๒ ความรู้สึกผิดบาป2

1111 คำ
ภายในครัว นางเรียมและแสงกำลังช่วยกันตักขนมหวานเพื่อออกไปเสิร์ฟให้กับเพื่อนๆ ของภพธร ทว่าร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามาทำให้คนทั้งสองเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส “อ้าวคุณหนึ่ง ต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าคะ” นางเรียมเอ่ยถาม สีหน้าแจ่มใสไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เขามองหน้านางอย่างไม่เต็มตานัก เพราะรู้ดีว่าทำอะไรเอาไว้กับหลานสาวของนาง แต่ดูเหมือนนางจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาหรี่ตาแล้วหลุบลงอย่างครุ่นคิด ก่อนจะมองไปรอบห้อง “กอหญ้าล่ะครับ” นางเรียมและแสงมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ เพราะปกติแล้วชายหนุ่มจะไม่เคยถามหาเด็กสาวอย่างเฉพาะเจาะจงแบบนี้ “เจ้าหญ้ามันไปโรงเรียนแล้วค่ะคุณ วันนี้วันพฤหัสฯ” นางเรียมย้ำให้เขาเข้าใจ เพราะอีกฝ่ายคงลืมไปว่ากอหญ้านั้นยังต้องไปเรียน “อ้อ” เขาพยักหน้าเบาๆ แล้วมองนางเรียมด้วยสายตาที่นางไม่เข้าใจนัก เพราะมันเต็มไปด้วยความละอายใจอย่างไม่น่าจะเป็น “คุณหนึ่งมีอะไรให้เจ้าหญ้ามันทำหรือเปล่าคะ บอกกับน้าเอาไว้ก็ได้นะคะ พอมันกลับมาจากโรงเรียนน้าจะบอกมันให้ค่ะ” “ไม่มีอะไรครับ แต่ถ้าหญ้ากลับมาช่วยให้ไปพบผมที่ห้องทำงานด้วยนะครับ” จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องครัว ทำให้นางเรียมและแสงสบตากันอย่างแปลกใจอีกครั้ง “สงสัยคงจะวานให้ไอ้หญ้ามันช่วยงานกระมัง” นางเรียมย่นคิ้วเข้าหากัน ร้อยวันพันปีไม่เคยเรียกหา “ฮัดชิ้ว!” นางเรียมจามออกมา “อ้าว กินยาหรือยัง” แสงเอ่ยถาม ขณะยกถาดขนมหวานขึ้น “กินแล้ว เจ้าหญ้ามันหาให้ก่อนไปโรงเรียน ไม่รู้ติดหวัดข้าหรือเปล่า เช้านี้ดูหน้ามันซีดๆ บอกให้หยุดเรียนสักวันก็ไม่ยอมท่าเดียว” นางเรียมบ่นอุบ ส่วนแสงยิ้มจางๆ นึกเอ็นดูสาวน้อย “ไอ้หญ้ามันขยัน มันเคยบอกกับฉันว่าโตขึ้นมันจะทำงานเก็บเงินแล้วซื้อบ้านสักหลัง ให้แม่ใหญ่เลิกทำงานไปอยู่กับมันที่บ้านหลังใหม่ มันจะเลี้ยงแม่ใหญ่เอง เด็กมันรักดีน่ะเนอะ ฉันเห็นมันแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้จริงๆ” แสงพูดพลางยกถาดออกจากห้องครัว ทิ้งให้นางเรียมยิ้มด้วยความภาคภูมิใจอยู่บนเก้าอี้นั่นเอง บริเวณระเบียงกว้าง มีหลังคาให้ร่มเงา เพื่อนๆ ของภพธรกำลังนั่งรับประทานอาหารพร้อมพูดคุยอย่างอารมณ์ดี แต่ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ของเพื่อนรักผู้เป็นเจ้าของบ้านก้าวเข้ามา เสียงพูดคุยอย่างเซ็งแซ่ก็พลันหยุดชะงัก ทั้งหมดมองมายังเขาเป็นสายตาเดียวกัน ภพธรรับรู้ถึงความผิดปกตินั้นทันทีก่อนจะกวาดตามองหาใครบางคนแล้วหยุดลงที่ชัช ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วสูงพร้อมพยักหน้าเรียก ชายหนุ่มเดินตรงไปหาเพื่อนพลางเอ่ยถามทันที “ใครเห็นธิสาบ้าง” สิ้นเสียงถามทุกคนเงียบกริบ ก่อนจะมีเสียงของเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่เป็นแฟนของเพื่อนในกลุ่มเดียวกันตอบขึ้นมา “กลับไปแล้ว พอแต่งตัวเสร็จนางก็รีบแจ้นกลับไปเลย ทำเหมือนกับหนีอะไรอย่างนั้น” คนพูดพูดยิ้มๆ อย่างรู้ทัน ก่อนจะหันไปมองชัช อีกฝ่ายทำหน้าเซ็งนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยถามคนหน้าบึ้งตรงหน้า “มึงเป็นไงมั่ง” ถามอย่างรู้กัน เมื่อคืนนี้มีคนรู้เพียงไม่กี่คน แต่เช้านี้คงรู้กันหมดแล้วว่าธิสาพยายามทำอะไรกับภพธรเอาไว้ และเจ้าหล่อนคงจะอยู่สู้หน้าคนอื่นไม่ได้ จึงหนีกลับไปก่อนที่เขาจะชำระความ “บ้าเอ๊ย” ภพธรทิ้งตัวลงนั่งด้วยความหงุดหงิด ในใจคิดสั่งสอนผู้หญิงที่บังอาจทำเรื่องสกปรก ทำให้เขาไปก่อเรื่องเอากับเด็กสาวบริสุทธิ์คนนั้น ป่านนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง พอคิดถึง ภพธรใจไหววูบลงอย่างละอายแก่ใจ “เช้านี้มึงโอเคนะ” ชัชเอ่ยถามเสียงเบาๆ ขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ก็ยังเงี่ยหูฟังเจ้าของบ้านพูด “อือ” เขาตอบแค่นั้น ไม่อยากพูดอะไรให้ใครได้ยิน เพราะคนที่เสียหายที่สุดไม่ใช่เขา แต่เป็นกอหญ้า เด็กสาวน่าสงสารคนนั้น “แล้วมึงล่ะ เป็นไง” ภพธรสบตาชัช ฝ่ายนั้นยกยิ้มอย่างสบายอุรา พลางคิดถึงคนที่หนีกลับไปก่อนแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน ไม่ได้มีความเสียใจในแววตาของเขาแม้สักนิดเดียว “หนักเลยว่ะ ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน” ชัชเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเบา แต่แววตาพราวระยับ ดูก็รู้ว่าสบายตัวสบายใจไม่น้อย แต่ภพธรกลับรู้สึกตรงกันข้ามเลยทีเดียว “อย่าให้เจอ กูจะเอาเรื่องให้หนัก นิสัย!” ชายหนุ่มคำรามเบาๆ ในลำคอ ทำให้ชัชหัวเราะออกมาพลางบอก “กูว่าคงไม่กล้ามาเจอหน้ามึงอีกนาน แต่มึงไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนี่ ถือว่าทำประโยชน์ให้เพื่อนก็แล้วกัน” พูดจบชัชก็หัวเราะขึ้นมาอีก แต่กลับทำให้ภพธรนัยน์ตาขุ่นขวางหนักหน่วง เสียงหัวเราะของชัชจึงค่อยๆ เบาลงและเริ่มมองคนตรงหน้าอย่างสังเกตมากยิ่งขึ้น “มึงมีอะไรจะบอกกูหรือเปล่าวะ เกิดอะไรขึ้น” เพราะแทนที่ภพธรจะเบาใจลงที่มีเขาไปรองรับอารมณ์ผู้หญิงบ้ากามคนนั้นแทนที่ อีกฝ่ายกลับดูยิ่งโกรธเจ้าหล่อนอย่างมหาศาลจนเป็นที่สังเกต ภพธรเม้มปากแน่น ข้าวปลาไม่แตะสักเม็ด เพราะโกรธจนกินอะไรไม่ลงเสียแล้ว “เปล่า ไม่มี” น้ำเสียงแหบต่ำ ยิ่งทำให้ชัชไม่เชื่อในคำพูด แต่เวลานี้ตรงนี้คนเยอะเกินไป เขาจึงยังไม่ซักไซ้ไล่เลียง เพราะเกรงว่าอาจมีบางคนนำเอาเรื่องที่เขาคุยกันไปโพนทะนาจนบานปลายไปกันใหญ่ “เอาไว้คุยเรื่องนี้กันใหม่ ตอนนี้กูว่ามึงกินข้าวก่อน นั่นขนมมาพอดี ต้องต่อด้วยของหวานสักหน่อย กินคาวแล้วต้องกินหวานโว้ย ไม่งั้นจะสันดานไพร่ ฮ่าๆ” พูดจบชัชก็ลุกจากเก้าอี้ตรงไปยังโต๊ะกลาง แล้วตักบัวลอยไข่เต่าใส่ถ้วย ภพธรมีรอยยิ้มวาบเข้ามาในแววตาของเขาแวบหนึ่งก่อนจางลงเมื่อคิดถึงเงาบางๆ ของเด็กสาวขึ้นมาอีกครั้ง เป็นความรู้สึกผิดบาปที่เกาะกินใจของเขาไม่คลาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม