เมื่อตกลงดีลกับรินลดาได้แล้ว ภูวดลก็ให้ เธอเซ็นสัญญา รินลดาอ่านสัญญาอย่างละเอียดว่าเธอจะต้องทำงานที่ปางไม้แห่งนี้เป็นเวลา3 ปี ห้ามแต่งงาน ห้ามมีผู้ชายคนใหม่ เธอต้องอยู่ที่ปางไม้แห่งนี้ ในฐานะเมียแต่งของเขาจนกว่าจะครบสามปี
"ทำไมลดาต้องอยู่ในฐานะเมียคุณด้วยคะไหนว่าแค่ให้ลดาทำงานที่นี่"
"ก็ลองไปถามพ่อเธอดูสิ ถ้าเธอแยกทางกับฉันก่อนสามปี ทางพ่อเธอต้องคืนเงินให้พ่อฉันเท่าไหร่ ในการร่วมลงทุนในครั้งนี้"
จริงๆเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับรินลดาหรอก สัญญาที่พวกเขาทำกันไว้นั้น มันเกี่ยวกับภูวดลและพิมประพา ที่ทั้งสองตระกูล ตั้งใจจะให้คนทั้งคู่แต่งงานกัน เป็นทองแผ่นเดียวกัน เพื่อธุรกิจ ของทั้งสองตระกูล และภวดลกับพมประพาต้อวได้จดทะเบียนสมรสเป็นผัวเมียตามกฏหมายกันจริงๆ
ภูวดลนึกชอบใจไม่น้อยที่เจ้าสาวตัวจริงของเขาหนีไป แล้วได้ยัยเด็กซื่อบื้อนี่มาแทน ไม่งั้นเขาจะต้องมีพันธะกับพิมประพา ไปจนไม่มีวันเป็นอิสระ
แต่ถึงยังไงเขาก็ยังยกเอาสัญญาแต่งงานในครั้งนี้ขึ้นมา
เพื่อขมขู่รินลดาจะใช้เธอเป็นไม้กันหมาพ่อแม่ของเขาจะได้ไม่ต้องบังคับเขาให้แต่งงานกับใครอีก
อย่างน้อยๆสามปีนี้ เขาก็ได้ใช้ชีวิตชายโสด อยู่ในเมืองกับบรรดาสาวๆของเขา โดยที่ไม่ต้องมีห่วงมาคล้องคอ แถมพ่อแม่ของเขาก็ไม่ต้องมาคอยรบเร้าเรื่องแต่งงานกับเขาอีก
"ว่าไงจะเซ็นไม่เซ็น ถ้าไม่เซ็นก็กลับไปหาพ่อเธอหาเงินมาคืนพ่อฉั้น"
ภูวดลเริ่มข่มขู่หญิงสาว
รินลดาคิดหนัก ถ้ากลับเข้าไปบ้านพงศธร โดยที่พวกเขาต้องเสียผลประโยชน์น่ะเหลอ แม่เลี้ยงรำไพ จะได้ฉีกเนื้อเธอขาดเป็นชิ้นๆแน่นอน
แค่คิดเธอก็สยองทุกวันนี้เขาให้กินข้าวด้วย เลี้ยงเธอเหมือนทาสมันก็หนักเอาการแล้ว ถ้าต้องมาเสียผลประโยชน์เป็นสิบๆล้านเพราะเธอ คุณรำไพ คงได้ฆ่าเธอตายแน่
รินลดาจำใจหยิบปากกาขึ้นมาเซ็น แล้วยื่นให้เขา
เธอคงต้องอดทนอยู่ที่นี่ไปก่อน อย่างน้อยๆก็มีงานทำมีที่พัก หญิงสาวคิด
ภูวดลเห็นว่าเธอเซ็นสัญให้ตามที่เขาต้องการแล้ว เขาก็รีบดึงกระดาษจากมือเธอมาเก็บไว้
"ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้คุณพงค์ หัวหน้าแผนกบันชี พาเธอไปสอนงาน "
พอหญิงสาวเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป
พ่อเลี้ยงภูวดล กระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
พร้อมยกนาฟิกาข้อมือสุดหรูขึ้นมาดูเวลา เขาต้องจะรีบออกจากปางไม้แห่งนี้ ให้เร็วที่สุด ก็เพราะว่าวันนี้นัดกับน้องเชอรี่ ดาวมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึง ที่เป็นคู่ขาคนล่าสุดของเขาเอาไว้น่ะซิ..
วันนี้เขาจะได้ปลดปล่อย ฉลองความสำเร็จเสียหน่อย
ภูวดลหายไปจากปางไม้แห่งนี้ไปเลย ตั้งแต่วันที่เขาตกลงเซ็นสัญญากับรินลดาเรียบร้อยแล้วนั้น ชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดที่จะมาสนใจ มาดูทำดูดีอะไรเธอเลย
ส่วนรินลดานั้นเธอทำงานที่ปางไม้แห่งนี้ได้เกือบจะสองเดือนแล้ว เงินเดือนที่เธอได้รับก็นับว่าไม่เลว ได้เดือนละสองหมื่นห้า
นับว่าเป็นรายได้ที่ดีทีเดียวสำหรับเด็กจบใหม่อย่างเธอ
เธอยังไม่ได้โทรศัพท์ไปหาคุณประพจน์ คุณพ่อของเธอเลย เธอกลัวว่าท่านจะเอ่ยถามเรื่องความเป็นอยู่เรื่องแต่งงานของเธอกับภูวดล เธอยังไม่รู้จะบอกเรื่องนี้กับพ่อเธอว่ายังไง เลยขออยู่แบบเงียบๆไปก่อน
แรกๆคนงานที่นี่ต่างเรียกเธอว่าคุณผู้หญิง เธอรู้สึกกระดากอาย เลยพยายามบอกกับพวกเขาให้เรียกเธอว่าลดาดีกว่า พวกเขาเลยเรียกเธอว่าคุณลดา
แม้พนักหลายคนจะมองว่าเธอน่าสงสาร ที่แต่งงานกับพ่อเลี้ยงภูวดลแล้วแต่โดนสามี เอามาทิ้งไว้ที่ปางไม้แห่งนี้
แต่สำหรับรินลดาแล้ว มันไม่ได้มีปัญหาอะไรเยอะแยะ ห้องที่เธออยู่เก็บกวาดทำความสะอาด ก็อยู่อย่างสบายดี มันเป็นบังกะโลหลังเล็กๆ ห้องใคร ห้องมัน ที่เขาสร้างเอาไว้ให้คนงานอยู่
เธอเริ่มที่จะคุ้นชินกับการอยู่ที่นี่บ้างแล้ว ข้างหลังปางไม้มีน้ำตกด้วย เธอมักจะไปเดินเล่นแถวนั้นอยู่เสมอ แต่ไม่ค่อยกล้าไปไกลนักเพราะคนงานส่วนมากเป็นผู้ชาย เธอก็นึกกลัวอยู่เหมือนกัน
ส่วนมากหลังเลิกงาน เธอมักจะวีดีโอคอล คุยกับเพื่อนๆของเธอที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน
เพื่อนของเธอทุกคนไม่มีใครรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว เธอบอกพวกเขาแค่ว่า เธอหางานได้แล้วเป็นพนักงานบัญชีอยู่ที่ปางไม้แห่งนีเ เอาไว้ ถ้าเธอมีโอกาสได้ลงไปในเมือง เธอจะแวะไปหาเพื่อนๆเหมือนเดิม
นอกจากคุยกับเพื่อนๆของเธอแล้ว เธอก็เล่นโซเชี่ยวบ้าง ดูซีรี่พระเอกเกาหลีที่เธอชื่นชอบบ้าง จนวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งเธอก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองมีอีกฐานะหนึ่งอยู่ที่นี่ด้วย
ส่วนภูวดลนั้น หลังจากที่ลงจากปางไม้มาแล้วเขาก็กลับมาใช้ชีวิตโสดอยู่ในเมือง ที่คอนโดของตัวเองอย่างสุขสำราน เขาไม่ได้เข้าไปในอยู่บ้านใหญ่ของพ่อแม่เขา
ชายหนุ่มมีคอนโดสุดหรูที่อยู่ในตัวเมืองเป็นของตัวเอง ที่จะเอาสาวๆเปลี่ยนหน้ามานอนกก ไม่เคยขาด
ส่วนที่ปางไม้นั้น เขามีผู้จัดการดูแลอยู่แล้ว และคอยส่งบัญชีให้เขาทุกเดือน เพราะชายหนุ่มมีธุรกิจอื่นๆที่ต้องดูแลอีกเยอะแยะ เขาจึงไม่ค่อยจะขึ้นไปที่ปางไม้นั้น บ่อยนัก
?????????
ใช้ชีวตโสดให้พอเถอะค่ะพี่ ก่อนที่จะได้หอนยาวๆ