บทที่ 4 ลูบเกียร์วิศวะ

1644 คำ
​ “ปากหวานว่ะ น่าชิมเนอะ” ไนท์เอ่ยแซวไม่หยุด เขายิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับพึงพอใจสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่แบบสุดๆ ยิ่งเห็นท่าทางหงุดหงิดของตัวแม่คณะวิศวะก็ยิ่งพอใจเข้าไปใหญ่ “เงียบปากค่ะอีไนท์” “พี่ไนท์อยากชิมเหรอคะ มาค่ะเดี๋ยวมะม่วงให้ชิม” “นั่งลงยัยโง่” มือหนาของเอสซี่ฉุดรั้งคนที่ลุกขึ้นยืนเซไปเซมาด้วยมึนเมา เพราะไอ้ไนท์คนเดียวเลยกะจะมอมยัยนี่ให้หลับเลยรึไง แล้วใครมันรู้จักที่อยู่ยัยคนสวยนมโตนี่บ้างถามก่อน บอกเลยนะว่าเขาทิ้งไว้ที่นี่แน่ อย่าเผลอหลับก็แล้วกัน “อ๊ะ! พี่เอสซี่เบาๆ มะม่วงเจ็บ” ด้วยความมึนหัว ทำให้เมื่อถูกฉุดกระชากร่างบางก็ล้มลงชนเข้ากับแผงอกแกร่ง ยิ่งทำให้มึนเข้าไปใหญ่ “นี่! มีสติหน่อย” “แล้วหนูไม่มีสติตรงไหน หนูนะโคตรจะมีสติ…อืออ…พี่ว่าหนูสวยป่ะ” “ก็สวย” “เซ็กซี่มั้ย ดูน่าดึงดูดบ้างรึเปล่า” “ก็พอมีจ้ะ” “แล้วทำไมพี่มาร์คถึงบอกเลิกหนู” “แล้วเขาให้เหตุ…” “หนูว่าพี่เขาต้องเป็นพระกลับชาติมาเกิดชั่ว” “ชัวร์ค่ะน้อง” เอสซี่แก้คำผิดที่คนเมาเอ่ยบอกลิ้นพันกันไปหมด ไอ้คำว่าชั่วของเธอมันดันเต็มหน้าเขาไปหมดซะด้วยสิ “พี่รู้ไหม หนูนะทั้งอ่อย ทั้งยั่ว แทบจะแก้ผ้าอยู่แล้ว แต่พี่เขาปฏิเสธซะงั้น” “คุยกันสองอาทิตย์ก็รุกแรงเลย พี่เป็นผู้ชายคนนั้นก็ถอยหนีจ๊ะ” “พี่ไนท์กับพี่คิงส์ก็คิดงั้นเหรอคะ มะม่วงรุกแรงไปเหรอ” เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่หนุ่มไม่เข้าข้าง เธอเลยเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไปหาคนหน้านิ่งทั้งสองแทน “พี่กับไอ้คิงส์คงไม่ปล่อยให้รอดตั้งแต่นาทีแรกที่คุยกันหรอกครับ ยิ่งสวยๆ แบบน้องมะม่วงด้วยแล้วละก็…พี่กดจมเตียงเลยครับ” “ใช่มะ มะม่วงก็ว่างั้น” “นี่! อีไนท์เลิกเอาเรื่องชั่วๆ ใส่สมองเด็กมันได้แล้ว น้องมันยิ่งใสซื่ออยู่” “มะม่วงไม่ได้ใสซื่อนะคะ เข้าใจทุกอย่าง” “…” เอสซี่กลอกตามองบนใส่รุ่นน้องสาว รู้ดีว่าเพื่อนสนิทจงใจหยอกเล่นแล้วเธอก็ดันตามน้ำไปกับมันด้วย ไม่รู้ว่าใสซื่อจริงหรือแกล้งโง่กันแน่ “จะว่าไป…หรือว่าจะเป็นอาถรรพ์ลูบเกียร์วิศวะคะ คืนนั้นมะม่วงกับแพทแล้วก็เพื่อนอีกสองคนเมาหนักมาก เราผ่านหน้าลานเกียร์พอดี ก็เลยลงไปลูบเกียร์กันคนรอบสองรอบ” มะม่วงเอ่ยเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ เมื่อไม่กี่คืนให้ไนท์ฟังอย่างออกรส ซึ่งสภาพคืนนั้นกับคืนนี้ของเธอแทบไม่ต่างกันเลย สติที่มีประมาณเจ็ดสิบสามสิบ “แล้ว?” “มะม่วงว่าตัวเองต้องได้แฟนเป็นเด็กวิศวะชัวร์ ว่าไหมคะพี่เอสซี่” เมื่อเล่าจบใบหน้าสวยก็หันกลับมาหาเอสซี่ที่พยายามตั้งใจฟังสิ่งที่คนเมาพูด “แล้วหันมาทางนี้ทำไม” “ก็พี่เอสซี่เป็นเด็กวิศวะ บางทีพี่อาจจะ…” “นังน้องมะม่วงเอามือออกไป” เอสซี่ตะปบมือบางเอาไว้ก่อนที่มันจะลูบลงไปถึงเกียร์ยาวใหญ่ที่ซ่อนตัวหลับใหลอยู่ภายใต้กางเกงของตนเอง “ไหนๆ มะม่วงก็ลูบเกียร์หน้าคณะวิศวะมาแล้ว ขอลูบเกียร์พี่เอสซี่ดูด้วยได้ไหม เผื่อมะม่วงจะสมหวังกับเขาบ้าง” เอสซี่นั่งงงในดงเหล้า สมองกำลังประมวลผลกับความคิดของคนตรงหน้า เธอทั้งรุกแรงด้วยคำพูดและท่าทางจนเขาต้องรีบขยับเกียร์ที่ซ่อนอยู่ในกางเกงถอยหนี แต่ด้วยพื้นที่ที่มันจำกัดยิ่งถอยหนีอีกคนก็ยิ่งบดเบียดเข้าหา “มันคนละเกียร์ไหมล่ะ” “ลูบอันใหญ่มาแล้วก็ไม่เห็นใครจะมาจีบเลย ขอลูบอันเล็กนี่หน่อยไม่ได้เหรอ อยากโดนจีบ อยากมีเจ้าของ” คนเมาเริ่มงอแง ทำให้เอสซี่อ่อนใจยอมคลายมือที่เกาะกุมไว้แน่นให้อ่อนลง และนั่นก็เป็นจังหวะที่มะม่วงได้อาศัยช่องวางคว้าเข้าที่ลำเกียร์แน่น “อ๊ะ!! มะม่วง!” เอสซี่ร้องเสียงหลงดังลั่นห้อง “ลูบเกียร์เลยเหรอว่ะ แสบว่ะ” เซนต์ที่หายไปพักใหญ่เดินเข้ามาในห้องก็ต้องตกใจกับเสียงยานของคนเมาที่พยายามลูบเกียร์ในกางเกงของเพื่อนสนิท “หายไปไหนมาว่ะ” “เจอคนรู้จักนะเลยไปคุยด้วยหน่อย” ไนท์หันไปถามเพื่อนที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างสงสัย “พี่เอสซี่อย่าขัดขืนสิคะ ไหนพี่เคยบอกว่าให้มาเอากับพี่ไง” “???” เอสซี่เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความมึนงง เขาเผลอไปพูดแบบนั้นกับนังน้องมือไวนี่ตอนไหน “มาทำหน้างงอะไรคะ ก็ตอนวันเกิดพี่เจสซี่ไง” “พี่หมายถึงกระเป๋าย่ะ ไม่ใช่ให้เรามาเอากันแบบนั้น” “ไหนๆ ก็จับแล้วขอลูบหน่อยจะเป็นไรไปเนอะ” “หยุดนะมะม่วง” เอสซี่หน้าซีดข่มอารมณ์ เพราะไม่ใช่แค่จับเกียร์เฉยๆ แต่เจ้าของมือยังลูบเกียร์เขาจบมันแข็ง ปวดหนึบไปหมด “หูย~~ ตัวแม่โดนลูบเกียร์แล้วว่ะไอ้เซนต์” เพื่อนสนิททั้งสามหันขวับมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตา ตัวแม่ที่ชอบทำตัวสะดีดสะดิ้งแต่ไม่ยอมให้ใครได้เข้าใกล้ง่ายๆ แถมยังชอบหยอดไปทั่วทั้งคณะ จนคนอื่นคิดว่าเอสซี่เจ้าชู้แพรวพราวไม่ต่างจากเจสซี่หนุ่มฮอตที่ก่อนหน้ามีข่าวควงหนุ่มหล่อไม่เว้นวัน แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังตัวแม่ที่ดูช่ำชองกลับเป็นแค่ภาพที่เอสซี่ลวงตาขึ้นเพื่อให้คนอื่นคิดแบบนั้นทั้งที่เขาหวงตัวสุดๆ “ช่วยกูด้วย พวกมึงจะนั่งดูเฉยๆ ให้เกียร์กูแตกเลยรึไง” “ก็นึกว่าชอบ” ทั้งสามหัวเราะออกมาราวกับชอบใจ เห็นแบบนี้พวกเขาก็อยากให้เพื่อนมีแฟน และดูเหมือนจะมีแค่สาวน้อยรุ่นน้องต่างคณะคนนี้นี่แหละที่จะจับเพื่อนเขาอยู่ “มะม่วง!!” เซนต์ที่กำลังลุกขึ้นยืนเพื่อนเดินเข้าไปช่วยก็ต้องนั่งลงที่เดิม เพราะรุ่นน้องสาวล้มพับเอาหน้าซุกเกียร์แล้วหลับพริ้ม ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร “อีเซนต์ช่วยเอาออกไปได้มั้ยว่ะ กูปวดไปหมดแล้วเนี่ย” เอสซี่เอ่ยขอความช่วยเหลือ ขนาดเมาหลับยังไม่ยอมปล่อยเกียร์ในมืออีก แถมใบหน้าสวยนั่นยังซุกไซร้ประหนึ่งเกียร์เขาเป็นหมอนซะได้ “ไม่รอแตกก่อนเหรอเพื่อน ไซร้ขนาดนั้นเดี๋ยวก็แตกเชื่อกูดิ” “อยากปากแตกมั้ยอีเซนต์ ถึงกูจะเป็นตัวแม่ก็ต่อยเพื่อนปากแตกได้นะเว้ย” “มันเขินหมดแล้ว มึงก็ไปแซวมัน” นี่ก็อีกคน การที่เขาโดนทั้งลูบ ทั้งจับเกียร์มันน่าตื่นเต้นดีใจสำหรับพวกมันยังไง ถึงมันจะเป็นครั้งแรกที่เกียร์ของเขาจะได้เคยโดนสัมผัสจากมือผู้หญิงก็เถอะ “น้องรุกแรงฉิบหาย ตอนแรกก็บ่นอกหัก สุดท้ายก็กลับมาหยอดมึงเฉย อกหักแบบใด๋” “ผู้หญิงหลายใจก็งี้” “ทำอย่างกับตัวเองมีปมกับผู้หญิง เคยมีแฟนรึไงมึงนะ” “ไม่เคยมี แต่ก็พอดูออกย่ะ นังน้องนี่ก็คงผ่านผู้ชายมาพอสมควรถึงได้มั่นหน้าแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายแบบนั้นโดยไม่อาย แถมยังจับเกียร์กูอีก” “ถามจริง มึงจะหวงตัวไปถึงไหนวะ เห็นมึงหยอดน้องมันเก่งจะตาย กูนึกว่าเข้ากันดีซะอีก” “กูหวงตัวแล้วมันหนักหัวมึงเหรออีไนท์ อย่างน้อยกูก็ไม่เปลืองตัวเหมือนพวกมึงทุกคนก็แล้วกัน” “ขอให้มึงโดนน้องมะม่วงจับทำผัว” “ปากดีอีไนท์” “ขอให้น้องตื่นขึ้นมาปล้ำมึงคืนนี้เลย” “อีเซนต์ปากเสีย” ดูแต่ละคำอวยพรของพวกมันสิ แล้วคนหวงตัวอย่างเขาต้องทำยังไง หวังว่าคำขอของพวกมันจะไม่เป็นความจริง “ไปส่งน้องด้วยนะ พวกกูง่วงมาก กลับดีกว่า” “อร้ายย…พวกมึงกลับมาก่อน ไอ้พวกเพื่อนเวร แล้วกูจะเอานังน้องนี่ไปส่งที่ไหน” เอสซี่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาไล่หลังเพื่อนสนิททั้งสามที่ลุกขึ้นพร้อมกันโดนไม่ได้นัดหมาย แล้วทยอยเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้เขาอยู่กับรุ่นน้องที่เมาหลับแถมยังจับเกียร์ไม่ปล่อยอีก “มะม่วง! นี่น้องมะม่วงบ้านอยู่ไหนคะ” “อยู่ในใจพี่เอสซี่ค่ะ” คนเมาตอบกลับเสียงยานทั้งที่ดวงตากลมยังหลับพริ้ม “เฮ้อ~ โอ๊ย น่ารำคาญชะมัด” เอสซี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความปลง เอาจริงเวลานอนความแสบก็ลดลงไปหมดเหลือเพียงความน่ารักเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ที่นอนขดอยู่บนตักเจ้าของ “บ้าไปแล้ว” เอสซี่ส่ายหัวไปมากับความคิดชั่ววูบที่ไหลเข้ามาในสมอง ยามจับจ้องไปยังใบหน้าสวยบนตัก “ปล่อยให้นอนนี่แหละ” ว่าจบเขาก็ค่อยๆ แกะมือบางให้คลายออกจากเกียร์ แล้วจับศีรษะทุยไปวางบนพนักพิงแขนอีกฝั่งของโซฟา “ช่วยไม่ได้นะ พอดีพี่ไม่รู้จักบ้านน้อง นอนนี่ไปแล้วกัน” เอสซี่ไหวไหลเล็กน้อย ก้มลงหยิบผ้าคลุมขนสัตว์ขึ้นมาห่มแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม