๑ ฤทธิ์สุรา2

1382 คำ
ภพธรตวัดท่อนแขนรัดร่างบอบบางอวบอิ่มโดยอัตโนมัติ ทำให้คนตัวบางเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายทั้งตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ สาวน้อยใจเต้นรัวด้วยความตกใจยิ่ง ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์บ้าบอแบบนี้ขึ้นระหว่างตนและนายจ้าง “โอ๊ะ อะไรวะ” คนเมาบ่นพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์ เด็กสาวจึงดันร่างเขาออกห่างแต่ยังยึดท่อนแขนแกร่งของเขาเอาไว้ ก่อนจะกัดฟันบอกอีกฝ่ายพร้อมกับอาการวูบวาบตลอดตัว “เดินตรงๆ ค่ะ ทางโน้นไม่ใช่ทางนี้ โน่นค่ะโน่น ห้องไปทางโน้น” เด็กสาวเหนื่อยใจนัก เขาจะเดินออกไปหลังบ้านท่าเดียว นี่แสดงว่าเมาจริง ซ้ำยังตัวสั่นอีกด้วย สาวน้อยมุ่นคิ้วอย่างนึกแปลกใจ “เฮ้อ กินไปเท่าไรเนี่ย แบบนี้เขาเรียกว่ากินไม่คิดชีวิตนะคุณหนึ่ง” เด็กสาวบ่นอุบ อีกฝ่ายก็เซอีกรอบ “เดินดีๆ สิคะ นี่ถ้าคุณหนึ่งล้มทับหญ้านะ หญ้าจะกัดให้จมเขี้ยวเลย” เด็กสาวขู่ฟ่อ นึกโมโห บอกตัวเองว่ารู้งี้ปล่อยให้เขานอนหลับในครัวก็ดีแล้ว ไม่น่าพาเขากลับไปส่งเลย “คุณหนึ่ง หนาวเหรอคะ” คนถูกถามได้แต่มึน รู้สึกหนาวเยือกสลับร้อนผ่าว “ตัวก็ไม่ร้อนนี่หน่า” สาวน้อยเปรย ก่อนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเมื่อเขาไม่ตอบ ซ้ำยังดูไม่ปกติอย่างแรง “คนอะไรตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม หนักชะมัด” บ่นอย่างนึกโมโห เพราะทุลักทุเลมากจริงๆ คนตัวใหญ่โต เดินเซไปเซมา ทำท่าจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ทำให้คนตัวเล็กเช่นหล่อนเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเห็นจะได้ “คืนนี้จะเดินทางถึงห้องไหมเนี่ยคุณหนึ่ง” กอหญ้าเอ่ยถาม แต่ดูเหมือนคนเมาจะยังงุนงง แล้วจู่ๆ เขาก็ร้องเพลงออกมาเสียอย่างนั้น ทำให้กอหญ้าที่ไม่เคยได้ยินเขาร้องเพลงมาก่อนถึงกับเลิกคิ้ว แล้วเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาประหลาดใจยิ่ง “ถึงกับร้องเพลงเลยเหรอคะ” สาวน้อยเอ่ยถามลอยๆ ดวงหน้าอ่อนเยาว์ยิ้มกริ่ม ปกติภพธรไม่ชอบร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นงานปีเก่าปีใหม่ งานสังสรรค์ งานเลี้ยงอะไรก็แล้วแต่ ต่อให้มีคนพยายามคะยั้นคะยอก็ไม่มีทางได้ฟังเสียงของเขา แต่วันนี้ ช่างเป็นบุญหูของหล่อนเสียนี่กระไร ทว่าเพลงเพี้ยนๆ ที่ดังออกมา กลับทำให้สาวน้อยหัวเราะขันไปตลอดทาง ความเหนื่อยที่ต้องพยุงคนตัวใหญ่ดูท่าจะลดลงครานี้ “เสียดายไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาด้วย