บทที่6
ไม้ป่าเดียวกัน
อีกด้านของโรงพยาบาลปิติภัทรไพศาลวันนี้คุณหมอศิลามีเคสผ่าตัดทำให้เขาต้องกลับบ้านช้ากว่าทุกคนระหว่างที่เขาเดินออกมาจากลิฟต์ความวุ่นวายหน้าห้องฉุกเฉินก็เกิดขึ้นเมื่อพยาบาลคนหนึ่งวิ่งมาหาเขาพร้อมกับแฟ้มประวัติของคนไข้
ลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมานั้นบ่งบอกว่าวันนี้เขาเหนื่อยมากแค่ไหนเมื่อคุณหมอศิลายืนอยู่หน้าห้องตรวจคนไข้สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมือหนึ่งล้วงกระเป๋าสายตามองไปยังแฟ้มคนไข้ในมืออีกข้าง
"หมอศิลาคะเคสนี้เป็นอาการปวดท้องเฉียบพลันทีมเวรบอกว่าต้องส่งต่อให้ศัลยแพทย์ตรวจเพิ่ม" เสียงของพยาบาลคนหนึ่งดังขึ้น
หมอศิลาพยักหน้าสองขาเดินเข้าไปในห้องตรวจ ทว่าเมื่อประตูเปิดเข้าไปเขากลับพบว่าเตียงคนไข้มีแพทย์หญิงคนหนึ่งยืนพิงอยู่พร้อมกับอุปกรณ์ตรวจร่างกายในมือเธอหันขวับมามองเขาสายตาคมใต้กรอบแว่นดูไม่ยอมคนเสียด้วย
"ขอโทษนะครับคุณเป็นใคร?" คุณหมอศิลาถามเสียงเรียบสายตาจ้องมองไปยังคุณหมอคนสวย
"ฉันชื่อปุ้มปุ้ยเป็นอายุรแพทย์เวรนี้" เธอตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันไปตรวจคนไข้ต่อเหมือนไม่สนใจเขา
คุณหมอศิลายกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับท่าทีพฤติกรรมและน้ำเสียงของเธอ "หมายความว่าไง?"
"หมายความว่าคุณหมอศัลยแพทย์บางคนใจร้อนเห็นอะไรผิดปกติก็อยากจับขึ้นเขียงผ่าก่อนจะคิดถึงแนวทางอื่น"
เสียงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ กลั้นหายใจเล็กน้อยบรรยากาศในห้องฉุกเฉินเหมือนอุณหภูมิลดลงทันทีแต่หมอศิลากับยิ้มเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ไม่มีแววตาหยอกล้อมันดูน่ากลัวไม่ได้น่าค้นหาอะไรเลย
"ถ้าคุณหมายถึงการช่วยชีวิตคนไข้ให้เร็วที่สุดผมก็คงเป็นศัลยแพทย์ประเภทนั้นจริง ๆ" เขาตอบกลับพร้อมจ้องมองใบหน้าของคุณหมอปุ้มปุ้ยอย่างไม่ลดละ
คุณหมอปุ้มปุ้ยมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉยไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาแถมยังถอนหายใจใส่เขาก่อนจะหันไปจดบันทึกประวัติคนไข้ "งั้นก็ดีเพราะฉันเองก็เป็นอายุรแพทย์ที่ไม่ชอบให้ใครตัดสินใจผ่าโดยไม่ดูทางเลือกอื่นก่อนเหมือนกัน"
เธอวางแฟ้มคนไข้ลงบนโต๊ะก่อนจะยิ้มให้บาง ๆ คำพูดของเธอเหมือนเป็นคำเตือนมากกว่าความเป็นมิตร "ดูท่าว่าเราจะได้เจอกันบ่อย ๆ นะคะคุณหมอศิลา"
"นั่นสินะ..."
บรรยากาศระหว่างทั้งสองเต็มไปด้วยแรงปะทะที่มองไม่เห็น การพบกันครั้งแรกของพวกเขาเริ่มต้นด้วยคำพูดเชือดเฉือนและดูเหมือนว่าสงครามเย็นระหว่างศัลยแพทย์กับอายุรแพทย์คู่นี้จะยังไม่จบง่าย ๆ
ทันทีที่หมอศิลากลับมาถึงบ้านในเวลา 22:00 น เขาก็ทิ้งกายลงบนโซฟากลางบ้านอยู่กับความมืดเพื่อใช้ความคิดต่าง ๆ นานา วันนี้เขาเจออายุรแพทย์ปากแจ๋วความคิดที่จะเขี่ยอายุรแพทย์คนนั้นออกจากโรงพยาบาลก็เริ่มผุดขึ้นมาเป็นฉาก
อย่างน้อยก็ให้รู้กันไปว่าเขาเป็นใครแล้วเธอเป็นใคร
"มานั่งทำอะไรมืด ๆ จะออกหากินหรือไง" น้ำเสียงของคุณหมอศรุตดังมาจากด้านหลังคุณหมอศิลารู้สึกหมดแรงขึ้นมาทันทีทำไมทุกคนถึงได้ชอบพูดจากระแนะกระแหนใส่เขานัก
"ผมพึ่งกลับมาว่าแต่วันนี้ที่บ้านทำอะไรกินบ้างอะ"
"ไม่รู้กูไม่ได้กินข้าวบ้าน-__-"
"อ้าว..."
คุณหมอศรุตเดินลงมาหยิบแฟ้มเอกสารที่เขาลืมไว้ก่อนจะกลับขึ้นไปทำงานบนห้องของเขาต่อ ทิ้งให้น้องชายนั่งหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่เพียงลำพัง
วันต่อมา
วันนี้เป็นวันที่หนูใจ๋ไม่ได้ออกไปทำงานเพราะเธอกับคุณแม่น่านน้ำต้องอยู่จัดงานวันเกิดให้กับคุณหมอศิลาและมินตราฝาแฝดที่ไม่ค่อยลงรอยกัน หลังจากที่ทุกคนออกไปทำงานหนูใจ๋ก็เริ่มลงมือพร้อมกับเหล่าแม่บ้านที่ช่วยกันเตรียมอาหารอยู่ในครัว
"เอ่อ... คุณหนูใจ๋คะ"
"คะป้านา"
"พอดีว่าพวกป้า ๆ กำลังสงสัยว่าทำไมคุณหมอศรุตถึงยังไม่มีแฟนเสียที อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วหน้าที่การงานฐานะทางบ้านก็ไม่ธรรมดาป้าว่าน่าจะมีแฟนได้แล้วนะคะคุณหนูใจ๋คิดแบบป้าไหมคะ"
จู่ ๆ คนตัวเล็กก็ยิ้มแก้มแดงเธอไม่อยากพูดหรอกว่าศรุตมีแฟนมาหลายปีแล้วและคนคนนั้นก็คือเธอ
"หรือว่าคุณหมอศรุตจะชอบไม้ป่าเดียวกันแบบที่คุณหมอศิลาเคยพูดกับคุณท่านเอาไว้"
"ฮ่า ๆ ไม่นะคะหนูใจ๋ไม่เห็นว่าศรุตจะมีอาการแบบนั้นเลยค่ะ"
"แต่ป้าคิดแบบนั้นนะคะจนป่านนี้แล้วยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนบางทีตอนอยู่เมืองนอกอาจจะมีแฟนเป็นผู้ชายก็ได้ค่ะ"
"อย่าไปคิดขนาดนั้นเลยค่ะป้านาหนูใจ๋ว่าแฟนของศรุตอาจจะยังไม่พร้อมเปิดตัวตอนนี้ก็ได้นะคะอีกอย่างศรุตก็เป็นคนไม่ค่อยพูดทำแต่งานถึงเวลาที่ศรุตพร้อมเมื่อไหร่คงเปิดตัวเองล่ะนั่นแหละค่ะ"
หนูใจ๋รีบเดินออกมาจากครัวเพื่อตรวจความเรียบร้อยของงานวันนี้อีกครั้งตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เธอต้องขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอสวมใส่ชุดเดรสสีชมพูอ่อนเธอไม่ลืมที่จะหยิบของสำคัญบางอย่างขึ้นมาจากลิ้นชักของชิ้นนี้มันเหมือนของแทนใจที่เธอได้มาจากคนสำคัญ
"สร้อยสวยจัง^^"
ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่ทุกคนเดินทางกลับมาแล้วหนูใจ๋รีบเก็บข้าวของเข้าที่ก่อนจะหมุนตัวหน้ากระจกอีกครั้งเพื่อเช็กความเรียบร้อย
"ฉันเองก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย^^"
----------------------------
ตอนหน้าฉากNC ค่ะ ของสัก30คอมเมนต์ได้ไหมคะช่วยไรท์ปั่นวิวหน่อยค่ะ