แหล่งคาสิโนของโครทิส เวเดโน่
ความเงียบที่เข้ามาปกคลุมไม่ได้เกิดจากความจงใจ แต่กลับเกิดขึ้นเองราวกับทุกคนนั้นนัดหมายเอาไว้ก่อนแล้ว ฝ่ามือที่ยกขึ้นมาเท้าคางสลับกับลูบหน้าของแต่ละคนนั้น บ่งบอกถึงความเครียดเป็นอย่างดี
เพิ่งจะได้เขากลับคืนมาไม่ทันไร จะต้องเสียไปอีกแล้ว หลังได้ยินเรื่องราวเรือขนสินค้าอับปางของเขา
'สเตเบิล คูดัส'
" ได้ข่าวบ้างไหมวะซัน "
เสียงแหบพร่า เสมือนคนขาดน้ำของเรกาโด หันมาถามแฮกเกอร์ประจำทีมที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการหาตัวเขาให้พบ และแน่นอนคนชำนาญการ เก่งและฉลาดอย่างเขา น้อยที่จะทำงานพลาด
" รอบๆ บริเวณนั้นมีเกาะมากกว่าสิบเกาะ แต่มีอยู่เกาะหนึ่งที่ห่างจากเรือราวสองไมล์ ที่เหลือมากกว่าสี่ไมล์ สันนิษฐานว่าดาฟต้องว่ายไปเกาะนั้นแน่ "
"สองไมล์ สำหรับมันถ้าฮึดอีกหน่อย สบายๆอยู่แล้ว"
เวเดโน่สมทบ หันมองทั้งคู่สลับกัน ในขณะแมททริกเป็นฝ่ายลุกขึ้นยืน เดินมาทางเรกาโด ที่เอาแต่นั่งกุมขมับ พลางพึมพำไปด้วย
" สองไมล์ ไม่ใช่ขี้ๆ นะไอ้เวด " ก่อนจะหันไปถามคนที่รู้รายละเอียดเรื่องนี้ที่สุด " ในตู้นั้นมีอะไร "
แน่นอนเขาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะมองมายังเขาแทน และถอนหายใจพรืด บ่งบอกให้รู้สิ่งที่เขาคิดในใจนั้นถูกต้องแล้ว
" เรือถูกกู้ไปแล้วใช่ไหม " พลางหันไปถามซันดรูต่อ
" อืม ไม่กี่ชั่วโมงมานี้ "
" ป่านนี้ตำรวจคงพลิกแผ่นดินตามหามันให้วอดแล้ว ตราบใดที่ยังไม่เจอศพ ใครวะจะเชื่อ '
" นอกจากดาฟจะกลายเป็นบุคคลหายสาบสูญไปก่อน จนกว่าทางเราจะเคลียร์ปัญหาเรื่องนี้จบ "
เวเดนออกความเห็น หลังจบการคาดคะเนของเรกาโด และหันไปมองแฮกเกอร์หนุ่มเป็นตาเดียวกัน หลังแมททริกออกคำสั่งผ่านเขาไปยังลูกน้องที่มีศักยภาพทั้งหมด
" เช็คดูให้ทั่ว เกาะไหนมีชาวบ้าน หากโชคดี ดาฟอาจจะถูกพวกเขาช่วยเหลือ "
" ก็ถ้ามีคนช่วยเหลือ นี่ก็ผ่านมาวันนึงแล้ว ทำไมยังไม่ติดต่อมาวะ "
" นั่นล่ะ คือสิ่งที่น่าสงสัย ยังไงเราก็ต้องเจอตัวมันก่อนคนอื่นจะเจอ "
ช่วงค่ำในวันเดียวกัน
" พ่อ ผู้ใหญ่ว่าไงบ้างอะพ่อ "
เสียงใสน่าฟัง ไม่สมกับบุคลิกเอ่ยถามขึ้น หลังเห็นบันลือเดินดุ่มๆเข้ามาตักน้ำกินในครัว พร้อมสีหน้าที่เคร่งเครียด และเลือกที่จะไม่ตอบ แต่กลับเดินออกไปเลย หลังใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำที่มุมปาก เกิดจากตอนยกดื่มอย่างกระหายรวดเดียวหมดแก้ว
ผกามาศหย่อนหัวคิ้วงุนงง หันมองหน้าแม่ของตัวเอง ที่เอาแต่ยืนหั่นผักไม่ได้สนใจในบทสนทนานั้น
" แม่ ฝากด้วยนะ "
" อ่าว จะไปไหนน่ะปะกา ทำไมไม่ทำให้มันเสร็จก่อน เอ๊ะ เด็กคนนี้นี่ "
เธอวางตะหลิวในมือ ก่อนจะวิ่งพรวดพราดออกมาไม่สนเสียงโวยวายของคนข้างหลัง
" มีอะไรเหรอพ่อ "
กระซิบถามทันทีเมื่อมาถึง และเห็นคนมาใหม่ที่เธอค่อนข้างจะรู้จักแต่ไม่มากยืนยิ้มอยู่ หล่อนเป็นครูสอนเด็กๆบนเกาะแห่งนี้
พลางหันไปหาคนทั้งคู่ หลังบันลือไม่ยอมตอบคำถามเป็นครั้งที่สอง มองพวกเขาคุยกัน ด้วยภาษาที่เธอไม่เข้าใจ ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปม ก็ตอนที่ครูมัลลิกา หันกลับมาแปลให้ฟัง
" เขาจำชื่อตัวเองไม่ได้ค่ะ อะไรที่เกี่ยวกับตัวเองเขาจำอะไรไม่ได้เลย " หล่อนแปลในสิ่งที่เขาพูด
แน่นอนมันทำให้บันลือชะงัก
" หมายความว่าไง ความจำเสื่อมอย่างนั้นหรือ "
" อาจเป็นไปได้ค่ะ "
" ผู้ใหญ่กับหมอก็ไม่อยู่ด้วย เห็นบอกไปช่วยคนเจ็บที่ท้ายหมู่บ้าน "
" ถ้างั้นลุงจะทำยังไงคะ "
" นั่นน่ะสิ ข้าเองก็คิดไม่ออก คงต้องรอผู้ใหญ่ "
ท่ามกลางพวกเขาสามคนคุยกัน ในขณะผกามาศได้แต่ยืนฟัง สลับกันมองหน้าคนพูด จนรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของพวกเขา ก่อนจะโพล่งออกมาอย่างคนเสียมารยาท หลังได้ยินคำนี้จากปากของครูมัลลิกา พร้อมปรี่ไปบดบังร่างสูงเอาไว้ กางแขนออกด้วยความลืมตัว คนข้างหลังถึงกับงง จนต้องก้มลงมอง หากเป็นคนที่มีความสูงระดับเดียวกันหรือต่างกันเพียงเล็กน้อยกับเขา ในตอนนี้คงจะเห็นท้ายทอย แต่กับเธอ..กลางศีรษะเลยเต็มๆ
"ลุงจะแจ้งตำรวจหน่อยไหมคะ "
" ไม่เอา! "
" ทำไมล่ะปะกา ถ้าตำรวจพานายคนนี้ไปส่งโรงพยาบาล ที่นั่นน่ะมีอุปกรณ์รักษาที่ดี บางทีอาจจะหาญาติเขาเจอก็ได้นะ "
หญิงสาวเม้มปากแน่น หลังฟังครูมัลลิกาออกความเห็นจนจบ และพบว่าพ่อตนเองกำลังจะเห็นด้วยไปกับหล่อน ทั้งที่มันเป็นความเห็นที่ดี ทว่าไม่รู้ทำไมเธอถึงอยากจะห้าม
"พ่อ พ่อต้องรอลุงผู้ใหญ่ก่อนสิ อย่าทำโดยพลการ เดี๋ยวเขาก็หาว่าพ่อไม่เห็นหัวเขาเอาหรอก "
และนั่นถึงกับทำบันลือชะงัก หันมองหน้าลูกสาว ขึงตาแสร้งไม่พอใจ แต่ก็ใช่จะไม่เห็นด้วย
" เออ ข้ารู้น่ะ! เอ็งเป็นแม่ข้าหรือยังไงนังปะกา "
ซึ่งนั่นเผลอทำเธอยิ้มออกมาในแวบแรก หันกลับไปมองหน้าเขา ที่ยืนอยู่ข้างหลัง กำลังงุนงงอย่างคนไม่เข้าใจได้ที่ และมองเธออยู่ก่อนแล้วเช่นเดียวกัน หญิงสาวชะงักไม่เข้าใจความหมายของแววตาค ที่แฝงอยู่กับนัยย์ตาสีฟ้าคู่นั้น ก่อนจะกะพริบตาถี่ หวังเรียกสติกลับคืนมา พลางหันกลับมาเปลี่ยนสีหน้าตัวเองฉับพลัน เมื่อคุยกับพ่อ
"ใช่ บันลือ ข้าคือแม่ของเอ็ง มาสิงปะกาหลานข้า"
แกล้งทำตาดุ พูดข่มเสียงต่ำ ที่ทำครูมัลลิกาถึงกับระเบิดหัวเราะ
" โธ่!! ~ วอนซะแล้ว เดี๋ยวปั้ด เตะให้ล้มเสียดีไหมเนี่ย ไปเลย ไปช่วยแม่เอ็งทำกับข้าวเลย ไส้ข้าจะขาดแล้วเนี่ย "
ในขณะหญิงสาวก็หัวเราะลั่นไม่ต่าง ก่อนทำตามที่บันลือสั่งอย่างว่าง่าย โดยไม่วายหันกลับมามองคูดัส ที่สีหน้าและแววตาแตกต่างกัน ไม่เหมือนตอนที่ใช้กับพ่อเธอ แววตานั้นเป็นแววทะเล้นที่เธอนั้นใช้อยู่ประจำ แต่กับเขาคือแววตาที่เริ่มสับสน ไม่เข้าใจในสิ่งเขากำลังสื่อออกมา ก่อนหน้านี้