ไม่งั้นหญ้าจะถ่ายคลิปเอาไว้แบล็กเมล์คุณหนึ่ง เรียกตังค์กินหนมสักร้อยสองร้อยเลยเชียว” เสียงใสหัวเราะคิกคักด้วยความขบขัน ในที่สุด สาวน้อยก็พาคนตัวโตที่ทำตัวสั่นเป็นระยะขึ้นมาบนชั้นสองอย่างทุลักทุเล เดินไปอีกนิดก็ถึงห้องของชายหนุ่มจนได้ สาวน้อยทั้งหอบและล้า เพราะห้องที่เคยใกล้แค่เอื้อมนั้นแต่เมื่อต้องพยุงคนเมาขึ้นมา ที่ว่าใกล้ก็กลับกลายเป็นไกลโข... ทว่าเด็กสาวกลับละล้าละลัง เพราะไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าในห้องของภพธรมาก่อน จึงเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “คุณหนึ่งคะ ถึงห้องแล้ว คุณหนึ่งค่อยๆ เดินเข้าไปนะคะ” สาวน้อยปล่อยมือจากเขาอย่างระมัดระวัง แต่ยังไม่ทันจะผละห่าง มือแข็งๆ ของภพธรก็ตะปบลงบนต้นแขนกลมกลึงของสาวน้อยจนหล่อนสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ “คุณหนึ่ง!” สาวน้อยถูกกระชากตามเข้าไปภายในห้องอย่างรวดเร็ว อันที่จริงไม่เชิงกระชากนัก แต่เขาเสียหลักล้มลงตรงหน้าประตูนั่นเองทำให้เด็กสาวที่มีเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดไม่อาจยื้อร่างไว้ได้ ล้มลงไปทาบทับกับคนตัวโตที่แทบไร้สติอย่างไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!” สาวน้อยผลักไสเขาออกพลางหอบแฮก หน้าตาร้อนผ่าวและคงแดงจัด แต่เมื่อมองสภาพของอีกฝ่ายที่นอนแผ่หลาบนพื้นก็ไม่อาจทอดทิ้งเขาเอาไว้อย่างนั้นได้ จึงทั้งลาก ทั้งดึง กระทั่งถึงเตียงนอนได้ในที่สุด แต่ก็เล่นเอาสาวน้อยเหนื่อยแทบขาดใจ “ถึงแล้วค่ะคุณหนึ่ง ถึงเตียงแล้ว นั่งค่ะ ว้าย ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ บนนี้ต่างหาก” สาวน้อยโวยวายเพราะอีกฝ่ายทำท่าจะรูดตัวลงนอนไปกับพื้นห้องอีกครั้ง ทำให้สาวน้อยต้องรีบดันเขาให้ขยับก้าวไปที่เตียง พอชายหนุ่มล้มตัวลงไป มือเขาคว้าเอวคอดเล็กของกอหญ้าตามลงไปด้วย “คุณหนึ่ง!!” “อือ” เขาครางในลำคอเบาๆ ขณะที่เด็กสาวป้องปัดมือใหญ่ให้หลุดจากเอวของหล่อน ทว่าอ้อมแขนของเขากลับรัดแน่นขึ้นราวกับงูที่รัดเหยื่อของมัน ไม่เพียงแค่นั้น ปากกับจมูกยังซุกไซ้กลิ่นกายหอมกรุ่นสะเปะสะปะ ทำให้สาวน้อยไม่เคยต้องมือชายขนกายลุกเกรียว หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม เพราะไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับคนตรงหน้า ต้องเป็นเพราะความเมาของเขาแน่แล้ว “อื๊อ คุณหนึ่ง!!” สาวน้อยกรีดร้องออกมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังสนั่น กลบเสียงขอความช่วยเหลือจนหมดสิ้น เพราะเมื่อสิ้นเสียงฟ้าฟาด ริมฝีปากจิ้มลิ้มก็ถูกครอบครองเช่นเดียวกับร่างบอบบางที่ถูกกักขังเอาไว้ภายใต้แผ่นอกหนากำยำของคนตัวโตหนักอึ้ง สาวน้อยกลัวจนแทบสิ้นสติ ทั้งดิ้น ทั้งข่วน ได้ยินเสียงเขาคำรามออกมาจากลำคอคล้ายสัตว์ที่กำลังบาดเจ็บเต็มที พร้อมเสียงขาดแควกของชุดนอนที่เจ้าหล่อนสวมใส่ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง บ่งบอกว่ากำลังช็อกสุดขีด แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างพลันดับวูบ เช่นเดียวกับการขัดขืนที่หยุดลงทันที ทำให้คนที่พึมพำบางสิ่งบางอย่างในใจรู้สึกได้ถึงอาการศิโรราบ เขายิ้มนิดๆ ยิ้มในความมืดสลัวท่ามกลางอารมณ์ชนิดหนึ่งที่ค่อยๆ พลุ่งพล่าน เลือดในกายคล้ายว่ากำลังเดือดปุด... แรกเลยเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงใต้ร่างคือใคร ที่ข้างล่าง เขาเห็นเพียงเงารางๆ ของใครคนหนึ่ง มองใบหน้าไม่ชัดนัก การได้ยินเสียงก็ยิ่งแย่ ฝนตกหนัก ฟังอะไรไม่ชัดเจน แล้วในเวลานี้เขารู้เพียงว่าเนื้อตัวคนใต้ร่างช่างหอมกรุ่น บอบบาง นุ่มละมุนมืออย่างไม่น่าเชื่อ ทว่าในความไม่รู้ มีความคุ้นเคยบางอย่างแทรกผ่านเข้ามาในความมึนงง กลิ่นกายอ่อนจาง เส้นผมนุ่มสลวย และน้ำเสียงก่อนหน้านี้ช่างคุ้น คุ้นจริงๆ เขาพยายามใช้สติที่เหลืออยู่น้อยนิด ซึ่งเป็นอะไรที่น้อยนิดจริงๆ พลิกใบหน้าของหญิงสาวตัวนุ่มนิ่มหอมหวานเพื่อดูว่าคือใคร เป็นผู้หญิงคนไหนในกลุ่มเพื่อนที่พามาหรือเปล่า ไม่สิ ไม่เอา... แต่แล้ว ใบหน้าที่ปรากฏท่ามกลางแสงสลัวทำให้ภพธรชะงักงัน เขาส่ายหน้าเบาๆ ไล่ภาพตรงหน้า ต้องไม่ใช่เด็กในบ้าน เขาบอกตัวเองแบบนั้น แต่กลิ่นกายหอมกรุ่นและความละมุนละไมที่เสียดสีแนบชิด ปลุกสัญชาตญาณดิบให้โหมกระพือ ชายหนุ่มนิ่วหน้า พร้อมความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง อารมณ์กำหนัดของเขากำลังเพิ่มพูน ยิ่งได้กลิ่นกายจากสาวน้อยก็ยิ่งปวดหนึบ เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร อาจดื่มหนักมากไปนิดแต่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่จะว่าไปเหล้าที่เพื่อนนำติดมาแรงจนเขาแทบทรงตัวไม่อยู่ ไม่รู้กลับมาถึงห้องนี้ได้ยังไงด้วยซ้ำ รู้เพียงว่าเขากำลังต้องการใครสักคน คนที่จะช่วยให้เขาได้ปลดปล่อยอารมณ์ดำฤษณา เวลานี้เลือดในกายของเขาร้อนจัด ความซาบซ่านในอารมณ์นั้นไม่รู้หลั่งไหลมาจากไหนมากมายเช่นนั้น มากเสียจนรู้สึกถึงความผิดปกติ เกินที่เขาจะยับยั้งต้านทาน ดังนั้นต่อให้ต้องเป็นเด็กกอหญ้าจริงๆ เขาก็คงจะปล่อยไปไม่ได้เสียแล้ว...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม