บทที่ 2 เริ่มงานวันแรก

1667 คำ
หลังจากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ดิลลอนก็ปล่อยให้แอนนิก้านั่งรออยู่ในห้องทำงาน ก่อนที่ตัวเองจะนำสัญญาที่เธอเซ็นแล้วไปให้คาลอสดูอีกครั้ง “เธอเซ็นเรียบร้อยแล้วครับนาย” ดิลลอนวางแผ่นกระดาษลงตรงหน้าเขา “เธอไม่คัดค้านข้อไหนเลยใช่ไหม” เขาพูดแล้วหยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาดู พลางจ้องมองลายมือของเด็กสาว ก่อนจะจรดปากกาเซ็นในส่วนของตัวเอง “เธอไม่ขัดข้องอะไรครับนาย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้อ่านข้อตกลงอีกข้อที่อยู่ด้านหลัง…” เมื่อได้ยินว่ามีข้อตกลงด้านหลังด้วย คาลอสก็เงยหน้ามองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตาสงสัยและพลิกกระดาษดู “…หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ลูกจ้างทำอะไรนอกเหนือจากงานบ้าน ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธแม้จะเป็นเรื่องบนเตียงก็ตาม และลูกจ้างไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น” คาลอสอ่านออกเสียงพลางพ่นหัวเราะพรืดให้กับความเจ้าเล่ห์ของดิลลอน “เผื่ออนาคตนายใหญ่อยากเผด็จศึกเธอจะได้ไม่มีปัญหาไงครับ ผมเผื่อไว้แต่ถ้านายใหญ่ไม่ทำอะไรเธอก็ไม่เป็นไร” ดิลลอนคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ และเอื้อมมือไปรับสัญญาที่เซ็นแล้วมาเก็บใส่แฟ้มคู่สัญญาอื่น ๆ “ให้โซเฟียคอยสอนงานและสิ่งที่เธอต้องรู้ด้วย ส่วนนาย… เลิกคิดว่าฉันจะเผด็จศึกบ้าบออะไรนั่นซะ” เขาพูด พลางหันไปรับโทรศัพท์ ดิลลอนจึงผละออกมาและโทร.หาโซเฟียให้มารับแอนนิก้าไปดูแลต่อ ครึ่งชั่วโมงต่อมา แอนนิก้ายังคงนั่งรออยู่ในห้องทำงานของดิลลอนโดยไม่ขยับไปไหน จนกระทั่งประตูเปิดออกและปรากฏร่างท้วมของหญิงวัยกลางคนหน้าตาใจดีคนหนึ่ง “สวัสดีจ้า เธอใช่ไหมที่จะมาทำงานให้คุณคาลอส” “ใช่ค่ะ ฉันเอง… ฉันชื่อแอนนิก้า ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เธอลุกขึ้นโค้งให้แก่แม่บ้านด้วยความเคารพ “อู๊ย ไม่ต้องโค้งให้หรอกจ้ะ ป้าเป็นแค่แม่บ้าน เธอเรีกป้าว่าป้าโซเฟียแล้วกัน มา… ป้าจะพาไปที่พัก” แอนนิก้าเดินตามป้าโซเฟียไปช้า ๆ เธอคิดไปว่าอาจจะอยู่ในห้องเล็ก ๆ นอกตัวบ้าน แต่กลับไม่ใช่… “ห้องนี้เหรอคะ” เมื่อเปิดห้องเข้าไปก็พบว่าเป็นห้องนอนที่หรูหรามากสำหรับเธอ มีเตียงนอนเล็ก ๆ ตู้เสื้อผ้าใบหนึ่ง และโต๊ะอ่านหนังสือที่มุมห้อง “ใช่ คุณคาลอสน่ะใจดีกับเธอมากนะ ปกติห้องนี้ไม่ค่อยให้ใครมาใช้ เพราะห้องนี้เป็นห้องเดียวที่อยู่ใกล้ห้องคุณคาลอสที่สุด ดูท่าเธอจะไม่มีเสื้อผ้าข้าวของมาเลยใช่ไหมเนี่ย” “ไม่มีหรอกค่ะ ฉันไม่มีเวลาได้เตรียมมา” แอนนิก้าพูดเบา ๆ ด้วยความกระดากอายที่เธอไม่มีแม้กระทั่งเสื้อผ้าและข้าวของส่วนตัว “ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มี แต่เดี๋ยวคืนนี้ป้าจะไปขอยืมชุดจากหลานมาให้ก่อนแล้วกัน” เป็นอีกครั้งที่แอนนิก้าได้รับความเมตตาจากคนในบ้านมาเฟีย เธอส่งยิ้มและกล่าวขอบคุณป้าโซเฟียซ้ำ ๆ “รออยู่นี่นะ ป้าจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้” พูดจบป้าโซเฟียก็หันหลังเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนมาใหม่ได้เดินสำรวจห้องนอนตัวเอง มันดูดีเสียกว่าบ้านทั้งหลังของเธอตอนอยู่ในสลัมเสียอีก ราวหนึ่งชั่วโมงต่อมาป้าโซเฟียก็กลับมาพร้อมเสื้อผ้าสองสามชุด “วันนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เธออาบน้ำแล้วก็พักผ่อนซะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาทำงานแต่เช้า” แอนนิก้ากล่าวขอบคุณอีกครั้งด้วยความตื้นตันใจ “อ้อ! หลังเที่ยงคืนห้ามออกจากห้องนะ คุณคาลอสไม่ชอบให้ใครเดินเพ่นพ่านตอนดึก ๆ และที่สำคัญถ้าเธอบังเอิญเจอผู้หญิงออกมาจากห้องคุณคาลอสก็ให้ทำเป็นมองไม่เห็นซะ เข้าใจไหม” เมื่อได้ฟังคำเตือนของป้าโซเฟียแล้วแอนนิก้าก็รับคำโดยง่าย ก่อนจะปิดประตูลง เช้ามืด ปั้ง ปั้ง ปั้ง!!!! “เธอจะนอนไปถึงไหนแอนนิก้า!” เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นในความฝันจนเธอสะดุ้งตื่น “นี่เราฝันไปหรือไงนะ” แอนนิก้าพึมพำกับตัวเอง “เปิดประตูเดี๋ยวนี้แอนนิก้า!” “ค่า ๆๆ” เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกอีกครั้ง แอนนิก้าจึงกระโดดผึงออกจากเตียงโดยอัตโนมัติ และรู้ในทันทีว่าเธอไม่ได้ฝันไป “คุณคาลอส… มีอะไรเหรอคะ” เมื่อเปิดประตูออกก็พบว่าคาลอสยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าห้องเธอ “นี่เธอกะจะหลับให้บ้านฉันหายไปครึ่งนึงเลยมั้ย เรียกจนคอจะแตกก็ไม่ตื่นแบบนี้” น้ำเสียงไม่พอใจต่อว่าเด็กสาวจนเธอรู้สึกกลัว ฝ่ายคนตัวใหญ่เมื่อเห็นว่าเด็กสาวหน้าเสียก็ปรับน้ำเสียงและสีหน้าใหม่ “เห็นโซเฟียบอกว่าเธอไม่มีเสื้อผ้ามาเลย ฉันก็เลยให้คนออกไปซื้อมาให้ ในนี้มีข้าวของที่ผู้หญิงอย่างเธอต้องใช้ด้วย” เขายื่นถุงในมือมาให้ แอนนิก้ารับมาและฉีกยิ้มให้กับความใจดีของเขา “ขอบคุณนะคะคุณคาลอส คุณใจดี…” “ฉันไม่ได้ใจดี ฉันแค่ไม่อยากให้แม่บ้านของฉันแก้ผ้ามาทำงาน… มันอุจาดตา และที่สำคัญฉันไม่ได้ให้เธอฟรี ๆ มันรวมอยู่ในหนี้ที่เธอต้องชดใช้เรียบร้อยแล้ว” เมื่อได้ยินว่าเด็กสาวกำลังจะเอ่ยชมว่าเขาใจดี คาลอสก็ถือโอกาสดักคอเธอ ไม่อยากให้เธอเห็นว่าเขาใจดีแล้วจะทำตัวยังไงก็ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็เสียระบบหมด “ไม่อุจาดตาหรอกค่ะ เพราะฉันคงไม่ให้คุณเห็นง่าย ๆ อยู่แล้ว แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ” แอนนิก้าตอกกลับเบา ๆ อย่างทะเล้น ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าเจ้านายใหม่ด้วยความหมั่นไส้ เธอถือถุงเสื้อผ้ามากองไว้บนเตียงและเริ่มเทมันออก ของทั้งหมดที่เขาซื้อมามีของใช้ส่วนตัวของผู้หญิงครบทุกอย่าง และยังมีเสื้อผ้าสำหรับหลากหลายโอกาส นอกจากนี้ยังมีชุดชั้นในลายน่ารัก ๆ ที่ดูแล้วเหมาะกับเด็กมากกว่า “ไปซื้อตอนไหนนะ” แอนนิก้าได้แต่ถามตัวเองในใจ เพราะเมื่อวานกว่าสัญญาจะเรียบร้อยก็พลบค่ำแล้ว และนี่ก็ยังเช้าตรู่ ห้างที่ไหนจะเปิดเวลานี้ เมื่อทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว แอนนิก้าก็ออกจากห้องของตัวเองและตรงไปยังห้องครัวตามที่ได้นัดหมายกับป้าโซเฟียไว้ “มาแล้วเหรอ” โซเฟียเอ่ยทักทาย พลางกวักมือให้เด็กสาวเดินเข้าไปใกล้ “มื้อเช้าของคุณคาลอสจะมีแค่กาแฟดำและแซนวิชเท่านั้น แต่ในแต่ละวันก็จะเป็นแซนวิชคนละไส้กัน ในหนึ่งสัปดาห์อย่าให้ไส้ซ้ำกันล่ะ” พูดพลางประกบแซนวิชเข้าด้วยกัน ก่อนจะยกถ้วยกาแฟและจานแซนวิชใส่ในถาดส่งให้แอนนิก้าถือ “ห้องคุณคาลอสอยู่ชั้นบน ขึ้นไปเธอก็จะรู้เองว่าห้องไหน ไปถึงหน้าห้องเคาะสามครั้งแล้วค่อยเปิดนะ ถ้าคุณเขาไม่ตอบก็ให้ยืนรอจะเป็นชั่วโมงก็ต้องรอจนกว่าคุณเขาจะตอบ แต่ถ้าคุณเขาตอบก็ให้รออีกห้านาทีเป๊ะ ๆ แล้วค่อยเปิดเข้าไป จะมีโต๊ะอยู่ที่หัวเตียง เธอเอามื้อเช้าวางไว้แล้วยกตะกร้าผ้าลงมาเตรียมซัก รีบทำทุกอย่างในห้องคุณคาลอสให้เสร็จภายในหนึ่งนาทีล่ะ อย่าหาว่าป้าไม่เตือน” แอนนิก้ารับถาดมาถือไว้ พลางหันหลังเดินไปยังชั้นบนช้า ๆ และหวังแค่เธอจะทำทุกอย่างได้อย่างไม่ผิดพลาดตั้งแต่วันแรก แอนนิก้าเดินช้า ๆ ขึ้นมาถึงชั้นสอง และก็พบว่าบนชั้นนี้มีประตูบานใหญ่เด่นสง่าอยู่บานเดียว ในขณะที่ประตูบานอื่น ๆ เป็นเพียงประตูธรรมดา เธอจึงตัดสินใจเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าประตูนั้นและเริ่มเคาะ ก๊อก ก๊อก ก๊อก “คุณคาลอสคะ มื้อเช้ามาแล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกจนดังก้องไปทั่วบริเวณ “เข้ามา” แอนนิก้าตั้งท่าจะเปิดประตูเข้าไปตามสัญชาตญาณแต่ก็ต้องยั้งมือไว้ เมื่อนึกได้ถึงคำที่ป้าโซเฟียบอกเอาไว้ว่าให้รออีกห้านาทีเป๊ะ ๆ ถาดในมือเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็เหมือนมันจะยิ่งหนัก เธอลอบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่สุดทางเดินและเห็นว่าอีกเพียงสองนาทีก็จะครบห้านาทีแล้ว จึงสะบัดหน้าเพื่อเรียกสติตัวเองอีกครั้ง ในที่สุดก็ครบห้านาที แอนนิก้าก็เอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูและผลักเข้าไปช้า ๆ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอยมากระทบผิวนวลจนเธอขนลุกวาบ ตรงกลางห้องมีเตียงนอนที่ใหญ่ยิ่งกว่าขนาดคิงไซซ์ ใต้ผ้าห่มผืนหนามีร่างของคนนอนอยู่ ซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเจ้าของห้อง ผ้าม่านสีขาวที่ล้อมรอบเตียงอีกชั้นทำให้ดูน่านอนมากขึ้นไปอีก เยื้องขึ้นไปบนหัวนอนมีโต๊ะตัวหนึ่งวางอยู่ แอนนิก้าเดินตรงเข้าไปวางถาดมื้อเช้าและเริ่มกวาดสายตาหาตะกร้าผ้าที่ป้าโซเฟียบอกให้เอาลงไปด้วย แต่ไม่ว่าเธอจะมองหาแค่ไหนก็ไม่เห็นตะกร้าเลยสักใบ และตอนนี้เวลาหนึ่งนาทีในห้องนี้สำหรับเธอก็ใกล้หมดลงแล้วเสียด้วยสิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม