2

1492 คำ
“น้ำขิงกำลังจะอาบน้ำน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าคุณแดนจะมาเก็บค่าเช่าเลยไม่ได้เตรียมต้อนรับ” คนพูดยิ้มหวานหยด ทอดสายตาออดอ้อนทำท่าทีเหมือนอยากให้ลากขึ้นเตียงเสียอย่างนั้น “แหม... ไม่ได้เตรียมต้อนรับ ชิ! นุ่งกระโจมอกออกมาโชว์ร่องอกขนาดนี้          ยังไม่เรียกเตรียมต้อนรับอีกเหรอ” คนรู้ทันบ่นอุบ น้ำขิงน่าจะรู้ว่าแดนตะวันต้องมาเก็บค่าเช่าบ้านวันนี้ แดนตะวันมองร่องอกน้ำขิงไม่วางตา คนมีของดีให้โชว์ เขาก็แค่มองไม่เห็นจะแปลกอะไร “ไม่เป็นไร” แดนตะวันตอบอย่างใจดี “เดี๋ยวน้ำขิงไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้นะคะ” น้ำขิงบอกเสียงอ่อนเสียงหวาน ชะม้ายชายตาจนน่าตบให้คว่ำ อัญชัญขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “โอ๊ย! ดึงหูเฮียทำไม” คนได้สติสะดุ้งโหยงหลังจากน้ำขิงเดินไปหลังบ้านแล้ว “เฮียมองนมปลอมอีกแล้ว ยายน้ำขิงหน้าพลาสติกเฮียไม่รู้หรือไง ยายนี่หนักกว่ายายชบาอีกนะ ปลอมตั้งแต่หัวยันนิ้วเท้า” “พลาสติกก็สวย” เขาเถียงแล้วยกยิ้ม คล้ายอยากแหย่คนตรงหน้าให้โมโห “โอ๊ย! หยิกทำไม เจ็บนะโว้ย” “เดี๋ยวนี้โว้ยกับน้องนะ เดี๋ยวเหอะๆ” “น้ำเย็นๆ จ้ะ” น้ำขิงพูดเสียงหวาน ขัดการทะเลาะวิวาทอย่างเอาเป็นเอาตายของสองหนุ่มสาว หล่อนนำน้ำมาเสิร์ฟพร้อมก้มลงจนเห็นร่องอก แดนตะวันยื่นมือไปรับแต่อัญชัญยื่นไปรับเสียก่อน น้ำขิงถอยไปนั่งอีกด้านและไม่คิดจะแต่งตัวให้เรียบร้อย แม่เจ้าพระคุณรุนช่อง เหอะ! อกใหญ่เท่าลูกมะพร้าวทำมาโชว์ ของฉันเท่าลูกแตงโมยังไม่โชว์เลยวุ้ย! เด็กสาวทำเสียงในลำคอ อัญชัญเปิดสมุดบัญชีกางออกมา ก่อนจะพูดทะลุกลางปล้องขึ้นมาในทันที “เธอค้างค่าเช่าอยู่สามเดือน จ่ายมาให้หมดด้วย ไม่งั้นก็เก็บข้าวของออกไปเลย ที่นี่บ้านเช่าไม่ใช่มูลนิธิถึงจะให้ใครมานอนฟรีๆ” อัญชัญแบมือไปด้านหน้า ก่อนที่น้ำขิงจะร้องไห้สะอึกสะอื้น บีบน้ำตาน่าสงสารออกมา “น้ำขิงขอผัดผ่อนไปก่อนนะคะคุณแดน ตอนนี้ที่บ้านลำบาก น้ำขิงต้องส่งเงินไปช่วยพ่อกับแม่ ไม่มีเงินเลยจริงๆ ค่ะ” เธอเดินมาคุกเข่าลงตรงหน้าเขา ก่อนจะเขย่าที่ต้นขาแกร่งของแดนตะวันด้วยท่าทีออดอ้อน คนขี้สงสารอยากจะโอบกอดและปลอบประโลมเจ้าหล่อนยิ่งนัก ถ้าไม่โดนน้ำเย็นๆ หกใส่เสียก่อน น้ำขิงกรีดร้องทะลึ่งพรวดขึ้นจากพื้นแทบทันที “ตายแล้วน้ำหก มือไม่มีแรงน่ะ” อัญชัญทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ยายตัวแสบ...” แดนตะวันเรียกสาวน้อยเสียงหนัก ใบหน้าของเขาเปียกปอนไปหมด “เดี๋ยวอัญเช็ดให้ค่ะเฮีย” เธอคว้าผ้าเช็ดมือแถวนั้นมาซับน้ำให้เขา ทำท่าทีตกอกตกใจเหมือนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ก่อนจะร้องอุทานขึ้นด้วยความเจ็บ “อุ๊ย! เฮีย” แดนตะวันกระชากมือของอัญชัญออกห่าง เธอก็แกล้งสะบัดสะบิ้งทำเหมือนไม่รู้ว่าเขาโกรธ แดนตะวันเป็นคนโมโหร้ายเอาการ แต่เธอไม่เคยกลัวเขา อย่างมากก็แค่โดนฟาดก้น ซึ่งเธอก็หนีเร็วยิ่งกว่าปรอท “พอสักที น้ำขิงเขาไม่มีเงิน จะไปขูดเลือดเขาทำไม” ได้ยินแบบนั้นอัญชัญก็หน้างอทันที “น้ำขิงไปทำงานบ้านให้คุณแดนก็ได้นะคะ เผื่อจะได้ช่วยดูแลปรนนิบัติคุณแดน ถือว่าเป็นค่าเช่าบ้านน่ะค่ะ” น้ำขิงยังอ่อยแดนตะวันไม่หยุดหย่อน “อะแฮ่ม” แดนตะวันกระแอมกระไอ ในขณะที่หันไปมองสบตากับยายเด็กตัวป่วน เธอก็ทำตาเขียวใส่เขา “ก็ดีเหมือนกันนะคะเฮีย” อัญชัญเปลี่ยนจากหน้าบึ้งตึงเป็นยิ้มแฉ่งทันที แดนตะวันหรี่ตามองอย่างไม่ไว้วางใจ แต่ดูเหมือนน้ำขิงจะไม่ได้ระแวงอะไร เธอยินดีและเต็มใจไปทำงานบ้านเพื่อเป็นค่าเช่าบ้านที่ผัดผ่อนมานานหลายเดือน “พรุ่งนี้เธอก็ไปหาฉันที่บ้านนะ ทำงานดีจะยกหนี้ให้ โอเค๊... เฮียไปได้แล้ว เราต้องไปเก็บค่าเช่าอีกหลายหลัง” เธอดึงร่างสูงให้ลุกตาม แดนตะวันหันไปมองด้านหลัง น้ำขิงกระพือผ้าถุงไปมา ก่อนจะขยิบตาว่าเจอกันพรุ่งนี้นะคะ “พอยายน้ำขิงบอกว่าพรุ่งนี้จะไปที่บ้าน หน้าบานเชียวนะคะ” อัญชัญพูดอย่างหมั่นไส้แกมรู้ทันเขา “อย่ามาหาเรื่องเฮียเลยน่า” คนพูดด้วยท่าทีรำคาญก่อนจะเดินไปยังบ้านอีกหลัง เคาะประตูไม่ทันไรก็มีคนมาเปิดประตูให้แต่เป็นเด็กน้อยตาดำๆ ตัวเล็กๆ เนื้อตัวมอมแมม การเก็บค่าเช่าบ้านนั้นจะมีผู้เช่าหลากหลายประเภท บางคนก็จ่ายตรง บางคนก็ผัดวันประกันพรุ่ง เรียกว่าเหนียวหนี้ บางคนก็มากแผนการพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อตัวเองจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินค่าเช่า “ไหนแม่จ๊ะ” อัญชัญนั่งลงตรงหน้าเด็กน้อย พูดเสียงอ่อนเสียงหวานยิ้มอย่างใจดี “แม่ให้มาบอกว่าแม่ไม่อยู่ครับ” เด็กน้อยพูดอย่างแสนซื่อ อัญชัญหัวเราะท้องคัดท้องแข็งแทบลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้น ในขณะที่แดนตะวันมีใบหน้าเรียบขรึม “เฮียนี่ยังไง พอไม่ใช่สาวๆ ละทำหน้าดุเหมือนยักษ์ พอสาวๆ ละยิ้มปากจะฉีกถึงรูหู” “ไปตามแม่มาสิจ๊ะ เราจะได้คุยกัน” อัญชัญลูบศีรษะเด็กน้อยเบาๆ ก่อนจะเดินตามเข้าไปในบ้าน ไม่นานก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิงเดินออกมาพร้อมกับลูกน้อยตัวเล็กในอ้อมแขน ท่าทางหวาดกลัวของนางทำให้อัญชัญนึกสงสารไม่น้อย สามีของนางติดเหล้า ติดการพนัน จนไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า คนแบบนี้น่าสงสารกว่า   ยายนมโตปากแดงสองคนก่อนหน้านี้เสียอีก “คุณแดนคะ น้าขอผัดไปก่อนนะคะ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ป่วยไม่มีเงินเลยค่ะ” นางร้องไห้แบบไม่ได้เสแสร้งแต่น่าสงสารจริงๆ “เอาเงินนี่ไปนะจ๊ะ พาตัวเล็กไปหาหมอเสียด้วย เรื่องค่าเช่าบ้านน่ะ เอาไว้มีเมื่อไหร่ค่อยให้ก็แล้วกัน” อัญชัญหยิบเงินให้อีกฝ่ายเพราะเวทนาและสงสารเป็นที่สุด “ขอบคุณมากนะคะคุณอัญ น้ามีเมื่อไหร่ จะรีบใช้คืนเลยค่ะ หรือจะให้น้าไปทำงานที่บ้านใช้หนี้ก็ได้นะคะ” นางยกมือไหว้ปลกๆ แทบจะกราบกรานเสียตรงนั้น “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มีเมื่อไหร่ค่อยให้ก็ได้ อัญไปก่อนนะจ๊ะ” อัญชัญเดินตามแดนตะวันออกมาจากบ้านเช่าหลังนั้นด้วยความสุขใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น “ตกลงใครเป็นเจ้าของบ้านเช่ากันแน่” เขาเอ่ยขึ้น “เฮียเป็นเจ้าของ แต่อัญเป็นคนเก็บเงิน” เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ เงินอยู่ในกำมืออัญชัญเมื่อไหร่เขาอด แต่เขาก็ยอมมาตลอด เพราะว่าถ้าไม่ยอมมันก็จะมีเรื่องตามมาอีกมากมาย อัญชัญรู้ว่าแดนตะวันไม่ได้ว่าอะไร ถ้าจะว่าจริงๆ... เขาต้องไม่ให้เธอมอบเงินจำนวนนั้นช่วยเหลือสามคนแม่ลูกนั่นเป็นแน่ แดนตะวันดูเป็นคนน่ากลัวในสายตาของคนรอบข้างเพราะธุรกิจสีเทาที่เขาทำอยู่ แต่จริงๆ เขาก็เอื้อเฟื้อต่อคนอื่นอยู่มาก “คนแบบนี้ควรช่วยนะเฮีย ดีกว่ายายน้ำขิงกับยายชบานมปลอมนั่นอีก” “มีปัญหาอะไรกับนมของคนอื่นนักหนา มีปมเรื่องนมตัวเองแบนเหมือนไข่ดาวเหรอ” “นมอัญไม่ได้แบนนะ” เธอเถียงเขาคอเป็นเอ็น “แต่เฮียว่าแบน” คนอยากแกล้งเถียงกับเด็กคอเป็นเอ็นอย่างไม่ลดละเช่นกัน “ไม่แบน” เธอเถียงกลับอย่างไม่ลดละ “ถ้าไม่แบน งั้นแก้ผ้าให้ดูหน่อย” “ได้ ว้าย! ไม่ได้ ไอ้เฮียบ้า ลามก ใครจะบ้าแก้ผ้าตรงนี้” แดนตะวันหัวเราะลงลูกคอเมื่อแกล้งเธอได้สำเร็จ อัญชัญหน้างอมองตามแผ่นหลังของเขาไปอย่างอาฆาตแค้น เธอก็บ้าจี้รับคำเขาเพราะอยากเอาชนะล้วนๆ “คนเรานี่หนา เดี๋ยวบอกว่าได้ เดี๋ยวบอกว่าไม่ได้ เชื่อถืออะไรไม่ได้เลย” เขาพูดลอยๆ ขณะเดินนำไปก่อน เธอได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เฮียยันต์นั่นแหละเปิดบ่อนขายเหล้าเถื่อน คนติดกันงอมแงม ผัวน้าศรีถึงไม่ยอมหาเงินมาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้ดี” เฮียยันต์ที่อัญชัญพูดถึงคือสุริยันต์พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของแดนตะวัน ซึ่งแดนตะวันนั้นรักและนับถืออีกฝ่ายมากๆ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม