BAD ENG' : 01

1421 คำ
[ 🌞 เคยไหม...? รู้สึกอยากเอาชนะใครบางคนจนแทบเป็นบ้า] ---------------------- BAD ENG' : 01 [-พาร์ทอดีต-] สองปีก่อน... ฮึ้มมมม…! ฮึ้ม!!! เฟอร์รารี่สีดำทมิฬเครื่องวีหกเทอร์โบส่งเสียงทรงพลัง ราวเสือร้ายคำรามร้องขู่เมื่อเจอคู่ต่อสู้สมน้ำสมเนื้อ อยู่กลางสนามแข่งอันเลื่องชื่อใจกลางเมืองเชียงใหม่ซึ่งสร้างมาแล้วหลากหลายตำนานจากรุ่นสู่รุ่น และออดี้เทาเข้มแต่งเต็มลูกสูบที่เพิ่งเคลื่อนเข้ามาจอดขนาบข้างก็โต้ตอบกลับไปแบบไม่มีใครยอมใคร “ไอ้กระจอก!” ตะวัน หนุ่มวิศวะปากร้ายพ่นคำดูแคลนผ่านกระจกที่เปิดไว้ไปยังคนในรถอีกคัน ตามด้วยส่งนิ้วกลางทักทาย พร้อมใช้ลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มแล้วกระตุกคิ้วเข้มด้วยท่าทางยียวนกวนบาทาเบื้องล่างขั้นสุด ทว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีท่าทีบันดาลโทสะหรืออยากยั่วยุอารมณ์เขาเฉกเช่นแต่ก่อน เหมือนเด็กอาชีวะต่างสถาบันผู้นั้นจะจมอยู่กับอาการมึนงงหนัก อาจเพราะแรกเริ่มเดิมทีคู่ดวลในแมตช์นี้ไม่ใช่ตะวันก็เป็นได้ ดังนั้นความมั่นใจเกินร้อยที่จะคว้าเงินเดิมพันในตอนแรกลดฮวบเกือบถึงขีดต่ำสุด ก่อนจะพากันเบนไปสนใจเรซคิงกิตติมศักดิ์ในค่ำคืนนี้ หู้วววว…หู้วว์ “เอาละ…เอาละ” เจ้าของน้ำเสียงทุ้มต่ำยกสองมือขึ้นเหนือศีรษะเพื่อหยุดกองเชียร์ เขาคือ พายุ เดือนเด่นของศิลปกรรมศาสตร์ “วินาทีสำคัญมาถึงแล้ว จับตาดูความเซอร์ไพรส์ในแมตช์นี้ให้ดีนะฮะ พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีก๊อกสองนะ ถือว่าเตือนแล้ว” คนขี้เล่นเดินไปรอบๆ เพื่ออวดท่าทางแสนทะเล้นตามสไตล์ แล้วจบลงด้านหน้าระหว่างรถสองคัน ปืนลูกโม่ที่เหน็บข้างถูกควักออกมาชูขึ้นฟ้าจนสุดแขนหลังได้รับสัญญาณบ่งบอกถึงเวลาสนุกเป็นการตบไฟขึ้นลงจากผู้ลงแข่ง “พร้อมนะ สาม สอง...” ปัง!! ฟิ้ววว์~ ฟิ้ววว~ เกิดแบคไฟร์พุ่งออกท่อไอเสียแทบจะพร้อมกัน ล้อเคลื่อนตัวด้วยความเร็วอัดเต็มที่ตั้งแต่เริ่มสตาร์ท กระชากดึงแผ่นหลังกว้างแนบชิดไปกับเบาะหนังหรูหราโดยอัตโนมัติ ดวงตาเฉี่ยวคมเป็นเอกลักษณ์หลุบมองเข็มบนหน้าปัดไมล์วูบหนึ่ง แล้วกดน้ำหนักปลายเท้าลงไปอีกชนิดที่ว่าหากมีหนูสักตัววิ่งตัดเข้ามาก็คงแบนแต๊ดแต๋ติดถนน “หึ! คิดจะสู้กับกูเหรอ ไปตายแล้วกลับมาเกิดใหม่อีกสามรอบก่อนเหอะ ไอ้สัส” จังหวะนั้นหัวเกียร์เหล็กทรงกลมถูกตบสลับเปลี่ยน ฝ่ามือหนึ่งปัดพวงมาลัยหมุนซ้ายอย่างคล่องแคล่ว ส่วนอีกข้างเอื้อมดึงเบรกมือขึ้นโดยไม่ลังเล จนเกิดเป็นท่วงท่าพาวเวอร์สไลดิ้งขณะเข้าโค้ง ซึ่งผู้เป็นเจ้าของคอนโทรลตัวรถไปตามเส้นทางได้สวยงามราวกับจับวางเสมือนนักแข่งระดับเซียนเลยทีเดียว สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในรอบหลายสิบปีที่คนเป็นพ่อเคยทำไว้ แต่ก็ไม่เพอร์เฟกต์เท่านี้... ขนาดพวกรุ่นเก๋าที่จับตามองอยู่ด้านบนยังแสดงสีหน้าเหลือเชื่อกันเป็นแถวๆ เสียงฮือฮาจากผู้ชมรอบด้านเป็นเครื่องการันตีว่านี่คือเซอร์ไพรส์ที่น่าตื่นเต้นมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหวต่างก็ถูกเซฟลงเครื่องมือสื่อสารนับร้อยและเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ในเวลาอันรวดเร็ว สำคัญกว่านั้นคือไม่บ่อยมากนักหรอกนะที่จะได้เห็นทายาทมาเฟียเลือดร้อนรุ่นที่สามวาดลวดลายเต็มสปริงขนาดนี้ ด้านคู่แข่งก็ใช่ย่อย บีม พาซูเปอร์คาร์คันหรูของรุ่นพี่ในกลุ่มตีขึ้นมาสูสีได้อย่างน่าทึ่ง สองหนุ่มเหลียวมองฟาดฟันกันดุเดือด สายตาเชือดเฉือนราวคมมีดสู้รบตบมือในจินตนาการเทียบเท่ากับศึกภายนอก ตะวันเดาะลิ้นไม่สบอารมณ์ ก่อนจะกดคันเร่งจมตีนในเสี้ยวนาทีสุดท้าย เฮ้!!! ยู้...ฮู้ววว์ เอี๊ยดดดดดด.... เอี๊ยดดด...! เสียงเบรกสะบัดดังกังวานไล่เลี่ยหลังพุ่งผ่านเส้นชัยมาหมาดๆ ซึ่งคลาดกันเพียงช่วงล้อหน้าเท่านั้นเอง ถือว่าสมศักดิ์ศรี! “มันต้องแบบนี้ดิวะ!” ผู้ชนะตบพวงมาลัยพึงพอใจ แล้วเปิดประตูก้าวขาลงมายืนข้างรถอย่างสง่าผ่าเผย ไม่วายปรายตาเย้ยหยันผู้พ่ายแพ้เล็กน้อย ขณะที่เสียงกรี๊ดกร๊าดยังเล็ดลอดเข้าโซนประสาทจนหูแทบดับ มือหนึ่งยกขึ้นรอรับแท็กทีมจากไอ้เด็กศิลป์ที่เดินนำเข้ามาเป็นคนแรก แปะ! “แม่ง! โคตรสุด” ไฟ หนุ่มแว่นแห่งนิติศาสตร์อดไม่ได้ที่ยกนิ้วหัวแม่มือยอมรับความทำถึงของเพื่อนซี้ ส่วน ม่านหมอก ไปหยุดทิ้งสะโพกพิงกระโปรงหน้าแล้วยกแขนวางพาดบนไหล่เจ้าของรถ และอีกคนรั้งท้ายตลอดทุกงานก็คือ สายลม แน่นอนว่าเขาไม่ได้ให้ความสนใจสิ่งมีชีวิตตนใดบนโลกแม้กระทั่งเพื่อนสนิททั้งสี่ แต่ปรี่ไปสำรวจยานพาหนะแทน “มันแน่นอนอยู่แล้ว” คนถูกชื่นชมยืดตัวพองขนไหวไหล่ขึ้นอย่างชิลเหมือนกับการแสดงเมื่อครู่มันง่ายเพียงดีดนิ้วป๊อกเดียว จากนั้นก็หันไปจูบบริเวณขอบประตูด้านบนแล้วลูบเบาๆ อย่างทะนุถนอมแฝงความภาคภูมิใจ ไม่เคยผิดหวังที่ทุ่มสุดตัวในการตั้งใจเรียนเพื่อใช้เกรดท็อปวันแลกมันมาเมื่อปีที่แล้ว... “มึงนี่มันเหี้ยมากนะ ไอ้ตะวัน!” น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากจากคนพาลเรียกให้ทุกสายตาหันไปจับจ้องโดยพร้อมเพรียง บีมกระแทกเท้าเข้ามาหยุดในระยะประชิด พร้อมยกมือขึ้นชี้หน้าตะวันด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “แล้วกูเคยพูดว่าเป็นคนดีเหรอ” สองมือถูกส่งเข้าไปเก็บในกระเป๋าเสื้อแจ็กเกตราคาแพง ขณะหย่อนก้นลงข้างๆ ม่านหมอก “มึงก็รวยอยู่แล้ว จะมาลงแข่งทำเหี้ยอะไรวะ” “เรื่องของกู” เดิมพันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเน้นความสะใจเป็นหลัก “ไอ้สัส!” “กูให้เวลามึงแค่อาทิตย์เดียว เงินเดิมพันในคืนนี้ต้องถึงมือกูครบทุกบาททุกสตางค์” ตะวันยื่นข้อเสนอที่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้ามันมีคงไม่มาลงแข่งเพื่อแลกกับเงินหลักหมื่นในครั้งนี้ “...” คนฟังสูดลมหายใจเข้าไปส่วนหนึ่งพลางกำมือที่ทิ้งข้างลำตัวแน่น “แต่ถ้ามันยากไป...” ประโยคของผู้เหนือกว่าหยุดไว้แค่นั้น เพื่อรอคนสำคัญที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาจากทางด้านหลังคู่สนทนาและเมื่อฝีเท้าเล็กหยุดลงข้างพี่ชายตัวเองในอาการเหนื่อยหอบ แววตาที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม แลดูชั่วร้ายราวกับปีศาจที่จ้องจับเหยื่อก็เลื่อนไปมองเหยื่อผู้นั้น “เอาน้องมึงมาแทนไหม เดี๋ยวกูจ่ายเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่งเลย” เพียะ! ครืด! ครืด! หมัดของบีมยังชะงักอยู่กลางอากาศ เพราะใบหน้าหล่อเหลาสะบัดไปตามแรงฟาดฝ่ามือยัยน้องซะก่อน หากแต่ไม่ทันมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นต่อจากนั้น ไอโฟนในกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวสวยก็สั่นเตือน หญิงสาวละทิ้งคำด่าทอไปชั่วขณะ แล้วล้วงมันออกมาเลื่อนสไลด์รับสาย “ชู่ว์...” ปลายนิ้วเรียวยกจ่อปากพร้อมส่งเสียงให้เงียบเมื่อเห็นว่าคนถูกตบลุกพรวดขึ้นยืนเต็มความสูงอย่างเอาเรื่อง ก่อนเธอจะกรอกเสียงสุภาพลงไป “สวัสดีค่ะ” แล้วกูต้องเม้มปากตามคำสั่งเธอทำห่าอะไร! “อะไรวะ...” ความคิดที่ทักท้วงอยู่ในใจหลุดออกมาแผ่วเบา ตัวตึงวิศวะหันมองหน้าบุคคลในแก๊งไปมา คล้ายจะขอความคิดเห็นและได้รับเป็นการทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กลับมา ส่วนบีมก็เริ่มร้อนรนอยู่ไม่สุขเมื่อเห็นว่าคนคุยโทรศัพท์นิ่งเงียบไปเกือบนาที แถมสีหน้าน้องก็ไม่สู้ดีนัก “พี่บีม เราต้องรีบไปแล้ว” น้ำเสียงตื่นตระหนกร้องบอกคนเป็นพี่หลังวางหู จากนั้นทั้งคู่ก็พากันสับเท้าไปตามทาง โดยไม่แยแสคนหัวร้อนดั่งดวงอาทิตย์ที่ตะโกนว๊ากเลยสักนิด “เห่ย!...” มือที่ยกขึ้นหวังจะโบกเรียกจำต้องเปลี่ยนมาชี้เข้าหาตัวพลางเลิกคิ้วอย่างนึกสงสัย “นี่คือกูโดนตบฟรี?” “แล้วมึงได้ตังค์ไหมล่ะ” ม่านหมอกตอบกลับเป็นคำถามแบบนิ่งๆ “ไอ้เวร...” “มึงด่าผู้หญิง?” “ด่ามึง! นั่นแหละ...ไอ้เหี้ย!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม