ดวงตาคู่งามลุกวาวด้วยความตกใจกับการกระทำอันอุกอาจของตัวเอง
สาบานว่าเขาไม่ได้มองเธอเป็นผู้หญิงหน้าเงินเกินไปใช่มั้ย...
แม้ความจริงจะใช่ก็ตาม แต่ที่ทำไปก็เพราะเธอต้องการเงินมากที่สุดในตอนนี้ เธอจะต้องเอาไปช่วยพี่ชาย ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ตรมในใจของผู้เป็นแม่นี่นา
"อาเกื้อ..." เสียงหวานแผ่วเบา ลมหายใจที่พวยพุ่งมาพร้อมกับกลิ่นปากรสมินต์กระทบกับผิวแก้มสากของเขา
วงแขนข้างหนึ่งค่อยๆ ขยับมาทาบรัดตรงบั้นเอวบาง ในขณะที่เจ้าตัวยังไม่รู้สึกตัวสักนิด เพราะมัวแต่ตะลึงพรึงเพริดกับการกระทำอันก๋ากั่นเกินตัวอยู่
"จูบอาสิ...ทำให้อาเห็น" เสียงทุ้มเขาย้ำเตือน
ดวงตาคู่สีสนิมเห็นริมฝีปากสีพีชอ่อนนุ่มขบเม้มเข้าด้วยกันอย่างกระดาก แต่ก็ไม่ใช้เวลานาน ใบหน้างามเคลื่อนมาหาพร้อมกับแนบริมฝีปากอ่อนนุ่มลงกับริมฝีปากเขา เธอกดน้ำหนักลง แน่นิ่ง แช่ค้างไว้ราวหนึ่งนาทีแล้วผละออก
เกื้อการุณหลุบตาคนบนตักที่ก้มหน้าหงุด แล้วขำเบาๆ ออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ ทั้งขำ ทั้งเอ็นดูคนตรงหน้าที่ไร้ประสบการณ์อย่างสิ้นเชิง
"ใช้ไม่ได้ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าจูบ...เอาใหม่ อาให้โอกาสยาหยีอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้ยังไม่ทำให้อารู้สึกว่าถูกจูบ อาจะเป็นฝ่ายปฏิเสธยาหยีเอง"
ดวงตาคู่งามนั้นช้อนขึ้นมาทันที แล้วมองเขาด้วยความหวาดหวั่น เกิดมามนัสยายังไม่เคยจูบกับใครมาก่อน ประสบการณ์ในชีวิตจริงนั้นหาไม่ได้เลย ก็มีแต่นิยายโรมานซ์ที่ชอบอ่าน กับซีรีส์โรแมนติกเท่านั้นที่เสมือนครูทางการแสดงบทรักระหว่างชายหญิง
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ เริ่มต้นจูบผู้ชายที่ตัวเองรัก เธอเคยเห็นว่าต้องวาดแขนคล้องต้นคอ เอียงหน้าหาองศาแล้วจูบด้วยการซอนไซลิ้นเล็กๆ เข้าไปในโพรงปากอุ่นของเขา
ว่าแล้วมนัสยาก็เริ่มต้นทำตามซีรีส์ที่เคยเห็น สองแขนเสลางดงามคล้องลงกับบ่าแกร่ง เอียงหน้าเคลื่อนเข้าหาใบหน้าหล่อเหลานั้นอีกครั้ง แนบริมฝีปากอ่อนนุ่มเข้าหาเป้าหมาย พยายามจะใช้ปลายลิ้นเล็กซอนไซเข้าไป
ภาพในหัวของเธอนั่นใกล้เคียงบทเลิฟซีนที่เคยเห็นในซีรีส์มากที่สุดแล้ว แต่คนที่ถูกกระทำกับรู้สึกตรงกันข้าม นี่มันไม่ใช่การจูบสักนิด ความอ่อนหวาน ความเร่าร้อนไม่มี ที่สัมผัสได้ก็แค่การคุกคามของลิ้นเล็กๆ ที่พยายามดุนดันเข้ามาในโพรงปากเขาเท่านั้น
แต่ดีหน่อยที่กลิ่นปากหญิงสาวมีกลิ่นมินต์อ่อนๆ หอมๆ นอกเหนือจากนั้น ไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับคำว่าจูบเลย
เกื้อการุณ รู้แล้วว่าหญิงสาวบนตักช่างอ่อนด้อยประสบการณ์มาก คนที่ช่ำของอย่างเขาแม้จะขัดใจกับจูบระดับอนุบาลไม่ประสีประสา แต่ก็พยายามทำความเข้าใจ เมื่อเห็นถึงความพยายามของร่างนุ่มนิ่มบนตัก ต่อนี้ไปเขาจะเป็นฝ่ายสอนและทำให้เธอเห็นเอง
วงแขนแกร่งข้างหนึ่งยังรัดเข้ากับเอวบาง ในขณะที่ฝ่ามืออีกข้างขยับขึ้นมาประคองวงหน้าหวาน เขาผละใบหน้าออกห่างเธอเล็กน้อย เจ้าของร่างนุ่มนิ่มบนตักชะงักแล้วทอดมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
เธอสอบไม่ผ่านใช่มั้ย "อาเกื้อ..."
น้ำเสียงหวานของเธอสั่นพลิ้ว เขาถอยหนีเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าเธอไม่ผ่านบททดสอบ
"จูบอะไรแบบนี้ ใช่มั้ยได้" เกื้อการุณบอกขรึมๆ ร่างบางถดถอยออกจากตัวเขาไปทันที แต่วงแขนแกร่งข้างหนึ่งก็รัดตัวเธอแน่นขึ้น แล้วบอกตาม
"ของจริง เขาทำแบบนี้ต่างหาก"
ประกายแววตาสีสนิมมีแววอ่อนโยนลง ยามนี้ท้องฟ้าเบื้องหน้านั้นงดงามด้วยแสงสุดท้ายของวันกำลังอาบสองร่างที่สบตากันนิ่งในห้องพักหรูกลางเมือง
นิ้วแกร่งดันคางได้รูปเธอขึ้นเล็กน้อย ลมหายใจของร่างนุ่มนิ่มเริ่มกระชั้น เมื่อใบหน้าของคุณอาได้ขยับเข้าหาพร้อมกับแนบริมฝีปากอุ่นร้อนทาบทับริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอแทน...
.
ริมฝีปากล่างถูกเขากัดลงเล็กน้อย เป็นการบังคับกลายๆ เพื่อให้เธอเปิดปากออก แล้วแทรกลิ้นร้อนสากกวาดกระหวัดรัดเอาลิ้นเล็กนั้นไว้ทั้งดูดและดันคละเคล้ากัน
จากนั้นราวกับเธอจะถูกเขาสูบเอาทั้งลมหายใจและวิญญาณไปเลยทีเดียว
ให้ตายเถอะ! เธอกำลังจะขาดใจตาย...
"อาเกื้อ..." ช่วงหนึ่งที่เขาเคลื่อนริมฝีปากจูบลงตามคางไล้ลงตามลำคอ ก่อนจะวกขึ้นมาจูบชิดที่มุมริมฝีปากเธออีกรอบ
เธอถึงดันอกแกร่งขืนตัวออกจากเขา จ้องเขาด้วยอาการตกตะลึง
"ไง...แค่จูบก็ทนไม่ไหว แล้วยาหยีจะทำให้อาพอใจได้ยังไง"
"ไม่...ไม่ใช่สักหน่อย" เสียงหวานสั่นปนหอบปฏิเสธ
ลำตัวบอบบางหอบสะท้านทำให้ดวงตาคู่สีสนิมหลุบมองเรือนร่างอย่างสำรวจ เห็นทรวงงามกำลังขยับยกตามอัตราการหายใจ ช่างเป็นภาพที่กระตุ้นอารมณ์ดิบและห่ามของเขาขึ้น
แล้วเกื้อการุณก็พลิกคนบนตักลงกับอาร์มแชร์ตัวใหญ่ ที่บัดนี้ราวกับจะเล็กลงเพราะต้องรับกับสองร่างที่เบียดแนบชิด
หญิงสาวช้อนตาขึ้น ริมฝีปากนุ่มบวมเจ่อจากแรงดูดดื่ม
เรียวขางามโพล่พ้นจากชายกระโปรงร่นรื้อขึ้นจนเห็นผิวเนื้ออ่อนบนต้นขา ฝ่ามือแกร่งสอดไซ้เข้าใต้กระโปรงตามอีก
"อาเกื้อ..." เธอรีบตะครุบมือหนาที่สอดเข้ามา แล้วส่ายหน้าห้าม
สัมผัสบางอย่างจากตัวเขากำลังแผ่ความร้อนออกมาด้วย
เกื้อการุณยอมหยุดมือไว้เหนือต้นขานุ่มข้างหนึ่งก่อน
ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย อย่างน้อยเธอต้องได้รับคำยืนยันว่าเขาจะให้ในสิ่งที่เธอต้องการ "ว่ายังไงคะ ถ้า...ถ้ายาหยียอมเป็นของอา อาเกื้อจะให้ตามที่ยาหยีต้องการมั้ยล่ะคะ ยาหยีอยากได้คำยืนยันก่อน"
ดวงตาวาบวาวของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ดวงหน้าหล่อเหลายังคงราบเรียบ "งั้นถ้าอาจะบอกยาหยีว่า อามีกฏเหล็กอยู่สามข้อให้กับผู้หญิงของอา ยาหยีพร้อมที่จะทำตามด้วยมั้ย"
ดวงหน้างามขยับเอียงลงเล็กน้อยแทนการถามกลับ แล้วเขาก็เฉลยออกมาว่า
"กฏผู้หญิงของอาไม่มีอะไรมาก เพื่อจะแลกกับเงินยี่สิบล้านที่ยาหยีอยากได้คือ หนึ่งยาหยีต้องทำตามใจอาทุกอย่างที่อาอยากให้ทำ
สอง ยาหยีต้องให้อาทำทุกอย่างอย่างที่อาอยากทำ และ...
สาม ยาหยีจะปฎิตามกฎข้อหนึ่งและข้อสองอย่างไม่มีข้อยกเว้น"
"แล้วยาหยีจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ หมายถึงเงินยี่สิบล้านที่ยาหยีอยากได้ด้วย ใช่มั้ยคะ" เธอถามย้ำอีก
เขาพยักหน้าสำทับ "แถมห้องนี้ที่อาเพิ่งตัดสินใจซื้อเองอีกหนึ่งห้อง"
ห้อง...เขาหมายถึงห้องที่เธอและเขากำลังทำอะไรๆ กันนี่หรือ!
ดวงตาหวานกวาดมองห้องหรูหรา เธอรู้ว่าทุกอย่างที่เขากล่าวมามันเกินคุ้มเมื่อแลกกับสิ่งที่เธอมี และแค่ทำตามที่เขาต้องการ ปลายทางที่สามารถช่วยมารดาปลดเปลื้องความทุกข์อยู่ตรงหน้านี้แล้ว แถมเธอยังกำจัดนายดนัยไม่ให้มาแผ้วพานคนที่บ้านเธอรวมทั้งตัวเของธอที่ผู้ชายรุ่นราวคราวพ่อคนนั้นต้องการไปเป็นเมียน้อยอีกคน
เงินยี่สิบล้าน กับห้องหรูหรามูลค่าสิบห้าล้าน มันเกินกว่าที่เธอคิดเอาไว้จริงๆ
"ว่ายังไง" เสียงทุ้มปลุกสติ ดวงตาหวานกลับมาสานสบกับดวงตาคู่ที่กำลังทอประกายความหวามจนเอ่อล้น เสียงทุ้มนี้ดังอยู่ตรงหน้าแค่ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารด "แค่ยาหยียอมรับกับกฏเหล็กสามข้อนี้ของอา...ยาหยีจะได้ทุกอย่างที่อาว่า"
ฟังดูก็ไม่ยากใช่มั้ย แค่ตามใจ ตามใจ และตามใจเขาเท่านั้น!
เธอพยักหน้าแทนคำตอบรับทันที "ค่ะ ยาหยียอม"
แล้วก็สูดลมหายใจเข้าร่างแรงๆ อีกครั้ง ก่อนจะยอมคลายมือเพื่อให้ฝ่ามือร้อนจัดได้คืบคลานเข้ามาในเนื้อตัวต่อไป
แล้วหลับตาลงอีกเมื่อใบหน้าหล่อเหลาลดมาแนบจูบไซ้บริเวณคอก่อนจะขยับขึ้นมากัดเบาๆ ลงกับติ่งหูเธอเล่น
มันช่างซาบซ่านสะยิวจนเธอไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว ณ ตอนนี้
"อาเกื้อ..." เธอเรียกพร้อมกับลืมตาขึ้นมา เมื่อฝ่ามือข้างนั้นขยับมาป้วนเปี้ยนตรงใจกลางความอ่อนไหว เพียงปัดข้อมือมาโดนจุดที่อ่อนไหว ขนกายพลอยลุกเกรียวไปหมด
เกื้อการุณได้ยินเสียงหวานเรียกชื่อ เขารู้ว่าอารมณ์หญิงสาวเริ่มเตลิดกับความหวาดกลัวและซาบซ่าน ชายหนุ่มขยับขึ้นมาจ้องตาหวานที่เริ่มฉ่ำตามอารมณ์ ความชื้นบางอย่างที่ผุดซึมออกมาจากเนื้อผ้าบางเบาทำให้เขาชักอยากรู้ขึ้นมาแล้วว่า หญิงสาวที่ภายนอกดูอ่อนหวานไปทั้งตัวจะเคยแตะต้องส่วนนี้เองบ้างหรือไม่
"ยาหยีเคยแตะต้องตัวเองแบบนี้ บ้างมั้ย" แล้วแกล้งตวัดปลายนิ้วกรีดลงตามร่องหนึ่งที
ร่างบางใต้ร่างเขาผวาเฮือก เธอจ้องตอบ ก่อนจะผินหน้าหนีด้วยความสะท้านอาย
เคย... ทำไมจะไม่เคย แล้วทุกครั้งที่แตะต้องส่วนนี ก็เป็นใบหน้าดุดันของเขานั่นเองที่ผุดพรายขึ้นมา... ได้ยินเสียงภายในใจเธอตอบออกไป ทว่า ในความเป็นจริงตรงหน้า เธอไม่กล้าบอกเขาออกไปตรงๆ เลย
"อ๊ะ!"
ราวกับจะแกล้งที่เห็นเธอเมินหน้าหนี เขาแตะปลายนิ้วลงปุ่มนุ่มอีก ก่อนจะจูบแรงๆ ลงที่แก้มนุ่มข้างนั้นตาม
"ไม่เคยเลยเหรอ หึ"
เธอพลิกหน้ากลับ เม้มริมฝึปาก จ้องกลับดวงตาที่แพรวพราวขึ้นนั้น "ไม่ค่ะ อ๊ะๆๆ!"
เขาสะกิดย้ำๆ แล้วหยุด ก่อนจะจูบและกัดเบาๆ ที่ผิวอ่อนบริเวณคอ เงยหน้าว่าอีก "โกหก แล้วทำไมตรงนี้ของยาหยี มันแฉะเร็ว"
ช่างเถอะ เธอจะเถียงหรือจะตอบอะไรเกื้อการุณไม่ได้สนใจอีกแล้ว มือหนารีบแยกขาเรียวออกจากกัน พร้อมกับที่เขาไถลลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้น ขณะที่เจ้าของลำตัวอ่อนเหลวถึงกับรีบชะโงกขึ้นมามองเขาด้วยความตกใจ เดาไม่ออกว่าต่อไปเขาจะทำอะไรกับเธออีก
"อาเกื้อ...จะ จะทำอะไรคะ!"
เธอมองเขาอย่างหวาดหวั่นอีกครั้ง แต่เขากลับทำแค่ยิ้มตรงมุมปาก แล้วตอบเรียบๆ ด้วยแววตาที่ซุกซนว่า "อาอยากสำรวจตรงนี้ของยาหยี"
เขาหมายถึง ตรงบริเวณที่ฝ่ามือหนาวางแหมะลงไป "แต่ไม่ใช่มือนะ เป็นอย่างอื่นของอามากกว่า"
.