ตอนที่ 4ห้องเธอ…พี่เคยขี่ผ่าน แต่ไม่เคยคิดจะขึ้นไป

976 คำ
เสียงเครื่องวินจอดลงหน้าหอพักท้ายซอย พี่บอยดับเครื่อง แล้วมองตึกแถวสามชั้นที่อยู่ไม่ไกลจากปากทาง นิรินพักอยู่ที่นี่ ชั้นสอง ห้อง 2B เขาเคยขี่ผ่านนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุให้ขึ้นมาเอง คืนนี้…เขาไม่ได้แค่ขึ้นมา แต่กลับ “เลือกจะอยู่” ต่อด้วยใจตัวเอง เขาพาเธอขึ้นบันไดทีละขั้น ช้าและมั่นคง ในตอนที่เปิดประตูห้องเข้ามา กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ผสมกลิ่นแชมพูในห้องของผู้หญิงคนหนึ่งตีขึ้นมาทันที ไม่มีรูปผู้ชาย ไม่มีของตกแต่งมากนัก มีแค่เตียงเดี่ยวสีขาว โต๊ะเครื่องแป้ง กับกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนว่า “วันนี้แขก 2 ทุ่ม” เขาหยิบโน้ตใบนั้นขึ้นมา มองเงียบ ๆ ก่อนจะฉีกมันทิ้งแล้วโยนลงถังขยะ นิรินนอนบนเตียง กึ่งหลับกึ่งตื่น พี่บอยถอดเสื้อวินพาดเก้าอี้ แล้วขึ้นมานอนข้างเธอ กอดจากด้านหลังอย่างแนบแน่น ไม่ได้ขอสิทธิ์ แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธ คืนนี้เขาไม่ได้กลับห้อง แต่กลับ มีกุญแจหัวใจของใครบางคน ติดตัวไปด้วยแทน เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังแผ่วในห้องเช่าชั้นสอง นิรินงัวเงียเอื้อมมือไปกดมันโดยไม่ลืมตา เธอกำลังจะพลิกตัวไปอีกข้าง... แต่แล้วฝ่ามืออุ่น ๆ ที่วางอยู่บนเอวก็ทำให้เธอชะงัก พี่บอย...ยังอยู่ตรงนี้ เขายังนอนตะแคงด้านหลัง กอดเธอไว้อย่างที่เธอหลับไปเมื่อคืน ไม่มีเสียง ไม่มีการเคลื่อนไหว มีแค่แรงกอดเบา ๆ ที่แนบแน่นไม่ปล่อย นิรินค่อย ๆ พลิกตัวกลับไปมองเขา พี่บอยลืมตาช้า ๆ ดวงตาคมที่ยังคงสะลึมสะลือสบตาเธอเงียบ ๆ “เช้าแล้ว...หนูต้องไปเรียนค่ะ” เสียงเธอเบา เหมือนกระซิบ เขาพยักหน้า ไม่พูดอะไร แต่ลุกขึ้นอย่างไม่อิดออด หยิบเสื้อวินที่พาดไว้บนเก้าอี้ขึ้นมาสวม นิรินอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เสื้อเชิ้ตนักศึกษากับกระโปรงบานพริ้ว ผมเปียข้างเดียวแบบรีบ ๆ กับกลิ่นแป้งเด็กที่คุ้นเคย พี่บอยยืนพิงรถวินรออยู่ข้างล่าง เขาไม่ได้บีบแตร ไม่ได้โทรหา แค่ยืนรอ...เงียบ ๆ เธอก้าวลงบันไดมา พร้อมกระเป๋าเป้ใบเก่า เขายื่นหมวกกันน็อกให้เธอ ก่อนจะขยับตัวไปนั่งขี่เตรียมออก “ไปส่งมั้ย?” เขาถามเรียบ ๆ ขณะรับกระเป๋าเธอไปคล้องไว้ให้ “จะให้ไปยังไงคะ ถ้าไม่ใช่พี่บอย” เธอยิ้มมุมปาก รถวินเคลื่อนไปในเช้าอุ่นแดด อ้อมแขนของนิรินกอดรอบเอวเขาอย่างไม่รู้ตัว กลิ่นแชมพูของเธอลอยปะปนกับกลิ่นฝนที่ยังชื้นในอากาศ เมื่อถึงหน้าคณะ เขาแค่หันกลับไปสบตา ไม่พูด ไม่ยิ้ม ไม่แม้แต่ขยับปาก แต่ก่อนที่เธอจะลงจากรถ พี่บอยเอื้อมมือมาดึงปกเสื้อเธอเบา ๆ แล้วจัดให้เรียบร้อย ก่อนจะกระซิบเบา ๆ “คืนนี้อย่าเขียนโน้ตไว้นะ...พี่จะมาเอง” หลังจากพี่บอยไปส่งเธอที่หน้าคณะ นิรินก็เดินเข้าเรียนเหมือนนักศึกษาทั่วไป เสื้อเชิ้ตขาว กระโปรงบาน ผูกโบผมสีเทาอ่อน เพื่อนบางคนโบกมือทัก บางคนก็เมินใส่ เพราะลือกันว่าเธอ “เป็นผู้หญิงหาเงิน” แต่นิรินไม่พูดอะไร เธอเรียน...เงียบ จดเลกเชอร์...เงียบ แต่อะไรบางอย่างในใจมันไม่เงียบเลย เธอเปิดมือถือระหว่างพักคาบ ข้อความแชทจาก ลูกค้าประจำ ขึ้นมาเต็มหน้าจอ “คืนนี้ว่างมั้ยคะน้อง?” “เห็นเงียบ ๆ ไปนะช่วงนี้?” “ทุ่มครึ่งที่เดิม รบกวนแต่งชุดนักศึกษาได้มั้ย ” นิรินกดดู...แต่ไม่ตอบ แม้ชื่อคนนั้นจะเป็นแขกที่จ่ายดี และไม่เคยมีปัญหา เธอเลื่อนขึ้นไปดูอีกหน้าจอ แชทไลน์ชื่อสั้น ๆ ว่า “พี่บอย” ไม่มีข้อความจากเขา ไม่มีอะไรเลย แต่แทนที่ใจจะโล่ง กลับแน่นกว่าแชทของแขกอีก ตอนพักกลางวัน นิรินนั่งกินข้าวกล่องหน้าคณะคนเดียว ข้าง ๆ มีเพื่อนนั่งเล่นติ๊กต๊อกส่งเสียงหัวเราะคิกคัก เธอเคยเป็นแบบนั้นเมื่อปีก่อน ตอนที่ยังไม่ต้องกดตอบแชทตอนบ่าย ตอนที่ยังไม่ต้องแต่งตัวตั้งแต่เย็น ตอนที่ยังไม่ต้อง กลัวว่าใครจะรู้ว่าเราไม่ใช่แค่ “เด็กเรียน” มือถือสั่นอีกครั้ง คราวนี้ชื่อ “แขกใหม่” เด้งขึ้นมา “เห็นเพื่อนแนะนำว่าสวย หวาน งานดีนะครับ” “มีรูปไหม?” “ทุ่มนึงพอไหวมั้ยครับ ขอค้างได้มั้ย” นิรินปิดหน้าจอทันที เธอก้มหน้าลงแตะข้าวในกล่องอย่างช้า ๆ จู่ ๆ น้ำตาก็ซึมขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล ทั้งที่วันนี้แดดออกดี ทั้งที่นั่งกลางเพื่อนหลายคน...แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่คนเดียว เธอหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง ลังเลอยู่นาน ก่อนจะกดเข้าแชทที่ไม่มีข้อความตอบกลับเลย “พี่บอย…” เธอพิมพ์ไว้แค่นั้น แต่นิ้วกลับไม่กดส่ง และในตอนนั้นเอง มือถือก็สั่นเบา ๆ ไม่ใช่แจ้งเตือนจากลูกค้า แต่เป็นจาก “พี่บอย” “เรียนเหนื่อยไหม กินข้าวยัง” ข้อความเรียบ ๆ ไม่เกินสิบคำ แต่ทำให้นิรินกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอยิ้มทั้งที่ปากยังคาบช้อน ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป “หนูกำลังกินข้าวค่ะ” “แต่ถ้าไม่มีพี่...หนูคงกินไม่ลง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม