก่อนเกลียดลาร์ซงั้นหรือ เหตุใดอีสเซถึงกล่าวออกมาราวกับมั่นใจขนาดนั้น?
"ดาฟ เจ้าคือสิ่งเดียวที่ข้ามิอาจเสียไปได้...อย่าไปจากข้าเลยนะ ข้ารับได้ทุกอย่างทั้งนิสัยและความต้องการที่มากเกินพอดีของเจ้า เจ้าสามารถมีอะไรกับผู้อื่นได้เช่นเดิม เรื่องนี้ข้ามิคิดที่จะขัดขวางความสุขของเจ้า แต่กับลอร์ดมาเดลีน เจ้าห้ามรักเขานะ เข้าใจไหม?"
เธอยกมือขึ้นมาโอบคอของอีสเซเอาไว้
"อีสเซ เหตุใดต้องเป็นกังวลถึงเพียงนั้น ข้ามิได้ชอบเขาเลย เวลาอยู่เพียงลำพังเจ้ามิควรกล่าวถึงเรื่องของผู้อื่นสิ"
"อ่า นั่นนะสิ เป็นข้าที่ผิดเอง ว่าแต่วันนี้เจ้าจะเป็นแบบให้ข้าวาดรูปได้รึเปล่า?"
.....นอนแก้ผ้าให้เขาวาดรูปเนี่ยนะ บางทีเธอก็คิดนะว่าที่อีสเซเป็นเช่นนี้ ต้นเหตุอาจจะมาจากความบิดเบี้ยวของดาฟเน่ก็ได้ สตรีผู้นั้นหล่อหลอมให้บุรุษที่เพียบพร้อมเช่นเขาต้องแปดเปื้อนและแหลกสลายเช่นนี้
"เอาสิ แต่หลังจากที่เรากลับมาจากงานเลี้ยงนะ ข้าคิดว่าวันนี้ข้าควรจะเต้นรำกับเจ้าสักเพลง"
รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของอีสเซ เขาอุ้มเธอขึ้นมาพร้อมกับพาเธอเดินไปที่สวนดอกไม้
"เจ้าควรจะวางข้าลงได้แล้ว เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า!"
"ดาฟ เจ้าสนใจสายตาของผู้อื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"
ดาฟเน่ยกมือขึ้นมากุมใบหน้าของอีสเซเอาไว้
"ข้าคือสตรีที่ชั่วช้าที่สุดในจักรวรรดิเรื่องนั้นเป็นความจริง และข้าก็มิได้สนใจมัน แต่เจ้าคือองค์จักรพรรดิที่ทรงเกียรติ บางทีข้าคิดว่าเราควรจะลักลอบพบกันน่าจะดีกว่า เพราะจะทำให้ชื่อเสียงของเจ้า.."
"ข้าไม่สนใจหรอก ชื่อเสียงเกียรติยศหรือว่าอะไรพวกนั้น ข้าเป็นองค์จักรพรรดิปกครองราชอาณาจักรนี้ก็เพราะว่าข้าอยากให้เจ้าเป็นสตรีที่มีอำนาจมากที่สุด เจ้าจะงดงามและมีเกียรติในยามที่เรายืนเคียงคู่กัน เจ้าคือภรรยาและข้าคือสามี เราจะมีลูกชายที่น่ารักปกครองดินแดนนี้ไปด้วยกัน...."
ให้ตายเถอะ เธอไม่มีความสามารถพอที่จะตามอารมณ์ของอีสเซทัน เขามีหลากหลายอารมณ์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆจริงๆ
"ถึงอย่างไรเจ้าก็ควรวางข้าลงได้แล้ว"
เพราะเราเดินมาถึงหน้างาน อีสเซวางเธอลง เขาส่งแขนมาให้เธอควงเช่นเดิม เราทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้างานท่ามกลางเสียงตบมือต้อนรับ
"มีใคร...ข้าหมายถึงว่าเจ้ามีรายชื่อบุรุษที่เจ้าพึงพอใจที่จะให้ข้าแต่งตั้งพวกเขาเป็นเคาน์หรือว่าลอร์ดบ้างไหม"
"อ่าจริงสินะ ฝากลูอิสและลาม่อนด้วย ไม่ต้องแต่งตั้งยศสูงมากมาย ขอแค่ให้พวกเขาพอมีหน้ามีตาก็พอ"
อีสเซหัวเราะเบาๆ
"ได้สิ ข้าย่อมตามใจเจ้าทุกอย่างอยู่แล้ว"
เขาส่งมือมาให้เธอ นั่นคือพิธีอย่างหนึ่งในการขอเต้นรำ ดาฟเน่มิได้ลังเลเลยที่จะส่งมือให้เขา บางทีการที่ได้เต้นรำกับเขาในค่ำคืนนี้ก็ไม่ได้แย่มากเท่าไหร่นัก
"นี่คือเหตุผลที่เจ้าไม่ยอมเต้นรำใช่ไหม? เพราะว่าเจ้าเหยียบเท้าข้าครั้งที่สี่..อื้ม! ห้าแล้ว!"
เธอหัวเราะร่า เป็นเสียงหัวเราะที่ไพเราะและใสกังวานราวกับเครื่องดนตรีชั้นสูง
นี่เป็นครั้งแรกที่ดาฟเน่ยิ้มและหัวเราะ ท่ามกลางผู้คนมากมาย บุรุษทั้งหลายต่างจับจ้องไปที่เสียงหัวเราะนั้นอย่างเผลอไผล ราวกับว่าเสียงนั้นคือเวทมนตร์ที่สามารถสะกดสายตาของผู้คนให้หยุดอยู่ที่ใบหน้างดงามของเธอ
"ไม่ชอบเลยแฮะ อย่ายิ้มต่อหน้าคนอื่นสิ ข้าหวง..."
เธอขมวดคิ้วมองใบหน้าที่ดูหล่อเหลาและเอาแต่ใจของอีสเซ
"ที่ข้าหัวเราะมันเป็นเพราะว่าข้ามีความสุข และที่ข้ามีความสุข...ก็เพราะได้อยู่ต่อหน้าเจ้า หากจะห้ามมิให้ข้ามีความสุข นั่นหมายถึงเราอาจจะต้องอยู่ห่างกันสักพัก..."
ไม่แน่ใจ แต่ทว่าเขาค่อนข้างมั่นใจ ว่าดาฟเน่มีบางอย่างที่แตกต่างจากเดิมมากทีเดียว ลักษณะการพูด ท่าทาง การกระทำ หรือแม้แต่การออดอ้อน มันแปลกไปจากเดิม
สำหรับเขาแล้ว เขาถือว่ามันแปลกไปในทางที่ดีนะ เพราะปกติแล้วดาฟเน่จะไม่แสดงอารมณ์หรือว่าความรู้สึกออกมา นั่นทำให้เขาอ่านใจเธอได้ยากมากทีเดียว แต่เธอในตอนนี้ดูน่ารัก น่าเอ็นดูจนทำให้เขาตกหลุมรักเธอเพิ่มขึ้นจากเดิม
อ่า เคยคิดเอาไว้แล้วแท้ๆว่าเขาไม่สามารถที่จะรักเธอไปได้มากกว่าที่รู้สึกอยู่แล้วแท้ๆ แต่กลับรักเธอได้มากเพิ่มขึ้นอีก!
บทเพลงแรกได้จบลง ดาฟเน่ก้มหน้าลงเพื่อคำนับคู่เต้นรำ ส่วนอีสเซก้มหน้าลงเล็กน้อย เธอเลือกจะเดินออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้สตรีอื่นได้เข้าไปเต้นรำกับเขาบ้าง
ดาฟเน่อยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องดื่ม เธอยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด กับอีสเซเสียเขาไปไม่ได้ จะหลีกหนีก็ไม่ได้ด้วย! มีแต่ต้องพุ่งชนเท่านั้น
จนกว่าที่เธอจะหย่ากับลาร์ซ ยังคงต้องพึ่งพาเขาอยู่
มีบุรุษมายืนด้านหลังของเธอ เขาวางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ นั่นมันคือการกักขังเธอเอาไว้ในอ้อมแขน ดาฟเน่รีบหันหน้าไปหาเขาเธอก็พบใบหน้าที่เอาแต่ใจของลูอีส
"ท่านเต้นรำกับเขา แต่ไม่คิดเต้นรำกับข้าเนี่ยนะ!!"
"ลูอีส เจ้าควรจะปล่อยข้าก่อน สมควรที่ไหนกันที่มาโอบกอดข้าท่ามกลางงานเลี้ยงเช่นนี้ ข้ามีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้และเจ้าคือน้องชายของสามี!!"
คิ้วของลูอีสขมวดกันจนแทบจะสามารถผูกโบได้อยู่แล้ว ดาฟเน่ถอนหายใจเธอจูงมือเขาออกมาด้านนอกจนถึงกลางสวนซึ่งเป็นที่ลับตาคน
"ท่านเมาและหรืออย่างไร สามี? ท่านเรียกพี่ว่าสามีเนี่ยนะ!!"
เหมือนกับว่าเธอจะลืมเรื่องสำคัญไป นั่นก็คือการตัดความสัมพันธ์ที่มันผิดศีลธรรมกับลูอีสซะ
"นี่ ฟังข้านะ ข้าไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เราเป็นอะไรกัน แต่ต่อจากนี้ ข้าคือพี่สะใภ้และเจ้าคือน้องชายของสามี ข้าจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีกแล้ว..ในฐานะคนรัก"
"ไม่เอา!! หากท่านจะบอกเลิก ข้าก็ไม่ยอมเลิกกับท่านหรอก ข้ารักท่านไปแล้วดาฟเน่!"
"ข้าอายุยี่สิบสามซึ่งมากกว่าเจ้าห้าปี เจ้าควรจะเรียกข้าว่าพี่สาวด้วยซ้ำเด็กน้อย!"
พี่สาวอะไรกัน เขาไม่ยอมเป็นหรอกนะ!!
ลูอีสดึงดาฟเน่เข้ามากอดแน่น เขาโน้มตัวลงไปเพื่อให้เธอนอนราบไปบนพื้นหญ้าโดยมีเขาที่คล่อมตัวเธอเอาไว้
"ท่านเป็นคนสอนข้าทุกอย่าง ทั้งเรื่องอย่างว่าและเรื่องความรัก ท่านคือรักแรกและรักเดียวของข้านะดาฟเน่ ข้ามิอาจเสียท่านไป อย่าเลิกกับข้าเลย ท่านบอกกล่าวกับข้าว่าท่านจะหย่ากับท่านพี่ในอีกหนึ่งปีหลังจากนี้ แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย มิต้องมีพิธีแต่งงานก็ได้เพราะว่าข้าไม่คู่ควรกับท่าน แค่เราได้อยู่ด้วยกันก็พอ!"
อ่า ดาฟเน่!!! สตรีชั่วช้าผู้นั้นยังไปสัญญารักกับใครอีกรึเปล่าฟะ!! นี่นางเห็นบุรุษเป็นของเล่นงั้นเรอะถึงได้หยอดคำหวานไปทั่ว!!!
"ลูอีสเจ้ายังเด็ก นั่นหมายถึงว่าเมื่อเจ้าได้รับตำแหน่งขุนนางเจ้าจะสามารถพบเจอสตรีที่ดีพร้อมและคู่ควรกับเจ้าอีกมากมาย"
"....นี่ท่าน ขอให้องค์จักรพรรดิแต่งตั้งข้าเป็นขุนนางงั้นหรือ? ดาฟเน่นี่ท่านแม่ใช้ท่านมาใช่หรือไม่!!"
"จบความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดของเราลงตรงนี้เถอะลูอีส ข้ามิได้รักเจ้าทุกอย่างที่กระทำลงไปล้วนแล้วแต่กระทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หากเจ้าจะโกรธหรือว่าเกลียดข้า เจ้าสามารถทำได้เต็มที่เพราะข้าคือคนที่ผิดจริงๆ"
"....ข้าทำมิได้หรอกครับ ข้าไม่สามารถที่จะเกลียดหรือว่าโกรธท่านได้เพราะในใจของข้ามันรักท่านไปแล้ว "
เขาลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนเธอให้ลุกขึ้นมานั่งข้างเขา
"หากว่าท่านดาฟเน่อยากจะจบความสัมพันธ์กับข้า ข้าก็ยินดีครับ ข้าจะรอจนกว่าท่านจะหย่ากับพี่ แล้วข้าจะไปเดินหน้าจีบท่านอีกครั้ง ข้าจะทำให้ท่านเห็นว่าความรู้สึกของข้ามันคือความรักที่มั่นคงแค่ไหน