2

4094 คำ
ถนนขนาดใหญ่ของอังกฤษเต็มไปด้วยตำรวจท่องถิ่นที่มาเก็บกู้ซากรถตกลงไปข้างทาง บรรยากาศรอบข้างๆ เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ถนนเส้นนี้ยิ่งสูงยิ่งอันตราย ร่างของผู้ชายชาวต่างชาติเดินมาหาเด็กชายที่กำลังร้องไห้ด้วยความตื่นตกใจ เมื่อมีรถขับสวนเข้ามาชนกับรถของพ่อและแม่ กระเด็นตกลงไปในหุบเขาข้างทาง ตัวเด็กชายถูกผูกติดเอาไว้ด้วยเข็มขัดนิรภัย ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ตกใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของผู้เป็นพ่อและแม่ ที่กำลังนอนพิงซบกันบนไหล่ เด็กผู้ชายอายุ 9 ขวบ คือภาพของเขาเองในวัยเด็ก แฮรี่ยืนมองดูเหตุการณ์นั้นราวกับว่ามันพึ่งเกิดได้ไม่นาน วันที่พ่อกับแม่ถูกรถชนจนเสียชีวิต ผู้ชายชาวต่างชาติคนนั้นที่มาพร้อมกับครอบครัว ยืนมองด้วยความตกใจรีบเดินมาอุ้มเขาออกจากรถก่อนที่รถจะไหลตกไปยังเบื้องล่าง "พ่อ...แม่...ไม่น่ะ" เด็กชายร้องไห้ปานจะขาดใจขณะที่ถูกชายชาวต่างชาติคนนั้นกอดเขาเอาไว้ภาพที่เห็นคือรถไหลตกลงไปพร้อมกับพ่อและแม่ ร่างของชายชาวต่างชาติวิ่งไปพยายามที่จะช่วย แต่กลับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง รถที่ร่วงหล่นลงไป ผู้ชายคนนั้นกอดเขาเอาไว้พร้อมกับพูดขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่ชายชาวต่างชาติคนนั้นช่วยชีวิตพ่อกับแม่ของเขาออกจากรถมาไม่ได้ เด็กชายได้ทรุดนั่งลงไปตรงข้างถนน มองไปยังรถที่ตกลงไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เสียงสะอื้นหลุดออกมาจากเด็กชายพยายามกลั้นเสียงร้อง กระทั่งเขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นบนบ่าเด็กชายจึงหยุดร้องไห้หันหลังกลับไปมองเห็นใบหน้าของเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก กำลังนั่งข้างๆแล้วโอบกอดตัวเขาเอาไว้ รู้สึกอบอุ่นจากสิ่งที่เขาสูญเสียไปกับคำพูดเสียงเด็ก "อย่าร้องไห้ นะคะพี่ชาย" เฮือก! อาการสะดุ้งตื่นตกใจผุดลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อมากมายจนเสื้อยืดที่สวมใส่เปียกชุ่ม แฮรี่มองไปรอบห้องพัก เขาไม่ได้อยู่ตรงบริเวณถนนและหุบเขา มันคือความฝัน ... ความฝันที่ตามหลอกหลอนเขาทุกครั้งยามหลับตา ความฝันที่ไม่อาจลบมันไปจากจิตใต้สำนึกมันช่างทรมานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แฮรี่ลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปยังตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม คืนนี้คงจะเป็นอีกคืนที่เขาไม่สามารถนอนหลับตาลงได้ ตั้งแต่ที่ได้เจอเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง เวลาเกือบ 20 กว่าปีที่เขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว แฮรี่เดินถือขวดน้ำไปยังโซฟาทรุดตัวนั่งลงมองวิวยามค่ำคืนของกรุงเทพ ปล่อยสมองให้คิด ตอนนี้เขาได้อยู่ในที่ของคนที่ทำให้พ่อแม่เขาตาย แม้ผู้ชายคนนั้นจะดูแลและส่งเสียจนเขาสำเร็จการศึกษาเป็นนายแพทย์ชื่อดังในปัจจุบัน หลังจากที่เขารอดมาจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น กว่าเขาจะผ่านมันมาได้ก็ใช้เวลานานมาก ในการยอมรับความสูญเสียพ่อกับแม่ คิดได้แบบนั้นดวงตาของแฮรี่ก็แข็งกร้าวทันที "ในเมื่อคุณอยากจะเข้ามาหาผมเอง อย่ามาโทษผมที่หลังก็แล้วกัน" แฮรี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มห้าว สายตามองป้ายชื่อโรงแรมตัดสินใจแล้วที่จะทำให้ คนที่ทำให้พ่อกับแม่ของเขาตาย ต้องเจ็บและทรมานเหมือนที่เขารู้สึก ช่วงที่กำลังคิดถึงเรื่องในอดีต มือก็ไปจับบนริมฝีปากหนาที่ พิมอัปสรฝากรอยจูบทิ้งเอาไว้ให้กับเขา "หึ คุณต้องเจ็บเหมือนผมรู้สึกเจ็บปวดมาเป็นเวลา 20 กว่าปี จะต้องทรมานกับความสูญเสียในอีกไม่ช้า" ตั้งแต่วันที่กลับจากอยุธยา เขาก็ไม่ได้เจอพิมอัปสรอีกเลย บางครั้งในใจก็คิดว่าสิ่งที่เขาพูดไปมันอาจจะดูแรงหรือเปล่า แต่ก็ดีแล้วจะได้รู้ตัวว่าอย่ามาเล่นกับไฟเช่นเขา เสียงทักดังเข้ามาภายในห้องพัก พร้อมกับร่างของเพื่อนสนิท "แฮรี่เราไปนั่งดื่มด้านล่างกัรหน่อยดิวะ" ไมเคิลรู้สึกอยากจะนั่งฟังเพลง จะลงไปเที่ยวคนเดียวมันก็รู้สึกแปลกๆ จึงเดินมาชวนเพื่อนให้ลงไปด้วย "เกิดเหงาอะไรขึ้นมาอีกล่ะ นี่ฟิลิปไม่ลงไปด้วยหรือไง" "คงจะไม่ มันคงจะอยู่อ้อนคุณน้ำ เมื่อวานนายไม่เห็นหรือไง มันทำท่าทางอ้อนคุณน้ำเมื่อก่อนตอนมันคบโรเซ่ยังไม่เป็นขนาดนี้เลยว่าไหม" "ก็ธรรมดาคนนั้นแค่แฟน แต่คนนี้เป็นเมียก็ย่อมแตกต่างสิ" "เฮ้อ! พูดไปพูดมาก็รู้สึกอิจฉามันนะเจอคนอย่างหมอน้ำ คิดแล้วก็รู้สึกโกรธสวรรค์ไม่เห็นส่งใครมาให้ฉันเลยมีแต่อะไรก็ไม่รู้" ไมเคิลประชดโชคชะตาเหมือนคนน้อยใจในชีวิต "จริงแล้วสวรรค์เขาอาจจะหามาให้นายแล้วก็ได้ แต่นายไม่เลือกเอง" "ใครว๊ะที่ผ่านมาไม่เห็นมีใครเข้าตาฉันสักคน พอจะเข้าตาเขาก็ดันไม่สนใจฉันสะนี่" "นายหมายถึงใครที่เข้าตาของนาย" ไมเคิลแอบลอบมองเพื่อนสนิทว่าจะมีความรู้สึกมากน้อยแค่ไหนเมื่อเอ่ยถึงคนนี้ "คุณแยมไง จริงแล้วคุณแยมสวยมากนะ นายไม่คิดที่จะสนใจบ้างเลยหรือว๊ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะจีบแล้วนะนายจะว่าอะไรหรือเปล่า" เมื่อไมเคิลเอ่ยถึง ใครคนหนึ่งที่เขาเคยปล้นจูบมาแล้ว รอยจูบนั้นมันยังติดริมฝีปากของเขาอยู่ตลอดเวลา "นายชอบคุณแยมหรือไง" แฮรี่ถามออกไปตรงๆ "ก็ชอบนะ ในเมื่อนายไม่คิดจะสนใจไม่ใช่เหรอแฮรี่" "อยากจะจีบก็จีบดิว๊ะ ไม่เห็นต้องมาถามฉันเลย" แฮรี่นั้นไม่รู้ตัวว่าน้ำเสียงที่พูดออกมาเปลี่ยนไปจากปกติมาก น้ำเสียงประชด เหมือนรู้ว่าต้องยกของเล่นชิ้นโปรดให้กับคนอื่นไป ไมเคิลแอบยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจแท้จริงก็สนใจเหมือนกันล่ะวะ แฮรี่! นายหลอกฉันไม่ได้หรอก ไมเคิลนึกอยู่ในใจเพียงแต่ไม่พูดออกมา ไนต์คลับ ไมเคิลและแฮรี่นั่งดื่มเบียร์คลอเสียงเพลงเบาๆ ทั้งสองพูดคุยกันในเรื่องทั่วไป ไมเคิลก็สะกิดให้แฮรี่มองตรงทางเข้าไนต์คลับ "ครั้งที่แล้วว่า เซ็กซี่แล้วนะ ครั้งนี้ยิ่งกว่าว่าไหม" แฮรี่มองคนที่ใส่เดรสสีดำเกาะอกเดินเข้ามา พร้อมกับผู้ชายดูท่าทางจะสนิทสนมกัน แฮรี่ชำเลืองมองสองหนุ่มสาวที่เดินควงคู่กันเข้ามา เห็นพิมอัปสรพูดคุยอยู่กับพนักงานทางโรงแรม และเดินตรงเข้าไปนั่งยังโต๊ะว่างอีกฝั่งของเขา "คิดเอาไว้ไม่มีผิด ผู้หญิงอย่างคุณก็แบบนี้ล่าแต้มเอาไว้สะสมเป็นคอลเลคชั่น" ไมเคิลได้ยิน ก็หันไปมองเจอเข้ากับสายตาของเพื่อนที่จ้องมองเขม็ง ใบหน้าเรียบเฉย เดาอารมณ์ไม่ถูก "พูดแรงไปหรือเปล่าแฮรี่ อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดก็ได้นะ" ไมเคิลพูดปรามเพื่อนทันที เขาดูออกว่าคุณแยมไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้นแน่นอน "ไม่มากหรอก อย่างนี้แหละคนรวยทำอะไรไม่ค่อยคิด ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่วให้ผู้ชายมาสนใจเยอะๆ" ไมเคิลที่อยากจะเถียงแต่เห็นแล้วว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์ ก็ในเมื่อคนอย่างเพื่อนเขามันคิดไปแล้ว ขนาดมันบอกว่าไม่สวสนแต่มันก็มองทั้งคู่ทุกการกระทำ แฮรี่มองคนที่เดินเข้ามาท่าทีที่หยอกล้อกันมาตลอดทาง โดยเฉพาะพิมอัปสรที่ส่งเสียงหัวเราะช่างดูน่าเกลียดจริงๆ คงจะชอบเข้าหาผู้ชายแบบนี้ตลอดเลยหรือไง ยิ่งเขาเห็น พิมอัปสรยกแก้วแอลกอฮอล์สีสวยขึ้นมาจิบท่วงท่าของสาวสังคม ช่วงที่เขากำลังแอบมองอยู่นั้นก็ต้องตกใจเมื่อพิมอัปสรหันมามองมาทางเขาพอดี สายตาทั้งสองสบตากันต่างเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ พิมอัปสรรู้สึกเหมือนมีใครกำลังแอบมองเธออยู่แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเขา คนทำให้ใจของเธอสั่นไหวทั้งที่พยายามจะไม่มองอดไม่ได้จริง ท่าทางคงจะนั่งดื่มกับคุณไมเคิลไม่เห็นอีกหนึ่งหนุ่มคงจะอยู่กับแฟนแน่นอน "เจอคนรู้จักหรือไงเรา" "อือ...อย่าไปสนใจเขาเลย เขาไม่ชอบให้แยมเข้าไปยุ่งด้วย" ภาณุหันไปมองตามสายตาของญาติผู้น้องสนิทกันกันมาก เพราะต้องทำงานในสายธุรกิจเดียวกัน ฝรั่งเสียด้วยแต่ผู้ชายคนนั้นมองสายตาน่ากลัวถ้าผู้ชายด้วยกันดูจะรู้ว่าสายตานั้นกำลังมีอาการหึงหวงแน่ "ผู้ชายต่างชาติหล่อนะ แล้วคุณลุงคุณป้ารู้หรือยัง" "รู้อะไรพี่ภาณุ ไม่ได้เป็นอะไรกับผู้ชายคนนั้น แยมจะบอกพ่อทำไม" พิมอัปสรทำทีไม่สนใจแต่ก็มีแอบมองบ้างนิดหน่อย "ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ทำไมเขามองพี่ด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ" ภาณุยังไม่เลิกแหย่ "ไม่มีอะไรจริง ๆ เขาคงแอบต่อว่าแยมอยู่แน่ๆ " ภาณมองคนที่น้องสาวพูดถึง สายตาแบบนั้นเนี่ยนะที่น้องสาวว่าผู้ชายไม่ชอบ ยัยอ่อนต่อโลกเอ๋ยมองไม่ออกเลยหรือไง "พี่ว่าไม่น่าจะใช่ เขามองพี่เหมือนกำลังจะฆ่าให้ตายยังไงไม่รู้" ภาณะพูดตามสิ่งที่เห็น "เขาไม่ชอบแยมจริงๆ เขารังเกียจแยมด้วย" พิมอัปสรรีบอธิบายให้ภาณุฟัง ฟังแล้วภาณุรู้สึกสนใจคนที่บอกไม่ชอบน้องสาว ปกติเห็นแต่คนที่พยายามจะเข้าใกล้แยม แต่เสียดายน้องของเขาไม่เล่นด้วยสักคนเลยต้องอยู่เป็นโสด "ชักอยาจะรู้จักแล้วสิว่า ทำไมถึงไม่ชอบน้องของพี่ปกติเห็นแต่ผู้ชายต่อแถวมาให้เลือก มีแต่เราที่ไม่สน" พิมอัปสรถอนหายใจเมื่อภาณุ ไม่ยอมเชื่อ อ่านจากสายตาคงกำลังแอบนินทาเธออยู่ "รู้แล้วพี่ณุก็เงียบไปเลยนะ ไม่ต้องไปฟ้องพ่อกับแม่แยมเลยรู้ไหม" "บอกมาสิ เราไปทำอะไรให้เขารู้สึกไม่ชอบ" ภาณุขยับตัวเพื่อจะฟังอย่างตั้งใจ "แยมไปจีบเขาก่อน เขาบอกว่าไม่ชอบแยม" ภาณุฟังแล้วถึงกับอึ้งมีคนไม่ชอบน้องของเขาด้วย และตกใจยิ่งกว่าน้องเขาลงทุนจีบผู้ชายก่อนด้วยมีคนแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ "แล้วผู้ชายคนนั้นเขาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเลยหรือไง เราถึงได้กลัวเขามากขนาดนี้" ภาณุที่รู้จักน้องสาวคนนี้ดี พิมอัปสรเป็นกล้าพูดกล้าลุยนิสัยออกจะห้าวขัดกับใบหน้าหวานๆ พิมอัปสรพยักหน้ารับเปลี่ยนเป็นหยิบแก้วแอลกอฮอล์ทสีสวย ยกขึ้นมาดื่มให้ลืมเขาไปจากใจในเมื่อเขาไม่รักไม่ชอบก็ไม่อยากจะเข้าไปวุ่นวายมาก "พี่ณุพอเถอะไม่พูดถึงเขาแล้ว ยกแก้วชนกันดีกว่าไม่ได้เจอกันนาน คุยเรื่องของพี่ณุดีกว่าอย่ามาสนใจเรื่องของแยมเลย" พิมอัปสรเลิกสนใจคนตรงข้ามหันมาสนใจญาติผู้พี่ที่พึ่งกลับมาจากเมืองนอกได้ไม่นาน หลงลืมไปเลยว่ามีอีกคนอยู่ที่นี่ เวลาผ่านไปสักพักพิมอัปสรรู้สึกมึนหัวก็เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ช่วงลุกไปไม่ได้มองว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งมองตามไปด้วย “...” มีเสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านหลังประตู เมื่อคนที่เธอไม่อยากจะสนใจเดินออกมาจากด้านหลัง "ผู้หญิงสมัยนี้แปลกชอบหว่านเสน่ห์คนอื่นเขาไปทั่ว" พิมอัปสรตกใจจึงหันหลังกลับไปมองยังต้นตอของเสียงสายตาที่เขามองมา มันเป็นสายตาที่เดาไม่ถูกว่าเป็นแบบไหน มองแรกๆ ก็เหมือนปรารถนาในตัวเธอ มองอีกก็เหมือนดูถูก เมื่อหมอแฮรี่เดินเข้ามาใกล้ๆ เขาก็ยื่นใบหน้าอันหล่อเหลาเข้ามาใกล้จนสัมผัสลมหายใจร้อนผ่าว ปลายจมูกเขาแทบจะชนกับปลายจมูกของเธอ จนต้องเอามือดันใบหน้าของหมอแฮรี่ให้ห่างแต่กลับถูกมือใหญ่ของเขารวบเอาไว้ทั้งสองข้างดันตัวเธอไปชิดติดกำแพง "ชอบอ่อยผู้ชายไม่ใช่หรือไง พอเวลาโดนผู้ชายรุกบ้างก็ไม่เห็นกล้าเหมือนที่ทำบ่อยๆ" แฮรี่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม สายตาคมเข้มก็ไล่มองทั่วใบหน้าและมาหยุดตรงที่ริมฝีปากบาง "คุ...คุณจะทำอะไรหมอแฮรี่" พิมอัปสรร้องด้วยเสียงตกใจไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมมาแบบนี้ "ผมก็เห็นคุณอยากจะได้ผมมาก วันนี้รู้สึกอยากจะปลดปล่อยเหมือนกัน" แฮรี่ส่งสายตาคำพูดที่สื่อว่าต้องการอะไรชัดเจน ปลายนิ้วไล่ไปตามแก้มเนียนจนมาหยุดตรงร่องอกที่เปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันอวบอัดมากแค่ไหน2 "คุณ...ฉันว่าคุณกำลังเข้าใจอะไรผิดๆ ถึงฉันจะชอบคุณแต่ฉันก็ไม่ได้ง่ายขนาดที่ยอมให้คุณทำอะไรแบบนี้นะ" พิมอัปสรย่นคอเพราะลมหายใจเขาที่เป่ารดบริเวณต้นคอทำให้ขนลุก เกียวคลืนบางอย่างกำลังก่อตัว ไม่ทันที่จะได้ระวังตัวฝ่ามือหนาก็ดึงข้อมือลากเธอให้เดินตามเขาออกไป พิมอัปสรพยายามแกะมือหนาออก ปากกำลังจะตะโกนต้องรีบหุบทันที เมื่อเขากำลังทำท่าจะจับเธอจูบตรงบริเวณทางเดิน "เอาสิ ร้องเลย! คุณจะได้ดังพ่อแม่คุณจะได้อับอายที่ลูกสาวเป็นถึงลูกเจ้าของโรงแรมมายืนจูบกับผู้ชายตรงนี้ เอาสิ! ร้องเลยผมไม่แคร์เพราะผมไม่มีใครต้องให้แคร์" พิมอัปสรเมื่อฟังจากที่อีกฝ่ายพูดก็สงสัยว่าเขาพูดบ้าอะไร เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันสรุปว่ามีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเธอ บางครั้งก็เหมือนเขาอาฆาต บางครั้งก็เหมือนจะไม่อยากจะยุ่ง หรือเขาเป็นคนสองบุคลิกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย "คุณมีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า ฉันทิ้งแขกเอาไว้คนเดียว มันไม่ดีอีกอย่างเพื่อนคุณเขาคิดยังไงคุณหายออกมาแบบนี้" พิมอัปสรพยายามอธิบายใช้น้ำเย็นเข้าพูด "หึ ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงไมเคิล มันเข้าใจว่าหนุ่มโสดแบบผมอาจจะได้คู่ขาในคืนนี้มันไม่ว่าอะไรผมหรอก ตัวคุณมากกว่าห่วงคู่ขามากหรือไงหรืออยากจะไปต่อกับมันที่ไหน" พิมอัปสรเริ่มที่จะทนฟังคำดูถูกต่างไม่ไหว เขาคือคนที่ชอบจริงๆ เหรอ ผู้ชายปากเสียนิสัยแย่แบบนี้เนี่ยนะที่เธอชอบ "ฉันขอพูดกับคุณตรงๆ นะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณ" พิมอัปสรตัดสินใจถามเขาไปตรงๆ เลยดีกว่ามานั่งเดาอยู่แบบนี้เธอชักจะปวดหัวกับพฤติกรรมของเขาแล้ว "ผมะตอบแต่ไม่ใช่ที่นี่" มือหนาลากตัวพิมอัปสรให้เดินตามขึ้นไปยังห้องพัก ตลอดทางเดินพิมอัปสรเห็นพนักงานแอบมองว่าตัวเธอเดินอยู่กับใครแต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยทัก แฮรี่พาพิมอัปสรมาจนถึงหน้าห้องพัก เมื่อใช้คีย์การ์ดแตะประตูได้ก็ดันร่างพิมอัปสรให้เข้าไปด้านใน ส่วนทางด้านพิมอัปสรพยายามที่จะพูดให้เขาได้สติหากเขาเป็นคนสองบุคลิกจริง "โอเคคุณหมอใจเย็น ๆ ฉันถามคุณตรงๆ นะว่าครอบครัวฉันไปทำอะไรให้กับคุณหรือเปล่า" แฮรี่ขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับดันลำตัวของพิมอัปสรให้ชิดติดกำแพง มือหนาอีกข้างก็รั้งเอวบางเอาไว้ และใช้ปลายนิ้วอีกข้างไล้ไปตามริมฝีปากบาง พิมอัปสรต้องสะบัดใบหน้าให้หนีจากการถูกคุกคาม "คุณอยากจะรู้แล้วใช่ไหม แต่ถ้าคุณรู้...คุณจะชดเชยให้ผมยังไงกับสิ่งที่ครอบครัวคุณทำไว้กับคนรักของผมล่ะครับ" แฮรี่พูดไปปลายนิ้วก็ไล่ไปตามใบหน้าสายตาเขาที่มองจ้อง ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดแก้มของเธอ "พูดบ้าอะไรของคุณ ครอบครัวฉันไปทำอะไรให้คนรักของคุณ ฉันมั่นใจว่าพ่อแม่ ฉันไม่รู้จักคุณมาก่อนแน่ๆ" แฮรี่มองเข้าไปในดวงตาที่เริ่มจะหวาดกลัว เมื่อสายตาเขามองลึกเข้าไปอีกจนรับรู้ว่าพิมอัปสรกำลังขวัญเสีย "ตัวคุณอาจจะจำไม่ได้แต่พ่อและแม่ของคุณต้องจำได้แน่นอน จำได้ไม่มีวันลืมตราบาปที่ทำให้ผมต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต" แฮรี่คิดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เริ่มรู้สึกโมโหคนตรงหน้าจนเผลอบีบไปที่แก้มเนียน "โอ๊ย! ฉันเจ็บนะคุณหมอ" พิมอัปสรร้องตกใจและเริ่มกลัวการกระทำของแฮรี่ แฮรี่เอามือเลื่อนมาบีบต้นแขนเล็กนั้นจนผิวเริ่มเป็นรอยนิ้วมือ ด้วยความลืมตัว พิมอัปสรตอนนี้ความกลัวกำลังจู่โจมเธอ "กลัวผมมากใช่ไหม" แฮรี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มห้าวตาก็มองจ้อง "ใครกันจะไม่กลัวล่ะ คุณเป็นโรคจิตหรือไงหรือว่าเป็นคนสองบุคลิกเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย บางครั้งคุณก็มองฉันด้วยสายตาห่วงอาวรณ์ บางครั้งก็ดูถูกเกลียดชัง ถามจริงคุณเป็นอะไรกันแน่ คุณหมอแฮรี่" แฮรี่เริ่มปลดกระดุมเสื้อออกที่ละเม็ดจนเผยให้เห็นอกแกร่งเห็นกล้ามแน่นๆ พิมอัปสรเห็นกล้ามอกนั้นแล้ว ต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เมื่อแฮรี่หวนนึกถึงคำคื่นของการสูญเสียเสียงของเด็กผู้หญิงตัวน้อยใบหน้าน่ารักยืนส่งยิ้มมาให้กับเขา "ผมไม่ได้มองคุณด้วยสายตาของคนหวังดี ในเมื่อคุณอยากจะได้ตัวผมมาก และตรงนี้ผมเห็นคุณชอบ ผมก็ถอดให้คุณเห็นชัดๆ ยังไงล่ะ" ปึก! ปลายเท้าเล็กถีบเข้าหน้าอกแกร่งของคนที่ตัวโตกว่าเข้าอย่างจัง สำหรับแฮรี่แล้ว พิมอัปสรเหมือนได้กระตุ้นความต้องการบางอย่างของเขาให้มีมากขึ้น แรงแค่นี้ไม่อาจทำอะไรเขาได้หรอก "ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก ผมจะได้จัดให้" พิมอัปสรพยายามดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด แฮรี่จัดการแบกร่างคนที่เล็กกว่าไว้บนบ่าพาไปยังเตียงนุ่ม จากนั้นก็โยนร่างของพิมอัปสรลงไปบนที่นอน พิมอัปสรทั้งจุกและเจ็บพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนให้คนที่ยืนมองอยู่ตรงหน้า ซึ่งมันไม่ได้ผลแฮรี่กระชากตัวเธอให้เข้าไปหาจน สะโพกของเธอสัมผัสหน้าขาแกร่ง ก่อนที่เขาจะจับแยกขาเรียวให้ออกจากกัน ยิ่งดิ้นและสะบัดตัวมากแค่ไหนก็เหมือนยิ่งเพิ่มความรู้สึกต้องการของเขาให้มากขึ้นตามไปด้วย แฮรี่เริ่มสอดมือไปตรงด้านหลังนวลเนียนแล้วรูดซิปชุดสวยของพิมอัปสรลงไปจนสุดเริ่มปลดตะขอบราออก เมื่อปราศจากสิ่งขวางกั้นแล้วความงดงามก็ปรากฎสวยงามมากๆ แฮรี่จึงรีบจัดการงับดูดดึงพร้อมกับมือที่บีบเคล้นดอกบัวคู่งามมันเต็มไม้เต็มมือเขาดีเหลือเกิน "อื้อ...ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ต้องการแบบนี้คุณหมอ!" พิมอัปสรพยายามพูดและปัดป้องไม่ให้แฮรี่ทำอะไรได้มากกว่านี้ "ไม่ต้องการพูดออกมาได้ วันนั้นยังอยากจะจับผมปล้ำอยู่เลยนิ นี่ไงก็จัดการผมสิ อยากมากไม่ใช่หรือไง" แฮรี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมไร้ความปราณี พิมอัปสรทั้งผลักทั้งถีบแฮรี่อย่างแรงด้วยความตกใจจนสามารถหลุดจากอ้อมแขนของเขาได้ จากนั้นจึงใช้ฝ่ามือเล็กตบไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่หลงชื่นชอบ ครั้งแล้วจึงรีบดันตัวลุกขึ้นเตรียมจะวิ่งหนี “เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!” "นี่คุณกล้าตบผมหรือคุณแยม" แฮรี่ย่างสามขุมเดินตรงเข้าดวงตาแดงกร่ำด้วยอารมณ์โมโห ไม่สนใจความหวาดกลัวจากคนที่เป็นลูกของคนทำลายครอบครัวเขา "ใช่ฉันกล้าแล้วได้สติกลับมาบ้างไหม คุณหมอฉันเป็นเพื่อนกับภรรยาของเพื่อนคุณนะ คุณควรจะให้เกียรติฉันบ้าง แม้ฉันจะชื่นชอบคุณแต่ก็ไม่มีสิทธิมาทำแบบนี้กับฉัน" พิมอัปสรถึงกับหอบเหนื่อยอธิบายและยังต้องพยายามดิ้นรนหนีห่างจากคนตรงหน้าที่ตอนนี้น่ากลัวมากสำหรับเธอ "ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีสิทธิ์อะไร! ครอบครัวคุณรอการเรียกร้องจากผมอยู่ตลอดผ่านมาจะ 20 กว่าปี ผมยังไม่เคยเรียกร้องอะไรจากครอบครัวของคุณเลย กระทั่งวันที่ผมเจอคุณและรู้ว่าคุณคือใคร ผมก็รู้สึกอยากจะเรียกร้องจากครอบครัวของคุณทันที" น้ำเสียงที่เหี้ยมใบหน้าแดงไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายแต่ความโกรธเกลียดน่าจะมีมากกว่า "ถ้าอย่างนั้นคุณก็พูดมาสิ ครอบครัวฉันไปทำอะไรให้คุณ! คุณถึงได้มาทำแแบบนี้กับฉัน ตอบมาสักทีสิคุณหมอ!" พิมอัปสรร้องไห้ผสมกับอารมณ์ความอยากรู้พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ก็ได้! ผมจะบอกให้คนที่ไม่รู้อะไรเลยวันๆ เอาแต่มองหาผู้ชาย พ่อของคุณเป็นคนทำให้ผมต้องสูญเสียพ่อแม่ จากการขับรถพาคุณไปเที่ยว ด้วยความมึนเมาของพ่อคุณได้ขับรถไปชนรถของพ่อแม่ผมตกลงไปในเหวข้างทาง ก็เพราะพ่อคุณ คุณแยม! ชีวิตผมสูญเสียทั้งพ่อกับแม่เข้าใจหรือยังที่นี้!" แฮรี่พูดจบทุกอย่างก็สิ้นสุดต่อจากนี้คือบทลงโทษลูกสาวของฆาตกรฆ่าครอบครัวเขา พิมอัปสรฟังแล้วต้องตกใจสายตาเขาดุเข้ม มองเธอด้วยสายตาอาฆาต ตะโกนต่อว่าเธอต่างๆ ด้วยความโกรธ พิมอัปสรรู้ได้ว่าเขาโกรธและเกลียดตัวเธอมาก เมื่อความโกรธเข้าครอบงำแฮรี่เริ่มทำอะไรโดยไม่คิด เขาได้จัดการพิมอัปสรที่เอาแต่ร้องไห้ทับร่างของหญิงสาวเอาไว้ใต้ร่าง พร้อมกับจัดการนำความแข็งแกร่งเข้าไปในร่างของ พิมอัปสรทันที เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่ถูกพากความสาวของเธอ พร้อมกับขยับโยกทันทีไม่ให้เธอได้ปรับตัว มือบางทั้งทุบทั้งตี แต่ก็ไม่สามารถหยุดความหื่นกระหาย ความบ้าของเขาได้ แฮรี่ยิ่งเพิ่มความแรงในการกระทำอย่างบ้าคลั่ง "แฮรี่! ฉันเจ็บ..." พิมอัปสรน้ำตาไหลพรากเพราะทนความเจ็บปวดจากการสูญเสียสิ่งสำคัญของลูกผู้หญิงไปไม่ไหว จึงพยายามยกแขนดันร่างของแฮรี่เอาไว้ พยายามกระซิบเมื่ออีกฝ่ายล้มมาทับบนลำตัว ร่างกายเธอแทบจะฉีกขาดเพราะเขา แฮรี่เริ่มผ่อนแรงของสะโพกก้มลงไปจุมพิตเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมกับลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว พิมอัปสรส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนแรกๆ มันก็เจ็บปวดตอนนี้กลับอึดอัด เสียงคำรามในลำคอของเขาบ่งบอกว่ากำลังใกล้หลั่งเข้าไปข้างในกายเธอ แต่เขากลับไม่หยุดแค่นี้ พิมอัปสรพยายามกัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อกลั้นไม่ให้ส่งเสียงสะอื้น เสียงร้องครวญครางมันปะป่นกันไปหมดทั้งเจ็บและเสียวความสุข พิมอัปสรรู้สึกอับอายกับการกระทำของเขาที่ได้ทำกับเธอ คำขอร้องอ้อนวอนของเธอเหมือนสายลมพัดผ่านไปไม่สามารถดึงสติเขาได้เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม