ปราบค่าย – 13/1 เฉยชา (กูไม่ได้เริ่ม)

880 คำ
เช้าวันใหม่ เมื่อร่างเล็กลืมตาตื่นขึ้น ความปวดร้าวก็พลันแล่นวาบเข้ามาในร่างกาย หมวยลี่กวาดมองไปรอบห้องพบเพียงความว่างเปล่า เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าค่ายอาจจะแค่อาบน้ำ หรือไม่ก็ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียง แขนเล็กค้ำยันกับที่นอนก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้น ความระบมตรงจุดนั้นยังคงเจ็บหนึบทุกครั้งที่ร่างกายเสียดสีกัน แต่เธอยังฝืนก้าวเดิน แม้จะต้องกัดฟันแน่น เรียวขาค่อย ๆ ก้าวเดินเชื่องช้า เพื่อให้เกิดการเสียดสีน้อยที่สุด ดวงตากลมไล่สำรวจหาคนที่เป็นเจ้าของห้อง แต่มันเงียบเกินไป ไม่เจอกับคนที่ฝากร่องรอยเอาไว้บนร่างกายของเธอ ไม่มีแม้แต่เงาของเขา ราวกับถูกบางอย่างกระแทกเข้ามาที่กลางอก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไป เธอคิดว่าอาจจะพอมีหวัง ทั้งที่รู้ว่าไม่มีเลย มันชัดเจนตอนนี้…ที่ตื่นมาไม่เจอใคร หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ร่างเล็กใช้เวลาหากระเป๋าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะล้วงมือหยิบโทรศัพท์ออกมา พอเห็นว่ามีข้อความจากค่าย หัวใจก็ชื้นขึ้นมา แต่ทันทีที่สายตาไล่อ่านจนจบ หัวใจก็กลับมาห่อเหี่ยวอย่างเดิม แชต: ค่าย ค่าย: ฉันออกมาประชุมที่บริษัท ตื่นแล้วก็รีบอาบน้ำ ธันจะไปส่งเธอ ธันวา คือลูกน้องมือขวาที่ทำงานกับค่ายมานานหลายปี เรียกได้ว่ารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อธันวาเองก็เป็นมือขวาของไกรวิชญ์ เขาจึงถูกส่งให้มาดูแลลูกชายคนโตของตระกูลอย่างค่าย เธอคิดว่าเขาจะปลอบใจ หรือพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เพิ่งเกิดขึ้น ทว่า ท่าทีของเขาเหมือนคนที่ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว เลยไม่จำเป็นต้องแยแสอีกต่อไป หมวยลี่: มื้อเย็นเฮียอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ลี่จะทำให้ แต่เธอกลับรู้สึกมากขึ้น ค่าย: ฉันต้องไปกินมื้อเย็นกับหุ่นส่วน หมวยลี่: เข้าใจแล้วค่ะ Read ร่างเล็กมองข้อความที่ขึ้น ‘อ่านแล้ว’ อย่างคาดหวังว่าค่ายจะตอบกลับมา แต่ก็ไร้วี่แวว เธอทำได้เพียงถอนหายใจแล้วเก็บโทรศัพท์กลับลงไปในกระเป๋าอย่างเดิม พร้อมความคิดที่ถาโถม ในเมื่อตัดสินใจเข้าไปในกองไฟแล้ว ต่อจากนี้ไม่ว่าจุดจบจะเป็นยังไง เธอจะไม่เสียใจ ต่อให้ทางข้างหน้าจะเจ็บปวด มันก็คือสิ่งที่เธอเลือกแล้ว หมวยลี่เดินเหม่อลอยออกมาจากห้อง ขาเล็กก้าวไปอย่างช้า ๆ ความรู้สึกจุกแน่นกลางอกทำให้เธอแทบไม่รับรู้สิ่งรอบข้าง รู้ตัวอีกทีก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้ารถแล้ว ทันทีที่ก้าวขึ้นมานั่งในรถ ธันวาที่นั่งอยู่ตรงเบาะคนขับก็ยื่นถุงบางอย่างมาให้ หมวยลี่มองถุงนั้นด้วยแววตางุนงง ไม่เข้าใจว่าเขายื่นมาให้ทำไม แต่ก็ยอมรับมันไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามเสียงเบา “อะไรเหรอคะพี่ธัน” “ยาคุมฉุกเฉินครับ นายสั่งไว้ว่าให้ลี่กิน” ทันทีที่รู้ว่าของในถุงคืออะไร มือเล็กก็กำมันแน่น ใบหน้าหวานร้อนวูบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอก้มหน้าหลบ ไม่กล้าสบตากับหนุ่มรุ่นพี่ที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับ “ไม่ต้องห่วง พี่ไม่ยุ่งเรื่องของนาย” ธันวารับรู้ได้จึงรีบพูด เขาเห็นหมวยลี่มาตั้งแต่เด็กและเอ็นดูเธอไม่ต่างอะไรกับน้องสาว “รวมทั้งเรื่องนี้ พี่จะไม่พูด ไม่บอกใคร ลี่สบายใจเถอะ” “ขอบคุณนะคะ” ใบหน้าหวานกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง ทว่าดวงตาคู่สวยยังคงไร้แววความสุข คฤหาสน์ทรัพย์หิรัญสกุล แม้จะคิดมากเรื่องค่าย แต่ตอนนี้หมวยลี่ต้องไล่ความคิดนั้นออกไป เพราะมีอีกเรื่องที่ลืมนึกถึง เมื่อคืนเธอไม่ได้กลับบ้านแม่จะเป็นห่วงแค่ไหน “อ้าวลี่ กลับมาแล้วเหรอลูก” “แม่ ลี่ขอโทษที่ไม่ได้บอก…” เธอพยายามอธิบายให้แม่ฟัง แต่ว่ายังพูดไม่ทันจบก็ถูกแม่เอ่ยแทรกขึ้นมาซะก่อน “ขอโทษอะไรกัน หนูมายด์โทรมาบอกแม่แล้ว ว่าลูกเมามากจนกลับไม่ไหว” “คะ?” คิ้วบางขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง “เมื่อคืนไปนอนกับหนูมายด์ไม่ใช่เหรอลูก” “อะ... อ๋อ ใช่ค่ะ ใช่... ลี่ขอโทษนะคะที่ทำตัวเหลวไหล” แม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่ตอนนี้หมวยลี่ยอมไหลตามน้ำไปก่อน เธอยิ้มบาง ๆ แล้วโผล่เข้าไปกอดผู้เป็นแม่แน่น “อะไรกันลูกคนนี้ โตแล้วจะเหลวไหลไปบ้างจะเป็นไรไป” “แม่ใจดีจัง” “แม่มีลูกคนเดียวนะลี่ อะไรที่ลูกอยากทำ แม่จะไม่ห้าม” ไม่รู้เพราะอะไร เพียงแค่คำพูดธรรมดา ๆ จากแม่ น้ำสีใสก็เอ่อขึ้นมาที่ขอบตาได้อย่างง่ายดาย ราวกับอารมณ์บางอย่างที่ซ่อนอยู่ค่อย ๆ แทรกซึมขึ้นมา ตอนนี้หัวใจของเธอกำลังอ่อนไหว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม