ตอนที่ 4 แอบมองหน้าผมหรือครับ

1966 คำ
ปราลีถูกลากเข้ามานั่งในห้องสังสรรค์ของพวกหนุ่ม ๆ คนตัวบางทำหน้าเบื่อหน่าย ยกนาฬิกาข้อมือดูหลายครั้งแล้วถอนหายใจ พวกผู้ใหญ่แยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนหมดแล้ว แต่พี่ชายเธอทุกคนยังไม่ยอมแยกย้ายกันไปไหน แถมยังไม่ยอมปล่อยให้เธอห่างสายตาด้วยกลัวว่าเธอจะแล่นออกไปหาผู้ชายถึงที่ “ยัยปาย กับแกล้มหมด ออกไปเอาพวกขนมกับถั่วมาให้พวกพี่ที” ปารเมศใช้น้องสาวที่นั่งหน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลอง ปกติก็ไม่แสดงความเอาแต่ใจขนาดนี้ สงสัยเพราะไม่มีพี่สาวทั้งสองคนที่กำลังท้องและมีลูกอ่อน จึงอดที่จะงอแงไม่ได้ “เดี๋ยวผมออกไปเอาให้เองครับคุณแปง” แผ่นดินขันอาสา เพราะเขาเป็นเพียงเด็กในบ้าน ควรจะเป็นคนรับใช้ดูแลเจ้านายทุกคนถึงจะถูก “ให้ยัยปายพาไปแล้วกันดิน” “ทำไมต้องให้ปายไปด้วยคะ ของแค่นั้นถือไม่ไหวหรือไง” “ดินออกจากบ้านเราไปสิบปีนะ เพิ่งกลับมาถึง อะไรอยู่ตรงไหนน้องมันจะจำได้ไหมล่ะ พี่ใช้ไปเอาของแค่นี้ทำหน้าหงิกหน้างอ ที่ผู้ชายให้ไปหาล่ะสู้ตาย” พี่ชายทุกคนขมวดคิ้วมองหน้าน้องสาวที่อายุเพียงสามสิบปี แต่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาพัวพัน แถมยังดื้อดึงจนไม่มีใครเอาอยู่ “ตกลงแกชอบหมอนั่นจริง ๆ หรือปาย พี่ว่ามันไม่โอเค” ปุณณิธิ พระเอกหนุ่มชื่อดังที่อยู่ในวงการปาร์ตี้มาก่อนเอ่ยถาม เพราะชื่อเสียงของนายมาวินไม่ธรรมดา กลัวว่าน้องสาวของตนจะต้องเสียใจถ้าตกหลุมพรางของหมอนั่น “อะไรที่ไม่โอเคคะ พี่ ๆ อย่ากังวลกับปายมากไปได้ไหม ปายโตแล้วนะคะ นี่พวกพี่ก็แต่งงานแต่งการกันเกือบหมดแล้ว ต้องเข้าใจบ้างสิคะว่าสาวโสดอย่างปายมันเหงานะ” “แต่หมอนี่ประวัติมันแย่ ทั้งเหล้าทั้งยาทั้งผู้หญิง แกจะตกหลุมพรางมันน่ะสิ” “พี่ปุณณ์ ปายไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะคะ” “ว่าได้หรือปาย ผู้หญิงเวลาตกหลุมรักแล้วชอบตาบอด ไม่เห็นว่าแฟนเรามันชั่วแค่ไหน” “ไม่ต้องมาเสริมเลยปัณณ์ ฉันรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร” ปัณณธีก็เป็นอีกคนที่คร่ำหวอดในวงการนี้ เห็นมาเยอะทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีประวัติเสียหาย และนายมาวินนั่นคือหนึ่งในนั้นที่ไม่ควรอย่างยิ่งจะให้ลูกสาวบ้านไหนเข้าใกล้ “อย่ามั่นใจให้มากไปว่ะปาย เพราะถ้าแกประมาทจะถูกไอ้หมอนั่นหลอก พวกเราไม่ใครก็ใครจะได้กลายเป็นฆาตกร” ดวงตาวาววับของปัณณธีผู้ซึ่งอายุเท่ากันกับเธอและดวงตาแดงก่ำอำมหิตของพี่ชายทุกคนโดยเฉพาะเหนือเมฆทำเอาเธอขนลุกซู่ รู้ว่าทุกคนเป็นห่วงและหวงแหนพี่สาวน้องสาวมากขนาดไหน แต่เธอก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น อีกอย่างเธอแค่นัดเดต กินข้าวฟังเพลงธรรมดา ๆ แบบที่ทำกับผู้ชายคนอื่นที่เข้ามาจีบ เพียงครั้งสองครั้งก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างไร และสุดท้ายเธอก็ไม่เคยสานสัมพันธ์กับใครต่อ “รู้แล้วค่ะว่าทุกคนเป็นห่วง เอาเป็นว่าปายจะคบใครก็จะดูให้ดี ๆ โอเคไหม” “พี่ขอสั่งนะ ว่าต่อไปนี้จะไปไหนกับใคร ไม่ว่าจะไปกับเพื่อนหรือออกเดต แกต้องเอาดินไปด้วย” เธอหันขวับมองหน้าหล่อ ๆ ของไอ้ลูกเป็ดที่เคยตัวเล็กผอมกะหร่อง ก่อนจะหันมองหน้าพี่ชายแท้ ๆ ที่ออกคำสั่งต่อหน้าลูกพี่ลูกน้องผู้ชายทุกคน “พี่แปง พี่จะบ้าเหรอ จะเอาไอ้ลูกเป็ดนี่ไปด้วยทำไม ปายไปเดตนะ” “แกไปเดตต้องนอนกับมันเหรอ” “ไม่สิ ทำไมต้องนอนกับเขาล่ะ” “ถ้าแกไม่ได้คิดจะไปนอนกับผู้ชาย ทำไมจะเอาดินไปด้วยไม่ได้ ถ้าผู้ชายพวกนั้นมันทำตัวไม่น่าไว้ใจหรือจะเอาแกไปนอนด้วยเมื่อไหร่จะได้มีดินคอยช่วย” “แล้วกับเพื่อนปายล่ะ แค่ไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ บางครั้งไม่มีผู้ชายไปด้วยสักคน” “ไม่มีข้อยกเว้น จนกว่าแกจะทำตัวดี ตั้งใจทำงาน และดูแลตัวเองได้โดยไม่เสี่ยงถูกใครหลอกฟัน” เธอถอนหายใจพรืดแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันมาตวัดสายตาใส่อดีตลูกไล่ที่นั่งมองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “นั่งอยู่ได้ จะไปไม่ไป” “ไปสิครับ” คนสวยเดินกระแทกเท้าหนีพี่ชายทุกคนที่มองตามเธอด้วยสายตาเดียวกันไม่มีผิดราวกับเธอมันเป็นเด็กใจแตก ทำตัวไม่ได้เรื่องและโง่งมงายให้ผู้ชายหลอกฟันฟรี ๆ จะโทษก็ต้องโทษพวกเขานั่นแหละที่หลอกฟันผู้หญิงไปทั่ว คงกลัวว่ากรรมจะตกมาอยู่ที่เธอซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้ายที่ยังโสด “น่าเบื่อที่สุด” ลิ้นชักบานไม้ในห้องครัวถูกเปิดอย่างกระแทกกระทั้น ชั้นแล้วชั้นเล่าก็ยังหาขนมขบเคี้ยวที่พอจะเป็นกับแกล้มไม่เจอ แม้เธอจะเป็นเจ้าของบ้าน แต่ช่วยถามเธอหน่อยได้ไหมว่าตั้งแต่โตเป็นสาว เธอย่างเท้าเข้ามาในครัวไปแล้วกี่ครั้ง ตอบให้ก็ได้ เท่าที่จำได้ไม่น่าจะเกินห้า คงไม่แปลกที่เธอจะไม่รู้ว่าของต่าง ๆ ถูกเก็บอยู่ในลิ้นชักไหน “ฮึ่ย ไม่เห็นเจอเลย อยู่ไหนเนี่ย” “ใจเย็นสิครับ คุณปายยังใจร้อนและขี้โวยวายเหมือนตอนเด็ก ๆ เลยนะ” คนตัวโตเรือนร่างเพอร์เฟคยืนซ้อนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เขายื่นมือเข้ามาดึงลิ้นชักใกล้มือของเธอ คนตัวบางชะงักกึกยืนนิ่งอยู่กับที่ หัวใจเต้นรัวด้วยความประหม่า เขาอยู่ใกล้เธอเกินไปแล้ว ใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราคาแพงบ่งบอกรสนิยมของคนใช้ จึงหันมองใบหน้าหล่อเหลาจากมุมด้านข้างที่เห็นโครงหน้าคมสันจะจมูกโด่งจัดเป็นทรงสวยอย่างชัดเจน เด็กนี่หล่อจริง ๆ มีเสน่ห์สมชายชาตรี เพียงแค่อยู่ใกล้ยังทำเอาหัวใจเธอเต้นกระหน่ำจนแทบทะลุออกมานอกอก “แอบมองหน้าผมหรือครับ” เขาหันมองหน้าเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกอีกแล้ว รู้แค่ว่ามันแวววาวมีเสน่ห์แบบที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน เธอชะงักก่อนกระแอมแก้เก้อ ขยับตัวออกห่างในขณะที่เขาอมยิ้มมุมปากแล้วเปิดลิ้นชักชั้นสุดท้ายจนเจอขนมขบเคี้ยวและถั่วต่าง ๆ อย่างที่ลูกชายเจ้าของบ้านต้องการจึงหยิบออกมาหลายถุง “นายต้องไปบอกพี่แปงว่านายจะไม่เป็นเลขาของฉัน” คนหล่อเลิกคิ้วสูง แววตาเฉยชา ใบหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึกทำเอาเธอหมั่นไส้ อยากเอาเล็บที่ตกแต่งอย่างสวยงามข่วนหน้าเขาให้เลือดไหล อวดดีเหลือเกิน “นี่นายได้ยินที่ฉันพูดไหม ไอ้ลูกเป็ด” ชื่อที่เธอเคยใช้เรียกเขาตั้งแต่จำความได้จนถึงวันที่เขาเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศทำเอามุมปากหยักยกยิ้ม แต่ยิ่งกลับเป็นการเติมเชื้อไฟให้คนพาล “ยิ้มอะไร นายตั้งใจกวนประสาทฉันใช่ไหม” “เปล่าครับ” “อ๋อ นายคงกำลังยิ้มเยาะที่ฉันโดนพี่ ๆ รุมกินโต๊ะใช่ไหม” ดวงตากลมโตวาววับเอาเรื่องคู่นั้นมันไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อตอนเขาเป็นเด็กอีกแล้ว เธอไม่รู้ตัวหรืออย่างไรว่าตอนนี้นอกจากเธอจะตัวเล็กกว่าเขามาก เธอยังทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตที่เอาแต่ใจจนน่าจับมาตีก้นแรง ๆ “ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น” แต่เด็กในบ้านอย่างเขามีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น แม้จะอยากเดินตามเธอต้อย ๆ และตามใจเธอทุกอย่างราวกับเธอคือเจ้าหญิง แต่ก็ไม่อาจทำอย่างนั้นได้อีก อีกอย่าง หลังจากที่ฟังวีรกรรมและเห็นพฤติกรรมของเธอที่แสดงออกมาในวันนี้ เขาก็เห็นด้วยกับเจ้านายทุกคนว่าควรดัดนิสัยเธอและคอยจับตาดูไม่ให้เธอทำอะไรตามใจโดยขาดการยั้งคิดจนมีอันตรายจากผู้ชายรอบตัว เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เขาคงเป็นหนึ่งในฆาตกรอย่างที่เจ้านายหนุ่มพูดถึงแน่ ๆ “แล้วนายคิดแบบไหน” “ผมไม่ได้คิดอะไรเลยครับ” “งั้นนายต้องไปบอกพี่แปง ว่านายจะไม่เป็นเลขาของฉันแล้ว” “ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะนี่เป็นความต้องการของคุณผู้ชายและคุณแปง” “แต่ฉันไม่ต้องการให้นายมาเป็นเลขาและคอยจับผิดฉันไง” เธอขยับเข้าใกล้แล้วเชิดหน้าขึ้นสูง สายตากดดันข่มขู่อย่างที่เคยทำตอนเด็ก ๆ ซึ่งทุกครั้งมันได้ผล เด็กผู้ชายผอมกะหร่องจะกลัวจนลนลานและยอมทำตามที่เธอสั่งทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะผิดถูกอย่างไรเขาก็ตามใจเธอเสมอ “ผมว่าคุณปายทำตัวให้ดี ๆ ดีกว่านะครับ ผมเองก็จะได้ไม่ต้องคอยจับผิดอย่างที่คุณปายบอกด้วย” ผิดคาด นอกจากเขาจะไม่เชื่อฟังเธอเหมือนตอนเด็กแล้ว ในแววตาคมกริบคู่นั้นยังไม่มีความกลัวเกรงจนลนลานอีกต่อไปแล้ว “นี่นาย ไอ้ลูกเป็ด นายจะไม่ยอมบอกพี่แปงจริง ๆ ใช่ไหม” “ครับ” “นายเป็นคนของใครกันแน่ ไหนบอกว่าจะเชื่อฟังฉันทุกอย่างไง ไปแค่สิบปีก็กล้าขัดคำสั่งฉันแล้วเหรอ โตขึ้นมาแล้วปีกกล้าขาแข็งใช่ไหม ไอ้ลูกเป็ด” เขาถอนหายใจ ใช่ว่าเขาไม่รักไม่เคารพเธอเหมือนตอนเด็ก ๆ ความรู้สึกทุกอย่างที่เขามีต่อเธอมันยังเหมือนเดิม แต่เขาไม่อยากให้เธอทำตัวเหลวไหลอีกต่อไปแล้ว “ผมเป็นคนของบ้านอธิพัฒน์โภคินครับ คุณทุกคนเป็นเจ้านายของผม แต่ผมจะทำตามคำสั่งที่เข้าท่าเท่านั้น ผมว่าคุณปายอย่าทำตัวเกเรเหมือนเด็กมีปัญหาแล้วเอาแต่ต่อต้านคุณแปงทุกอย่างเลยดีกว่าครับ มันไม่เป็นผลดีกับคุณปายหรอก” “นี่นาย หุบปากไปเลยนะ นายจะรู้อะไร” “ผมอาจรู้มากกว่าที่คุณปายคิดก็ได้” แววตาคมฉายแววเป็นห่วง แต่คนที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธกลับหูอื้อตาลาย ไม่ยอมฟังและไม่ยอมมองเห็นความหวังดีของใครทั้งนั้น “นายจำเอาไว้เลยนะ ฉันจะทำให้นายกระเด็นไปจากตำแหน่งเลขาของฉันให้ได้ คอยดู” “ครับ ผมจะคอยดู” ดวงตากลมโตถลึงมองเด็กในบ้านที่เคยเดินตามเธอต้อย ๆ แต่นอกจากเขาจะไม่หวั่นเกรงเหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ แล้ว เขายังมองเธอนิ่ง ๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องสังสรรค์หน้าตาเฉย “ไอ้บ้า ไอ้ลูกเป็ด นายจำเอาไว้เลยนะ” คนตัวบางยกมือขึ้นทุบโต๊ะด้วยความเจ็บใจที่ทำอะไรเขาไม่ได้ ก่อนจะต้องสะบัดมือแรง ๆ ด้วยความเจ็บ “โอ๊ย ฮึ่ย เพราะนายคนเดียว ไอ้ลูกเป็ด”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม