อาภรณ์ออกงาน

1263 คำ
“เทศกาลซ่างซื่องั้นหรือ?” ไป๋เหยาประดับปิ่นเงินลายผีเสื้อลงบนศีรษะให้หลี่อวี้หลัน พยักหน้ารับรัวเร็ว ยิ้มกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ฮูหยินส่งคนมาตามคุณหนูให้ไปที่เรือนฮุ่ยเซียงเช่นนี้ จะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานเทศกาลซ่างซื่อที่จะจัดขึ้นในวันมะรืนแน่ ๆ เลยเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินมาว่าปีนี้วังหลวงจัดงานเลี้ยงริมทะเลสาบหวงอันอย่างยิ่งใหญ่เชียวนะเจ้าคะ” ตามปฏิทินจันทรคติในสมัยโบราณวันที่สามเดือนสามตรงกับวันเทศกาลซ่างซื่อ เป็นวันที่ผู้คนนิยมเซ่นไหว้และชำระล้างริมฝั่งแม่น้ำลำธารเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายและโรคภัยไข้เจ็บ แต่สำหรับบรรดาหนุ่มสาวซึ่งถึงวัยออกเรือนแล้ว วันนี้ถือเป็นวันแห่งการหาคู่ เพราะแต่ละตระกูลจะปล่อยให้บุตรหลานออกมาเที่ยวเล่นริมทะเลสาบในวันเทศกาลอย่างอิสรเสรี สตรีนิยมชมยอดบุปผา บุรุษขับขานบทกวี และร่วมกันร้องร่ำบรรเลงดนตรีอย่างสนุกสนาน หลี่อวี้หลันพลันหน้าซีดเผือด นางลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย เนื้อเรื่องต้นฉบับเริ่มต้นขึ้นในคืนเทศกาลซ่างซื่อนี่ไม่ใช่หรือ! ตระกูลหลี่ได้รับเทียบเชิญจากวังหลวงให้ไปร่วมงานเลี้ยงด้วยเช่นกัน คืนนั้นเหล่าคุณหนูคุณชายทั้งหกได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวชมงานเทศกาลริมทะเลสาบหวงอันพร้อมกัน งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นอย่างสวยงามและอลังการอย่างยิ่ง สมกับเป็นงานเลี้ยงที่วังหลวงจัดขึ้น ทว่างานเลี้ยงครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อให้หนุ่มสาวมาร่วมชมบุปผาขับขานบทกวีเท่านั้น แต่ยังแฝงพิธีดูตัวของรัชทายาทกับคุณหนูสามสกุลหลิวด้วยเช่นกัน หลี่อวี้หลันไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนักว่าภายในงานเลี้ยงเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เพราะในฉากนี้หลี่ฝูหรงเป็นผู้ดำเนินเรื่อง จึงรู้เหตุการณ์เพียงแค่มุมของนางเท่านั้น แต่ที่จำได้แม่นยำและคิดว่ามันจะต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ เลยก็คือ เหตุการณ์ที่หลี่ฝูหรงตกสะพาน! หลี่ฝูหรงถูกชายปริศนาเดินชนบนสะพานจนพลัดตกลงทะเลสาบ ภาพที่นางเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนร่างจะกระทบผืนน้ำก็คือ ดวงหน้างดงามภายใต้แสงจันทร์ยามราตรีของหลี่อวี้หลันซึ่งยืนเด่นอยู่บนสะพาน รอยยิ้มสะใจฉายชัดเต็มแววตาคู่งามขณะมองดูนางจมดิ่งลงใต้ผืนน้ำ หลังจากหลี่ฝูหรงตกน้ำ รัชทายาทเป็นคนแรกที่กระโดดลงไปช่วย ก่อนจะตามด้วยบ่าวรับใช้และคุณชายตระกูลชั้นสูงอีกหลายคน แต่ไม่มีใครสักคนหานางพบ สุดท้ายคนที่ช่วยอุ้มร่างหมดสติของนางขึ้นจากน้ำกลับเป็นหลี่ซวนหยวนพี่ชายแท้ ๆ ของนาง เขาพานางขึ้นเรือเล็กซึ่งอยู่ไกลจากฝั่ง จากนั้นก็พานางกลับด้วยเรือลำนั้นทันทีโดยไม่ได้ขึ้นฝั่งเพื่อรักษาชื่อเสียงของนาง หลี่ซวนหยวนนับว่าช่วยรักษาชื่อเสียงของหลี่ฝูหรงเอาไว้ได้อย่างยิ่ง เพราะหากร่างกายเปียกปอนของนางถูกบุรุษอื่นช่วยไว้ เกรงว่านางคงต้องแต่งให้กับคนผู้นั้นเพื่อรักษาชื่อเสียงเป็นแน่ และนั่นคือเหตุการณ์ที่ทำให้หลี่ฝูหรงนางเอกมังฮวากลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง หลังจากนางฟื้นขึ้นมาก็มีอุปนิสัยและท่าทางเปลี่ยนไป นางเฉลียวฉลาดขึ้นมาก และไม่อ่อนแอยอมให้ผู้ใดรังแกอีกต่อไป หลี่อวี้หลันต้องพลาดพลั้งเสียทีให้นางอยู่บ่อยครั้ง จนนำมาซึ่งถึงจุดจบแสนน่าอนาถของนางร้ายหลี่อวี้หลัน ไม่ได้… นางจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นไม่ได้เด็ดขาด! หากว่านางอยากจะมีชีวิตอย่างสงบสุข ไม่ต้องพบจุดจบอย่างในต้นฉบับ นอกจากนางจะต้องเปลี่ยนแปลงตนเองแล้ว ยังต้องหยุดยั้งการเกิดใหม่ของนางเอกมังฮวาด้วย! “ถึงแล้วเจ้าค่ะคุณหนู” เสียงไป๋เยาเรียกสติหลี่อวี้หลันกลับมา นางมองป้ายหน้าเรือนฮุ่ยเซียงเล็กน้อย ก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไป ยามนี้เจ้านายฝ่ายสตรีล้วนนั่งอยู่ในเรือนกันครบหมดแล้ว นางมาถึงเป็นคนสุดท้าย หลังจากคำนับผู้อาวุโสทุกคนเสร็จ นางก็เดินมานั่งคุกเข่าลงตรงตำแหน่งของคุณหนูรองซึ่งอยู่ระหว่างหลี่ฝูหรงกับหลี่อิงเหยา ท่าทางนิ่งสงบทั้งยังสำรวมเรียบร้อยของหลี่อวี้หลันล้วนอยู่ในสายตาของฮูหยินผู้เฒ่า ความพึงพอใจฉายบนใบหน้ามีเมตตา เมื่อกวาดตามองหลานสาวทั้งสามจนพอใจแล้วจึงกล่าวขึ้นว่า “ชุดร่วมงานเลี้ยงเทศกาลซ่างซื่อที่จะจัดขึ้นวันมะรืนนี้ของพวกเจ้าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว” นางส่งสายตาให้จางหมัวมัว ไม่นานก็มีสาวใช้นำชุดเข้ามาวางตรงหน้าคุณหนูทั้งสาม “พวกเจ้าลองดูเถิดว่าถูกใจหรือไม่” หลี่อวี้หลันหลุบตามองชุดตรงหน้าโดยไม่ได้แตะต้อง ชุดนี้ถูกสั่งตัดขึ้นเมื่อต้นเดือนก่อนตอนที่นางยังไม่เข้ามาอยู่ในร่างนี้ นั่นหมายความว่าคนที่เลือกสีผ้าพับและลายปักย่อมเป็นหลี่อวี้หลันคนเก่า ในต้นฉบับกล่าวถึงเรื่องการแต่งกายของนางร้ายหลี่อวี้หลันอยู่บ้าง นางร้ายผู้นี้มีสายตาสูงส่งยิ่ง นางชมชอบสีทองเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นชุดที่สวมใส่ เครื่องประดับ หรือแม้แต่การตกแต่งเรือนก็ล้วนเป็นสีทองอร่ามจนแสบนัยน์ตาไปหมด ตอนนางเข้ามาอยู่ในร่างนี้ช่วงแรกถึงกับจิตตกกับสีทองอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ต้องสั่งให้ไป๋เยาเปลี่ยนเครื่องเรือนยกชุด รวมถึงอาภรณ์อาภรณ์และเครื่องประดับในหีบด้วย กล่าวตามตรง… นางทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ต้องรู้ว่าเดิมทีสีทองนั้นเป็นสีของเหล่าเชื้อพระวงศ์โดยเฉพาะฮ่องเต้ที่มักจะสวมฉลองพระองค์สีทองอร่ามสมพระเกียรติมังกรสวรรค์อยู่เป็นประจำทุกวันจนกลายเป็นสีประจำพระองค์ไปแล้ว แม้แต่รัชทายาท เหล่าองค์ชาย ฮองเฮา ไทเฮา หรือพระสนมในวังหลังต่อให้ชมชอบสีทองมากเพียงใดก็ยังสวมใส่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น นอกจากฮ่องเต้บนบัลลังก์มังกรแล้วคงไม่มีผู้ใดกล้าสวมใส่อาภรณ์สีทองได้ทุกวันเหมือนกับหลี่อวี้หลันผู้นี้อีกแล้ว นางคิดว่าตนเป็นฮ่องเต้หญิงหรืออย่างไร! หลี่อวี้หลันถอดถอนใจหนึ่งคำรบ เหลือบมองอาภรณ์ของคนอื่นดูบ้าง หลี่อิงเหยากำลังคลี่ชุดสีชมพูอ่อนในมือสีหน้าฉายแววพึงพอใจออกมา ชุดของนางไม่ได้ฉูดฉาดแต่ก็ไม่ได้เรียบง่ายเช่นกัน ลายปักดอกอิงฮวาช่วยขับให้ชุดนั้นงดงามน่ามองขึ้นมาก ส่วนชุดของหลี่ฝูหรงนั้นเป็นสีขาวเหลือบฟ้าอ่อนปักลายดอกหมู่ตานอย่างประณีตงดงาม ดวงตาเมล็ดซิ่งคู่งามพลันหรี่ตาจับจ้องชุดนั้นครู่หนึ่ง นั่นเป็นชุดเดียวกับในต้นฉบับจริงเสียด้วย คนวาดช่างใส่ใจรายละเอียดเสียจริง แม้แต่อาภรณ์งดงามที่นางเอกมังฮวาสวมใส่ตอนเปิดเรื่องก็ยังงดงามประณีตถึงเพียงนี้ แล้วดูชุดของนางร้ายหลี่อวี้หลันสิ ไฉนถึงไม่ประณีตงดงามเช่นนี้บ้างเล่า? คิดแล้วก็หลุบตามองกองผ้าสีทองอร่ามจับตาตรงหน้าอีกครา โอ๊ย… เห็นแล้วปวดนัยน์ตาขึ้นมาเลย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม