ตอนที่ 8 | แค่นี้ไม่รู้หรอก

1804 คำ
ช่วงบ่ายของวัน “เมจิไม่เอานี่ไปด้วยหรอลูก” แม่ถามขึ้นก่อนจะเดินตรงมาหาเธอพร้อมกับชูเสื้อสูทตัวเล็กที่อยู่บนไม้แขวนให้ดู “เอาค่า เมลืม แหะๆ” เธอเป็นคนแขวนไว้เองแท้ๆ ว่าจะหยิบไปด้วยกลับลืมซะงั้น… คนตัวเล็กที่วันนี้นั่งเคลียร์งานของที่บ้านตั้งแต่เช้ากว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปช่วงบ่ายแล้วถึงเพิ่งได้กลับเข้าห้องมาเช็กของของตัวเองอีกทีเผื่อลืมหรือมีอะไรสำคัญที่ยังไม่ได้เอาไป หลังจากที่เธอกับแม่ช่วยกันดูช่วยกันเช็กจนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรก็พากันเดินออกมาจากห้องแล้วลงบันไดมาพร้อมกัน พอถึงด้านล่างร่างบางก็เดินตรงเข้าไปหาพ่อและพี่สาวที่นั่งกันอยู่ที่ห้องโถงส่วนกลางของบ้าน “เมไปแล้วนะทุกคนดูแลตัวเองดีๆ นะเข้าใจไหม” เมจิพูดบอกก่อนที่ท้ายประโยคจะย้ำทุกคนด้วยความเป็นห่วง “เราอะดูแลตัวเองดีๆ เถอะอย่าดื้อ ที่พงที่พักอะไรก็ดูที่มันปลอดภัยไว้ก่อน” เสียงเข้มของผู้เป็นพ่อพูดย้ำกับลูกสาวตนเองด้วยความเป็นห่วงไม่ต่างกัน “ค่า ไม่ดื้อ ไม่ต้องห่วงน้าไว้พอมีเวลาเมจะรีบบึ่งรถมาหาเลย” เสียงหวานตกปากรับคำก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ อีกทีอย่างคนรับปาก สามชั่วโมงให้หลัง 17:45 น. กึก กึก กึก กึก เสียงนิ้วเรียวของเมจิที่กำลังเคาะพวงมาลัยรถอย่างคนไม่รู้จะทำอะไรเพราะเธอติดแหง็กอยู่กับไฟแดงแยกข้างหน้าแค่แยกเดียวมาเกินสามสิบนาทีได้แล้ว แต่ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือจากตรงเธอไปคอนโดเหลืออีกแค่ไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น…ความรู้สึกที่เหมือนอยู่แค่เอื้อมแต่ก็ไปไม่ถึงนี่มันทรมานใจเหลือเกิน! โอ๊ะ! ไฟเขียวแล้วดวงตาสวยเบิกโพลงมองสีไฟแห่งสวรรค์ข้างหน้า มือเล็กรีบเข้าเกียร์เดินหน้าพร้อมกับรถที่ขยับเคลื่อนตัวไป “คันหน้ารีบหน่อยซี้…” ปากบางเอ่ยออกมาอย่างคนใจร้อน “ว้าย ไฟเขียวจะหมดแล้ว อีกคันๆ เหลือฉันอีกคัน…” “เฮ้อออ ค่อยยังชั่ว ~” เมจิพ่นลมออกจากปากหลังจากเธอหลุดออกมาได้จากแยกไฟแดงนั้นเป็นคันสุดท้ายแบบพอดิบพอดี นี่กำลังขับรถหรือลงแข่งโอลิมปิกกันนะเรา รถคันสีขาวเปิดไฟเลี้ยวก่อนจะค่อยๆ เบี่ยงซ้ายเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าคอนโดที่จะถึงในอีกไม่กี่สิบเมตรข้างหน้า เอี๊ยด!! ปี๊นๆ เสียงล้อรถของเมจิบดกับถนนหลังจากที่เท้าเรียวรีบแตะเบรกชะลอรถอย่างกะทันหันก่อนจะบีบแตรเป็นการเตือนเพราะอยู่ดีๆ ก็มีรถหรูข้ามเลนมาตัดหน้ารถของเธอและโชคยังดีที่เบรกทันไม่งั้นคงได้ชนกันไปแล้ว คนตัวเล็กหันมองรถที่เพิ่งตัดหน้าเธอเลี้ยวเข้าไปยังคอนโดก่อนจะจอดนิ่งอยู่ตรงทางเข้าแล้วมีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูเดินลงมาจากรถทำท่าเหมือนจะตรงมายังรถของเธอ “เฮ้ย! มึงบีบแตรอะไร! ลงมาดิวะ!” เป็นไปตามคาด…ผู้ชายรูปร่างดีใส่สูทที่ดูน่าจะมีฐานะอยู่พอสมควรกำลังใช้มือกระชากประตูรถของเมจิส่วนอีกข้างก็เอามือตีกระจกไปด้วยอย่างคนไม่พอใจ เฮ้อออ!! เป็นประสาทหรือไงนะตัวเองเป็นคนขับปาดหน้าคนอื่นเขาแท้ๆ แต่กลับมาไม่พอใจที่โดนบีบแตรใส่เนี่ยนะ…แล้วเรื่องอะไรเธอจะต้องลงไปเสียเวลากับคนประเภทนี้ด้วย! พอคิดได้ดังนั้นร่างบางก็ไม่สนใจเตรียมจะเคลื่อนตัวรถขับเข้าไปยังคอนโด ปึง ปึง! เสียงจากผู้ชายคนเดิมที่ตอนนี้เปลี่ยนมายืนขวางหน้ารถพร้อมกับใช้กำปั้นทุบกระโปรงรถของเธอก่อนจะตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง “เฮ้ย! ก็บอกให้ลงมาไงวะ!!” ร่างบางที่เริ่มหมดความอดทนกับไอ้ผู้ชายตรงหน้าที่ไม่ยอมจบสักทีเลยตัดสินใจจะลงจากรถ มือบางคว้าหมับเข้ากับที่จับประตูแน่นก่อนจะเปิดออกอย่างไม่ลังเล ปึก!! ประตูรถของเมจิที่กำลังเปิดออกแต่ถูกดันกลับเข้ามาเหมือนเดิมจากด้านนอกแทบจะทันที ทำให้ใบหน้าสวยหันมองออกไปถึงเห็นเป็นพี่วินที่อยู่ดีๆ โผล่มาจากไหนไม่รู้ยืนอยู่ข้างรถของเธอ แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรขายาวก็สาวเท้าเดินเข้าไปหาชายคนนั้นที่ตอนนี้หยุดใช้กำปั้นทุบรถของเมจิแล้ว ดวงตากลมนั่งอยู่ภายในรถพลางมองผ่านกระจกไปยังชายร่างสูงที่คุ้นเคยที่ตอนนี้กำลังพูดอะไรกับอีกคนอยู่โดยที่เธอก็ไม่สามารถรู้ได้…แต่ไม่นานนักผู้ชายที่หาเรื่องเธอก่อนหน้านั้นก็เดินกลับไปที่รถของตัวเองก่อนจะวนรถขับกลับออกไปด้วยความรวดเร็ว วินหันมามองเมจิผ่านกระจกรถก่อนจะทำท่าทางบอกให้เธอขับรถเข้าไปยังคอนโดก่อนที่เขาจะขับตามเข้ามาเหมือนกัน… “เมื่อกี้พี่พูดอะไรกับคนนั้นหรอ” เสียงหวานเอ่ยถามหลังจากลงมาจากรถกันแล้วทั้งคู่ “ก็ไม่มีไรหรอกคงเห็นพี่เป็นผู้ชายมันเลยไม่กล้าน่ะ” “แล้ว…” “ไม่ต้องไปสนใจหรอก…ไปดูห้องกันดีกว่า” เสียงทุ้มเอ่ยตัดบทเมจิก็เลยไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ ติ๊ง! ชั้น 24 คนตัวสูงเดินนำเธอไปยังห้องห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากลิฟต์มากก่อนจะใช้คีการ์ดแตะแล้วเปิดประตูเข้าไป… ตาเรียวสวยมองรอบๆ ห้องที่ถูกตกแต่งไว้แล้วพร้อมเข้าอยู่ มีการแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่นและระเบียงห้องขนาดกลาง ใช้คำว่ากว้างขวางและดูดีเกินกว่าที่เธอคิดไปมาก “เป็นไง โอเคไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เปิดเข้าห้องนั้นทีห้องนี้ที “ชอบมาก แต่ว่าราคานี้จริงๆ หรอพี่” คอนโดหรูห้องดีขนาดนี้กับราคาต่ำกว่ามาตรฐานแบบนี้มันจะมีจริงๆ หรอ… “อืม เจ้าของห้องไม่ได้อยู่ไทยแค่อยากหาคนเช่าหารายได้เฉยๆ” “เอ่อ คือไม่ได้คนตายหรือผะ…” “ไม่มี ถ้ากลัวก็ไปนอนห้องพี่” วินเอ่ยสวนก่อนที่เมจิจะถามจบพร้อมกับเสนอทางเลือกอื่นให้เธอ “โอเคงั้นเมเช่าห้องนี้แหละ” “หึ…ตามนั้น” 19:30 น. หลังจากที่ตกลงเช่าห้องเป็นที่เรียบร้อยร่างหนาก็ช่วยเธอขนสัมภาระของใช้ต่างๆ เข้าห้องทั้งหมดโดยที่เธอแทบไม่ได้หยิบจับอะไรเลย “ขอบคุณน้าพี่วิน ~ ทั้งเรื่องรถเมื่อช่วงเย็นแล้วก็เรื่องที่หาห้องให้แถมยังช่วยเมขนของอีก” “เราต้องตอบแทนพี่โดยการมากินข้าวด้วยกันทุกเย็น…ลืมหรอ?” “ไม่ลืมๆๆ นี่ไงเราไปกันเลยไหมพี่อยากกินอะไร” เสียงหวานรีบเอ่ยตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับจับแขนแกร่งให้ลุกขึ้นเดินตามเธอออกมา “เรานี่น้า เผลอทีไรหาเรื่องโดนตัวพี่ตลอดเวลาเลย” “…!” เป็นงั้นไป… “5555 ไปๆ กินในคอนโดก็ได้มีหลายร้านอยู่” ด้วยความที่เป็นคอนโดหรูภายในเลยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่ทำให้เธอร้องว้าวออกมาก็เพราะไม่คิดว่าบริเวณตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงสามของที่นี่นั้นกลับไม่ใช่นิติคอนโดหรือห้องพักแต่กลับเป็นห้างขนาดย่อมๆ ที่มีร้านค้าต่างๆ แต่จะเน้นไปทางของกินมากกว่า “กินนี่ไหม พี่เคยมากินอร่อยดี” วินชี้นิ้วไปทางซ้ายมือของคนตัวเล็ก “อื้ม เอาสิตามใจพี่เลย” ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังร้านอาหารกึ่งบาร์อิซากายะ ก่อนจะมีพนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามารับและพาไปยังโต๊ะมุมด้านในที่ว่างอยู่ ผ่านไปเพียงยี่สิบนาทีอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ… “ซัปโปโรเบียร์ค่ะคุณผู้ชาย” เสียงพนักงานหญิงดังขึ้นก่อนจะวางแก้วที่มีเครื่องดื่มเย็นๆ ลงบนโต๊ะ “ขอบคุณครับ” “อื้อ! อันนี้อร่อยมาก” เมจิหยิบเนื้อย่างเสียบไม้อีกอันแล้วส่งให้คนตรงข้าม คนตัวสูงวางเครื่องดื่มในมือลงแล้วรับไม้ที่เมจิส่งให้ก่อนจะส่งอาหารในมือเข้าปากตัวเอง “อืมม อร่อยจริง…ลองนี่ไหม” วินพูดพร้อมกับยื่นแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอำพันส่งให้ “ไม่ดีกว่า เมไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ” ฝ่ายหญิงตอบก่อนจะส่งยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท “จริงหรอ? ไม่ชอบหรือแพ้?” “อืม ไม่ชอบค่ะ มันดูย้อนแย้งกับหน้าแล้วก็บุคลิกเมใช่ไหมล่ะ” เธอชินแล้วล่ะด้วยความที่เป็นคนหน้าเหวี่ยงแล้วก็ชอบแต่งตัวคนส่วนมากก็จะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแรงๆ เที่ยวกลางคืนทั้งๆ ที่ความจริงแล้วแทบจะเป็นยัยเมผู้ทรงศีล “ก็ไม่เชิงนะ แต่แค่ถ้ามองจากภายนอกก็ดูก่ำกึ่ง” “แล้วในความคิดพี่ คิดว่าเมดูแรงดูกร้านโลกผ่านผู้ชายมาเยอะไหม” “อืม เรื่องนี้มันวัดกันแค่รู้จักผิวเผินไม่ได้หรอก” นัยน์ตาคมมองกลับมาที่เธอก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นกระดก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กินอาหารกันไปพูดคุยเล่นกันไปอย่างออกรสออกชาติจนเวลาล่วงเลยไปสี่ทุ่มกว่าใกล้เวลาปิดร้าน… “ดึกแล้ว…พี่ว่าเราไปกันดีกว่า” เสียงทุ้มเอ่ยชวนคนตัวเล็กหลังจากคุยกันเพลินจนลืมเวลา ใบหน้าสวยพยักหงึกหงักก่อนที่เธอจะรีบแย่งเขาจ่ายเพราะตั้งแต่เจอกับพี่วินมาเขาแทบไม่ให้เธอออกอะไรเลย แต่วันนี้ขอยืนกรานว่าจะไม่ยอมเพราะเขาช่วยเธอไว้หลายเรื่องมากจริงๆ “เดี๋ยวพี่เดินไปส่งเราที่ห้อง” “ไม่ต้องๆ เมส่งตัวเองได้ค่ะ” เธอหันไปตอบเขาก่อนจะมองคนตัวสูงที่ตอนนี้กำลังถอดแว่นตาออกมาเช็ด “ส่งไม่ดีเท่าพี่หรอก” พี่วินพูดขึ้นพร้อมกับใส่แว่นเข้าที่เดิมแล้วหันมามองเธอ หล่อตลอดไป! นั่นเสียงในหัวฉันเองแหะๆ “คือ…เมไปห้องเองได้พี่กลับห้องพี่ไปเลย” “เข้าไปในลิฟต์เร็วๆ” เขาได้สนใจที่เธอพูดไหมนะ…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม