อุไรพรไม่ได้รีบกลับบ้าน เธออ้อมไปที่ซอย ๆ หนึ่ง และเมื่อแน่ใจว่าไม่มีคน
เธอถึงได้เข้าสู่ภพเชื่อมอีกครั้ง
เธอบอกเตือนตัวเองไว้แต่เช้าแล้วว่า ภารกิจได้สำเร็จแล้ว สามารถรับรางวัลได้
อุไรพรได้รับถุงทองสองใบ หัวใจเธอเต้นอย่างรวดเร็ว
แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกแบบนี้เธอจะไม่ค่อยสนใจนัก แต่สภาพตอนนี้ของเจ้าของร่างนั้นมันแย่มากจริง ๆ
คลิกเพื่อเปิด
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์, รับยาวิเศษเสริมความงาม 1 เม็ด, ยาวิเศษหุ่นดี 1 เม็ด]
อุไรพรกดว่าใช้งานและทันใดนั้นก็มีแผงนึงเด้งออกมา ด้านบนเป็นข้อมูลโดยละเอียดของตัวเอง ค่าความงาม รอบอก รอบเอวและรอบสะโพก ค่าความแข็งแกร่งและข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งคล้ายกับเกมเสมือนจริง
มีอยู่กลุ่มหนึ่ง ต้องจับตามองเป็นพิเศษ
ค่าความสวยของเจ้าของร่างเดิมมี 85 อยู่แล้ว พอกินยาวิเศษเสริมความงามไปเม็ดเดียว มันก็เพิ่มค่าความสวยขึ้น 20
ด้านหลังค่าความสวย 105 มีศัพท์บรรทัดนึงเขียนไว้
“ได้เอาชนะ 99.99% ของสาววัยเดียวกันในยุคนี้”
แน่ใจนะว่าไม่ได้ค้างน่ะ?
พอคิด ๆ อยู่ก็พบว่ามีเครื่องหมายอัศเจรีย์อยู่บนแผง กำลังถอนหายใจเลยว่าเป็นข้อบกพร่องของค่าความสวยที่ปรากฏหรือไม่
เปิดเครื่องหมายอัศเจรีย์และมันก็เด้งตัวหนังสือออกมาบรรทัดนึง
“โฮสต์มีพิษในร่างกาย ต้องการยาล้างพิษสิบเม็ด คลิกเพื่อสอบถามวิธีการรับยาล้างพิษ”
อุไรพรว้าวุ่น หนองและสิวที่เต็มไปด้วยรูพรุนบนใบหน้าของเธอมันเป็นเพียงเพราะเจ้าของร่างเดิมถูกวางยาพิษ
ก่อนที่จะโดนวางยาพิษ ค่าความสวยที่ 85 นี่มันเป็นนางงามตัวแม่อยู่แล้ว เพียงแต่ถูกบดบังโดยพิษ
ในความทรงจําของเจ้าของร่างเดิม ดูเหมือนจะเป็นอย่างงี้จริง ๆ
เนื่องจากเจ้าของเดิมเกิดมาสวย หลายปีที่เพิ่งเข้าบ้านนี้มา พ่อเลี้ยงของเขายังถือว่ารักเป็นพิเศษอยู่
ต่อมาอยู่ ๆ หน้าก็เสียโฉมสะงั้น...
อุไรพรมีเหตุผลที่จะสงสัยว่ามีคนวางแผนวางยาพิษ
อุไรพรดูวิธีการรับยาล้างพิษและรู้ประมาณนึงแล้วว่าระบบนี้ใช้อย่างไร
ทุกวันจะมีโอกาสลงนามวันละหนึ่งครั้งและจะสุ่มรางวัลที่แตกต่างกันไป
นอกจากเปิดรางวัล 2 เท่าแล้ว ระบบจะสุ่มเปิดภารกิจที่กำหนดรางวัลในแต่ละวันให้
ดังนั้น ยาล้างพิษสิบเม็ดนี้ ตัวเองต้องลุ้นรัลจากการลงนาม หรือไม่ก็ภารกิจที่สุ่มเปิดทุกวันต้องเป็นภารกิจของยาล้างพิษ
อุไรพรรู้สึกมีความหวังมากขึ้นในทันที
พอใช้ยาวิเศษเสริมหุ่นดี ร่างกายที่ขาดสารอาหารเป็นเวลาหลายปีก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน จุดที่ควรมีเนื้อก็โป่งออกบ้างและจุดที่ควรเพรียวบางก็มีวงรอบที่น้อยลง
อุไรพรออกจากระบบและรู้สึกว่าการย่างก้าวของเท้าก็เบาลงเล็กน้อย
เช้าวันรุ่งขึ้น ตระกูลจิรพิทยาวงษ์ได้หาหญิงที่รับขอแต่งงานให้ไปยังบ้านอุไรพร
อุไรพรใส่กระโปรงสีแดงเสื้อแดง เหล่านี้ล้วนเป็นชุดแต่งงานสมัยเก่า มีแต่ผ้าคุมหัวที่อยู่บนศีรษะ ที่อุไรพรเก็บเงินซื้อมา ปักเป็ดแมนดารินทั้งคืน เพื่อขอความเป็นสิริมงคล
ตามเสียงตะโกนของผู้หญิงที่ติดตามและดูแลช่วยเหลือเจ้าสาวในพิธีแต่งงาน แม่และลูกสาวก็ได้ตรงไปที่บ้านตระกูลจิรพิทยาวงษ์แล้ว
ตระกูลสุพรรณศิลป์ที่อยู่ข้างหลังก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกไปทีเพราะในที่สุดก็แก้ไขเรื่องนี้ได้
ชาวบ้านหลายคนมุงดูและพึมพําเรื่องดี ๆ หลายอย่างว่า “ดุจเดือนนี่ติดตามลูกสาวตัวเองไปได้อย่างไร ถึงจะไม่อยากจากกัยยังไงก็ตามไปไม่ได้สิ”
“เธอไม่รู้ล่ะสิ เมื่อวานดุจเดือนหย่ากับพลศักดิ์แล้ว ตอนนี้เธอไม่ใช่คนของตระกูลสุพรรณศิลป์แล้ว เดิมทีเธอก็เป็นเด็กกำพร้าอยู่แล้ว มีที่ไปสะที่ไหน งั้นก็ต้องตามลูกสาวไปที่บ้านลูกเขยอยู่แล้วน่ะสิ!”
“เฮ้ย ยังมีเรื่องแบบนี้อีกอ่ะ พลศักดิ์ไม่เสียดายเมียคนสวยของตัวเองแม้แต่น้อยเลยเหรอ?”
พลศักดิ์ได้ยินเสียงผ่านกําแพง เขารีบออกไปแล้วตะโกนว่า “กับไอ่แค่ยายหน้าเหลืองคนเดียว! ใครมันจะรู้สึกเสียดาย กูขยะแขยงมันมานานแล้ว ตอนนี้ไสหัวออกไปแล้วก็ดีกว่า!”
ทุกคนพูดคุยกันจากไป ใครจะไม่รู้ว่าตอนนั้นที่ดุจเดือนถูกเขาพากลับมาที่หมู่บ้าน ทำเอาคนอิจฉากันมากแค่ไหน
ทำไมกลายเป็นยายหน้าเหลืองได้ล่ะ ก็ไม่ใช่ว่าถูกคนตระกูลสุพรรณศิลป์ข่มเหงหรอกเหรอ!
“พี่รองพูดถูก นี่ไม่เพียงแต่ส่งอุไรพรที่เป็นเทพเจ้าแห่งโรคอหิวาต์น่าเกลียดนั่นไปได้ ตอนนี้ดุจเดือนหญิงโสเภณีที่ไม่ออกลูกก็ได้จากไปด้วย วันพรุ่งนี้ พี่รองค่อยแต่งใหม่คนนึง สองคนนี้ไปแล้ว มันนับว่าเป็นเรื่องดีสําหรับตระกูลสุพรรณศิลป์เราเลยนะ! ”
“ใช่ เป็นเรื่องดี!”
คนของตระกูลสุพรรณศิลป์ต่างพูดกันเอง แต่ไม่นานพวกเขาก็หัวเราะไม่ออกแล้ว เดิมทีดุจเดือนคนเดียวเสมือนคนห้าคนของตระกูลสุพรรณศิลป์ เธอซักผ้า ทําอาหาร ปักต้นกล้าและตัดฟืน ทั้งหมดเธอแบกไว้คนเดียวหมด
ตอนนี้ดุจเดือนตามจากไปแล้ว งานเหล่านี้ก็ต้องตกอยู่บนหัวของพวกเขาแล้ว
ตระกูลจิรพิทยาวงษ์พื้นหลังแน่น นับได้ว่าเป็นตระกูลทรงอิทธิพลในบ้านนอกแถบชนบทแบบนั้น
แต่ในช่วงปีแรก ๆ พิภพกับตระกูลจิรพิทยาวงษ์เกิดความไม่ลงรอยกันและเขาก็ได้แยกย้ายออกมาทํางานคนเดียว แต่ก็เป็นพ่อค้าทางทะเลที่ทําเงินได้มากมาย
พิภพเป็นพ่อของพงศ์เทพ พงศ์เทพเป็นลูกคนเดียวในครอบครัว ถ้าสามารถแต่งไปได้ แน่นอนว่าเป็นการไปเสพสุขจริง ๆ
แต่หลังจากนั้นที่ออกทะเลไปครั้งหนึ่ง พิภพเสียชีวิตในทะเล พงศ์เทพก็ป่วยหนักตอนถูกส่งตัวกลับมา บอกว่าในทะเลเจอโรคประหลาด นอนติดเตียงดั่งกับว่าเป็นวัณโรคปอด
ป่วยหนัก ที่บ้านก็ไม่มีเสาหลักแล้ว ถึงจะมีฐานะทางสังคมอยู่บ้าง แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ ค่าหมอของพงศ์เทพก็เสียไปไม่น้อยแล้ว
นี่แต่งไปแล้ว ไม่ได้มีชีวิตที่ดีไม่ว่า ยังต้องอยู่เป็นหม้ายอีก
ชีวิตทั้งชีวิตนี้ก็เหมือนโดนเผาทั้งเป็นแล้ว
อุไรพรตามผู้หญิงที่ติดตามและดูแลช่วยเหลือเจ้าสาวในพิธีแต่งงานไปตลอดทาง เสียงชาวบ้านถอนหายใจดังอย่างไม่ขาดสาย
“สงสารเด็กคนนี้เลย ต่อไปก็คงต้องทนทุกข์ทรมานแล้วอ่ะ!” ยายแก่คนหนึ่งถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่ดังเป็นพิเศษ
อุไรพรหยุดเดิน ผู้หญิงที่ติดตามและดูแลช่วยเหลือเจ้าสาวในพิธีแต่งงานนั้น เธอกังวลเล็กน้อยว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่
ทุกคนก็ต่างชะโงกหน้ามาดูสถานการณ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก็ได้ยินประโยคต่อไปดังขึ้นว่า “ฉันเชื่อ ฉันแต่งงานกับตระกูลจิรพิทยาวงษ์ แล้วชีวิตของฉันจะยิ่งดีขึ้น ตระกูลจิรพิทยาวงษ์เองก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะคะ”
ความเสียใจที่เปิดเผยของคนเหล่านี้ ก็แค่ใช้มันเป็นหัวข้อสนทนาหลังอาหารเท่านั้น
ประโยคนี้ของเธอก็ตกอยู่ในหูของกาญจนาที่อยู่ไม่ไกลนัก จมูกของเธอหน่วง ๆ และรู้สึกเพียงว่าลูกสะใภ้คนนี้แต่งด้วยน่ะถูกต้องแล้ว
เธอต้อนรับไปอย่างดุเดือด สิ่งแรกคือการนํากําไลจากบรรพบุรุษของเธอมามอบให้กับมือของอุไรพรต่อหน้าทุกคน แล้วพูดเสียงสูงว่า “ลูกสะใภ้คนดีของฉัน การเป็นแม่สามีของเธอ ฉันจะไม่มีวันปฏิบัติไม่ดีต่อเธอแม้แต่น้อย!”
แม่สามีลูกสะใภ้เหมือนแม่ลูก กอด ๆ หอม ๆ แล้วจึงพากันเข้าบ้าน
คนที่ค่อยยืนดูอยู่นั้นก็พูดแปลก ๆ ไปไม่กี่คําว่า รอดูสิว่าอุไรพรจะท้อแท้เมื่อไหร่
อุไรพรแต่งมาบ้านนี้ ในห้องร้างมาก มีแต่กลิ่นหอมของยาที่กลิ่นแรง ๆ
“การไหว้ครั้งนี้ เกรงว่าจะทำให้คุณน้อยใจแล้วแหละ” กาญจนาชูไก่ตัวผู้ตัวหนึ่งออกมาอย่างลังเล
พงศ์เทพที่อยากมาที่นี่ แต่เขาป่วยจนลงจากเตียงไม่ไหวแล้ว
แต่เธอแต่เดิมก็ไม่ได้มุ่งมั่นในเรื่องที่จะมีญาติอยู่แล้ว เพียงแค่เอยากจะปลี่ยนบ้านและไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้
อุไรพรส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันรู้ เรื่องเหล่านี้ฉันไม่ได้สนใจ”
ยิ่งอุไรพรสงบนิ่ง ใจเย็น กลับทําให้กาญจนารู้สึกผิดหวัง เธอจับมืออุไรพรแล้วพูดว่า “ฉันยืนยันว่าจะเอาทะเบียนสมรสไปบังคับตระกูลสุพรรณศิลป์ อีกอย่างก็มีหมอดูพูดถึงเรื่องการจัดงานมงคลเพื่อขจัดเสนียดจัญไรไว้ ฉันจนตรอกแล้ว”
ถ้าจัการดงานมงคลเพื่อขจัดเสนียดจัญไรนี้ก็ไม่ได้ ลูกชายของฉันก็จะมีเวลาไม่มากจริง ๆ แล้ว เธอเป็นเด็กดี ถึงตอนนั้นฉันก็จะไม่ให้เธอเสียเวลา อยากอยู่ก็อยู่ อยากจากไปก็จากไป แล้วแต่เธอ”
ความหมายโดยนัยก็คือ ถ้าอุไรพรอยากแต่งงานใหม่ในอนาคต เธอก็จะช่วยตัดสินใจให้
อุไรพรเป็นคนที่ให้ความสําคัญกับความรักและความชอบธรรม คนอื่นปฏิบัติต่อเธออย่างใจแลกใจ เธอก็จะทําเช่นเดียวกัน
“คุณวางใจได้เลย คนอย่างฉันมันโชคดีมาก จัดงานมงคลเพื่อขจัดเสนียดจัญไรนี้ ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน!”