ตอนที่ 2

1252 คำ
ถั่งเช่าเป็นเหตุ “สวัสดีค่ะอากง กำลังทำอะไรอยู่คะ” พรชิตาเดินเข้าไปหาอากงที่กำลังชั่งยาสมุนไพรอยู่ในห้องหลังร้าน ชายชราผมขาวผู้มีพระคุณของเธอ เงยหน้าขึ้นมาจากตาชั่งหันมายิ้มกว้างให้เธอ “อ้าว...วันนี้ว่างรึ กงกำลังเตรียมยาไว้ เดือนหน้ากงจะไปจีนเลยว่าจะให้หลานมาอยู่ประจำร้าน” หลานชายของอากงเป็นหมอแต่ก็รู้เรื่องยาจีนเป็นอย่างดี ซึ่งการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์แผนโบราณควบคู่กันนั้นจะทำให้การรักษาได้ประสิทธิภาพมากกว่าการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณอย่างเดียว การที่รู้ว่าผู้ป่วยเป็นอะไร ประวัติการรักษาเป็นอย่างไร ทำให้ง่ายต่อการจัดยาและไม่ไปกระทบกับการรักษาจากหมอ อากงท่านเลยสนับสนุนให้เธอเรียนด้านนี้ด้วย “อากงจะไปจีนทำไมคะ” พรชิตาเดินไปนั่งช่วยห่อยา “กงอยากจะไปเก็บถั่งเช่า ฝันมานานแล้วแต่ไม่ได้ทำสักทีว่างไปกับกงไหมล่ะ” “ถั่งเช่า! โถ่อากงคะ มันไม่ได้หากันง่าย ๆ นะ อากงก็รู้ว่ามันหายากแค่ไหน” ถั่งเช่า หรือหญ้าหนอนเป็นของหายาก ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยง แต่หากจะไปหาเก็บเองนั้นคงไม่ง่ายนัก เพราะถั่งเช่าที่พบได้จะอยู่ในแถบ ทุ่งหญ้าบนภูเขา แถบประเทศจีน เนปาล และภูฏาน ระดับความสูง 10,000-12,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ถั่งเช่ามีสรรพคุณหลายอย่าง เนื่องจากเป็นของหายาก แน่นอนว่าราคานั้นไม่ต้องพูดถึง ถั่งเช่าที่ขึ้นตามธรรมชาติ หากคุณภาพดีเยี่ยมขายได้ราคาเป็นล้าน ถั่งเช่าเกิดจากหนอนผีเสื้อกลางคืนกินสปอร์ของเห็ดที่ตกอยู่ตามพื้นในฤดูร้อน พอถึงฤดูหนาวมันจะหนีไปฝังตัวจำศีลอยู่ใต้ดิน เจ้าหนอนน้อยต่อสู้กับความหนาวเย็นจนหมดแรง ในขณะที่สปอร์เห็ดเริ่มเติบโตโดยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุ จากเจ้าหนอนตัวนั้นแล้วแผ่เส้นใยปกคลุมตัวหนอนไว้ หนอนน้อยอ่อนแรงถูกสปอร์เข้าควบคุมสมอง ทำให้มันต้องตะเกียกตะกายคลานขึ้นมาตายบนผิวดิน สปอร์ได้รับชัยชนะแผ่เส้นใยกลายร่างเป็นเห็ดดูดกินแร่ธาตุในตัวเจ้าหนอนน้อย วนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่เช่นนี้ ดังนั้นชาวจีนจึงเรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่านี้ว่า “ตังถั่งเช่า” ซึ่งแปลว่า ‘ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า’ “กงเลยจะรีบไปไง เดี๋ยวไม่ทันเก็บ” “จะมีให้เก็บหรือเปล่าก็ไม่รู้ หายากขนาดนั้น แต่ถ้าอากงอยากไปเดี๋ยวหนูไปเป็นเพื่อน เดือนหน้าหนูว่างพอดี” ประเทศจีน “อากงขา...รอหนูด้วยค่ะ” พรชิตาตะโกนบอกด้วยอาการเหนื่อยหอบ เพราะอากงพาเธอเดินลัดเลาะไปตามป่าขึ้นเขา ไม่พักมาสามชั่วโมงแล้ว “ยังสาวยังแซ่ ทำไมเหนื่อยง่ายแบบนี้ กลับไปลื้อต้องกินถั่งเช่าบำรุงแล้วล่ะ เร็ว ๆ เข้า เดี๋ยวจะมืดลงเสียก่อน ทำให้ตั้งแคมป์ลำบาก” พรชิตามองอากงเดินนำลิ่วอยู่ด้านหน้า โดยไม่หยุดพัก เธอทำหน้ากึ่งร้องไห้กึ่งหัวเราะ คนหนึ่งอายุเกือบแปดสิบแล้วแต่ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉง ส่วนเธอแค่อายุยี่สิบกลับสู้แรงคนแก่ไม่ได้ พระอาทิตย์คล้อยต่ำเป็นสัญญาณบอกว่าอีกไม่นานจะลาลับขอบฟ้า เธอต้องเร่งฝีเท้าให้ทันอากง พระจันทร์เต็มดวงลอยเห็นเด่นชัดอยู่บนท้องฟ้า แม้จะเป็นเวลากลางวันยามบ่าย จู่ ๆ ท้องฟ้าพลันมืดลงเธอยืนมองด้วยความมึนงง “เอ๊ะ เมื่อกี้ดูนาฬิกาเพิ่งบ่ายสองเองไม่ใช่เหรอ...อากงคะอยู่ไหน?” พรชิตาเริ่มลนลานเมื่อมองไปข้างหน้าไม่เห็นแม้แต่เงาของชายชราทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เธอยังเดินตามหลังท่านอยู่แท้ ๆ “แกร็ก….” เสียงเหมือนคนเหยียบกิ่งไม้ทำให้เธอรีบหยิบไฟฉายขึ้นมาเปิดส่องทางแล้วเดินตามเสียงนั้นไป “อากงคะ รอหนูด้วย....” พรชิตายืนนิ่งตาค้างมองพระจันทร์สีขาวนวลเปลี่ยนเป็นแดงฉานดั่งสีเลือดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ดูคล้ายกับมันมีชีวิตและกำลังเรียกหาเธอ ใจเธอเต้นรัว ความรู้สึกห่วงหาอาวรณ์ไหววูบขึ้นมาในอก เธอมองพระจันทร์ตรงหน้าตาไม่กะพริบ “เหมยลี่...เหมยลี่ มาหาข้า” ตาของเธอเบิกกว้างจ้องมองภาพตรงหน้า ท่ามกลางแสงสีแดงฉานสาดส่อง เขายืนหันหลังให้เธอ ชายหนุ่มในชุดขาว เสื้อคลุมยาวเกือบลากพื้น ผมยาวพลิ้วไหวตามแรงลมที่พัดโบก “คุณมาได้ยังไง คุณ...เดี๋ยวก่อนรอฉันก่อน” เป็นอีกครั้งที่เขาเดินหนีเธอ แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้หลับและจะไม่ยอมให้เขาหายไปต่อหน้าต่อตาอีกแล้ว พรชิตาวิ่งตามเขาไปหวังจะคว้าได้ตัวเขาเอาไว้ แต่ในจังหวะที่ยื่นมือออกไป แสงจากพระจันทร์กลับสว่างจ้าขึ้น จนเธอต้องหลับตาลง ….. หุบเขา “กุบกับ ๆ ๆ” เสียงฝีเท้าม้าดังก้องวิ่งมาทางที่เธอกำลังยืนอยู่ ทำให้เธอรีบลืมตาขึ้นมองดู ก่อนจะทำหน้าฉงน นี่ไม่ใช่เธอกำลังเดินอยู่กลางป่าตามหลังอากงอยู่หรอกหรือ ทำไมตอนนี้ถึงมายืนอยู่บนหน้าผาไปเสียได้ แล้วนี่ก็เป็นเวลากลางวัน! ไม่ใช่เวลาใกล้จะพลบค่ำเหมือนก่อนหน้าเมื่อกี้นี้ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เธอพูดพึมพำออกมาอย่างเหม่อลอย จับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร “หลบไป!” ชายหนุ่มชุดดำบนหลังม้าตะโกนบอกเธอ “กรี๊ด!” พรชิตากรีดร้องตกใจจนก้าวขาไม่ออก ได้แต่ยืนหลับตาแน่น จนรู้สึกว่าอยู่ดี ๆ ตัวเธอก็ลอยหวือขึ้นจากพื้น หลังจากนั้นก็รู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่กลางอากาศ เธอเบิกตากว้างอีกครั้งอย่างตกใจ เมื่อเห็นตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของชายคนเมื่อกี้ และตอนนี้เธอกำลังจะร่วงตกลงไปก้นเหวกับเขา! “กะ...” พรซิตาที่กำลังจะกรีดร้องถึงกับตัวแข็งอ้าปากค้างเมื่อได้สบตากับเขา หัวใจแทบจะหยุดเต้น รู้สึกเหมือนได้พบใครคนนั้นที่เธอเฝ้ารอคอยมาแสนนาน เธอดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ได้แต่มองเขา แล้วปล่อยให้น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ชินอ๋องหยวนจางหมิงตัวแข็งทื่อ จ้องมองดวงตาสีน้ำเงินของคนในอ้อมแขนเหมือนต้องมนตร์สะกดจนลืมใช้วิชาตัวเบา ความรู้สึกหนึ่งไหววูบขึ้นมา ชายหนุ่มใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับผู้หญิงตรงหน้าจนนึกแปลกใจ “อ๊ะ! กรี๊ด!” พรชิตากรีดร้องเมื่อเห็นว่าเธอกับเขากำลังจะกระแทกลงกับพื้นด้านล่างแล้ว “เกาะข้าไว้แน่น ๆ” ชายหนุ่มคว้าได้เถาวัลย์เส้นโตที่เลื้อยอยู่ริมผา ก่อนจะโหนตัวใช้เท้าเตะโยนตัวไปมา เพื่อลงสู่เบื้องล่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม