เดือนเต็ม

1573 คำ
-ห้องเรียนชั้น ม.1- “เด็กชายห้าวหาญ ออกมาหน้าชั้น” เสียงครูภาษาไทยที่สวมชุดสีกากีเต็มยศ ผมถูกรวบตึงไปมัดไว้ด้านหลังจนตึง สายตาดุมองลอดผ่านแวนสายตาหนาเตอะ ในมือถือไม้เรียวยาวฟาดลงบนฝ่ามืออีกข้างแสดงถึงท่าทางที่พร้อมจะทำโทษเด็กเกเรเต็มที่ เสียงเข้มของครูนิตยาเอ่ยเรียกชื่อคนไม่ส่งการบ้านให้ออกมาที่หน้าชั้น คนถุกเรียกก็ไม่รีรอรชักช้า พอได้ยินชื่อตัวเองก็ลุกขึ้นแล้วก้าวฉับออกไปหน้ากระดานดำโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวใด “ทำไมถึงไม่ส่งการบ้าน  ตอนสอบก็คะแนนไม่ดี  แล้วแบบนี้จะเข้ามหาวิทยาลัยได้ไหม เด็กชายห้าวห้าญ!!” ครูร้องถาม “ผมไม่เรียนหรอกมหาลัยอะไรนั่น” เด็กชายร้องตอบกับครูของเขา คำตอบของเขานั้นมันเรียกเสียงฮือฮาให้กับนักเรียนชายคนอื่นในชั้นได้อย่างคึกครื้น ผิดกับครูสาวที่รู้สึกเสียหน้าอย่างมากกับคำตอบของเด็กนักเรียนตัวแสบคนนี้ “แบมือมา!! ไม่ส่งการบ้านก็ต้องโดนตีนะห้าวหาญ” เด็กชายห้าวหาญโดนตีตามจำนวนข้อ ของการบ้านจนมือแดงเป็นรอยไม้เรียว  หัวหน้าห้องหลับตาปี๋ตอนไม้เรียวฟาดลงบนฝ่ามือของเด็กชายหน้าห้อง มันเป็นเรื่องปกติหากครูจะทำโทษนักเรียนเกเรที่ไม่ส่งการบ้าน  เดือนเต็มไม่เคยได้สัมผัสกับการถูกทำโทษเลยแม้สักครั้งเดียว เพราะเธอไม่เคยเบี้ยวการส่งการบ้านเลย  แถมยังสอบได้ที่หนึ่งเสมอไม่ว่าจะสอบเก็บคะแนนรอบไหนก็ตาม ห้าวหาญเดินผ่านโต๊ะของเดือนเต็มไปด้วยท่าทางนิ่งขรึม ไม่ใช่เพราะว่าเขาโกรธเรื่องที่เธอไม่ให้ลอกการบ้าน แต่ที่ต้องทำหน้านิ่งเพราะอยากจะเก็บซ่อนอาการเจ็บที่ถูกตีเอาไว้ ไม่อยากให้เดือนเต็มเห็นว่าลูกผู้ชายอย่างเขาอ่อนแอกับแค่ถูกครูตี ห้าวหาญเดินเกร็งตัวตรงไปที่โต๊ะตัวเองหลังห้อง เดือนเต็มแอบหันไปมองคนโดนทำโทษด้วยสายตาสำนึกผิดและสงสาร หรือจริง ๆ  แล้วที่ห้าวหาญถูกทำโทษมันจะเป็นความผิดของเธอ เด็กสาวเริ่มคิดมาก และกลัวว่าเพื่อนจะโกรธที่ตัวเองเป็นสาเหตุทำให้เขาต้องโดนครูตี ตลอดเวลาที่เรียนคาบแรกเดือนเต็มคอยลอบมองคนหลังห้องอยู่เป็นระยะ ทุกครั้งที่หันกลับไปก็เห็นว่าห้าวหาญนั่งก้มหน้าคอตกอยู่  มันยิ่งทำให้เดือนเต็มรู้สึกไม่ดี ช่วงเปลี่ยนคาบจึงตัดสินใจชวนเพื่อนไปที่สหกรณ์โรงเรียน  เพื่อซื้อขนมมาขอโทษห้าวหาญ “อะ ขนม” มือเรียวยื่นถุงหิ้วสีใสที่ด้านในใส่ขนมของชอบของคนรับไว้จนเต็ม ห้าวหาญที่กำลังวุ่นอยู่กับการพับรถกระดาษเงยหน้าขึ้นมามองที่ถุงขนมตรงหน้า ก่อนจะไล่สายตาขึ้นไปมองดูหน้าของคนถือถุง เขาทำหน้างุนงงสงสัยว่าแม่สาวผมเปียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเอาขนมมาให้เขาทำไมกัน “มึง...เอาขนมมาให้กูทำไม” เขาตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น คนถูกถามรีบเบนหน้าหนี ‘นั่นน่ะสิ ทำไมต้องซื้อขนมมาให้เขาด้วยนะ’ เธอพลางย้อนถามตัวเองในใจ “ก็... ขอโทษที่เรา...ทำให้สิงห์โดนตีไง” เด็กหญิงเอ่ยขึ้น “โดนตีตั้งหลายคน ทำไมขอโทษไอ้สิงห์คนเดียว ฮั่นแน่!!  เดือนชอบไอ้สิงห์เหรอ?” วิชิตรเพื่อนร่วมโต๊ะของห้าวหาญชี้นิ้วถาม  สายตามองสาวน้อยที่ถือถุงขนมสลับกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไปมา “ชอบบ้าชอบบออะไร ก็มันไม่ยอมเขียนจดหมายลาให้กู ไม่งั้นกูก็ไปเล่นตะกร้อรอเรียนคาบอื่น แล้วก็ไม่ต้องโดนตีแบบนี้หรอก” ห้าวหาญรีบโวยขึ้น “อะ....อือ... ใช่” เดือนเต็มเงยรีบหน้าขึ้นเสริมอีกแรง ก่อนจะวางถุงขนมลงบนโต๊ะของห้าวหาญแล้วเดินดุ่ม ๆ  กลับโต๊ะของตัวเอง คนได้รับขนมจับถุงขนมขึ้นมาถือไว้มั่น  ปากก็ยิ้มจนแทบจะฉีกถึงหู ของข้างในมีแต่ที่เขาชอบทั้งนั้น แถมคนซื้อยังเป็นเดือนเต็มอีกต่างหาก “ยิ้มอะไรของมึงไอ้สิงห์ เป็นบ้าเหรอยิ้มคนเดียว” วิชิตรหันมาเห็นเพื่อนยิ้มคนเดียวก็เกิดความสงสัย ห้าวหาญหันไปหาคนถามทั้งที่ปากยังยิ้มไม่หุบ มือก็ยังคงกำถุงขนมแน่น “เออ กูบ้า มึงอะอย่าไปล้ออีเดือนว่าชอบกูอีกนะ” พอควบคุมตัวเองได้แล้ว ห้าวหาญจึงได้สั่งกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงเข้ม ตาก็ยังมองที่ถุงขนมด้วยความพอใจ “ทำไมวะ” “เดือนมันไม่ชอบ” “เดือนไม่ชอบ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงวะ” วิชิตรยังไม่คลายความสงสัย และยังคงตั้งคำถามต่อไปอีก คราวนี้ห้าวหาญต้องยอมละสายตาจากถุงขนมในมือ เพื่อหันมาใช้สายตาดุกำชับเพื่อนอย่างจริงจัง “ก็ถ้ามันอารมณ์ไม่ดี มันก็จะไม่ให้กูลอกการบ้านไง แล้วถ้ากูลอกการบ้านมันไม่ได้ มึงจะเอาการบ้านที่ไหนส่งครู อย่าโง่ดิวะ” ห้าวหาญแถไปข้าง ๆ คู ๆ   แต่ก็ทำให้วิชิตรคิดตามและเชื่อจนสนิทใจ ถึงเวลาเลิกเรียนห้าวหาญก็รีบไปเอาจักรยานมาจอดรอสาวซ้อนท้ายที่จุดนัดพบประจำ ใครเห็นก็อิจฉาห้าวหาญกันทั้งนั้น ที่มีโอกาสได้รับ-ส่งเดือนเต็มทุกวัน เมื่อถึงเวลาเด็กหญิงผมเปียก็เดินมานั่งซ้อนท้ายจักรยานของห้าวหาญอย่างที่เคยเป็น เด็กหญิงแอบอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อคิดถึงเวลาที่เพื่อนล้อเลียนว่าทั้งตัวเองกับห้าวหาญชอบพอกัน “วันนี้สิงห์จะไปทำการบ้าน ที่บ้านเราไหม  แจงจิตกับพิศมัยก็ไปนะ” ขณะที่ซ้อนอยู่บนท้ายจักรยาน  เดือนเต็มก็เอ่ยถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบระหว่างทาง ปกติทุกวันเธอมักจะเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเสมอ เพราะห้าวหาญไม่รู้ว่าเขาจะชวนเธอคุยเรื่องอะไรดี ไอ้ครั้นจะเล่าเรื่องตีไก่ ยิงนก ตกปลาให้ฟัง เดือนเต็มก็คงจะไม่อภิรมย์ชมชอบเท่าไหร่ “ไม่อะ นัดกับไอ้กบไว้ว่าจะไปปักเบ็ด แม่อยากกินห่อหมก” ห้าวหาญร้องตอบ สายตาก็มองทอดไกลไปบนท้องถนนที่รถไม่หนาแน่นนัก สองเท้าปั่นจักรยานไปข้างอย่างหน้าช้า ๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ความเร็วมากเกินไป คนซ้อนท้ายจะร้องวี๊ดว๊าดขึ้นมาให้เขาต้องแสบแก้วหู “แล้วการบ้านเลขล่ะ จะไม่ทำอีกแล้วเหรอ” หัวหน้าห้องคนสวยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ผลสียของการไม่ทำการบ้านไม่ได้มีเพียงแค่ถูกครูตีเท่านั้น แต่คนที่ไม่ส่งการบ้านยังจะไม่ได้คะแนน แล้วห้าวหาญไม่ใช่คนที่จะทำข้อสอบเพื่อเก็บคะแนนได้อยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ส่งการบ้านด้วย แล้วแบบนี้จะเอาคะแนนที่ไหนไปรวมเป็นเกรดเพื่อผ่านขึ้นชั้นต่อไปกัน “มึงก็รีบทำสิ เดี๋ยวปักเบ็ดเสร็จกูจะแวะไปเอา” “เดี๋ยวตอนสอบก็ทำไม่ได้อีก ถ้ามาทำด้วยกันเราจะได้สอนให้ไง” คนหวังดีเอ่ยขึ้น ไม่ส่งการบ้านโดนครูตีก็แค่เจ็บไม่นานก็หาย สุดท้ายก็ไม่เข้าใจเรื่องที่เรียน ถึงตอนสอบไม่ผ่านแล้วเกิดตกซ้ำชันขึ้นมา คงจะแย่กว่าโดนครูตีมากแน่ ยิ่งคิดเดือนเต็มก็ยิ่งเป็นเดือดเป็นร้อนแทน “เดี๋ยวกูจดใส่แขนไปตอนสอบ มึงไม่ต้องห่วงหรอก” “ถ้าครูจับได้เดี๋ยวก็โดนปรับตก อยากเรียนซ้ำชั้นนักเหรอ” เด็กหญิงผมเปียที่นั่งซ้อนท้ายยังไม่ลดละความพยายาม เธอคิดมากจนหวาดกลัวราวกับว่าตัวเองจะเป็นคนถูกซ้ำชั้นเสียเองแล้ว “ขี้บ่นจังวะ บ่นมาก ๆ   กูจะให้เดินกลับเองนะ” ประโยคนี้เป็นคำขู่ที่ห้าวหาญมักจะเอามาใช้กับเดือนเต็มเสมอ  เพราะทุกวันเดือนเต็มต้องกลับบ้านพร้อมกับเขาทุก แต่ในตอนเช้าหากวันไหนเขาตื่นสายที่บ้านของเดือนเต็มก็จะมาส่งแต่เช้า เพราะหากว่ารอมาพร้อมกันกับห้าวหาญ กว่าจะถึงโรงเรียนคงไม่ทันเข้าเรียนคาบแรกแน่ บ้านของเดือนเต็มและห้าวหาญไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด แม่ของห้าวหาญนั้นแม้จะไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่ก็เป็นคนมีน้ำใจ ปลูกผักอะไรก็เห็บไปแจกเขาทั่ว ทำกับข้าวแต่ละทีก็แจกจนหมดหม้อ  สองบ้านจึงนี้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และแม่ของห้าวหาญก็เป็นขาเม้าส์ขาประจำกับคุณนายร้านทอง  ซึ่งก็เป็นแม่ของเดือนเต็มนั่นเอง นี่จึงเป็นช่องทางเดียวที่พลัดเอาห้าวหาญให้ได้มาอยู่ใกล้ชิดกับพระจันทร์ที่ลอยอยู่สูงสง่ากลางเวหาอย่างเดือนเต็ม หากพ่อแม่ไม่รู้จักกันบทสนทนาที่จะสร้างขึ้นกับเดือนเต็มนั้นอาจจะเป็นไปได้ยากเหลือเกิน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม