คนสวยบิดดิ้น ทุบตีผมไม่ยั้งแต่ผมไม่หยุด บดขยี้ปากจิ้มลิ้มแรง ๆ รับรสหวานถูกใจจนสาแก่ใจจึงยอมปล่อย
“หวานถูกใจจริงด้วย”
มือเล็กตวัดทำท่าจะฟาดหน้าผมแต่ผมคว้าเอาไว้ก่อน ผลักตัวเธอใส่มือไอ้โตอีกครั้ง
“รอเฉย ๆ ไม่ต้องใจร้อนยังไงคืนนี้เราก็ได้จูบพี่ทั้งคืนแน่ ๆ”
“ไอ้เหี้ยเกียร์” ไอ้เมธเองก็เดือดดาล ร่ำ ๆ จะกระโจนเข้าใส่ผมแต่ถูกไอ้โดมจับตัวไว้ ผมแสยะยิ้ม เลิกคิ้วถามมันอย่างยียวน
“เล่นกันยัง”
“เออ” ไอ้โดมเป็นคนตอบ ลากไอ้เมธกลับไปที่โต๊ะพวกมัน ผมกับเพื่อนจึงเดินตามไป
“ไม่เอานะ ฉันไม่ยอม!” เดิมพันคนสวยร้องโวยวาย “ปล่อยฉัน!!!”
“ไม่ต้องกลัวครับน้องที่รัก เชื่อมือไอ้เกียร์ได้เลย” ไอ้ฉินปลอบ
“แกมานี่เลย”
กิ๊กไอ้เมธกับเพื่อนเข้ามาดึงตัวเธอไป จัดการมัดมือเธอไพล่หลังและมัดปากด้วยเนกไท
ผมปรายตามองแวบเดียว คนที่ไม่เกี่ยวข้องพากันถอยออกไปยืนวงนอก ปล่อยให้ผม ไอ้โดม ไอ้เมธ แข่งขันกัน
“กูลงข้างเพื่อนกู ใครจะเอาด้วย”
เสียงไอ้อามร้องหาแนวร่วมลงขันพนันว่าใครจะแพ้จะชนะ คนอื่น ๆ ต่างพากันลงเพียบ จากนั้นเสียงเชียร์เริ่มดังเมื่อลูกกลม ๆ ถูกตบลงรู
“น่าเสียดาย กูไม่น่าเหมาชั้นนี้ไว้เลย คนอื่นจะได้เห็นตอนมึงแพ้ยับว่ะไอ้เกียร์คงขายหน้าน่าดู”
ไอ้เมธมันเย้ย ตอนที่แต้มมันเริ่มนำผม
“เกมเพิ่งเริ่ม มึงเหมือนอยากออกไปนั่งดูไวไวนะ”
“มึงนี่แม่งโคตรขี้โม้ว่ะไอ้เกียร์” ไอ้โดมแดกดัน “กูจะตบให้ร่วงเลยมึง”
“คิดว่าทำได้ก็เอา”
เราสามคนห้ำหั่นกันพักใหญ่ ผมเขี่ยไอ้เมธทิ้งเป็นคนแรก ตามด้วยไอ้โดมในเกมหนึ่ง เปิดเกมสองยิ่งคึกคักกว่าเดิม หากผมชนะ เดิมพันแสนสวยนั่นจะเป็นของผม พวกมันแท็กทีมกันเต็มที่หวังตบผมร่วงแล้วแข่งกันเอง ผมหรือจะยอม ที่สุดก็สามารถเอาชนะพวกมันได้
“สุดยอดเลยเพื่อน” ไอ้ฉินรีบเอาแก้วมาเสิร์ฟ บีบไหล่นวดคอให้อย่างเอาใจ เพราะผมทำให้มันชนะพนันก้อนใหญ่ไปด้วย
“มึงนี่แม่งโคตรน่ากระทืบ” ไอ้โดมฮึดฮัด ผู้หญิงที่มันหมายตาถูกฉกตัดหน้าดื้อ ๆ แต่ทำอะไรไม่ได้
ผมชูแก้วให้พวกมันอย่างกวน ๆ
“ขอบใจพวกมึงมากที่อ่อนให้กู”
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”
ผมไม่สนเสียงสบถและท่าทางคันมือคันตีนของพวกมัน เดินไปฉุดแขนเดิมพันแสนสวย เธอขืนตัวสุดฤทธิ์ จ้องหน้าผมตาวาววับเอาเรื่องทำให้ผมแสยะยิ้ม โฉบไปหอมแก้มนุ่มหนัก ๆ มองท่าทางเบนหน้าหนีจนคอแทบหักอย่างชอบใจ ก่อนประกาศเสียงดังฟังชัดต่อหน้าทุกคน
“เธอเป็นของกูแล้ว”
“เออ ขอให้คืนนี้มึงสนุกสุดเหวี่ยงแล้วกัน” ไอ้โดมแค่นเสียงอวยพร
“แต่ว่าพี่” ไอ้เมธมันยังทำท่าไม่ยอมรับ แต่มันก็ถูกไอ้โดมปรามเอาไว้
ผมยักไหล่ยักคิ้วใส่มันอย่างกวนเบื้องต่ำ ดึงรั้งเด็กน้อยคนสวยให้ออกจากที่นั่น แต่เธอกลับดิ้นรนไม่หยุด
“หรืออยากอยู่กับไอ้พวกนี้”
เธอมีท่าทางลังเล แน่นอนล่ะ ไปกับผมใช่ว่าไม่น่ากลัว
เมื่อผมลองรั้งให้ก้าวเดินอีกครั้ง เธอยอมเคลื่อนตามง่าย ๆ
“ฉลาดเลือกเหมือนกันนี่”
End Talk.
ฉันถูกพาขึ้นลิฟต์มายังชั้นห้า พอประตูลิฟต์เปิดพบว่ามันเป็นห้องโถงกว้าง ด้านหนึ่งมีโต๊ะสนุกเกอร์ตั้งอยู่ โซฟาและพวกเครื่องเสียง เหมาะแก่การจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ เขาดึงตัวฉันเดินไปยังประตูบานหนึ่ง หยิบคีย์การ์ดมาทาบตรงเครื่องข้างประตู มีเสียงดังเบา ๆ เขาก็ผลักประตูให้เปิด เบื้องหน้านั้นคือห้องห้องนั่งเล่นกว้างขวาง ฉันขืนตัวสุดฤทธิ์อีกครั้ง ส่งเสียงอู้อี้เรียกร้องความสนใจ ปากยังถูกมัดและมือถูกมัดไพล่หลัง
“อื้อ อื้อ”
คนดึงยังพาฉันไปถึงโซฟาอยู่ดี ผลักให้ล้มลงไปบนนั้นอย่างไร้การถนอม
ไม่แปลก! ถ้าผู้ชายคนนี้อ่อนโยนเป็นสิ ฟ้าคงกลับตาลปัตร ประมาณว่าอาทิตย์ขึ้นผิดทิศหรือหิมะตกในเมืองไทย
ฉันถอยกรูดหนีทันทีที่เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน ยื่นมือมาหา
“คิดว่าหนีพ้น”
น้ำเสียงเริงรื่นนั้นสร้างความกรุ่นโกรธในอารมณ์พร้อมกันนั้นมันทำให้ฉันผวาหวาด ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะหยาบเถื่อนได้ขนาดนี้ ทั้งไอ้พี่เมธและคนตรงหน้าที่ตอนนี้แสยะยิ้มเยาะให้ฉันพลางหยิบบุหรี่ออกจากกระเป๋าเอาใส่ปาก แล้วจุดสูบ พ่นควันสีขาวด้วยท่าทางกวน ๆ
ฉันรู้จักเขา เกียร์ กันต์กฤษ คิณณ์ณภัทร เรียนวิศวกรรมการบินปี 3 หล่อ รวย ทรงแบด สาว ๆ อยากปีนขึ้นเตียงมากมาย แต่ได้ยินมาว่าเขาไม่เคยคบสาวไหนเกินหนึ่งคืน กลุ่มของเขาหน้าตาดีกันทุกคน และคงจะร้ายทุกคนเหมือนกัน
“อ่อยอั๋น” ฉันพยายามบอกให้เขาปล่อยฉัน นี่มันไม่ใช่ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน อยากจับผู้หญิงคนไหนมาเป็นเดิมพันของการพนันขันต่อก็ทำได้ นี่มันปี 2025 แล้ว
“ปล่อยได้แต่ห้ามกรี๊ด”
เขาเข้าใจที่ฉันพูดไม่เป็นคำนั้น ดังนั้นเมื่อเขาขยับเข้าหาและยื่นมือมาแก้ผ้าที่ปิดปากจึงไม่ได้ขยับหนีทั้งยังหันหลังเพื่อให้เขาแก้ผ้ามัดมือให้ด้วย มันก็คือเนกไทของพวกไอ้พี่เมธนั่นแหละ
ฉันสะบัดมันออกอย่างขยะแขยง ทำท่าจะลุกหนีออกจากห้อง แต่ได้แค่ลุกก็ถูกกระชากล้มลงไปบนโซฟาอีกรอบ เอวถูกกอดรัดไม่ปล่อย ฉันดิ้นรน บิดเบี่ยงตัวออกเท่าไหร่ก็ไม่หลุดจึงแหวลั่นพร้อมทุบตีกายแกร่งไม่ยั้ง
“จะทำอะไร ฉันไม่ใช่สิ่งของ นายมีสิทธิ์อะไรมากักขังฉันแบบนี้ ปล่อย!”